ความคิดเห็นที่ 1 แนะ on-line เลยครับ http://dict.longdo.com จากคุณ : K.Senior - [ 30 มิ.ย. 52 17:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Thai-English dictionary ใช้เขียน essay ภาษาอังกฤษไม่ได้ ประโยชน์ของมันคือ 1. ช่วยหาชื่อผัก หญ้า ปลาฯลฯ 2. ช่วยหาคำศัพท์หรือวลีภาษาอังกฤษบางอย่างที่ใกล้เคียงกับภาษาไทย ในบางกรณีที่จำเป็น แต่ช่วยแปลไทยเป็นอังกฤษจริงๆ ก็แทบจะไม่ได้ เพราะบ่อยครั้ง มันแปลตามตัวอักษรไม่ได้ ในการหัดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ คุณควรพูดอังกฤษได้คล่องพอสมควร และอ่านหนังสือมากพอสมควร จะได้คิดเป็นภาษาอังกฤษได้ การเปิด Thai-English dictionary จะไม่ช่วยอะไรเลย  แต่การคิดเป็นภาษาอังกฤษได้ จะทำให้เขียนได้ ถ้าคิดเป็นอังกฤษไม่ได้ ก็เขียนเรียงความภาษาอังกฤษไม่ได้ จริงๆแล้ว dictionaries ที่ช่วยคุณคือ esl dictionaries ที่มีตัวอย่างประโยคมากๆ คุณจะได้รู้ว่าจะเอาคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาสร้างประโยคอย่างไรจึงจะถูกธรรมชาติ จะเล่าเรื่องจริงให้ฟัง มีอาจารย์มหาลัยท่านหนึ่งเเรียนสูงถึงระดับปริญญาเอกจากต่างประเทศ ในวิชายากๆ เช่นปรัชญา ศาสนา ฯลฯ อ่านภาษาอังกฤษที่ยากๆมากๆ รู้เรื่อง แต่เอาศัพท์พวกนั้นมาเขียนประโยคภาษาอังกฤษ เขียนไปแล้วผิดธรรมชาติหมด นั่นก็เพราะว่า "ท่านไม่ได้เรียนมาทางด้านภาษา" แล้วก็ไม่เคยค้นคว้าด้านภาษาด้วยตนเอง เลยไม่รู้ว่า learn to understand กับ learn to compose นั้น มันต่างกันลิบลับเลยหละ...!!!!! อาจารย์มหาลัยท่านนั้นเขียนตำราปรัชญา+ศาสนาอะไรทำนองนั้น เป็นภาษาไทย จากความรู้ที่ท่านเรียนจากต่างประเทศมาเป็นภาษาอังกฤษ แล้วอยู่ดีๆ ทางมหาลัยอยากให้หนังสือของท่านได้รับการแปลจากไทยเป็นอังกฤษ ก็เลยจะหาฝรั่งที่อ่านภาษาไทยได้มาแปล แต่อาจารย์ท่านนั้น "ยืนกรานว่าท่านจะแปลหนังสือท่านเองเป็นภาษาอังกฤษ" ทางมหาลัยพยายามคัดค้าน "แต่ท่านก็ไม่ฟัง" ท่านแปลมาม้วนเดียวจบเลย แล้วทางมหาลัยเอาภาษาอังกฤษของท่านให้อาจารย์ฝรั่ง edit (ตรวจแก้) ผลปรากฎว่าอาจารย์ฝรั่ง "ฝันร้ายไปหลายคืน คือนอนๆ ก็เห็น non-native speaker's errors (ภาษาอังกฤษแบบไทยๆ) โผล่ขึ้นมาหลอกมาหลอน ทั้งคืน เป็นเวลานับเป็นเดือนๆ จนอาจารย์ฝรั่งสติไม่สมประกอบไปหลายเดือน" ไปอ่านกระทู้นี้ ตลกดี มีคนฝันเฟื่องมาตามหานักแปล ที่แปลวรรณกรรมไทยเป็นอังกฤษ จะเอาไปขายต่างแดน พวกเซียนนักแปล ไม่มีใครมาลงชื่อสมัครงานกันเลย เพราะรู้ว่า "ไม่หมู" แต่พวกเด็กๆ ที่กำลังหัดแปล แบบเขียนภาษาอังกฤษ มี non-native speaker's errors (เขียนผิดธรรมชาติแบบคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) เพียบเลย จะแห่มาสมัครกันเต็มเลย  ซึ่งหนึ่งในจำนวนผู้สมัคร (เท่าที่รู้ความลับมา เธอแปลงาน 300 หน้า อังกฤษเป็นไทย แปลผิด เกิน 500 แห่ง เพราะอ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง แต่คิดว่าอ่านรู้เรื่องเพราะกะอีแค่เธอเคยไปอยู่เมืองนอกมา 2-3 ปี...  