ความคิดเห็นที่ 1 แล้วพวกราชวงศ์ หยวน เขาทำยังไง หนีหายไปไหน รวมถึงขุนนางเก่าด้วย ANS. หนีกลับไปมองโกล ครับ ส่วนจูหยวนจางก็เปิดศึกกับ เฉินโหย่วเหลียง และชาวฮั่นกลุ่มอื่นๆ จนรวมแผ่นดินได้ครับ จูหยวนจาง ถืออะไรดีอะไร ถึงได้ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ได้ ANS ก็เพราะว่า มีดีไงครับ ถึงรวมแผ่นดินได้ :P จูหยวนจางเป็นคนเด็ดขาด เข้มงวด และโหดกับคุณนาง แต่เป็นฮ่องเต้ที่รัก ประชาชนมากๆ แต่รุ่น เหลนโหลน ไม่เอาไหนเท่าไหร่ เลยต้องผูกคอตายแล้วให้กบฏหลีจื้อ เฉิง แย่งแผ่นดินไปได้ (แต่คนนี้ก็ไม่ค่อยมีหัวคิดและเล่นการเมืองไม่เก่งเท่าไหร่ เลยโดนพวกราชวงศ์ชิงแย่งไปอีกที) จากคุณ : เหล่าฟาง เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 08:59:36

ความคิดเห็นที่ 2   ส่วนตัวคิดว่า ที่ราชวงศ์หยวนล่มเพราะ คนมองโกลส่วนใหญ่ไม่ยอมปรับทัศนคติให้เป็นไปตามแบบคนฮั่น ดูได้จากหลังจากกุบไลข่านสิ้นพระชนม์ไปก็ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนของราชวงศ์หยวนปฏิบัติตนแบบอย่างของฮ่องเต้ฮั่นได้อีก (ยกเว้นเรื่องกามคุณนี่ไม่ต้องสอนเป็นโดยธรรมชาติ...5555) มีการเปลี่ยนฮ่องเต้บ่อย และนอกจากนี้อำนาจยังกระจายไปอยู่กับบรรดาอ๋องและขุนนางระดับสูงชาวมองโกลเป็นจำนวนมาก ทำให้การปกครองเป็นไปอย่างลำบากครับ -------------------------------------------------- สำหรับ จูหยวนจาง ต้องบอกว่า ทั้งเก่งและเฮง จริง ๆ สำหรับ อดีตอารามบอยคนนี้ เก่งตรงที่ว่า เขาสามารถรวบรวมบรรดา กุนซือระดับเทพ และ แม่ทัพระดับเทพไว้กับเขาได้เป็นส่วนมาก อย่างเช่น ระดับบริหาร นายกฯ อย่าง หลี่ซั่นจ่าง , ประธานที่ปรึกษา(ระดับมหาเทพ)อย่าง หลิวป๋อเหวิน ที่รู้ไปเสียทุกศาสตร์ (นักประวัติศาสตร์บางคนบอกว่า หลอกว้านจง เอาความสามารถของ หลิวป๋อเหวิน นี่แหละไปใส่ในตัวละคร จูเก๋อเหลียง ) ระดับขุนศึก ก็อย่างเช่น เชาหยง, สวีต้า(ในมังกรหยกภาค ๓ จะออกเสียง ฉื่อตั๊ก เป็นเพื่อนสมัยอารามบอยกับ จูหยวนจาง มาก่อน และรอดจากการโดนเผาในงานเลี้ยง