ความคิดเห็นที่ 1 ขอบพระคุณครับ เข้ามายกมืออย่างอาจหาญว่าอ่านผิดไป8คำจาก10คำีนี้ เวง555+ น่าตลกตัวเองที่สุดโดยเฉพาะแฟรกไจล์กับเดท จากคุณ : short ride in a fast machine - [ 27 มิ.ย. 52 00:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มีคำเดียวที่อ่านผิด  คือถึงรู้ว่าผิดแต่ก็ยังไม่เคยปาก ขอบคุณมาก จากคุณ : นกอีก๋อย - [ 27 มิ.ย. 52 00:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฃอบคุณมากค่ะ มีประโยชน์มากเลย อ่านผิดไปตั้งหลายคำ จากคุณ : peppa_mint - [ 27 มิ.ย. 52 00:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โหลๆ ดีจ้า แต่แมวว่า การพยายามเอาตัวอักษรไทยมาออกเสียงภาษาต่างประเทศเกือบทุกภาษาเป็นเรื่องยาก และมีโอกาสผิดพลาดสูง แต่ก็นั่นแหละ ไม่ใช้ตัวไทยแล้วจะใช้อะไร อักขระphoneticก็ทำใหยุ่งยากเหมือนต้องเรียนอีกภาษาหนึ่ง ปัญหาอีกอย่างคือ สำเนียงในแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน บ้านเรามักจะชินกับสำเรียงอเมริกันมาตรฐาน (แล้วไม่มาตรฐานมีนยังไงหว่า- ก็ดูพวกคนผิวสีอย่างอัฟริกันอเมริกัน หรือ พวกลาติน อย่างเม็กซิกัน นั่นด้วย แม้แต่คนขาวที่อยู่ใต้ๆก็พูดไม่เหมือนสำเนียงมาตรฐาน) สำเนียงอังกฤษที่ว่า แท้นักแท้หนา คนไทยส่วนใหญ่ก็ว่าฟังยาก ตอนเหนือของอังกฤษ เกือบถึงสก็อตแลนด์นั้น ก็ฟังยากเหลือ สำหรับคนเรียนแบบอเมริกันมา พวกสก็อตช์ และพวกค็อกนี่ ก็แทบจะฟังกันไม่รู้เรื่องเลย ดูอย่าง หนังเรื่องSnatchนั่นไง ลองไม่ดูซับไตเติ้ลสิ แทบตาย ครูบ้านเราก็สอนกันเสียจนเคยอย่างที่คุณเต่าเล่าเป็นตัวอย่าง นอกนั้นก็ คำว่า เอ้กท์ นั้นรู้หรือไม่ว่า หมายความว่าอะไร 8นั่นไง(เอ้ท เน้นกระแทกเสียง ที ตอนท้ายด้วยเล็กน้อยนะจ้ะ คราวนี้ความคิดเห็นของแมวกับคำทั้งสิบ 1แมวว่าคำนี้ มันก้ำกึ่งระหว่าง เสียง ว แหวน กับ ฟ ฟัน จะไปเขียนว่า แฟ ก็คงไม่ถูกนัก แต่จะใช้ แว ก็ผิดแน่ มีเสียง ล ซ่อนอยู่เล็กน้อยด้วย ไม่ใช่ ยิ่วไปเฉยๆ 2และ3และ4เห็นด้วย 5 นั้นแมวอ่านว่า เจนร่ะ(หรือ เร่อะ สั้นมากๆ) และถ้าออกเสียงแบบภาษาฝรั่งเศสก็น่าจะเป็น ยงเฮอะ(r จะออกเสียงปนระกหว่าง ฮ กับ ค) ซึ่งเคยได้ยินชาวอเมริกันออกเสียงแบบที่แมวใช้(แมวก็ลอกสำเนียงเขามา) 6 เห็นด้วย 7 แมวว่า ฟราไจล์ ไม่มีเสียง ก 8และ9 เห็นด้วย 10 เห็นด้วย แต่ไม่เคยเห็นใครใช้ผิดอ่ะ เป็นคนฟัง ฟังผิดหรือเปล่า จากคุณ : พูดแมวๆจากก้นครัว (แมวคาบมีด) - [ 27 มิ.ย. 52 00:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 5.genre (n.)>>อ่านไม่ออก555+ 6.debt (n.)>>คิดไม่ถึงว่าอ่านอย่างนั้น นอกนั้นไม่มีปัญหา จากคุณ : pop_mmt - [ 27 มิ.ย. 52 00:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แฟยิ่ว มันพิสดารไปป่าวครับ  เหอะๆๆๆ  ไม่กล้าออกเสียงอ่ะ.... ผมคงออก แวร์ลู่ เหมือนเดิม  ฟังไม่รู้เรื่องก็เรื่องของมานนนน... จากคุณ : FOR YOUR EYES ONLY - [ 27 มิ.ย. 52 01:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 i think if we want to, we could spend a whole day (or more) debating how one should pronounce english words "ที่ถูกต้อง" while one is speaking thai. personally, i don't think this problem is limited to thai people only. from my experience, some americans who know french or spanish will also pronounce french or spanish words the way (they think) the natives do. to me, since english is my second language (i'm not remotely bi-lingual), i'd say i understand pretty much every english word thai people pronounce incorrectly. unless those words are new and i have not heard how they're pronounced in thai before (such as linux, prius, and whatnots) or if the pronunciation is extremely poor, then i'd have problems trying to understand it too. like that one time i heard a dj talking about a movie "the crow" but he said it with an 'l' instead of an 'r' ... "the clow."   -_-" but those words you mentioned, i know what they (thai people) mean when they say them and i don't think it's a big deal if one would say "genre" in a perfect american, french or thai accent. personally, i'd prefer one uses thai accent in your situation (making a presentation in thai) and uses (one's best) "correct" accent when one speaks english. sort of like "when in Rome, do as the romans do" in a way, but you should also know what non-romans do too. ^ ^ but that's just me... จากคุณ : Genuine XXX - [ 27 มิ.ย. 52 02:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คำศัพท์ภาษาอังกฤษบางคำออกเสียงได้หลายอย่าง เช่น fragile พยางค์หลัง ตรงตัว i คนอังกฤษออกเสียงเป็น ail หรือ ^il แต่คนอเมริกันออกเสียงพยางค์หลังตรงตัว i เป็นเสียง schwa (คล้ายสระเออะสั้นๆ ตัว IPA เป็นตัว e กลับหัว) แต่ก็ไม่แน่นะ บางทีอังกฤษอเมริกันบางคนพลิกล็อกออกเสียงสลับกันก็มี บางทีมันก็แล้วแต่ใครพูดด้วย เอาแน่ไม่ค่อยจะได้ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 52 02:22:55 จากคุณ : fortuneteller - [ 27 มิ.ย. 52 02:19:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สงสาร scotch whisky ยี่ห้อหนึ่ง ในไทยนะ ขายให้ฝรั่งแทบไม่ได้เลย เพราะเวลาฝรั่งเดินเข้าร้าน แล้วถามพนักงานขายว่า Have you got Dewar's? พนักงานจะตอบว่า No ตลอด เนื่องจาก ฝรั่งอ่านว่า "ดยัวส์" แต่คนไทยส่วนใหญ่จะอ่านว่า "เดวาส์" ไปดูชื่อเบียร์กับเหล้าที่อ่านผิดๆบ่อยๆได้ที่ คคห9 กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8018038/K8018038.html จากคุณ : fortuneteller - [ 27 มิ.