Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  
 


เรื่องเล่าผู้รอดตายจากคมกระสุน อาร์ เค เค vote  

    ต้นหว้าต้นนี้เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ขึ้นอยู่ที่คันนากลางทุ่ง แต่ปัจจุบันขึ้นอยูริมถนนคันคลองชลประทาน วันเวลาผ่านไป  ธรรมชาติเปลี่ยนไป อาศัยน้ำฝนตามฤดูกาลทำนาไม่ได้แล้ว จึงเกิดโครงการชลประทานปัตตานี โดยการขุดคลองชลประทาน ผันน้ำจากแม่น้ำปัตตานี มาช่วยชาวบ้าน

             ทุ่งนาเวิ้งว้าง  มองเห็นเป็นตาหมากรุก กลายเป็นถนนคันคลองทอดผ่านกลางทุ่ง ต้นหว้าต้นนี้ เมื่อก่อนขึ้นอยู่ที่คันนา เมื่อถนนคันคลองเข้ามา ต้นหว้าต้นนี้กลับกลายอยู่ริมคันคลองชลประทาน    ค้นคลองชลประทาน กว้างพอที่รถชาวบ้านละแวกนี้ ใช้เดินทางไป มา ได้  
             บางวันเห็น ลุงเขียว หิ้วกรงต่อ นกเขาใหญ่ นั่งคุยกับ แบเดร์ใต้เงาร่มต้นหว้า แบเดร์  มานั่งเฝ้าวัว กินหญ้าอยู่กลางทุ่ง  ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน แบเดร์ จูง วัว แม่ ลูก จาก บ้านมะหุด มาปล่อยทุ่ง ส่วน ลุงเขียว หิ้วกรงนก มาจากบ้านตรัง มาต่อนกเขาใหญ่ ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมานาน คุยกันได้ทุกเรื่อง คบกันด้วยความบริสุทธ์ใจ มีแต่น้ำใจให้กัน
                   “บอเกาะ” แบเดร์ ยื่นถุงพลาสติกใส่ใบจาก ยาเส้น ให้ลุงเขียว

                   “อาปี”  ลุงเขียวยื่นไฟแช็คให้    

    ภาพ แห่งความประทับใจที่ สองผู้เฒ่า นั่งคุยกัน ใต้ต้นหว้า วันนี้ ไม่มีแล้ว...  
             
             ห่างไปไม่ถึงสามร้อยเมตร เป้นทางเข้าหมู่บ้าน บ้านตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ทีนี่มี วัด มีโรงเรียน เป็นหมู่บ้านไทยพูทธ ที่ล้อมรอบด้วยหมู่บ้านไทยอิสลาม ถึงแม้จะต่างกัน แต่ในอดีตชาวบ้านแห่งนี้อยู่ด้วยกันอย่างสงบไปมาหาสู่กันตลอดเวลา                
             จากถนนสายยะลา - ปัตตานี เข้าทางตลาดนัดต้นมะขาม ระยะทางเจ็ด กม.เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้กันมานมนาน ผ่านหน้าหมู่บ้าน หรือจะเข้าทางชลประทานปัตตานี ก็ได้เป็นถนนคันคลองชลประทานผ่านหลังหมู่บ้านและอีกเส้นหนึ่งถนนเส้นยะรัง-มายอ แยกขวามือที่ บ้านเกาะจัน ก็เข้าหมู่บ้าน บ้านตรังได้

             ชีวิตทีนี้ เงียบ สงบ  ชาวบ้านมีอาชีพ ค้าขาย ทำนา ทำสวน เดินทางเข้าเมืองทำงานโรงงาน รับจ้างงานก่อสร้าง หลังจากความไม่สงบของสามจังหวัดภาคใต้รุนแรงขึ้น ความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวันมีมากขึ้น หลายคนเริ่มกังวล
             ครูแก้ว อายุ เจ็ดสิบปี เอาตาข่ายขึงไว้หน้าบ้านสูงประมาณสามเมตร เมื่อถูกถามว่าทำไว้ทำไม ครูแก้ว ตอบว่า ถ้ามันขี่มอเตอร์ไซมา เอาขวดน้ำมันจุดไฟ โยนเข้ามาในบ้านตอนกลางคืน จะได้ติดตาข่าย ไง
             ดำ ทำงานก่อสร้างในตัวเมืองยะลา รับเหมาปูกระเบื้อง  เขาขี่มอเตอร์ไซ พร้อมภรรยาออกจากบ้านเจ็ดโมงทุกวัน เพื่อเข้าตัวเมืองยะลา ถามว่า ดำ กลัวไหม กลัว และเครียด  ดำ เคยพูดให้ฟังว่า เขาเครียดมาก เพราะการขี่มอเตอร์ไซ มันง่ายในการที่ผู้ร้ายประกบยิง  
             แต่เขาหยุดเดินทางไม่ได้ เขาต้องรับผิดชอบลูกสองคน แม่อายุมาก  พ่อตายแล้ว เขาต้องดูแลแม่ และลูก เป็นความรับผิดชอบของคนที่เป็นลูกที่มีต่อแม่ และเป็นพ่อ ที่มีต่อลูก  เขาไม่สามารถทิ้งหน้าที่สองอย่างนี้ได้ ทั้งที่รู้ว่าชีวิตเขาเสี่ยง ทั้งที่รู้ว่าชีวิตของเขา เป็นเป้าหมายของ อาร์เคเค ฝึกหัด เพื่อสร้างผลงานและยกระดับชั้นของโจร

