ความคิดเห็นที่ 1 อ้าวตอนแรกนึกว่าเรียนเอกอังกฤษเสียอีก นี่เรียนการแปลด้วยหรือ?  อยากจะบอกว่าวิธีสอนการแปลที่ดีที่สุด ไม่ใช่อาจารย์เอาอะไรให้นักศึกษาแปล แล้วอาจารย์มานั่ง edit แล้วส่งกลับไปให้นักศึกษาดู  เราว่าถ้าทำแบบนั้นนะ อาจารย์จะ “หัวฟู แล้วซัดพาราวันละ 50 เม็ด”  จริงๆแล้วการสอนการแปลควรจะคิดวิธีอะไรที่แยบยลมากกว่านี้  อย่างเช่นอะนะ แนวคิดที่เราเขียนไว้แบบคนสติไม่ดีในกระทู้นี้คือ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7934208/K7934208.html แต่บางอัน มันก็ยังใช้ได้นะ ลองไปอ่านดูดีๆ แล้วแยกความมีสาระออกจากความไร้สาระเอา ก็แล้วกัน...555+++ จริงๆแล้วถ้าคนเก่งๆใน pantip ช่วยๆกัน edit คุณอาจได้คะแนนเพิ่ม แต่พอเรียนจบไปคุณก็ยังแปลได้ไม่ดี แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะแก้ไขอย่างไร   ดังนั้น เราคิดว่าอะนะ ถ้าเราเป็นอาจารย์เราจะ  “ไม่ edit ทุกคำ” แต่จะผลัดกันเอาคำแปลชองนักศึกษาแต่ละคนฉายขึ้นจอ แล้ว comment เป็นบางจุด ให้ทุกคนในห้องได้รับประโยชน์  โดยการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของกันและกัน แต่จะไม่บอกว่าคำแปลที่เอาขึ้นจอนั้นเป็นของนักศึกษาคนไหน  ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้นักศึกษาอายเพื่อนๆนั่นเอง จากคุณ : fortuneteller - [ 24 มิ.ย. 52 12:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สมมุติว่าเราสอนอยู่นะ เราเอาขึ้นจอ  เราจะบอกว่า ประโยคแรกคือ 1.ฉันคิดว่าสาเหตุการฆ่าตัวตายของนักเรียนในสมัยนี้เกิดจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น อกหัก การเรียนตก ปัญหาเรื่องการเงิน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาครอบครัว ปัญหายาเสพติด เป็นต้น 1.I think the problem of students suicide have many reasons such as broken heart, weak of study, financial, healthy, family, drug ,etc. ดูดีๆว่า subject คือ the problem กับ  verb คือ have มันไม่ agree กัน แล้วคำว่า have มันโหลมากๆ ลองหาคำอื่นมาดิ เช่น due to, owing to, cause หรือจะเอาง่ายๆแบบ because หรือ because of ก็ยังดูดีกว่า แต่จะเขียนได้ต้อง “รื้อประโยคใหม่หมด” ดังนั้น ในเชิงตรรกะแล้วไซร้ ก่อนที่จะสอนแปลไทยเป็นอังกฤษได้นั้น ควรสอน sentence structure types ในภาษาอังกฤษก่อน นั้นก็คือ เอาแบบฝึกหัดเป็นประโยคสั้นๆมา ให้นักศึกษาหัดเขียนใหม่  ให้ออกมาให้มากประโยคที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ โดยให้แต่ละประโยคมีความหมายที่เหมือนๆกันหรือใกล้เคียงกัน  เมื่อนักศึกษาเรียนรู้ variation of sentence structure types แล้วจึงให้ assignment เป็นการแปล passage ยาวๆ นั่นก็คือ "สอนให้นักศึกษาหัดเดินก่อน แล้วจึงค่อยหัดวิ่ง" นี่เป็น "กระบวนการ" ที่เราเรียกว่า building block ซึ่งควรนำไปใช้ในการสอนการแปล ในประโยคเดียวกันนี้ ให้ดูดีๆว่า weak of study ไม่ใช่ collocation ที่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย อันนี้ แนะนำให้ใช้ esl dictionaries ที่มีตัวอย่างประโยคมากมาย  หรือแม้กระทั่งใช้ google ค้นว่ามีฝรั่งเจ้าของภาษาที่ไหนใช้ collocation แบบไหน...