ย. 52 02:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับคุณเอ๊กซ์ของแท้ กับคุณหมอดู ค่ะ อยากบอกเจ้าของกระทู้ว่าถ้าคุณอาศัยอยู่ในประเทศซึ่งใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักนานๆ ได้เดินทางไปทั่วทั้งประเทศนั้นๆ แล้ว และได้ไปประเทศอื่นที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเช่นกัน คุณจะเห็นสัจธรรมอย่างหนึ่งว่าไม่มีการออกเสียงคำใดถูกต้องเพียงอย่างเดียวค่ะ ทุกคำในภาษาอังกฤษออกเสียงได้หลากหลาย และไม่มีการออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งที่ถือว่าถูกต้องที่สุดค่ะ ยกตัวอย่างคำว่า error ก็แล้วกัน มีคนอเมริกัน (เอาแค่อเมริกันประเทศเดียวก็แล้วกันเพราะคุ้นเคยที่สุด) ออกเสียงทั้ง แอ-เร่อ. เออ-เร่อ. เออะ-เร่อ, เอะ-เรอ, เอะ-เร่อ, อา-เร่อ ฯลฯ ถ้าถามว่าออกเสียงอย่างไรแน่ที่ถูก คำตอบคือถูกทั้งหมดนั่นแหละค่ะ หรืออย่าง fragile ที่คุณหมอดูยกตัวอย่าง มีออกเสียงทั้ง แฟล-ไจล์, แฟล-เจิล (อเมริกันออกเสียงอะไรเป็น เอิ้ล หมดเพราะง่ายดี) เรื่องของเรื่องไม่ได้อยู่ที่ว่าออกเสียงแบบไหนเป็นสากลที่สุด เพราะความเป็นจริงคือไม่มี ง่ายๆ คำๆ เดียวกัน อเมริกันกับอังกฤษออกเสียงกันไปคนละทิศละทางแล้ว สก๊อตอีกล่ะ ออสซี่อีกล่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสื่อสารกันได้ไหม คนฟังแล้วรู้เรื่องหรือเปล่าว่าเขาพูดถึงคำไหน แค่นั้นเองค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 27 มิ.ย. 52 03:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันก็จริงเรื่องที่ต่างที่ก็ต่างสำเนียง คำเดียวกันออกเสียงได้หลายแบบ แต่เราเคยเจอหลายคำแล้วที่เราเรียนกันมาผิดจริงๆ แบบพูดแล้วเจ้าของภาษาเค้าฟังไม่รู้ ตอนนี้นึกออกสองสามคำ มาแปะก่อน เดี๋ยวลืม พยายามสะกดเป็นไทยตามเสียงที่ได้ยิน (ถึงแม้มันจะแทนได้ไม่เป๊ะๆ) อ่านดูอาจจะแปลกๆจากที่เคยเรียนกันมา senate อ่านว่า เซ่-หนิท (เน้นเสียงพยางค์หน้า) ไม่ใช่ ซี-เหนท ตามตัวที่เขียน senator ก็เช่นกัน อ่านออกเสียงประมาณว่า เซ่-หนิ-ถะ(ร์) เน้นเสียงพยางค์แรก receipt ที่แปลว่าใบเสร็จรับเงิน ออกเสียงว่า รี-ซีดท์ (ซีดแบบซีดเป็นไก่ต้มนั่นแหละแล้วใส่เสียงตัว t เพิ่มเข้าไป จำง่ายๆก็ หน้าซีดเวลาเห็นใบเสร็จ)เน้นเสียงพยางค์หลัง ไม่ต้องออกเสียงตัว p เพราะฝรั่งจะฟังไม่ออก lingerie อันนี้เจอตามป้ายแผนกชุดชั้นในผู้หญิง คนบริติชอ่านคำนี้ว่า ล้อง-เจอ-หริ เน้นเสียงพยางค์แรก แต่มะกันอ่าน แลง-เจอ-เร่ เน้นเสียงพยางค์สุดท้าย อันนี้ประสบการณ์ตรง นัดกับเพื่อนที่แผนกนี้ หากันไม่เจอเพราะดันออกเสียงไม่ถูก ใครจะไปรู้ฟะว่าออกเสียงแบบนี้ royal ไม่ได้อ่านว่า รอ-ยั่ล เค้าอ่านออกเสียงคล้ายๆ จะพูดคำว่า รอย แล้วเปลี่ยนใจ ไม่ออกเสียง ย ยักษ์ แต่ใส่คำว่า เอ็ล เบาๆลงไปแทน โอย คำนี้เขียนคำอ่านเป็นไทยไม่ได้ ไม่รู้จะเขียนยังไง mortgage อ่านว่า มอร์-เก็ดจ์ เน้นเสียงพยางค์หน้า ไม่ต้องออกเสียงตัว t อะ เอาเท่านี้ก่อน ส่วนมากที่จำได้เพราะพูดผิดแล้วเจ้าของภาษาเค้าฟังไม่รู้เรื่องเนี่ยแหละ หน้าแตกมาหลายรอบแล้วเลยจำแม่น แต่ถ้าจะพูดทับศัพท์ในภาษาไทย ก็ออกเสียงแบบไทยๆนี่หละ เพราะวัตถุประสงค์คือต้องการสื่อสารให้คนไทยเข้าใจ แค่อย่าลืมปรับการออกเสียงให้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็นเวลาพูดภาษาอังกฤษ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว สงสัยน้องคนที่เขียนบล้อค เวลาคุยกะเพื่อนจะออกมาเป็นแบบนี้รึเปล่า "อาหาร อิท-แท้-เหลี่ยน เดี๋ยวนี้ทำง่ายนะ แค่เอา โซส ไปอุ่นใน มั้ย-โคร-เหวฟ ก็กินได้แล้ว" อิ อิ กว่าจะได้กิน ขำตายก่อน (แซวเล่นนะน้อง อย่าคิดมาก) แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 52 06:04:55 จากคุณ : The Starry Night - [ 27 มิ.ย. 52 05:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอแถมคำง่ายๆ ด้วยนะคะ lamp vs lamb ค่ะ lamp อ่านว่า แลมพ์ คือเวลาออกเสียงต้องมีเพอะเล็กๆ ลงท้าย lamb อ่านว่า แลม โดย "b" จะไม่ออกเสียงใดๆ เสมือนหนึ่งไม่มีเลยนะคะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 27 มิ.ย. 52 07:35:37 A:115.129.5.165 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราเข้าใจเจตนา(ดี)ของคุณ จขกท นะคะ :) แต่ในขณะเดียวกัน .. ก็อย่างที่หลายๆ ท่านพูดไปแล้วข้างบน คือแต่ละชาติจะออกเสียงแตกต่างกันไป อย่างที่เห็นได้ชัดและ "เป็นมาตรฐาน" ก็คือ สำเนียง English English & English American เพราะงั้น เราว่าคุณคงจะเอาการออกเสียงที่ถูกต้องของคุณมาเป็นมาตรฐานในการออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ได้หรอกมั้งคะ เรา ซึ่งพูดสำเนียง English American อ่านเจอตรง error ก็สะดุดนิดหน่อยแล้วล่ะ เพราะอเมริกัน อ่านคำนี้เป็น เอ๊รร์ (เอ๊ร์เร่อะ) ไม่ใช่ แอ๊รร์ อย่างสำเนียงบริติช และไหนจะคำว่า effect (เอ๊ฟเฟ่กท์) แล้วก็ fragile (ฟร๊าเจิ่ล) ก็เห็นได้ชัดเหมือนกันว่าขนาดแค่สองสำเนียง (มาตรฐาน) นี้ยังออกเสียงต่างกันเลยนะ และก็ขอ "ร้อนตัว" หน่อยนึงส่วนตรงที่คุณบอกว่า effect -- คำนี้คนไทยออกเสียงผิดประมาณ 99.7% **(อีก 0.2% อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก)** อันนี้คุณหมายความว่า คนไทย"ทุกคน"ที่พูดภาษาอังกฤษได้ ออกเสียงคำนี้ผิดกันหมดเลยเหรอ...??? เราอ่านอังกฤษออกพูดอังกฤษได้ (ไม่ได้คุยค่ะ แต่ว่าได้ดีพอสมควรเลยล่ะ :P) ซึ่งก็แสดงว่าเราไม่ได้เป็น หนึ่งใน 0.2% ตรงนั้น แต่เราก็ออกเสียงคำนี้ถูกต้องมาตั้งแต่ก่อนมาอยู่อเมริกาแล้วล่ะค่ะ :P อันนี้ไม่ได้โกรธอะไรคุณ จขกท นะคะ .. เพียงแต่อยากชี้ให้เห็นหน่อยนึงว่า การออกมาพูดอะไรประมาณนี้ ตรงที่สาธารณะอย่างนี้ เราว่าคุณไม่น่าจะพูดอะไรที่มันค่อนข้างหมายถึง "การเหมารวม" ดีกว่าไม๊คะ เพราะเราเดาว่าคุณ จขกท "ไม่ได้ตั้งใจดูถูก" คนไทยที่อ่านและพูดภาษาอังกฤษ(ได้) ว่าออกเสียงคำนี้ผิดกันหมด!!! (มีแต่คุณคนเดียวที่ออกเสียงถูก :P) แต่คุณคงแค่ต้องการจะใช้ "เปอร์เซ็นต์ที่เน้นถึงความมาก" ของจำนวนคนออกเสียงผิด ว่ามันมากมายเหลือเกิน เพียงแต่การเน้นของคุณตรงนี้มันมากไปหน่อยนึงมั้งคะ เราว่าคุณ จขกท น่าจะตั้งกระทู้นี้แบบเจาะจงหน่อยนึงว่าคุณพูดถึงการออกเสียงภาษาอังกฤษแบบ "สำเนียง English English" เท่านั้น .^_^. จากคุณ : Chini - [ 27 มิ.