             ว้นนี้ ก็เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา ดำ  แต่งตัวเสร็จคว้าเป้ขึ้นสะพายหลัง ข้างในเป้มี  ข้าวห่อ น้ำดื่ม  ดำ ขี่มอเตอร์ไซ ออกจาก บ้านโดยมีภรรยาซ้อนท้าย   ดำ เลือกไปทางถนน ชลประทาน ท้ายหมู่บ้าน เพื่อความปลอดภัย ดำ เดินทาง ไม่ ซ้ำเส้นทาง ถ้าออกทางถนน ชลประทานเวลาเข้า จะเข้าทางถนน ตลาดนัดต้นมะขาม เส้นทางหน้าหมู่บ้าน                    
             ดำ ขับมอเตอร์ไซ ไปตามถนนข้างวัด ผ่านหน้าโรงเรียน ตัดออกถนนชลประทานท้ายหมู่บ้าน  ขึ้นถนนชลประทานได้ประมาณ ห้าสิบ เมตร มีมอเตอร์ไซ สีแดงวิ่งสวนมา ดำ ชายตา มองด้วยความเคยชินไม่ได้สนใจ เป็นพิเศษว่ามอเตอร์ไซที่วิ่งสวนมาเป็นใคร คิดอย่างเดียวไปถึงหน้างานให้เร็ว ๆ  ผิดกับมอเตอร์ไซสีแดงคันนั้น ที่หันมามองดำ แล้วตีวงเลี้ยวกลับมาทันที
             สิ่งที่ ดำ ได้ยิน ในขณะนั้นคือ เสียงมอเตอร์ไซ เร่งเครื่องตามมาข้างหลังติด ๆ เสียงภรรยา ตะโกนบอกด้วยความตกใจว่า
             " ปืน " แล้วตามด้วยเสียง
             “  ปัง  “
             รถของ ดำ เอียง ด้วยแรงปะทะของกระสุนปืน แล้วแฉลบลงข้างถนนกระแทกพื้นที่ไม่ราบเรียบ กึก กึก กึก ล้มโครม ข้างต้นหว้า ในลักษณะนอนตะแคง โดยมีมอเตอร์ไซทับขาด้านขวา  ดำ และภรรยา  
             ดำ พยายามดึงขาออกจากรถมอเตอร์ไซ  เลือดแดงบริเวณคำคอ ไหลลงพื้น      
             ภรรยา ใช้มือสองข้างจับตัวรถ ใช้แรงที่แขนขยับรถขึ้น ขณะยังนอนตะแคงแล้ว พยายามดึงขาออกทุลักทุเล ปากตะโกนให้คนช่วย  
             “ช่วยด้วย ช่วยด้วย “ ภรรยา ดึงขาออกได้
             “ พี่ดำ พี่ดำ”  ภรรยาเรียก                          
             ดำ พูดเสียงเบา ๆ
             “ หนีเร็ว  หนีเร็ว ไป ไป”
             มอเตอร์ไซค์ สีแดงคันนั้น เลียวกลับมาอีกรอบ อย่างรวดเร็ว แล้วสาดกระสุน มาที่ ดำ
            “ ปัง ปัง ปัง“ ภรรยา กระโจนพุงตัวทับร่าง ดำ  เสียงภรรยาร้อง โอ๊ย ด้วยความเจ็ดปวด แล้วมอเตอร์ไซเครื่องนั้นเร่งเครื่องหนีหายไปทาง บ้านมะหุด   เป็นจังหวะเดียวกับรถรับ ส่ง นักเรียน ภายในหมู่บ้านมาถึงพอดี
             ดำ และภรรยา ถูกหามขึ้นรถรับ ส่ง นักเรียน  นำส่ง โรงพยาบาลศูนย์ยะลา  ดำ ถูกยิงที่ลำคอด้านหลัง กระสุนไม่ถูกที่สำคัญแต่อย่างใด ดำรอดตายอย่างปาฏิหาริย์  ส่วนภรรยาถูกยิงบริเวณข้อเท้า
             ทั้งคู่ นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลไม่นาน หมอให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ดำ ปลอดภัย   ส่วนภรรยายังคงใช้ไม้เท้ายันเดินสามขา
