ความคิดเห็นที่ 3 |
|
ชาวอุยกู เคยประกาศแยกการปกครองตนเองจากจีน ไปเป็น สาธารณรัฐเตอร์กีสถานตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๖ ครับ แต่เป็นการประกาศตนเองฝ่ายเดียว ไม่มีใครยอมรับ
พอจีนรวมประเทศได้โดยพรรคอมมิวนิสต์ ก็เลยส่งกองทัพไปตีคืนใน ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ และเมื่อตีคืนได้ ก็ได้ตั้งขึ้นเป็นเขตปกครองตนเอง (ในจีนมีอยู่ ๖ เขต นอกเหนือจาก ซินเจียงแล้ว ก็มี กว่างซีจ้วง , มองโกเลียใน , หนิงเซีย, ทิเบต )
ปัจจุบัน ปริมาณชาวอุยกู มีอยู่ประมาณ ๘.๓ ล้านคน (คิดเป็นร้อยละ ๔๒ ของประชากรทั้งหมดในมณฑล)
ส่วนชาวฮั่น มีอยู่ประมาณ ๗.๕ ล้านคน (คิดเป็นร้อยละ ๔๑ ของประชากรทั้งมณฑล) ส่วนที่เหลือ ก็จะเป็นชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก
กลุ่มองค์กรใต้ดิน เพื่อแบ่งแยกดินแดนชาวอุยกู ก็ยังคำดำเนินงานอยู่อย่างเป็นปกติ ล่าสุดก็เพิ่งไปวางระเบิดก่อความวุ่นวายในงานโอลิมปิคที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทางจีนก็เพิ่งสังหารหน่วยปฏิบัติการของ กลุ่มที่ว่านี้ไป
ปัญหาที่เกิดล่าสุด มันเกิดมาจาก กรณี คนงานชาวอุยกู ทะเลาะวิวาท กับ ชาวฮั่น ในโรงงานที่เมืองเซี่ยงไฮ้ (ห่างจากเมือง อูรู่มู่ฉี เมืองหลวงของมณฑลซินเจียงอุยกู ไปประมาณ พันกว่ากิโลเมตร ไม่ได้เกิดที่ปัจจุบันสักนิด)
ปัญหาที่น่าสงสัยคือ ทำไมถึงมาประท้วงที่ อูรู่มู่ฉี แทน ?
สิ่งที่น่าสังเกตต่อมา คือ นางกอดี แกนนำกลุ่มซินเจียงผลัดถิ่น ที่ตอนนี้ลี้ภัยอยู่ใน USA ได้รับ VISA จาก รัฐบาลตุรกี แบบกลาย ๆ แล้ว (มีการประกาศข่าวว่า ถ้านางกอดี ขอ VISA อีกครั้งก็จะอนุมัติให้ หลังจากที๋โดนรัฐบาลตุรกี ของนายกฯ คนปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไปแล้วถึงสองครั้ง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ และ พ.ศ. ๒๕๕๐ )
มีความพยายามจาก OIC (Organization of the Islamic Conference) เป็นองค์กรที่รวมกลุ่มกันของ ประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลาม แบบทั้งเป็นหลักของประเทศ และ แบบที่มีชนที่นับถืออิสลามอยู่เป็นพลเมืองชั้นรอง (หมายถึงจำนวนคนนับถืออิสลามน้อยกว่าศาสนาอื่น)
พยายามจะเข้าไปยุ่งกับกรณีนี้เหมือนกัน แต่ทางการจีนยังเงียบ ๆ อยู่ (แต่ถ้าเป็นบ้านเรา ข่าวจะดังกว่านี้แน่ ๆ เหมือน ๓ จังหวัดใต้บ้านเราไง POWER มันต่างกัน)
จากคุณ |
:
ศรีสิทธิสงคราม
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ค. 52 08:43:19
A:124.121.137.6 X: TicketID:207948
|
|
|
|