แล้วคิดว่าเจ๋ง ลองคิดดูว่า ถ้าเธอ แปลไทยเป็นอังกฤษ จะเกิดอะไรขึ้น?) ไปอ่านได้ที่กระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/07/K6830391/K6830391.html แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 18:50:20 จากคุณ : fortuneteller - [ 1 ก.ค. 52 02:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกือบทุกคำ "มีพฤติกรรมเฉพาะตัวของมัน" คนบางคน พอเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ใหม่ๆ ก็ "ฮึกเหิม" จับมันมาเรียงกันเป็นพืด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พอเห็นคนเอา essay มาให้แก้ ก็วิ่งเข้าไปแก้ เพราะคิดว่ารู้ศัพท์ก็เรียงกันได้ (บางทียิ่งแก้ก็ยิ่งผิด) เพราะว่า แท้จริงแล้ว "มันมีหลุมพรางอยู่เพียบเลย" ยกตัวอย่างเช่น ในกระทู้เดิม ที่เราถกกับใครบางคน คนๆนั้นเขียนมาต่อว่าเราแบบนี้ "You suggest people to destroy the original book!!! How could you do that?" เราชี้ข้อผิดพลาดให้เธอดู โดยการอธิบายว่า !! Do not say 'suggest (someone) to do something'. You can use the following structures: suggest that somebody do something He suggested that we go (NOT suggested us to go) for a drink. You can miss out 'that' What do you suggest we do (NOT suggest us to do)? suggest doing something I suggest wearing (NOT suggest to wear) something warm. suggest something She suggested a walk before dinner. Source: Longman Dictionary of Contemporary English ปรากฎว่าเธอโกรธเราเป็นฟืนเป็นไฟจนถึงกับด่าเราว่า "บัดซบ!" ซึ่ง ถ้าเราเป็นเธอนะ ใครชึ้ว่าเราผิดแบบนี้ เราจะ "ขอกราบขอบคุณงามๆค่ะ" อันนี้มันก็เป็นเรื่องวุฒิภาวะของแต่ละคน สรุป สิ่งที่เราพยายามสื่อสารกับ จขกท เรื่องการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ ก็คือ 1. ในการเรียนเขียนภาษาอังกฤษ ต้องใช้ esl dictionaries ไม่ใช้ Thai-English dictionary 2. การที่คำศัพท์พในภาษาอังกฤษ เกือบทุกคำ "มีพฤติกรรมเฉพาะตัว"   ดั่งเช่นคำว่า suggest ที่ยกตัวอย่างมา...มันทำให้ภาษาอังกฤษน่าจะติดอันดับหนึ่งในภาษาที่เรียนยากที่สุดในโลก...!!!!! ดังนั้น คนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง จะพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษให้เป็นธรรมชาติได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ esl dictionaries ถ้าไม่ใช้ esl dictionaries เรียนเขียนไปอีก 10 ปี ก็ยังเขียนภาษาอังกฤษ แบบไทยๆ เหมือนอาจารย์ท่านนั้นที่จบปริญญาเอกจากต่างประเทศ แล้วท่านไม่รู้ว่า ท่านอ่านภาษาอังกฤษยากๆได้ (นั่น learn to understand) แต่ท่าน "ลืม" learn to compose คือ "ลืม" เรียนคำศัพท์ให้เขียนได้ถูกต้องเป็นธรรมชาติ...เมื่อท่านไม่รู้ข้อมูลเช่นนี้ ผลลงเอยก็คือว่า ท่านเขียนภาษาอังกฤษออกมาแล้ว "อ่านไม่เป็นภาษาคน" แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 02:13:31 จากคุณ : fortuneteller - [ 1 ก.