             ดำ ย้อนกลับมายังต้นหว้าริมคลองชลประทานอีกครั้ง เพื่อมาดูร่องรอยของเหตุการในวันน้น ดำ ยัง งงๆ ไม่หายว่า เขาผิดอะไร เขาเป็นแค่ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำเท่าน้น แล้วทำไมจึงคิดมาฆ่าเขา
             ฆ่าเขาเพื่อท้าทายอำนาจรัฐ ไม่มีประโยชน์ เขามีค่าเท่ากับใส้เดือนตัวหนึ่ง ฆ่าเขาเพื่อให้คนอื่นกลัว หนีออกจากหมู่บ้าน คนที่นี่ไม่กลัว แล้วก็ไม่รู้จะหนีไปไหน เพราะอยู่ที่นี่ มาต้งแต่ปู่ ยา ตา ทวด เขาไม่มีที่ไป
             ที่โคนต้นหว้า ดำ เห็นรอยกระสุนสองนัด ฉีกเปลือกต้นหว้าขาดกระจุย  นี่อาจเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เขารอดตาย  หรือ อาจเป็นสาเหตุอื่น เช่น                
             อาร์ เค เค มือใหม่
             รถรับส่งนักเรียน มาทันเวลา ทำให้ อาร์ เค เค ไม่กล้าลงมายิงซ้ำ    
             เขา เอามือลูบรอยแผลกระสุนที่โคนต้นหว้าเบา ๆ  เขารู้ว่าต้นหว้าต้นนี้ได้รับรู้เหตุการณ์ความวุ่นวายในอดีตมามาก ได้รับรู้ว่าถิ่นแกวนี้ในอดีตมีโจรที่ขื้นชื้อลือชาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น
             มะอีซอ
             ซอมะ
             เซ็ง น้ำใส
             แตโจรยุคนั้น ไม่เข่นฆ่าชาวบ้านโดยไม่มีสาเหตุ เขาได้แต่หวัง  หวังว่าสักวันหนึ่ง เมื่อแผลกระสุนที่โคนต้นหว้า หายสนิท   ศพของชาวบ้านที่ตายมามากมาย เพราะความขัดแย้งทางความคิด สามารถปิดแผลของสังคม  ให้หายสนิท เหมือนกับแผลต้นหว้าต้นนี้ เหมือนกับแผลที่คอเขา  แบเดร์ และ ลุงเขียว คงได้มีโอกาสมานั่งคุยกันใต้ต้นหว้านี้อีกคร้ง              
             ทุกวันนี้ คำ ยังขี่มอเตอร์ไซคันเดิม ไปทำงานในเมืองยะลาเหมือนเดิม ที่ไม่เหมือนเดิม คือเขาไม่มีภรรยานั่งซ้อนท้ายเท่าน้น แต่ละวันเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาขับรถสวนทางกับ อาร์ เค เค กี่คน เขาไม่รู้เลยว่าใต้ถนนที่เขาขี่มอเตอร์ไซอยู่นั้น  มีระเบิดอยู่กี่ ลูก ทุกเวลา ทุกวัน มันพร้อมที่ทำให้เขาตายได้ตลอดเวลา
             เขาผ่านด่าน ตำรวจ ทหาร ตลอดเส้นทาง จนถึงตัวเมืองยะลา แต่น้นไม่ได้หมายความว่าชีวิตเขาปลอดภัย สำหรับ ดำ เขาไม่มีปืนป้องกันตัว ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ เขาปฏิบัติตัวเช่นนี้ตลอดไป เขาทื้งหน้าที่ความรับผิดชอบที่มีต่อ แม่ ลูก  ปัจจุบันเพิ่มภรรยาอีกคน ไปไหนไม่ได้  หน้าที่และความรับผิดชอบของเขา จะหมดลงได้ก็ต่อเมื่อเขาหมดลมเท่านั้น...

จากคุณ : tpee
เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 11:43:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com