แต่สุดท้ายมาตายเพราะความซื่อของตัวเองแท้ ๆ ), หูต้าไฮ่(อิสลามเผ่าหุย) ,และจอมบ้าดีเดือดอย่าง ฉางอวี่ฉุน (ตายอย่างสมศักดิ์ศรีในสนามรบ ขณะตามไล่ล่ามองโกลกลางทะเลทราย โดยโดนลูกธนูของฝ่ายมองโกลเสียบเข้าที่คอ ) เมื่อได้ที่ปรึกษาดี+ขุนศึกเยี่ยม ทำให้ จุหยวนจาง สามารถตั้งฐานกำลังของตัวเองได้ที่ นานจิง และ ด้วยการที่ จูหยวนจางเป็นก๊กเล็ก ๆ ทางใต้ จึงทำให้ไม่มีใครสนใจเขาในตอนแรก ทุกคนมัวแต่สนใจที่จะรบให้ชนะมองโกล เพื่อที่จะได้อ้างความชอบธรรมในการสถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้ ทางเหนือมีกลุ่มใหญ่อย่าง หลิวฝู่ทง ทางตะวันตกมีกลุ่มของ จางจื้อเฉิง และ ตะวันออกมี เฉินโหย่วเหลียง ทำให้จูหยวนจางสามารถค่อย ๆ สร้างฐานอำนาจตัวเองได้อย่างสบาย ๆ เพราะรอบตัวมีคนรบกับมองโกลให้หมดแล้ว ตัวเองเลยไม่ต้องเปลืองกำลังไปรบกับมองโกลให้เสียแรง กว่าทุกฝ่ายจะรู้ตัวว่า จูหยวนจาง กำลังเปล่งรัศมีขึ้นมาแล้วนั้น ก็สายไปเสียแล้ว หลิวฝู่ทง ก็เริ่มจะเปลี้ยแล้วทั้งจากการรบกับมองโกล และ รบกับก๊กอื่น ๆ และที่สำคัญ จูหยวนจาง ใช้นโยบายตีสองหน้า แกล้งทำเป็นอ่อนน้อมกับ หลิวฝุ่ทง เนื่องจาก หลิวฝู่ทง เชิดฮ่องเต้หุ่นอยู่ จึงทำให้ หลิวฝู่ทง จะทำอะไร จูหยวนจาง ก็ไม่ได้ ส่วน จางจื้อเฉิง ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเข้ากับมองโกลไปแล้ว นอนตีพุงสบาย ๆ รับเงินดีกว่า เพราะฉะนั้นจึงเหลือแค่ เฉินโหย่วเหลียง ก๊กเดียวเท่านั้นที่น่ากลัวที่สุด สุดท้ายแล้วก็เลยรบกันอย่างแตกหักเกิดเป็นยุทธนาวีที่ทะเลสาปโผหยาง สุดท้าย จูหยวนจางชนะ แล้วก็รวมก๊กของเฉินโหย่วเหลียงได้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ไล่บี้ จางจื้อเฉิง ส่วนหลิวฝู่ทง นั้นแทบไม่ต้องออกกำลังเพราะ มองโกล บี้ให้แทนแล้ว ในที่สุด จูหยวนจาง ก็เลยเป็นตาอยู่ ได้ทุกก๊กไปอยู่ในมือแบบเบิร์ด ๆ ครับ ก่อนที่จะไล่มองโกลออกไปอีกที จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 10:21:40 A:192.168.51.180 X:119.42.103.184 TicketID:207948