ย. 52 07:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ้อ... เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าข้อความในกระทู้นี้ไม่ได้มาจากคุณ จขกท โดยตรง แต่มาจากบล๊อกคุณบองเต่า (ใช่หรือเปล่านะ "-_-) เอาเป็นว่า .. ข้อความของเราในความเห็นข้างบน ฝากไปให้คุณบองเต่าด้วยก็แล้วกันค่ะ ^_^ จากคุณ : Chini - [ 27 มิ.ย. 52 08:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามประสบการณ์ ทำเสียงกระแดะมากๆ ฝรั่งฟังไม่ออก เสียงไทยๆทื่อๆ กลับฟังกันรู้เรื่อง ไม่รู้ทำไม ฝรั่งยังออกเสียงไม่เหมือนกัน ฝรั่งจากอังกฤษออกเสียง Carrefour ว่า คารีร์โฟร์ คนอเมริกันไม่สนใจหรอกว่าคำมาจากภาษาอะไร ออกเสียงเรื่อยเปื่อยไปตามถิ่นที่อยู่ ไม่ได้ว่ากระทู้ไม่มีประโยชน์นะคะ คงจะเป็นสำนวนที่ตีขลุมมากไปมากกว่า จากคุณ : กระสานวล - [ 27 มิ.ย. 52 08:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นแล้วคิดถึงอาจารย์ฝรั่งของผมคนนึง(แต่แกสอนเป็นภาษาไทยนะ) แล้วแกชอบพูด โวลยุ่ม ..ตอนแรกผมก็งงว่าทำไมแกออกเสียงแบบนั้น ได้อ่านกระทู้นี้ก็ชัดเจนครับ ..เข้าใจแล้ว!! ขอบคุณครับผม ..^^ ปล.สารภาพว่าผมอ่านถูกอยู่ 2คำ คือ genre กับ screen saver ..ที่เหลือ ..ผิด!!!! จากคุณ : เด็กส่งแก๊ส - [ 27 มิ.ย. 52 09:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมคิดว่า คุณหนูมิลาน จขกท.คงจะหวังดีน่ะครับ เลยนำมาฝากกัน แต่คงไม่ได้คิดว่าการออกเสียงของแต่ละคำที่ผู้เขียนยกมานั้น มันก็ ย่อมขึ้นอยู่กับสำเนียงของแต่ละแห่งเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศ เดียวกันก็ตาม การออกเสียงของคำแม้จะแปร่งไปบ้าง หรือเพี้ยนไป บ้าง แต่ว่าเมื่อรวมกันทั้งประโยค ก็จะทำให้เข้าใจได้ แต่เรื่องของการออกเสียงผิดกับสิ่งของ หรือสถานที่นั้น ผมว่าน่าจะ ทำให้เข้าใจยากหรือสับสนมากกว่า เช่น Dewar's ที่หมอดูยกมา ว่าต้องออกเสียง ดยัวส์ หรือ ดูเออรส์...Greenwich แม้ผู้อ่านข่าว หรือผู้ที่ไปเรียนต่างประเทศมาก็ยังอ่านว่า กรีนวิช แทน กรินิช หรือ เกรนิช...Durham ก็อ่านว่า เดอร์แฮม แทน เดอรั่ม หรือ เดรั่ม จากคุณ : tnu - [ 27 มิ.ย. 52 11:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มันเป็นไปได้ง่ายมาเลยครับที่เราคนไทยจะใช้คำต่างๆ เหล่านี้ผิด เพราะมันเป็นการใช้สำเนียงให้ถูกต้อง ผมคิดว่ายากนะที่จะออกเสียให้เหมือนเจ้าของภาษาทั้งหมด เพราะเราไม่ได้เกิดในประเทศนั้นๆ เป็นไปได้ที่จะพูดผืดสำเนียง แต่ฝรั่งน่าจะเข้าใจได้นะครับ ขอแจมนิดนึง เอาตัวอย่างคำของข้อ 5 มาเป็นตัวอย่างนิดนึง http://dictionary.reference.com/browse/genre ใช้ เจอร์น-ระห์ Comfortable สามารถ ออกเสียงได้สองแบบ http://dictionary.reference.com/browse/comfortable อยากโตเมืองนอกจัง ... จากคุณ : Bangkok City Boy - [ 27 มิ.ย. 52 11:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืมม .. ผมเข้าใจเจตนาดีของ จขกท แต่ยังไงก็ต้องเตือนในฐานะที่หน้าที่การงานของคุณก็คล้ายๆ กับของผมในอดีต คุณอย่า "บ้าภาษา" ให้มากเกินนะครับ มันไม่เป็นผลดีกับคุณเลย สุดยอดของการใช้ภาษานั้น คือการใช้ "ภาษาของผู้ฟัง" ไม่ใช่ภาษาของผู้พูด ถ้าคุณต้อง present งานต่อที่ประชุมซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากบริษัทในเครือทั่วโลก คุณจะออกเสียงสำเนียงไหนครับ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจ? ระดับความยากง่ายของภาษา ความเร็วในการพูด รวมถึงคำศัพท์ที่ใช้ ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน กรณีที่คุณรู้ background ของผู้ฟัง อันนี้ง่ายหน่อย ก็เลือกใช้ภาษาที่ "เหมาะกับเขา" นะครับ ไม่ใช่ในแบบที่คุณเห็นว่าดี เพราะคุณไม่ได้พูดเองฟังเอง กรณีที่ไม่รู้ ก็ใช้อย่างกลางๆ ไว้ก่อน สิ่งที่คุณกำลังทำคือการ present เนื้อหาของงาน โน้มน้าวผู้ฟังให้คล้อยตามไปกับข้อเสนอของคุณ ไม่ใช่กำลังสอนภาษาอังกฤษนะครับ ถ้าคุณใช้ภาษาระดับ native speaker อย่างไฟแล่บ แต่คนฟังอ่อนภาษา ฟังไม่รู้เรื่อง presentation ของคุณก็ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ยิ่งถ้าคนที่ฟังไม่รู้เรื่องนั้นคือเจ้านายคุณ ปีหน้าคุณไม่ได้ขึ้นเงินเดือนแหงๆ โทษฐานที่คุณพูดอะไรฟังไม่รู้เรื่องเลยว่ะ ซ้ำร้ายกว่านั้น ถ้าเขาไพล่คิดไปว่าคุณเอาความสามารถทางภาษาของคุณไปโชว์ ไปข่มเขา ทำให้เขาเสียหน้า ทีนี้เละ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 27 มิ.ย. 52 12:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ้าว ลืมไป ไม่ใช่ส่งคำเตือนถึงคุณหนูมิลาน จขกท กระทู้นี้ แต่ถึงคุณเต่า เจ้าของบทความ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 27 มิ.ย. 52 12:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอเพิ่มให้อีกคำก็แล้วกันคับ Salmon --> คุณปลาสีส้มอมชมพูที่รับประทานกันอยู่นั่นแหละค่ะ ไม่ได้ออกเสียงว่า แซลมอน นะ แต่ออกว่า แซมมอน จ้ะ บอกไว้เป็นเคล็ดเฉยๆคับ เราว่าการใช้ภาษามันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ค่ะ ว่าต้องการจะใช้มันเพื่อสื่อสารให้เข้าใจ ต้องการใช้เพื่อประกาศศักดาตัวเองว่าเรา Well-educated แต่ละคนแต่ละสถานการณ์ทำให้มีเรื่อง Concern กับมันต่างกันไป แบบแรก ถ้าภาษามีไว้เป็นเครื่องมือทำให้สื่อสารกันได้เข้าใจ จะสำเนียงไหน ออกเสียงยังไงก็ตาม แต่ต้องทำให้อีกฝ่ายชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะสื่อ พูดง่ายๆคือดูผู้ฟัง ไม่ใช่ดูผู้พูดค่ะ เราเคยพูดอังกฤษกับคนที่ไม่สันทัด ใช้คำที่ง่ายสุด ทำรูปปากให้กว้างชัดที่สุด บวกกับภาษามือเข้าช่วย ก็ยังทำความเข้าใจกันได้เป็นอย่างดีโดยที่ไม่ต้องพึ่งเสียงตามเนทีฟ แบบสอง ถ้าภาษามีไว้บอกคนอื่นเป็นนัยว่าเราก็พวกมีการศึกษานะ มันก็อาจจะสลับกับจุดประสงค์ด้านบนสักหน่อย (เรากำลังพูดถึงจุดประสงค์โดยไม่ตีค่าว่าแบบไหนถูกหรือผิด) อย่างเวลาเข้างานสังคม บางครั้งเราไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมายที่จะไปเม้าท์ไปสื่อสารให้เขาเข้าใจนักหรอก แต่บางครั้งที่ถูกดูหมิ่น หรือไม่ก็อยากโชว์ว่าฉันก็ Educated นะ ก็ต้องยอมรับว่าภาษาอังกฤษสำเนียงเนทีฟที่ออกมาจากปากก็ทำให้คนอื่นทึ่งได้เหมือนกัน อันนี้สำเนียงดีมีชัยไปกว่าครึ่ง สรุปก็คือแล้วแต่ว่าคนใช้ภาษาต้องการอะไร ดังนั้นเรื่องที่ Discuss กันอยู่ต้องอยู่ในพื้นฐานจุดประสงค์เดียวกันนะ จะได้คุยกันรู้เรื่อง ถ้าคุณคนเขียนต้องการแบบที่สอง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะจะยกแบบแรกขึ้นมาถกเถียงกัน จริงไหมคะ จากคุณ : peiNing - [ 27 มิ.