นี่เป็นการสอนให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยการบอกให้รู้ว่าแหล่งทรัพยากรในการเรียนรู้เพื่อแก้ไข weaknesses ของตนเอง ซึ่งแหล่งทรัพยากรในการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ที่พูดถึง ณ ที่นี้ ก็คือ esl dictionaries กับ google นั่นเอง ให้สังเกตดูดีๆว่า  financial, healthy, family, drug ,etc. ดันมี financial  กับ healthy เป็น adjectives อยู่ 2 ตัว แล้วมัน “ไม่ได้ขยายอะไรเลย” คือว่า They are indeed out of place.  แต่ดันตามด้วย family กับ drug ที่เป็น nouns 2 ตัว ด้วย ก็เลยอ่านไปแล้วมันเลย "ชักกระตุก" แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 13:56:31 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 12:37:36 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 12:35:19 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 12:31:32 จากคุณ : fortuneteller - [ 24 มิ.ย. 52 12:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าวแล้วกัน ลบทิ้ง แล้วเผ่นไปเสียแล้ว...!!!???... จริงๆมีอีกตั้งยาวนะ ที่แปลมาน่ะ ทั้งต้นฉบับกับคำแปล รวมกัน 4 paragraphs จำนวนคำประมาณ เกือบๆ 600 คำ จริงๆแล้วเราจะ edit ให้สวยๆก็ได้ แต่ จขกท จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยสักอย่างเดียว เราจึงจำลองสถานการณ์ว่าเราสอนการแปลให้นักศึกษาในมหาลัย แล้วเอาคำแปลของนักศึกษาแต่ละคนผลัดกันฉายขึ้นจอ (โดยไม่บอกว่าเป็นคำแปลของใคร เพื่อนักศึกษาจะได้ไม่ต้องอายซึ่งกันและกัน) แล้วเราจะค่อยๆชี้จุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้  จริงๆแล้วถ้าเป็นการสอนจริงในมหาลัย เราจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาคนอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมเสนอแนวความคิดอื่นๆได้ด้วย "โดยในกระบวนการสอน เราจะชี้แหล่งทรัพยากรอันมีค่าในการเรียนรู้ให้ (โดยอาศัยกระบวนความคิดในเชิงตรรกะ + ทักษะการแปลที่เราเรียนรู้จากการทำงานเป็นนักแปลมาหลายปี + ความชำนาญในการใช้ google ของเรา)  เพื่อนักศึกษาจะได้รู้วิธีการเรียนรู้เรื่องการแปลได้ด้วยตนเอง  และเผื่อว่าคนอื่นๆที่เรียนการแปลจะได้รับประโยชน์ได้อีกด้วย" ไม่เป็นไร จขกท ให้คน edit คำแปลไปแล้ว ได้คะแนนไปแล้ว สบายไปแล้ว และไม่อยากเรียนเคล็ดลับในการเรียนการแปลด้วยตนเอง เราก็หยุดเขียน...555+++... แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 13:19:20 จากคุณ : fortuneteller - [ 24 มิ.ย. 52 13:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จขกท จริงๆแล้วไม่น่าลบออกนะครับจะได้เป็นกรณีศึกษาให้คนอื่นได้ดูกันเพราะมันเป็นกระทู้สาธารณะ คนตั้งต้องมีความรับผิดชอบด้วยระดับหนึ่ง คุณพี่หมอดูอุตส่าห์มาช่วยตอบช่วยวิจารณ์ให้ คนมาอ่านทีหลังเลยไม่รู้เรื่องกันพอดี คุณมาตั้งกระทู้แล้วลบออกแบบนี้เหมือนแค่จงใจจะหาคนช่วยทำการบ้านแล้วพอมีคนช่วยหรือเพราะอะไรก็แล้วแต่กลับหายต๋อย แบบนี้ไม่ค่อยดีนะครับ จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 24 มิ.ย. 52 14:18:17 ]