ความคิดเห็นที่ 3   จูหยวนจางนี่ ลูกชาวนาใช่มั้ย ? หนีความอดอยาก เลยมาบวช อยู่วัด ก่อนจะมาเป็นผู้นำต่อต้านราชวงศ์หยวน? จากคุณ : ติง ซ่าน เปิ่น (ติง ซ่าน เปิ่น) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 10:38:50

ความคิดเห็นที่ 4   ส่วนที่ว่าเฮงก็คือ การที่ได้เป็นลูกเขยของ จอมพลกั๋วชิงซู่ ทำให้ จูหยวนจาง สามารถก้าวกระโดดขึ้นมามีกองกำลังของตัวเองได้แบบรวดเร็ว ประกอบกับ บรรดาพี่ภรรยาทั้งสองคนก็ไม่ได้เรื่องสักเท่าไร ดังนั้น กองทัพของพ่อตา ก็กลายมาเป็นกองทัพของเขาไปโดยปริยาย (แจ่มจริง ๆ ) นอกจากนี้ เฮงชั้นที่สองคือ การได้ภรรยาดี ถึงแม้จะมีคนค่อนขอดว่า ภรรยาของ จูหยวนจางเท้าโต เนื่องจากไม่ได้รัดเท้าตามประเพณี (ล้อกันถึงสมัยเป็นฮ่องเต้เลยล่ะ ) แต่ภรรยาเขาก็ฉลาดมาก ๆ ช่วยทำให้สามีรอดตายได้หลายหน อย่างเช่น ตอนที่พี่ภรรยาใส่ร้ายทำให้ จูหยวนจาง โดนพ่อตาเขม่นจับยัดคุกเตรียมจะประหารอยู่แล้ว ก็ได้ภรรยาเท้าโตคนนี้แหละที่เป็นธุระเดินเรื่องไปล๊อบบี้พ่อขอชีวิตให้สามีจนสามีรอดตายได้ หรือแม้แต่ ตอนที่ จุหยวนจาง บาดเจ็บในการรบ ก็ได้ภรรยาคนนี้แหละ แบกจูหยวนจางหนี (สุดยอดภรรยา จะหาอย่างนี้ได้จากไหนเนี่ย !) แถมภรรยาคนนี้ก็ไม่ได้มีแต่แรงอย่างเดียว สมองก็มีไม่น้อย ตอนที่ จูหยวนจาง เป็นฮ่องเต้แล้ว เวลาโมโหมักจะลงโทษขุนนางแบบแรง ๆ ฮองเฮาองค์นี้แหละ ที่ตัดหน้าแย่ง ฮ่องเต้ลงโทษ ทำให้โทษเบาลงไปเยอะ ซื้อใจขุนนางได้เพียบ (นึกไปนึกมา นึกถึง จ่างซุ่นฮองเฮาของ ถังไท่จง ขึ้นมาเลย จักรพรรดิสงพระองค์นี้ ได้ดี เพราะฮองเฮา จริง ๆ ) นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ทำไมผมจึงบอกว่า จูหยวนจาง ทั้งเก่งและเฮง ครับ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 10:39:16 A:192.168.51.180 X:119.42.103.184 TicketID:207948

ความคิดเห็นที่ 5   # คุณ ติง ซ่าน เปิ่น ใช่ครับ จูหยวนจาง คนนี้นี่แหละครับ อดีตอารามบอย ครับ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 10:44:36 A:192.168.51.180 X:119.42.103.184 TicketID:207948

ความคิดเห็นที่ 6   ขอเพิ่มอีกนิด สงสัยจัง ก่อนจะมาเป็นหยวน แล้ว ซ่ง ล่มได้อย่างไร ใช่การบุกตีดินแดนของเจงกิสข่าน นักรบอันดับ 1 หรือเปล่า? จากคุณ : ติง ซ่าน เปิ่น เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 11:00:22

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ เปล่าครับเจงกิสข่านยึดอาณาจักรจิน (จีนตอนเหนือบรรบุรุษของ พวกแมนจู ) ทางซ่งใต้ก็ต้านได้อยุ่หลายปี จนโดนกุบไรข่านหลานของเจงกิสข่านอีกตีแตกครับ นับว่า เป็นอาณาเกือบสุดท้ายในเอเชียที่แพ้ให้กับมองโกลครับ เรียกว่า SKILL บุก ไม่ดีแต่ เรื่องตั้งรับเจ๋งมากครับ จากคุณ : เหล่าฟาง เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 14:15:14

ความคิดเห็นที่ 8 คุณศรีสิทธิสงครามคห.4-5ครับ ว่าจะถามนานแล้วว่าคุณศรีสิทธิสงครามเกี่ยวข้องอะไรกับสะพานศรีสิทธิสงครามที่หลังโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าน่ะครับ ส่วนถ้าจะถามว่าจูหยวนจางถือดีอะไรมาตั้งตนเป็นฮ่องเต้      ก็กองทัพของจูหยวนจางพิชิตได้ทั้งแผ่นดินจีนแล้วนี่ครับ     ไม่มีใครอยู่เหนือจูหยวนจางได้แล้ว     เมื่อมีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินจูหยวนจางก็คือรัฏฐาธิปัตย์   ไม่ว่าจะทำอะไรรึตั้งต้นเป็นฮ่องเต้ก็ถือเป็นความชอบธรรมทั้งสิ้น       ถ้าคุณคิดว่าไม่ชอบธรรม   คุณก็ต้องบอกว่า  ฉินซีฮ่องเต้ - ฮันโกโจ/เล่าปัง - จิ้นบู๊เต้/สุมาเอี๋ยน - ซ้องไท่จู่ - กุบไลข่าน  ไม่มีความชอบธรรมในการเป็นฮ่องเต้ด้วย แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 52 21:42:36 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 21:35:54

ความคิดเห็นที่ 9 ภรรยาแบบ นางแก้ว สินะคะ (แบกหนี สุดยอด) จากคุณ : kurika เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 22:25:22

