Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เนื้อเรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นนิยายกำลังภายในไหมคะ?  

สวัสดีค่ะชาวคอนิยายกำลังภายในทุกท่าน ^__^

กระทู้นี้ขอเอาเรื่องย่อนิยายเรื่องล่าสุดที่ซื้อลิขสิทธิ์มาเพื่อแปลเอง เพื่อขอความเห็นจากทุกท่านว่า ในสายตาของแต่ละท่าน แบบนี้เรียกว่า "นิยายกำลังภายใน" หรือเปล่า?

เรื่องย่อนี้เป็นเรื่องย่อแบบค่อนข้างละเอียด แต่ละเล่าแค่ราวๆ 1-2/10 ของเนื้อเรื่อง และแบ่งเล่าเป็นหลายวัน ประมาณ 4-5 วันคงละเล่าจบ

เริ่มเล่าล่ะนะคะ


หย่งเยี่ย


โดย...จวงจวง



ราตรีมืดมิดลมกรรโชกแรง ราตรีแห่งการฆ่าคน

หลี่หลินเป็นนักฆ่าในยุคปัจจุบัน เขาติดค้างน้ำใจเพื่อนสนิทที่ถือเป็นพี่น้องคนหนึ่ง จึงรับปากทำงานฆ่าคนให้พี่น้องคนนี้หนึ่งคนฟรีเพื่อเป็นการคืนน้ำใจ งานที่ต้องทำคือ ฆ่าลูกชายมหาเศรษฐีซึ่งชอบออกมาขี่จักรยานเสือภูเขาเป็นการออกกำลังกายตอนสี่ทุ่มทุกวัน โดยทำเป็นเหมือนอุบัติเหตุขับรถเก๋งไปชนเข้าหลังกลับจากไปดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนๆ มา

หลังจากชนลูกชายมหาเศรษฐีกระเด็น และลงไปดูจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายตายแล้ว หลี่หลินจึงโทรไปแจ้งตำรวจโดยแสดงบทขับรถชนคนตายโดยไม่เจตนา เพื่อไม่ให้ใครระแวงสงสัยว่านี่อาจจะเป็นแผนฆาตกรรม และตัวเขาก็ถูกตัดสินจำคุก 3-5 ปีตามที่คาด เนื่องจากมหาเศรษฐีผู้พ่อไม่ต้องการเงินชดใช้มากเท่าต้องการเอาคนที่ฆ่าลูกเขาเข้าคุก

หลี่หลินคำนวณเอาไว้เรียบร้อยอยู่ก่อนแล้วว่าการชดใช้บุญคุณด้วยการยอมเสียเวลาติดคุกแค่ 3-5 ปีนี้คุ้มค่าไม่มีขาดทุน แต่ที่เขานึกไม่ถึงคือ พี่น้องของเขาไม่อยากให้เขาทดแทนคุณอีกแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นต้องการชีวิตของเขาแทน

ระหว่างที่หลี่หลินอยู่ในคุกซึ่งเป็นห้องขังรวม วันหนึ่ง นักโทษในห้องขังได้แบ่งเป็นสองฝ่ายทะเลาะชกต่อยกันแบบตะลุมบอนมั่วไปหมด และหลี่หลินตายในการทะเลาะกันครั้งนี้...

ความด้วยฝีมือของเขา ไม่มีทางที่จะถูกลูกหลงตายในการทะเลาะชกต่อยกันแบบนี้ได้อยู่แล้ว แต่ในตอนที่กลุ่มนักโทษกำลังชกต่อยกันชุลมุนนั้น คนของพี่น้องเขาซึ่งติดคุกมาด้วยกันได้แทงมีดใส่หลังของเขาอย่างนุ่มนวลพร้อมกับบอกว่า พี่น้องของเขาฝากมาบอกให้เขาไปดี