ย. 52 12:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผิดทุกข้อหาเลยครับผมT_T จากคุณ : nuttory - [ 27 มิ.ย. 52 14:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อย่าซีเรียสกันมากเลยนะครับ ภาษามันไม่มีวันตาย ผมว่าการสื่อสารที่ดีนั้นคือการเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ถูกต้อง สำหรับผมก็ตั้งใจอ่านนะ  เอาไว้เผื่อต้องร้องเพลง จะได้เข้าถึงตัวโน้ตชัดๆ สำเนียงแท้ๆ  เมื่อเราไม่เข้าใจสำเนียง ร้องยังไงมันก็ไม่ไ้ด้อารมณ์หรอกครับ จากคุณ : blur the blue - [ 27 มิ.ย. 52 16:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับว่าใช้คำที่มาจากภาษาอังกฤษในบริบทไหนนะครับ ถ้าเรากำลังพูดภาษาอังกฤษ (ทั้งประโยค) นั่นคือเรากำลังสื่อสารด้วยระบบเสียงของภาษาอังกฤษ ด้วย stress และ intonation ของภาษาอังกฤษ ก็ต้องออกเสียงให้ถูกต้อง ทั้งเสียงพยัญชนะและ เสียงสระ ดังนั้นเสียงตัว v ก็ต้องออกแบบเสียง ฟ ที่เติมความก้องเข้าไป หรือเสียงสระ u ในบาง กรณี ก็ต้องเติมเสียง ย เข้าไป  คนที่สื่อสารกับเราเป็นภาษาอังกฤษเขาถึงจะฟังรู้เื่รื่อง แต่ถ้าเรากำลังพูดภาษาไทย การที่เราเอา "คำที่มาจากภาษาอื่น" มาใช้เป็นคำทับศัพท์ ก็ย่อมถูก ปรับให้เข้ากับระบบเสียงของไทย ไม่ว่าจะเป็นเสียงพยัญชนะ เสียงสระ หรือลักษณะการขึ้นลง และจังหวะในการออกเสียง อันนี้เป็นธรรมชาติของทุกภาษา ไม่ใช่แค่การเอา "คำที่มาจากภาษาอังกฤษ" มาใช้ทับศัพท์ใน ภาษาไทยเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ในภาษาไทยมีคำที่มาจากภาษาอื่นมากมาย ทั้งจีน เขมร ชวา บาลี สันสกฤต แต่ ทุกคำที่เราเอามาใช้ เราได้ปรับเข้าหาระบบเสียงของไทย เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มพูนคำศัพท์ ในภาษาครับ อย่างคำว่า "ภาษา" เราออกเสียงแบบไทยๆ ว่า "พา-สา" แต่ต้นฉบับของเขา (สันสกฤต) ต้อง ออกเสียงคล้ายๆ กับ "บฮา-ชา" (สองเสียงพยัญชนะนี้ไม่มีในระบบเสียงภาษาไทยทั้งคู่) ถ้าใคร ที่มีความรู้ภาษาสันสกฤต พยายามจะออกเสียงแบบนี้กับคนไทย ขณะที่คุยกันเป็นภาษาไทย การสื่อสารก็จะไม่ประสบความสำเร็จ นั่นคือผิดจากจุดประสงค์ของการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารโดย สิ้นเชิง คำจำนวนมากในภาษาไทยมาจากบาลีสันสกฤต ถ้าเราออกเสียง "ประเทศ" ว่า "ประ-เด้ช" ออกเสียง "สังคม" ว่า "ซัง-กำ" คงคุยกันยากมาก คำในภาษาตระกูลฝรั่งที่เรารับเข้ามาใช้ในภาษาไทยก็ไม่ต่างกัน ย่อมถูกปรับการออกเสียงให้ อยู่ในระบบเสียงของภาษาไทย และภาษาไทยไม่ใช่ภาษาเดียวที่ทำแบบนี้ ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้คำ ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ ก็ปรับเข้าหาระบบเสียงของญี่ปุ่นทั้งหมดเหมือนกัน และภาษาอังกฤษเอง เมื่อยืมคำมาจากภาษาต่างประเทศ ก็ปรับให้เข้ากับเสียงตัวเองเช่นกัน ตัวอย่างเช่นคำว่า genre ข้างต้น แม้คนที่พูดภาษาอังกฤษจะพยายาม "เลียน" เสียงในภาษา ฝรั่งเศสเพียงใด แต่เสียง "จ็อง" ที่คนพูดภาษาอังกฤษใช้ ก็ไม่ใช้เสียงเดียวกับเสียงสระของ ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเสียงสระนาสิก ภาษาอังกฤษไม่มีเสียงนี้  เขาเพียงแต่เทียบเคียงมาเท่านั้น ทำนองเดียวกัน restaurant ที่คนพูดภาษาอังกฤษพยายามออกเสียงว่า "ร็อง" ก็ปรับจากเสียง เดิมของฝรั่งเศส ให้เข้ากับระบบเสียงของตัวเอง และไม่ใช่แค่คำเสียง "อ็องๆ" พวกนี้เท่านั้นที่ถูกปรับ คำศัพท์จำนวนมหาศาลในภาษาอังกฤษ มาจากการปรับเสียงคำเดิมในภาษาฝรั่งเศส อย่าง chamber ไม่มีคนพูดภาษาอังกฤษอ่านว่า "ชอง-เบรฺอะ" แน่ๆ (ขอเทียบอักษรใกล้เคียง) หรือ metre ก็ไม่มีใครอ่านว่า "แม็ตรฺ" เช่นกัน เพราะมันไม่เข้ากับระบบเสียงภาษาอังกฤษครับ การใช้คำทับศัพท์ในภาษาไทย สิ่งที่ควรสังเกตคือ มันเป็นคำ "ทับศัพท์" ที่ถูกใช้ในขณะที่เรา กำลังสื่อสารด้วยระบบเสียงของภาษาไทย ถ้าเราต้องการจะพูดสองภาษาผสมกัน (เด็ก bilingual/multilingual จำนวนมากพูดแบบนี้ มันเป็นธรรมชาติของเขา)  ตอนพูดภาษาอังกฤษ ก็คงต้องสื่อสารในระบบเสียงภาษาอังกฤษ ให้ครบถ้วน ไม่ใช่แค่การออกเสียงคำกับ stress แต่ยังรวมถึง intonation และรูปประโยคด้วย แต่ก็คงต้องคำนึงถึงว่า จุดมุ่งหมายของการ "สื่อสาร" นั้นคือเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างผู้ส่งสาร กับผู้รับสารหรือไม่ ถ้าจะพูดภาษาไทย (สำเนียงไทย) ประโยคหนึ่ง สลับกับภาษาอังกฤษประโยค หนึ่ง (ที่ถูกต้องทั้งเสียงพยัญชนะ สระ stress และ intonation ในประโยค) แล้วทำให้การสื่อสาร ล้มเหลว บางทีก็อาจไม่ใช่สิ่งที่มีประโยชน์ครับ จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 27 มิ.ย. 52 16:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณจขกทค่ะ ที่เอาสิ่งที่มีประโยชน์มาแชร์กันค่ะ สำหรับตัวดิฉันเองคิดว่า ไม่ว่าเราๆ ท่านๆ จะให้เหตุผลว่าการออกเสียงให้ถูกต้องตามเจ้าของภาษานั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอย่างไร เช่นดังคคหหลายคคหข้างต้น มันก็ใช้ได้เฉพาะในเมืองไทยของเราเองเท่านั้นค่ะ หมายความว่า เราพูดกันเองระหว่างคนไทยด้วยกัน หรือพูดกับฝรั่งในบ้านเรา เพราะพวกเค้าจะพยายามเข้าอกเข้าใจเราเป็นอย่างดี ว่าเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง แต่มันใช้ไม่ได้เมื่อเราออกไปต่างบ้านต่างเมือง ที่ที่พอพูดถึงประเทศไทยแล้วเค้าทำหน้างงๆ ว่ามันอยู่ส่วนไหนของโลกน่ะค่ะ เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวพบว่า ถ้าเราออกเสียงไม่ถูกอย่างที่เค้าออกเสียงกัน ฝรั่งทั้งหลายแหล่ก็จะทำท่างงเต็กสุดฤทธิ์ แล้วหูของเราก็จะได้ยินแต่คำว่า pardon? sorry? ทำเอาเราหมดความมั่นใจไปหนึ่งหาบใหญ่ค่ะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 27 มิ.