ความคิดเห็นที่ 10   #คุณ zodiac28 เรื่องสะพานนี่ ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องครับ นามแฝงนี้ผมก็ยืมของท่านเจ้าของมาครับ คาดว่าสะพานนั้นจะเกี่ยวข้องกับท่านเจ้าของนามแฝงนี้ครับ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 52 23:16:38 A:192.168.51.180 X:119.42.69.64 TicketID:207948

ความคิดเห็นที่ 11   ผมมาแนะนำหนังครับ นี่เป็นหนังอิงประวัติศาสตร์ และหนังที่สร้างจากชีวประวัติของเจงกิสข่านครับ เวอร์ชั่นเฉพาะที่พอจะซื้อหา หรือ หาเช่าได้ในเมืองไทยครับ ลองหามาดู เพราะว่าเหตุการณ์ในหนัง อยู่ระหว่างประวัติศาสตร์ที่เจ้าของกระทู้สนใจพอดี และสนุกดีด้วยครับ แฮ่ะๆๆๆ อ้อ...ลืมไปอีกเรื่องครับ "ขุนศึกตระกูลหยาง" ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 01:25:59 จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 01:24:06

ความคิดเห็นที่ 12 อาศัยสติปัญญา กระบี่ในมือ และกำลังของเหล่าลูกน้องครับผม เมื่อได้มาซึ่งอำนาจและใจประชาชน จะขึ้นเป็นจักรพรรดิไปพลิกฟ้าคว่ำปฐพีก็ย่อมได้หมด จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 04:40:20

ความคิดเห็นที่ 13   คุณ ศรีสิทธิสงคราม มีความรอบรู้มาก ตอบได้ดี แต่สงสัย ไม่เคยเห็นชื่อคุณเลย ไฉนจึงเข้ามาตอบได้ แฝงตัวจากนามอื่นหรือป่าว จากคุณ : Sweet Coffee เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 17:13:14 A:118.174.53.215 X: TicketID:166981

ความคิดเห็นที่ 14 ในดาบมังกรหยก รู้สึกว่า จูหยวนจาง จะเป็นคนเจ้าเล่ห์และทรยศ เลยล่ะครับ ทั้งอิจฉาริษยาและวางแผนให้ร้ายเตียบ่อกี้ ฆ่า  หลังจากตั้งตนเป็นฮ่องเต้ ก็ล้างบางเข่นฆ่านิกายเม้งก่า รวมทั้งขุนพล ที่ปรึกษาต่างๆมากมาย จนเตียบ่อกี้ตามมาล้างแค้นแต่ก็ฆ่าไม่ลง ซึ่งต่างจากเรื่องจริง จากคุณ : CrazyMc เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 52 17:20:37

ความคิดเห็นที่ 15   #คุณ Sweet Coffee ขอบคุณครับสำหรับคำติชม แต่ผมคงต้องขอบอกก่อนว่า ผมไม่ได้รู้อะไรมากนักหรอกครับ พอดีกระทู้เรื่องนี้เคยอ่านมาบ้างก็เลยตอบได้ครับ ท่านที่เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษามีมากกว่าผมหลายท่านครับ ทั้งที่แสดงตัว (เช่น คุณอุ้ย,คุณหนุ่มรัตนะ,คุณชาวจีนศึกษา Tu ,ฯลฯ) และ ที่ไม่แสดงตัว (เช่นคุณมนุษย์ปักกิ่ง Pekking Man ฯลฯ) ครับ ----------------------------------------- ตามจริงแล้ว จูหยวนจาง จะเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมหรือไม่นี่ ส่วนตัวผมก็ไม่ทราบครับ แต่มันมีปมที่ทำให้เขาต้องเหี้ยมโหด และ หวาดระแวง มันก็เนื่องจาก ซ่งกว๋อซิง (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะครับ : ถ้าไม่ใช่พ่อตาของหลาน ก็คงเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยลับของจูหยวนจางครับ ) อดีตพ่อตาของหลานเขา(จู... จำชื่อไม่ได้แล้ว เป็นลูกของพี่ชายจูหยวนจางอีกที ที่ป้องกันเมืองจาก เฉินโหย่วเหลียง ไว้ได้เป็นเดือน ๆ นั่นละครับ ) ซ่งกว๋อซิง ดันเตรียมแผนจะหักหลังจูหยวนจาง จะไปเข้ากับมองโกล พอโดนจับได้ ก็เสร็จครับ หลังจากนั้นเป็นต้นมา จูหยวนจาง ก็หวาดระแวงทุกคนไปหมด แม้แต่ แม่ทัพเอกอย่าง เชาหยง ก็โดนใส่ร้ายป้ายสี จนต้องโดนประหารชีวิตไปนั่นเองครับ และภายหลังได้บัลลังก์แล้ว เขาก็เข่นฆ่าแม่ทัพผู้ร่วมศึกจำนวนมาก (สวีต้า รอดตายได้ เพราะ หลิวป๋อเหวิน บอกเคล็ดลับช่วยชีวิตเอาไว้ ไม่งั้นก็โดนย่างเหมือนกัน) ส่วน หลิวป๋อเหวิน เอง ก็รอดตายได้อย่างหวุดหวิด และ ปลอมออกเป็นหลวงจีนธุดงค์ไป จึงหนีราชภัยได้ครับ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 08:49:49 A:124.121.136.67 X: TicketID:207948