ค. 52 02:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สรุป การเรียนเขียนภาษาอังกฤษควรเรียนโดยการหัดอ่านภาษาอังกฤษ จากง่ายไปหายาก (ในขณะฝึกฟังฝึกพูดภาษาอังกฤษไปพร้อมๆกัน) และหัดจำประโยคที่อ่านเจอ และเพิ่มจำนวนคำศัพท์ให้มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเรียนรู้การใช้งานคำศัพท์ โดยอาศัย esl dictionaries การเรียนเขียนภาษาอังกฤษโดยการ (ยังพูดอังกฤษไม่ได้) คิดเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วเปิด dictionary ไทย-อังกฤษ มันจะทำให้เขียนภาษาอังกฤษออกมาเพี้ยนหมด เพราะว่า คำศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่ละคำ "มีพฤติกรรมเฉพาะตัว" ตามที่บอกไปแล้ว dictionary ไทย-อังกฤษ มีการใช้งานที่จำกัดมากๆ เช่นมีไว้ให้นักแปลใช้อ้างอิงได้เป็นครั้งคราว แต่จะใช้เรียนภาษาอังกฤษ มันใช้การไม่ค่อยจะได้ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 15:06:36 จากคุณ : fortuneteller - [ 1 ก.ค. 52 15:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านคุณ Fortuneteller มานาน เห็นแนะนำ esl dictionaryมาหลายหน เลยไปลองเช็ค Kinokuniya ปรากฏว่า esl dictionary มี 2 แบบ 1 http://bookweb.kinokuniya.co.jp/guest/cgi-bin/bookseaohb.cgi?ISBN=0194316742&AREA=07&LANG=E 2 http://bookweb.kinokuniya.co.jp/guest/cgi-bin/bookseaohb.cgi?ISBN=0194316831&AREA=07&LANG=E อยากถามว่าซื้อแบบไหนดี จากคุณ : Superstitious - [ 1 ก.ค. 52 16:53:54 A:58.9.223.11 X: TicketID:140096 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ตอบ เรามี esl dictionaries เป็น software ติดตั้งบน netbook เครื่องเล็กๆของเราน่ะ ยี่ห้อ 1. Longman Dictionary of Contemporary English ปี 2005 2. Oxford Advanced Learner’s Dictionary 7th edition 3. Cambridge Advanced Learner’s Dictionary Third Edition ปี 2008 4. Longman Advanced American Dictionary 5. Collins Cobuild Advanced Learner's Dictionary 5Revision Ed edition January 2, 2006 6. Macmillan English Dictionary for Advanced Learner ^ ^ ดิกพวกนี้เราไม่ได้ซื้อเลย เรา downloaded ของฟรีมาหมด (เพราะเราเล่นเน็ตซอกแซ่กมากๆ และ hack กับ crack software เก่งพอสมควร)  จะใช้เรียนเขียนภาษาอังกฤษเท่านั้นนะ (นอกเหนือจากเรียน grammar ซึ่งก็ต้องใช้ textbooks เล่มอื่นๆประกอบด้วย ซึ่งเราก็ downloaded ของฟรีมาหมด) แต่ในการใช้ตีความภาษาอังกฤษในการแปลหนังสือหรือเอกสารยากๆจากอังกฤษเป็นไทยนั้น esl dictionaries ใช้ไม่ค่อยได้ผล (เพราะจุคำศัพท์ไม่มากพอ) เราจึงต้องเล่นอาวุธหนักคือ OED, Encarta, Webster’s ฯลฯ  และ online dictionaries โดยทั่วๆไป แต่ esl dictionaries ของฟรี ที่เขาแจกฟรี แบบ online จริงๆไม่ต้องไป download ของผิดกฎหมายมา ก็มีนะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 18:38:43 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 18:26:52 จากคุณ : fortuneteller - [ 1 ก.