ย. 52 18:47:24 A:115.129.9.85 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จริงๆแล้ว ถึงแม้การออกเสียงจะมีหลายสำเนียง แต่ก็ไม่ได้แปลว่า เรานึกจะพูดสำเนียงอย่างไรก็ได้ตามใจฉันนะ อย่างน้อยๆมันต้องสื่อสารได้ อย่างที่หลายๆท่านพูด ขึ้นอยู่กับผู้ฟังของคุณมากกว่า ถ้าพูดกับเจ้าของภาษาแต่เราออกเสียงว่า ฟราจิ้ล ก็คงพูดกันไม่เข้าใจ ถ้าพูดกับคนไทย อาจจะอยากให้เข้าใจง่ายๆ ก็ เอาสำเนียงไทยแล้วกัน ่ไม่ใช่ว่า มันมีตั้งหลายสำเนียง ฉันก็จะพูดแต่สำเนียงของฉันนี่แหละ นึกถึงถ้าฝรั่งมาพูดว่า "คุณจะไปตายหรือครับ" / "คุณจะไปใต้หรือครับ" เข้าใจก็จริง แต่ความรู้สึกมันต่างกันเยอะ เจ้าของบทความนี้ อาจจะดีกว่าถ้าเปลี่ยนถ้อยคำ เปลี่ยนจาก การออกเสียงผิด-ถูก มาเป็น "คำที่คนไทยออกเสียง แตกต่าง ไปจาก standard american accent หรือต่างไปจาก receipt pronunciation หรือ ต่างจากสำเนียงใดๆโดยเฉพาะที่ได้มีการจารึกไว้ทั้งหมดทั้งสิ้น ก็ตามแต่" จะได้สิ้นสงสัย 55555 จากคุณ : Classic (พระเอกละครหลังข่าว) - [ 27 มิ.ย. 52 19:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ทึ่งคำว่า effect ผิดมาตั้งแต่ออกท้องมาเลยครับ คำนี้ จากคุณ : No Excuse. - [ 27 มิ.ย. 52 21:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบคำพูดของคุณหนุ่มไทยฯ ค่ะที่ว่า "สุดยอดของการใช้ภาษานั้น คือการใช้ "ภาษาของผู้ฟัง" ไม่ใช่ภาษาของผู้พูด" เสียดาย give หมดแล้ว ไม่อย่างนั้นจะให้ทั้งหมดที่เหลือเลย นั่นล่ะค่ะ ใช่ที่สุดเลย ถ้าคิดเหมือนคุณเต่า (ตามที่คุณ จขกท ยกมา) อย่าทับศัพท์ภาษาอังกฤษเสียยังจะดีกว่า ที่คนฟังในห้องประชุมหัวเราะนั่นสมควรแล้วแหละค่ะ เพราะเวลาที่แกพูดมันคงฟังแล้วหัวมังกุฎท้ายมังกรยังไงชอบกล ถ้าทั้งหมดที่พูดในห้องประชุมเป็นภาษาไทย คนฟังก็คนไทย ถึงจะทับศัพท์ต่างด้าว ก็ออกเสียงคำๆ นั้นเป็นแบบที่คนไทยออกเสียงกันดีที่สุดค่ะ รู้เรื่องกันดีทั้งคนฟังคนพูด เพราะท้ายที่สุดแล้วภาษามีไว้สื่อสารค่ะ ไม่ได้มีไว้อวดภูมิกัน ว่าไปแล้วมา “ชองระห์” หรือ "แฟรกไจล์" แถวบ้าน ผู้คนแถวนี้ก็คงหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งเหมือนกันค่ะ คนแถวนี้ก็เจ้าของภาษาเหมือนกันนะเออ ถึงจะบ้านนอกก็เถอะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 27 มิ.ย. 52 22:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมผิดทุกอันเลย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 27 มิ.ย. 52 23:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เวลาแปล Salmon ว่าแซมมอน เห็น rewriter แก้เป็น แซลมอน ทู๊กกกกที กับเวลาเห็นฝรั่งสั่ง Dewar's ว่าดยัวส์ ในผับ เห็นบาร์เทนเดอร์สอนฝรั่งว่า เมืองไทยเค้าอ่านว่าเดวาร์ส :-) จากคุณ : กระสานวล - [ 28 มิ.ย. 52 00:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ความเห็นแบบครึ่งๆค่ะ การใช้ภาษาไหนก็ควรพยายามออกเสียงให้ใกล้เคียงที่สุดมากกว่ายอมผิดตามสังคมไป แต่สุดโต่งเกินไปบางทีคนก็หมั่นไส้ได้ง่ายๆ อะลุ้มอะล่วยหน่อยแล้วกันค่ะ คำไหนเพี้ยนนิดหน่อยก็ช่างมันเถอะ คำไหนต้องให้ถูกจริงๆก็ลดสำเนียง(ที่คนไทยมองว่ากระแดะ)ลงหน่อยให้มันกลืนๆไป อย่างน้อยคนพูดก็ไม่รู้สึกผิดค่ะ คนฟังก็พอทำใจได้ ที่สำคัญถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็อย่าพูดไทยคำอังกฤษคำโดยพร่ำเพรื่อ อันนั้นไม่ว่าออกเสียงถูกไม่ถูกก็กระแดะของจริงเลยล่ะค่ะ จากคุณ : Book&Beer - [ 28 มิ.ย. 52 00:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เนี่ยหล่ะคือปัญญาหาของคนไทยซึ่งมีส่วนที่ทำให้ฟังฝรั่งไม่ค่อยออก จากคุณ : coyotybaby - [ 28 มิ.ย. 52 01:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ฝากถึงคุณเต่า เจ้าของบทความ ละกัน ผมว่า มันผิดตรงที่คุณ present เป็นภาษาไทย แต่พูดไทยคำอังกฤษคำมากกว่าครับ  คำบางคำ อย่าง sale volume ผมว่ามันมีภาษาไทยที่เข้าใจง่ายๆ อยู่แล้ว ไม่เห็นต้อง กระแดะ พูดเป็นภาษาอังกฤษเลย  เอ่อ อาจจะไม่เกี่ยวกับกระทู้ ขอโทษทีครับ แหะ ๆ อีกอย่่างนะ ผมได้ยิน คนต่างชาติ อ่าน effect ว่า เอฟเฟ็ค (แต่อ่านแบบเร็วๆนะ ไม่ได้ อ่าน เอฟ-เฟค แบบชัดๆทีละพยางค์) เยอะเหมือนกัน และก็ไม่เห็นใครจะมีปัญหา ฟังไม่รู้เรื่องเลยซักคน จากคุณ : Tiger อู๊ด - [ 28 มิ.ย. 52 06:55:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เจ้าของบทความออกเสียงคงถูกจริง เก่ง ขอชมว่าช่างสังเกตและขวนขวาย แต่ที่บ่นว่าเอาสำเนียงที่ถูกไปพูดหน้าห้องแล้วคนหัวเราะ ต้องคิดแล้วละ น่าจะเป็นการผิดกาละเทศะอย่างที่หลายคนว่า คนอื่นเขาเคยกินแต่ข้าวราดแกงเขียวหวานไก่ อยู่ดีๆเอาพิซซ่ามายัดเยียดให้เขากิน นึกภาพก็แล้วกัน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 28 มิ.ย. 52 08:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณเจ้าของกระทู้และเจ้าของบล็อคมากค่ะที่ช่วยเปิดหูเปิดตา (ให้เปิดปากได้อย่างถูกต้อง)  แต่ขอตินิดนึงตรงการใช้ภาษาไทย ของคุณเจ้าของบล็อค อาจจะเป็นโรคดัดจิตนิดนึงตรงที่ดิฉัน ไม่ชอบคำว่า  "เสล่อ" เอาซะเลย ลองหาในพจนานุกรมแล้ว ไม่เจอความหมาย  แต่จากความรู้สึกแล้ว  มันออกจะเหมือน คำด่า คำดูถูก ประโยคที่เค้าอาจจะใช้คำว่า เสล่อ หรือ เสร่อ กัน ก็เช่น .. "แอร๊ยยยยยย!! เค้าไม่ได้เชิญหล่อนนะยะ  เสล่อมาได้ไง!(ทำน้ำเสียงดัดจริตเข้าไว้) " อันนี้ดิฉันอาจจะคิดมากไปเอง  เข้าใจเจตนาของเจ้าของบล็อคนะคะ ว่าประสงค์ดี  แต่ไม่ชอบคำคำนี้จริงๆ   แต่  ชื่อวงของเป้ อารักษ์ ยัง เสลอ เสล๊อ เสล่อ เลยเน๊อะ  งืมมมมมม จากคุณ : Oh my dahlia - [ 28 มิ.ย. 52 09:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมอ่านถูกห้าคำ จากคุณ : porter_port - [ 28 มิ.