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ ที่ผมเคยอ่านมา แม่ทัพ สวีต้า (สูตา , ฉีต๊ะ) นี่ก็ไม่รอดนะครับ เนื่องจากแม่ทัพสวีต้า ทำคุณประโยชน์แก่หมิงไว้มาก จูหยวนจางจึงหาเหตุสังหารไม่ได้ มีครั้งหนึ่ง ในงานเลี้ยง แม่ทัพสวีต้าดื่มสุราจนเมามาย จูหยวนจาง จึงให้ทหาร พาตัวขึ้นไปนอนบนแท่นบรรทม พอแม่ทัพสวีต้า ตื่นขึ้นมาก็คิดว่าตัวเองต้องโดนประหารเป็นแน่แท้ แต่จูหยวนจางกลับไม่เอาโทษและบอกว่า เคยร่วมรบด้วยกันมานานเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องเรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ ตั้งแต่นั้นมา แม่ทัพสวีต้า ยิ่งจงรักภักดีต่อ จูหยวนจางมากขึ้น แต่จูหยวนจางก็ยังคิดวางแผนสังหารแม่ทัพสวีต้าต่อไป จนต่อมา แม่ทัพสวีต้ามีฝีขึ้นที่กลางหลัง เมื่อหมอหลวงทำการรักษาผ่าตัดแล้ว ก็ได้กำชับว่า ห้ามกินเนื้อห่านโดยเด็ดขาด  เมื่อจูหยวนจาง ทราบก็สั่งคนสนิทไปแอบเลี้ยงขุนห่านให้อ้วนพี จนถึงงานเลี้ยงครั้งหนึ่ง จูหยวนจาง ก็ให้พ่อครัวนำห่านมาปรุงอาหารมามอบให้เป็นอาหารพระราชทานแก่แม่ทัพสวีต้า เมื่อแม่ทัพสวีต้ากินห่านเข้าไปอาการฝีก็กำเริบ จนเสียชีวิต .... ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงรึป่าว จากคุณ : CrazyMc เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 15:55:54

ความคิดเห็นที่ 17 เ่่อ่อ  เท่าที่ผมอ่านมาทำไมจูหยวนจางโคตรโหดเลย ตอนหลังได้เป็นฮ่องเต้ค่อยๆฆ่าคนที่ร่วมรบกันมา เพราะความระแวง     บางคนว่าโจโฉในสามก๊กก็คือจูหยวนจางนั่นแหละ แต่หลอกว้านจงเขียนตรงๆไม่ได้ จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 16:30:51