ค. 52 18:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอ้าแปะ links ไป online dictionaries ให้ (ซึ่งมี esl dictionaries รวมอยู่ด้วย) Dictionaries and other References Encarta http://encarta.msn.com/encnet/features/Dictionary/DictionaryHome.aspx Webster’s Online Dictionary http://www.websters-online-dictionary.org/ dict http://www.dict.org/bin/Dict Dictionary.com http://dictionary.reference.com/ urbandictionary (good for American slang) http://www.urbandictionary.com/ corpus http://www.natcorp.ox.ac.uk/ .............................................................................................. esl dictionaries Cambridge Advanced Learner’s Dictionary http://www.dictionary.cambridge.org/ Longman Dictionary of Contemporary English http://pewebdic2.cw.idm.fr/ Oxford Advanced Learner's Dictionary http://www.oup.com/elt/catalogue/teachersites/oald7/?cc=th Collins Cobulid Advanced Learner’s English dictionary http://eedic.naver.com/ ............................................................................................... Clothes http://www.gap.com/ Fish http://www.fishbase.org/search.cfm Trains http://www.glue-it.com/trains/glos_frm.html Transport engineering (English and German) http://home8.inet.tele.dk/p-spitz/Bookmarks/Bookmarks4B.html Scaffolding http://en.wikipedia.org/wiki/Scaffolding howstuffworks http://www.howstuffworks.com/ Encyclopedia of Philosophy http://plato.stanford.edu/contents.html List of anatomical topics http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_anatomical_topics Medical Dictionaries http://www.healthsystem.virginia.edu/internet/library/collections/erd/dictionaries.cfm 1065 dictionaries in many languages http://www.alphadictionary.com/index.shtml over 4500 glossaries under 130 categories http://www.glossarist.com/ The New Thesaurus with 35,000 synonyms and over 250,000 cross-references http://www.bartleby.com/62/ Astrology (English-Thai) http://thaiastro.nectec.or.th/ency/ Civil Engineering (English-Thai) http://www.sut.ac.th/engineering/Civil/glossary/ Words coined by RI http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php RI Thai Dictionary http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp Internet Archive http://www.archive.org/index.php. จากคุณ : fortuneteller - [ 1 ก.ค. 52 18:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าอยากได้แบบเป็นเล่มควรจะใช้ของยี่ห้อไหนดี แบบออนไลน์สำหรับเราไม่สะดวกง่า(บ้าเน็ตเต่า) จากคุณ : rerina (rerina) - [ 2 ก.