ย. 52 10:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอยกมือถามค่ะ อิอิ fragile ก็มาจากฝรั่งเศส ทำไมไม่อ่านเเบบภาษาฝรั่งเศสเหมือนคำว่า genre ล่ะคะ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 52 11:33:20 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 52 11:29:15 จากคุณ : ทนพิษความสวยไม่ไหว - [ 28 มิ.ย. 52 11:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 .....อ่านผิดมากกว่าครึ่ง  - -'' จากคุณ : env42_tay - [ 28 มิ.ย. 52 11:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาเพิ่มด้วย คำว่า reality อ่านว่า รีอัลลิถี ไม่ใช่เรียลลิตี้ คำว่า camel อ่านว่า แคมโมล ไม่ใช่คาเมล เดี๋ยวนึกออกจะมาบอกอีกนะคะ คือพวกนี้เพื่อนอเมริกันแก้มาให้ อาจอ่านแบบอื่นได้อีก เข้ามาแชร์กันละกันนะคะ จากคุณ : psypurple - [ 28 มิ.ย. 52 12:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มีประโยชน์มากๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : ชีวิตชีวา - [ 28 มิ.ย. 52 12:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 41 rapport อ่านว่า แรพ-พอ  ม่ายช่าย แรพ-พอร์ท :) จากคุณ : lastyim - [ 28 มิ.ย. 52 12:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมสอบ สนทนาเมื่อเทอมก่อน No Problem ผมไปออกเสียงเหมือน น้า แอ๊ด คาราบาว เป็น โนพอมแบรม แฮ่ะๆๆๆๆ อาจารย์เลยให้ ออกเสียงให้ให้ถูกต้อง จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา - [ 28 มิ.ย. 52 14:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แวะมาอ่านค่ะ ^^ จากคุณ : The Best of Me - [ 28 มิ.ย. 52 16:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จริงๆคงเป็นแค่อารมณ์เคาะแป้นเอามันส์ตามสไตล์คุณบองเต่า ส่วนตัวเราก็ชื่นชมและชื่นชอบคุณบองเต่า แต่ก็ตะหงิดๆที่บอกว่าเสล่อ ฯลฯ จากที่เค้าพิมพ์มา เราออกเสียงไม่ตรงกับเค้าสองคำ และก็ไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนไปให้เหมือนกับเค้าหรืออย่างไร สำเนียงใครสำเนียงมัน คุณบองเต่าเองก็คงจะต้องเปลี่ยนลิ้นตัวเองไปตลอดชีวิตละมั๊งจนกว่าจะได้พูดถูกตามรากศัพท์ทุกคำ ปล.เห็นด้วยกับ#7อย่างแรง อยากให้คุณบองเต่าได้มาอ่านจริงๆ ^^ จากคุณ : หนูคิสเซอร์วิส (KissAhoLicGal) - [ 28 มิ.ย. 52 17:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นประโยชน์มากครับ เพราะมันไม่ใช่แค่เอาไปพูดได้อย่างเดียว แต่เ็ป็นประโยชน์กับการฟังด้วย เพราะหลายครั้ง ผมฟังคำนึง แล้วไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร ทั้งๆที่คำนี้ ก้รู้กันอยู่แล้ว เช่นว่า แวลู่ส์ values ผมเคยได้ิยนเขา ออกเสียงว่า แฟหยูส อะไรคือแฟหยูส มันคือ values นั่นเอง ทำไงได้ ก็รอคำว่า แวลู่ มันตลอด ไม่รู้จักคำว่า แฟหยูส เลย ผมว่า ส่วนหนึ่งที่คนไทยฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ก็เพราะแบบนี้แหละครับ รอฟังคำนึง แต่เขาพูดอีกคำนึง เลยไม่รูื้้้เรื่องกัน ทั้งๆที่ ถ้าพิมพ์มาล่ะก้ แปลคล่องเชียว จากคุณ : Carroth - [ 28 มิ.ย. 52 18:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 Call me a pessimist if you may, it's jolly well know how to pronounce those words properly but have no clue about how to even form a basic sentence. Me Tarzan You Jane I am go now. I am want go movie. I want to going to work. Some people'd rather concentrate on picking faults on pronunciation but ignore basic grammar? จากคุณ : genf - [ 28 มิ.ย. 52 19:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ ไม่มีใครบอกสักหน่อยว่าไม่สนใจเรื่องประโยค เพียงแต่ตอนนี้เขาคุยเรื่อง คำ กัน จากคุณ : pop_mmt - [ 28 มิ.ย. 52 21:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ดิฉันว่า เผยแพร่เนื้อหานี้ไปบางทีอาจจะทำให้คนไทยอ่านผิดยิ่งกว่าเดิมนะค่ะ ความจริงการอ่านออกเสียงของฝรั่งเอามาเทียบกับการเขียนเป็นอักษรไทยไม่ได้หรอกค่ะ ลองไปพิจารณาดูนะค่ะ เข้าเว็บ longdo ค้นหาคำเหล่านี้ประกอบ แล้วดูตรงหัวข้อของ oxford advance learner ถ้าคุณอ่านสัญลักษณ์ทางโฟเนติกออก ก็จะออกเสียงคำต่างๆ ได้ถูกโดยที่ไม่ต้องเขียนเป็นภาษาไทย เพราะเขียนเป็นภาษาไทยยังไงมันก็ออกเสียงไม่ถูกค่ะ เพราะว่าคีย์เสียงมันคนละแบบ อย่างเช่น Value (n., v.) ต้องอ่านว่า “แฟยิ่ว” ครับ ไม่ได้อ่านว่าแฟยิ่วนะคะ ถ้าออกเสียง แฟยิ่ว ตรงตัวฝรั่งก็ฟังไม่ออกเหมือนกัน ตามหลักแล้วต้องออกเสียง V กัดริมฝีปากล่าง จะออกเป็นเฝอะเวอะ ติดกัน พอตามตัวเสียงแอ ก็จะออกเป็น แฝวะลยิ่ว เขียนแบบนี้จะออกเสียงถูกไหมค่ะนี่ แต่เสียง L ที่ลิงกับเสียง ยิว ของ ju: จะออกเป็นเลอะบวกยิว นั่นชักจะเลอะเทอะตามเสียงแฮะๆๆ Error (n.) คำนี้คำที่ถูกต้องอ่านว่า “แอ-เร่อะ” คำนี้ก็เหมือนกันจริงๆ มันก็ออกเสียง เออ นั่นถูกแล้วค่ะ เพียงแต่ว่า เสียงเออที่ออก ต้องยกลิ้นติดเพดาน เป็นการออกเสียงตัว อาร์ ที่ตามเออมา มันก็จะเป็นคล้ายเสียงแอ เพราะลมโดนกัก แต่ถ้าออกเสียงแอเต็มปากว่า แอเร่อะ รับรองบักก้วยก๋า งงตาแตก เพราะว่ามันจะเป็นแอร์คอนดิชั่นไปซะ พอออกเสียงเออ ยกลิ้นเน้นหนัก เสียงเออที่ตามมามันก็จะแผ่วเอง ไม่เชื่อลองทำดูนะค่ะ ให้ยกลิ้นกระดกขึ้นไปบนเพดาน ออกเสียง เออเรอ ลองดูค่ะ สนุกดี แล้วทีนี้ก็จะได้ออกเสียง rat ถูกไม่กลายเป็นแรด สัตว์มีนอในบ้านเรา มาเพิ่มเติม ถ้า ออกเสียงในประโยค บางทีคำก็เปลี่ยน เช่น such as ติดกัน จะลิ้งค์เสียงเป็น ซะดแซส เขียน such เป็นภาษาไทยไม่ได้อีก มันเขียนยาก ถ้าเป็นแบบนี้ เรามิดีต้องออกเสียง as เป็น แซส ตลอดเวลาเหรอค่ะ ถ้าเกิดหูดีความจำดีว่าเขาออกเสียงแบบนั้น อ้อ บางทีถ้าคุณคุ้นเคยกับฝรั่งอเมริกัน คุณอย่าไปบอกว่าคนอื่นออกเสียงผิดนะคะ อเมริกันกับอังกฤษออกเสียงไม่เหมือนกัน อังกฤษต้นตำหรับ เขาเรียกกันสำเนียงผู้ดี ที่เห็นคนเถียงกันชัดเจนก็เรื่องเว็บ U tube ที่บางคนออกเสียงยูทุบ พออีกคนออกเสียงยูทิวบ์ อีกคนบอกผิด ความจริงไม่ผิดเลยค่ะ เพราะฉะนั้น อยากโหวตลบกระทู้นี้ เดี๋ยวเกิดคนที่ไม่เข้าใจเรื่องโฟเนติกมาอ่าน ได้ไปอ่าน แฟยิ่ว กันทั้งเมืองแล้ว ออกสำเนียงแฟยิ่วแบบไทย จะได้กลายเป็นเอกลักษณ์คล้ายภาษากะตาล็อกแน่ๆเลยบ้านเรา แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 52 22:46:28 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 52 22:45:36 จากคุณ : สีน้ำน้อย (sugarhut) - [ 28 มิ.