ความคิดเห็นที่ 18   # คุณ CrazyMc เรื่องท่านจงซันหวัง ( ยศสุดท้ายของท่านแม่ทัพ สวี่ต้า ) ท่านตายเพราะกินของแสลงเข้าไปครับ ต้องขอเท้าความกลับไปตอนที่ผมเล่าไว้ข้างบนก่อน ก็คืองานเลี้ยงที่มีการเผาบรรดาขุนศึกต่าง ๆ ที่เคยรับใช้งานหมิงไท่จูมา ตอนก่อนจะเริ่มงาน หลิวป๋อเหวิน ก็มาเตือนท่านจงซันหวังว่า ให้พยายามอยู่ใกล้ชิดพระองค์หมิงไท่จูให้มากที่สุด หมิงไท่จูเสด็จไปไหน ให้ตามเสด็จไปด้วย (ทำตัวติดกันเข้าไว้) จากนั้น หลิวป๋อเหวิน ก็หลีกเร้นกายหายไปจากราชสำนัก (เหมือนฟ่านหลี่ หนี เย่วหวังโกวเจี้ยนนั่นเอง หนีก็คือหนี ไปให้ไวที่สุด ) พอถึงวันงาน ท่านจงซันหวังก็ไปร่วมงานปกติ ไม่มีพิรุธอะไร แต่ท่านหวังระวังตัวมาก บรรดาขุนศึกท่านอื่น ๆ ก็ดื่มสุรากันเมามาย ร้องรำทำเพลงกันสุดเหวี่ยง แต่ท่านจงซันหวัง ไม่ได้แตะเหล้าสักหยด (เป็นตัวอย่างที่ดี...อิ ๆ ๆ) สักพัก หมิงไท่จู ก็เสด็จพระราชดำเนินกลับ ท่านจงซันหวัง ก็รีบตามเสด็จโดยทันที ขณะที่ตามเสด็จก็เริ่มเห็นว่า มีการเตรียมฝืนมาไว้รอบงานเลี้ยงจำนวนมาก และ บรรดาองครักษ์วังหลวงก็เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นมารอบงานเลี้ยงเรื่อย ๆ ท่านจงซันหวังก็ยิ่งมันใจขึ้นไปอีกในคำเตือนของ หลิวป๋อเหวิน ซักพัก หมิงไท่จู ทรงทอดพระเนตรเห็น ท่านจงซันหวัง ตามติด ก็เลยตรัสถามว่า ท่านหวัง (อ๋อง) ไม่ไปฉลองกับบรรดาเพื่อน ๆ หรือ ท่านจงซันหวังทูลตอบกลับไปว่า "ฝ่าบาทไม่โปรดหม่อมฉันแล้วหรือ " ทูลเสร็จก็ร้องไห้ ทำตาแดง ๆ หมิงไท่จู เลยตรัสว่า รู้แล้วให้เงียบ ๆ ไว้ จากนั้นไม่นาน ที่งานเลี้ยงก็ไฟลุกโชนขึ้นมาทันที..... หลังจากนั้นมา ท่านจงซันหวัง ก็ทำตัวปกติ สงบเสงี่ยมไม่ปริปากอะไรทั้งสิ้น หลัง ๆ มา ท่านก็ทูลลาออก ไปนอนกินเบี้ยเลี้ยงอยู่กับวังของตัวเอง แต่ท่านก็แก้กลุ้มด้วยการฝึกเล่นหมากรุกจีน เล่นไปเล่นมา ดันเก่งเป็นระด้บโคตรเซียนเข้าให้ ก็ให้บังเอิญอีก(กรรมคงจะตามทัน) หมิงไท่จู ก็ดันทรงมาโปรดหมากรุกจีนอีกเหมือนกัน ทรงเล่นชนะมาทุกคน แต่ทรงทราบมาว่า ยังมีคนเก่งระดับโคตรเซียนอยู่ คือ ท่านจงซันหวัง หมิงไท่จู ก็เลยทรงอยากจะประลองด้วย สุดท้ายก็ได้มาประลองกัน ท่านจงซันหวัง ดันลืมตัวเล่นเต็มฝีมือ ผลก็คือ หมิงไท่จู ทรงแพ้แบบสู้ไม่ได้ ก็เลยทรงเจ็บพระทัย ยังทรงตรัสทีเล่นทีจริงว่า ท่านหวังนี่เก่งจริงๆ นะ แบบนี้ ถ้าเล่นเอาบ้านเอาเมือง ก็น่ากลัวอยู่ (สำนวนคล้าย ๆ กันนี่แหละ แต่ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว ) ท่านหวังลืมตัวอยู่ ก็เลยทูลตอบไปว่า ก็คงอย่างนั้นพะยะคะ เท่านี้ก็เลยมีเฮ หลังจากนั้น หมิงไท่จู ความหวาดระแวงพระทัยก็เพิ่มมากขึ้น มาตอนหลังทรงทราบว่า ท่านจงซันหวังป่วยเป็นฝีขึ้นกลางหลัง ก็เลยทรงเรียกหมอหลวงเข้ามา ทรงถามว่า ถ้าเป็นโรคนี้กินอะไรแล้วจะแสลง หมอหลวงทูลตอบว่า ถ้ากินปลาหลีฮื้อ แล้วจะทำให้แสลง ก็เลยทรงสั่งให้พวกวิเศษในวัง ปรุงปลาหลีฮื้อไปให้ท่านจงซันหวัง ท่านจงซันหวัง ก็ยังคงซื่อต่อไป คิดว่า นี่ ฝ่าบาทคงจะโปรดเราอีกรอบแล้ว ก็เลยรับประทานเข้าไปไม่ยั้ง ผลสุดท้ายก็เลย ซี้ม่องเท่ง ครับ เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ (ยาวหน่อยนะครับ) จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 08:55:48 A:124.121.142.106 X: TicketID:207948