ค. 52 19:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ต้องการเล่มไหนเราบอกไม่ได้ เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนเรา เราทำงานแปลเราจำเป็นต้องมี dictionaries ให้มากชุดที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ใช้เป็นเล่มมันเปิดหาศัพท์ไม่เร็วทันที่จะทำงานได้ เราจึงต้องใช้เป็น software กับ online dictionaries ซึ่งเปิดหาศัพท์ไวมากๆ ถ้าต้องการ esl dictionaries  (ซึ่งแสดงตัวอย่างประโยค) 6 ยี่ห้อที่เราระบุชื่อใน คคห 6 น่าจะซื้อได้ตามร้านหนังสือนะ รู้สึกว่า Kinokuniya ก็มี แต่ละยี่ห้อ เขาจะขายเป็น 2 ชนิด ชนิดหนึ่งเป็นเล่มๆ (เดาว่าชุดหนึ่งคง 600 - 700...ไม่แน่ใจ???)  อีกชนิดหนึ่งเป็นเล่มๆ + แผ่น CD (เดาว่าชุดหนึ่งคง 2000 - 3000...ไม่แน่ใจ???)) นั่นก็เป็นเรื่อง esl dictionaries ที่จุคำศัพท์ แค่ที่ใช้กันแพร่หลาย แต่ให้ตัวอย่างประโยคมากมาย เหมาะสำหรับคนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง แล้วอยากจะเรียนว่า จะใช้คำศัพท์สร้างประโยคอย่างไร จึงจะเป็นธรรมชาติ ไม่ผิดเพี้ยน ............................................................................................ ส่วน dictionaries ขนาดใหญ่มากๆ สำหรับทำงานแปลยากๆ หรือใช้อ้างอิงเวลาเขียนอะไรยากๆ นั้น ก็มีเช่น Webster's ซื้อเป็นเล่มๆ ก็มี (ราคาน่าจะเป็นพันนะ)  แต่ซื้อเป็น CD เถื่อนจะถูกกว่า (ราคาอย่างมากก็ 100 บาท) Encarta รู้สึกจะเป็น DVD อย่างเดียวนะ (ของเถื่อนแผ่นหนึ่งไม่เกิน 300 บาท) ไม่แน่ใจว่าจะเคยเห็นเป็นเล่ม แต่เป็นเล่ม (ถ้ามี) คงแพงมากๆ (หลายหมื่นบาท) เพราะมันเป็น encyclopedia ที่มี dictionary แถมมา ส่วน OED นี้ (ใช้เวลาสร้างและพัฒนามาแล้วกว่า 200 ปี) ถ้าพิมพ์ออกมาจะได้ดิกเล่มใหญ่ขนาดสมุดโทรศัพท์มากถึง 23 เล่ม ถ้าซื้อเป็นเล่มๆ ทั้งชุด เราว่าราคาคงเกิน 50,000 บาท แต่ถ้าซื้อเป็นแผ่น CD เถื่อนจะราคาแค่ 150 - 200 บาทเอง สรุปแล้วเรื่องยุ่งยากของการเรียนภาษาอังกฤษ ก็คืออยู่ดีๆไปเปิดดิกไทยเป็นอังกฤษ แล้วเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นคำๆ เรียนไป พอไปเขียนภาษาอังกฤษ มันจะเขียนผิดธรรมชาติหมด นี่เป็นเคล็ดไม่ลับมาก ที่คนไทยหลายๆคนไม่รู้ ก็เลยบางทีเรียนภาษาอังกฤษไป 20 ปี แต่เขียนออกมาแล้วอ่านไม่เป็นภาษาคน นั่นก็เพราะว่า "คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกือบทุกคำ จะมีพฤติกรรมเฉพาะตัวของมัน" ดังที่สาธิตให้ดู ด้วยคำว่า suggest นั่นเอง เอาไว้ ถ้าว่างๆ จะสาธิตพฤติกรรมเฉพาะตัวของคำศัพท์คำอื่นๆให้ดูใหม่ หลายตัว เพื่อพิสูจน์ว่า คนไทยโตในเมืองไทย เรียนอังกฤษไป ถ้าไม่ใช้ esl dictionaries แต่ดันไปท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ จากดิกไทย-อังกฤษ เป็นคำโดดๆไป พอเขียนภาษาอังกฤษออกมา รับรองเพี้ยนหมด ต่อให้เรียน 20 ปีด้วย! แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 52 01:00:51 จากคุณ : fortuneteller - [ 4 ก.ค. 52 00:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ยอดไปเลยค่ะ เห็นด้วยจริงๆ และขอบคุณในข้อมูลค่ะ จากคุณ : SmileOrchid (SmileOrchid) - [ 15 ก.ค. 52 21:47:36 ]