ย. 52 22:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มีมา share คำนึง เคยออกเสียงผิดเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ตอนที่เพิ่งจบมหาลัยใหม่ ๆ คำว่า IMPORTANT ตอนนั้นเราออกเสียงว่า อิม พอร์ แท๊นท์ (ประมาณว่าเน้นคำว่า TANT) เชื่อมั้ยว่าพูดอย่างนี้กับฝรั่ง 5 คนไม่มีฟังออกเลยสักคนว่าเราพูดถึงอะไร มันต้องออกเสียงว่า อิม พ้อร์ แท่นท์ น่ะ (เน้น คำว่า POR) จากคุณ : winget - [ 28 มิ.ย. 52 22:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อีกคำนึง  อาจารย์เคยบอกไว้สมัยก่อน ว่า ถ้าพูดถึง การพรีเซ้นท์ งาน ให้ออกเสียง present ว่า พรีเซ้นท์  แต่ถ้าเป็น noun  ต้องออกเสียง presentation ว่า เพรสเซนเทชั่น ไม่ใช่ พรีเซนเทชั่น อีกคำ ที่เคยงง คือคำว่า often  เคยเรียนมาว่า อ่านว่า อ๊อฟเฟน (ตัว  T ไม่ออกเสียง)   แต่เคยได้ยินคนอเมริกัน หลายคน อ่านว่า อ๊อฟเทน (เสียงตัว T ชัดเจนมาก) รอผู้รู้ สำเนียงอื่น ๆ มา ให้ความรู้ต่อด้วยค่ะ จากคุณ : แม่กุ๊บกั๊บกับเก๋ากี้ - [ 28 มิ.ย. 52 23:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คห.50 คะ presentation จะออกเสียงหน้าหนักขนาด เพรส-เซน-เท-ชั่น ก็คงไม่ใช่มั้งคะ  ถ้า เพร-เซน-เท้-ชั่น น่ะพอได้ ดิกบางเล่มก็ออกเสียง พรี-เซน-เท้-ชั่น เข้าใจว่าอาจารย์พยายามหาวิธีสอนว่า อย่าไปเน้นเสียงพยางที่สองเหมือนคำว่า present เฉยๆ มากกว่า (ดูตัวโฟเนติกในรูปเอาละกัน อธิบายไม่ถูก เราเอามาจากดิกหลายๆเล่ม ) ส่วน often ออกเสียง t นี่คงแล้วแต่สำเนียงผู้พูดมั้งคะ คำนี้เราไม่เคยสังเกต แต่เราก็ไม่ออกเสียงตัว t เหมือนกัน เพราะออกเสียงง่ายกว่า จากคุณ : The Starry Night - [ 28 มิ.ย. 52 23:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มา confirm ค่ะว่า ตัวดิฉันเองก็เปลี่ยนการออกเสียงของ "often" เป็น "ออฟเท่น" ตามฝรั่งตาน้ำข้าวเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่นะคะ เพราะยังเห็นบางคนก็ออก "ออฟเฟ่น" ตามที่เราคุ้นเคย แต่ก็ได้ยินไม่บ่อยค่ะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 29 มิ.ย. 52 08:14:56 A:115.129.4.221 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 53 presentation ออกเสียงได้ทั้ง พรี-เซน-เท-ชั่น และ เพรซ-เซน-เท-ชั่น ค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 29 มิ.ย. 52 09:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คำว่า often นี่  ที่ออสเตรเลียเจอทั้งออฟเทน และออฟเฟน ค่ะ   อีกคำที่เจออ่านได้สองแบบคือ schedule  ออกเสียง สเคดดูล และ เชดดูล สำหรับเรา เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตามค่ะ อยู่เมืองไทย พูดกับคนไทย  ถ้าพูดภาษาอังกฤษเป็นคำๆ ก็ออกสำเนียงไทย แต่ถ้าพูดกับต่างชาติ ก็พยายามพูดให้ถูกต้อง ให้คนฟังเข้าใจค่ะ จากคุณ : NamaChoco - [ 29 มิ.ย. 52 11:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 55 mayor ที่แปลว่านายกเทศมนตรีอ่านว่า แมร์ นะคะ ไม่ใช่ เมเยอร์ คำนี้ก็ผิดกันเยอะ จากคุณ : Tanya_craft - [ 29 มิ.ย. 52 14:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 56 โอ้โฮ....สนุกแฮะ ! หลากหลายความคิดเห็นจัง ความจริง เรื่องภาษา ขอให้สื่อสารกันรู้เรื่อง ก็ใช้ได้ ถือว่ามีประสิทธิภาพ หลาย ๆ ความคิดเห็น ก็คงเคยได้ประสบการณ์กับตัวเอง เลยยกมาเปรียบเทียบกันใหญ่ บางอันก็เข้าใจถูก บางอันก็เข้าใจด้วยการรับรู้ของตัวเอง ขอแชร์ สิ่งที่ได้พบมาบ้าง salmon เท่าที่ได้ยินมา ออกเสียงเป็น แซ้มเมิ่น mayor ออกเสียงเป็น เม้ เออ บางที ก็ เม้ เยอร์ แต่เสียง ย ไม่ค่อยชัด หากเพื่อน ๆ ได้อ่านผ่าน ๆ ตาในแต่ละความคิดเห็นข้างต้น ก็รับทราบไว้เป็นข้อมูลก็แล้วกัน อย่าไปซีเรียส ว่า คำนั้น คำนี้ ต้องออกเสียง อย่างนั้น อย่างนี้ ถึงจะถูกต้อง เอาเป็นว่า สื่อสารกันให้รู้เรื่อง...ก็น่าจะเพียงพอแล้ว จากคุณ : ผ่านมา - [ 30 มิ.ย. 52 00:21:27 A:58.9.101.47 X: TicketID:172814 ]

ความคิดเห็นที่ 57 right back at you ค่ะ คุณ กุลธิดา (kdunagin) การพูดคำอังกฤษปนในภาษาไทย แล้วจะบอกว่า คำนี้ออกเสียงผิด คำนี้ออกเสียงถูก มันมีมากมาย หลาย "มาตรฐาน" ค่ะ เริ่มตั้งแต่ ๑) จะใช้มาตรฐานอังกฤษแบบอเมริกัน (ตามภูมิภาคไหน) ออสเตรเลีย ไอริช สก๊อตแลนด์ หรือ ฯลฯ ๒) คำไหนจะออกเสียงตามฝรั่ง คำไหนจะออกเสียงแบบไทย ๆ แล้วที่ว่าออกเสียงแบบฝรั่งเนี่ย ดีกรีประมาณไหน ในความเห็นของดิฉัน แค่ออกเสียงแต่ละตัวอักษร A-Z ให้เหมือนเจ้าของภาษาเป๊ะ ๆ (ไม่ว่าจะอเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลีย ฯลฯ) ยังไม่ง่ายเลยค่ะ เช่นคุณจะออกเสียงตัวอักษร Z ว่า zee คุณรู้ว่าคุณต้องทำเสียงสั่น เพราะมันไม่ใช่เสียง C แต่คุณสั่นได้เหมือนเจ้าของภาษาเป๊ะหรือเปล่า หรือว่า สั่นเหมือนกันแต่ไม่ถึงขั้น Z แต่เค้าก็พอ "เดา" ได้ว่า คุณไม่ได้พูดว่า C คำที่ออกเสียงผิดมากที่สุด ดิฉันว่ายังไม่ต้องถึงสิบคำ (ซึ่งสามารถแทนได้ด้วยคำไทยเวลาเข้าประโยคตอนพูดภาษาไทย) ที่ยกมานี้หรอกค่ะ ลองเริ่มตั้งแต่ "Apple" เลยมั้ยคะ ดิฉันไม่ได้ยินคนไทยคนไหน เรียกผลไม้ชนิดนี้ด้วยคำไทย (คาดว่าราชบัณฑิตคงจะบัญญัตินะ เพราะนั่นคืองานหนึ่งของสถาบันใช่มั้ยคะ ฮิฮิ) คนไทยออกเสียงหนักทั้งสองพยางค์ แอ๊บ เปิ้น แต่ฝรั่งไม่ได้ออกเสียงอย่างนั้น ต่อไปนี้เราก็ต้องออกเสียงว่า "น้า ๆ เอา แอ๊พ เพิ่ล สิบโลจ้ะ" หรือเปล่า (ซื้อมากยังงี้ น้าแถม สตรอว์ แบ๊ รี่ ด้วยนะ!) "แม่ฮะ ผมอยากดื่ม โอ๊ เฝิ่ล ทีน ครับ" หรือคำว่า "Computer" หรือ ค็อม พิ้ว เต้อ แบบที่คนไทยออกเสียง (ซึ่งมีคำไทยแต่ไม่มีใครใช้กัน) คนไทยก็ออกเสียงสามพยางค์หนักเท่า