ความคิดเห็นที่ 19 โอ้... ขอบคุณ คุณศรีสิทธิสงคราม มากครับ ถึงแม้ จูหยวนจาง จะโหดเหี้ยมต่อขุนนาง แม่ทัพ ของตัวเองเท่าไหร่ แต่กลับเป็นที่เคารพรักใคร่ของประชาชนมาก ทั้งยังศึกษาการล่มสลายของราชวงศ์ต่างๆในอดีต ทราบว่า ส่วนใหญ่มักมีมูลเหตุมาจากพวกขันที จูหยวนจาง จึงได้ตั้งกฏ สลักไว้บนศิลาจารึกว่า ห้ามมิให้ขันทีเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ การปกครอง บริหารบ้านเมืองโดยเด็ดขาด กฏนี้สืบทอดต่อมา จนถึงช่วงปลายราชวงศ์ หลักจารึกก็โดนทำลายโดนพวกขันทีกังฉิน แล้วเข้ามามีอำนาจในราชสำนักเต็มที่ ราชวงศ์หมิงก็เริ่มอ่อนแอ ลง จากคุณ : CrazyMc เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 13:11:03

ความคิดเห็นที่ 20   มิใช่ปลายราชวงศ์ดอกครับ  แค่แผ่นดินที่สาม ก็ส่อเค้าลางแล้ว  หากแต่บังเอิญเป็นท่านเจิ้งเหอ  พวกผีปอบเลยยังกระดี๊กระด๊าไม่ได้ จากคุณ : Yeonsan เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 22:46:12

ความคิดเห็นที่ 21 "นักประวัติศาสตร์บางคนบอกว่า หลัวกว้านจง เอาความสามารถของ หลิวปั๋วเวิน นี่แหละไปใส่ในตัวละคร จูเก๋อเลี่ยง".......แหม พูดอย่างนี้แฟนพันธุ์แท้ขงเบ้งมีเคืองนะ ถ้าประวัติศาสตร์หมิงมีประวัติของหลิวปั๋วเวินด้วยน่าจะหามาอ่านเนอะ การได้อ่านเรื่องราวการวางแผนต่างๆของเขาคงจะเป็นความบันเทิงไม่น้อย ในยุทธนาวีผัวหยาง-ทะเลสาปน้ำจืดใหญ่ที่สุดของจีน (นัยว่าหลัวกว้านจงจำลองสงครามครั้งใหญ่ระหว่างทัพจูหยวนจางกับทัพเฉินโหย่วเลี่ยงไปบรรจงรจนาเป็นศึกผาแดงในสามก๊ก) จูฯรอดตายอย่างหวุดหวิดอีกครั้งก็ด้วยความช่วยเหลือของหลิวปั๋วเวิน แล้วไฉนใจคอจูฯจะยังโหดร้ายถึงขนาดคิดจะกำจัดผู้เคยช่วยเซฟชีวิตตัวเองได้ลงคอหนอ? แต่เรื่องปลาหลีฮื้อที่เป็นของแสลงกับฝีร้ายในตัวซึ่งสวีต๋ากินเข้าไปแล้วถึงกับสิ้นชีพนี่ ออกจะพิสดารชวนเชื่ออยู่ จากคุณ : เหนียว-อวี่ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 13:44:32