ๆ กัน ดิฉันอยากทราบว่า คุณเจ้าของบล็อกออกเสียงว่าอย่างไร เวลาคุณพูดไทย หรือจะกลับไปที่ตัวอย่างที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เช่น "ลอนดอน"  และ "ปารีส" คุณเจ้าของบล็อกคงไม่ได้ออกเสียงว่า "ล็อน ด็อน" และ "ปา รีด" แน่ ๆ ๓) รูปของคำ เช่น เอกพจน์หรือพหูพจน์ นามหรือกริยาหรือกริยาวิเศษณ์ ปัจจุบันหรืออดีตหรืออนาคต และ ฯลฯ เช่น  "ที่แผนกสั่งซื้อ computerS ไปตั้ง ๓๐ เครื่องแน่ะ" (คนฟังคงตอบแบบ เพชร โอสถานุเคราะห์: "เหอ ว่าไงนะ" ?!??) ถ้าบางคำคุณพูดสำเนียงไทย บางคำคุณพูดสำเนียงอังกฤษแบบ (ที่คุณคิดว่า) ถูกต้อง แล้วคุณเอาอะไรมาวัดว่า พี่น้องไทย กี่เปอร์เซนต์พูดผิด กี่เปอร์เซนต์ไม่รู้ภาษาอังกฤษ กี่เปอร์เซนต์เสร่อ ถึงแม้ว่าคุณจะใช้คำว่า "เสร่อ" ในเชิงลบกับตัวเองด้วยก็ตาม แต่เวลาใช้กับคนอื่น คุณคิดว่าเหมาะสมแล้วหรือ * หรือว่า การออกเสียงคำอังกฤษ (หรือคำที่ไม่ใช่คำไทย) ด้วยสำเนียงไทย หรือ สำเนียงภาษาอังกฤษ หรือสำเนียงดั้งเดิมของคำนั้น (เช่นคำภาษาอื่นที่ภาษาอังกฤษยืมมาใช้) จะเป็นเรื่องของ - ระดับความรู้: เด็ก ป ๒ อาจจะไม่รู้ว่าจะออกเสียงคำบางคำอย่างไร เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน - ความสามารถ: ได้ยินเจ้าของภาษาพูดแล้ว ฝึกเป็นร้อย ๆ หนแล้ว ก็ยังเลียนเสียงได้ไม่เหมือน ลิ้นแข็งแล้ว  (หรือว่า หูไม่ดีกันแน่) - ความเคยชิน: "รู้" ว่าการออกเสียง "ที่ถูกต้อง" เป็นอย่างไร แต่ชินกับการใช้อีกแบบหนึ่งมากกว่า (ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะ "ผิด") เช่น รู้ว่า multi ออกเสียงได้มากกว่าหนึ่งแบบ แต่ชินหรือถนัดกับการออกเสียงแบบใดแบบหนึ่งมากกว่า หรือ รู้ว่าอังกฤษเรียกกางเกงขายาวว่า trousers แต่เวลาพูดกับคนอังกฤษ ก็ถนัดใช้ pants มากกว่า - ทางเลือก ? ครั้งแรกที่ดิฉันฟังคุณทาทา ยัง ให้สัมภาษณ์ แล้วเธอพูดคำอังกฤษขณะที่พูดไทย ดิฉันแปลกใจนะ ที่ไม่เห็นเธอใช้การออกเสียงคำอังกฤษอย่างอเมริกัน "ทุกคำ" ไหนจะ คุณฮาร์ท สุทธิพงษ์ คุณเบิร์ด กุลพงศ์ คุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ คุณ ๆ เหล่านี้ เท่าที่ดิฉันทราบ เป็น bi-lingual ไทย-อังกฤษ (รู้สึกบางท่านจะถนัดภาษาอังกฤษมากกว่าไทยอีก อิอิ) และไม่ได้ออกเสียงคำอังกฤษอย่างเจ้าของภาษาเวลาพูดไทย "เสมอ" อเมริกันเรียก oakley ว่า โอ๊ค ลี่ คนไทยเรียก โอ๊ค เล่ คุณภูมิใจมากไหมคะ ที่เวลาคุณออกเสียง โอ๊ค ลี่ แล้วคนไทยหันมามองคุณ คุณภูมิใจมากไหม ที่คนอเมริกันส่วนใหญ่ (ที่ดิฉันได้ยินจากประสบการณ์ตัวเอง) เรียก Ikea ว่า ไอ เคีย แต่คุณเรียกว่า อี เกีย เวลาคุณออกไปรายงานเป็นภาษาไทย (?) แล้วออกเสียงคำอังกฤษแบบ (ที่คุณคิดว่า) ถูกต้อง แม้คนฟังจะหัวเราะคิกคัก แล้วหัวใจคุณพองโตมากไหม ที่คุณคิดว่า หัวเราะไปเถอะ แต่พวกเค้าไม่รู้อะไรดีเท่าคุณ ดิฉันคงพูดแทนใครไม่ได้ แต่บอกได้ว่า หลังจากอ่านบล็อกของคุณแล้ว โดนอีโก้ของคุณดันจนเกือบตกเก้าอี้แน่ะ ดิฉันคิดว่า เป็นสิ่งดีค่ะที่ คนไทยที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษระดับเจ้าของภาษา "ถูกสอน" มาอย่างผิด ๆ แล้วเคย (หรือยังคง) ประสบปัญหาสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษกับชนชาติอื่นไม่ราบรื่น จะใช้ประสบการณ์ของตัวเองมาแนะนำพี่น้องคนไทยที่อาจจะยังตกอยู่ในวังวน (ของความล้มเหลวทางการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ) ว่า เอ้อ คำนี้ออกเสียงแบบนี้ ๆ "ฝรั่ง" ฟังไม่รู้เรื่องนะ ต้องเน้นเสียงตรงนั้นตรงนี้ เอาฟันกดริมฝีปากล่าง เอาลิ้นกระทบเพดานบน เวลาพูดประโยคนี้ ควรจะขึ้นเสียงสูง ลงเสียงต่ำ ตรงนั้น ตรงนี้ นะ ฯลฯ อย่างที่หลาย ๆ ท่านในห้องนี้ ได้กรุณาสละเวลา ความพยายาม มา "แบ่งปัน" ความรู้ ความสามารถ มาช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ปรับปรุงกันไป ทว่า การที่คน ๆ หนึ่ง ที่มีโอกาสดีกว่า ได้เห็น ได้เรียนรู้สิ่งที่ (ตัวเองคิดว่า) ถูกต้อง แล้วนำมาตำหนิ ติเตียน คนอื่น (โดยเฉพาะเพื่อนร่วมชาติ) ยกตนข่มท่าน ยกตัวเองว่า รู้จริง รู้มากกว่านั้น ดิฉันไม่นิยมค่ะ **** หมายเหตุ : ความคิดเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน **** แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 52 01:48:38 จากคุณ : Genuine XXX - [ 30 มิ.ย. 52 01:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ^ ^ ให้ใจไปเลยเต็มๆ (แต่กิ๊ฟหมกหงะ รอพรุ่งนี้) จากคุณ : The Starry Night - [ 30 มิ.ย. 52 18:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านถูกหมดง่ะ อย่างคำว่า Screen ก็เหมือนกรณีคำอื่นๆเช่น School, Skill, score, sky ที่ต้องเป็น สกูล, สกิล, สกอร์, สกาย เป็นเสียง ก หลัง s หรือ P เป็น ป อย่าง experience, อิกซ์เปียรึนซ์ หรือ T เป็น ต อย่าง stem, student, สเต็ม สติ๊วดึนท์ เป็นต้น ปัญหามันมาจากที่ ภาษาอังกฤษ คนไทยอ่านได้เลยหรือเดาได้จากตัวอักษร alphabet ซึ่งถ้าทำเเบบนั้น ก็จะเกิดปัญหาอย่างนี้เเหละ ถ้าเราไม่ได้ฟังก่อนเเล้วค่อยพูด เราก็จะไม่รู้ว่าต้นฉบับมันเป็นอย่างไร จากคุณ : Thaumaturge - [ 30 มิ.ย. 52 19:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เเละ Saver ไม่ได้อ่าน เซฟเฟอร์ด้วย มันไม่ได้เป็น ฟ เเต่เสียงที่ออก v นั้นสายเสียงจะสั่น  ฟ เพียวๆไม่สั่น เเละที่ถูกคือ เซ เฟอร์ (ไม่ใช่เสียง F but correct V) จากคุณ : Thaumaturge - [ 30 มิ.ย. 52 19:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อยากให้ give คุณ 3X ใน คห. 57 แต่ give หมดไปหลายวันแล้ว (ใช้ฟุ่มเฟือยไปหน่อยค่ะ) เห็นด้วยทั้งหมดเลยค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 30 มิ.ย. 52 23:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณ กระทู้นี้มีประโยคมากเลย จากคุณ : เตียวกงจื้อ - [ 1 ก.ค. 52 14:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 63 โดนไปสองคำ ขอบคุณครับ จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 2 ก.ค. 52 15:24:45 ]