ในตอนที่ตาย หลี่หลินคิดในใจการตายเพื่อคุณธรรมน้ำมิตรแบบนี้มันช่างน่าทุเรศสิ้นดี บางทีตั้งแต่ตอนที่คุยกันแล้วเขายืนกรานว่าไม่ขอรับเงินค่าตอบแทน เขาก็ถูกกำหนดแล้วว่าจะต้องถูกฆ่าปิดปาก เพราะพี่น้องของเขาไม่เชื่อว่าเขายอมทำงานนี้ฟรีแค่เพราะต้องการทดแทนน้ำใจเท่านั้น



วิญญาณของหลี่หลินลงไปสู่ยมโลก ระหว่างที่เดินอยู่บนถนนของยมโลก สองฝั่งข้างทางมีดอกไม้สีแดงสดบานสะพรั่งเต็มไปหมด หลี่หลินเดาว่านี่คงจะเป็นดอกมัญชุษกะในตำนานที่ว่าขึ้นขนาบอยู่สองข้างทางถนนในยมโลก ว่าแล้วก็เด็กดอกหนึ่งมาเสียบไว้ที่อกเสื้อ



ในตอนที่เข้าแถวจะขึ้นไปดื่มน้ำแกงของเมิ่งผอ ยังไม่ทันถึงคิวของหลี่หลิน ผีเจ้าพนักงานที่ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยเห็นดอกไม้บนอกเสื้อของเขา ก็ถีบเขาตกลงไปในแม่น้ำใต้สะพานทันทีเหมือนไม่เจตนา



หลี่หลินได้มาเกิดใหม่ในโลกยุคโบราณเหมือนถอยหลังไปราวๆ 1000-2000 ปี และกว่าที่เขาจะตื่นขึ้นมาในร่างใหม่ของชาตินี้ ก็อายุปาเข้าไปห้าขวบแล้ว ก่อนหน้านั้นเขาเป็นเหมือนเด็กปัญญาอ่อนมาห้าปีเต็ม หลี่หลินถูกส่งเข้ามาในหุบเขาฝึกเด็กให้เป็นนักฆ่า เขาจึงแกล้งทำเป็นเด็กปัญญาอ่อนต่อไปเพราะชาติก่อนก็เป็นนักฆ่ามาแล้ว ชาตินี้จึงไม่อยากเป็นอีก แต่บังเอิญได้ยินคนคุมหุบเขาพูดกันว่า ถึงเขาจะปัญญาอ่อน ไปฝึกกับเด็กคนอื่นไม่ได้ แต่หน้าตาแบบนี้ ต่อให้ปัญญาอ่อนยังไงก็ส่งเข้า “เรือนโบตั๋น” ได้

เนื่องจากถึงจะไม่อยากเป็นนักฆ่า แต่เมื่อเทียบกับการต้องเข้าไปอยู่ในซ่องแล้ว ยังไงเป็นนักฆ่าก็ดีกว่าหน่อยนึง ดังนั้นหลี่หลินจึงตัดสินใจเลิกปัญญาอ่อน และเข้าไปร่วมฝึกวิทยายุทธ์กับเด็กคนอื่นๆ อีกพันกว่าราย โดยที่เป็นเด็กคนสุดท้ายที่เข้าร่วมในกลุ่ม

ที่ซึ่งหลี่หลินอยู่นี้ชื่อว่า “โหยวหลีกู่” (หุบเขาท่องจรจาก) เป็นองค์กรนักฆ่าที่ใหญ่ที่สุดในหล้า ได้รวบรวม (จับตัว ซื้อตัว ลักพาตัว) เด็กจากทั่วแผ่นดินมาเพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่า โดยเริ่มจากสอนวิทยายุทธ์ให้แบบรวมเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งหลี่หลินก็เพิ่งจะเข้าร่วมกลุ่มหลังจากที่พวกเด็กๆ ฝึกกันไปได้ 9 เดือนแล้ว จากนั้นจะให้พวกเด็กๆ ต่อสู้ประลองฝีมือกันเพื่อคัดเลือกคนที่จะผ่านเข้าไปคัดเลือกในรอบต่อไป ส่วนพวกที่ไม่ผ่านรอบแรก หรือพวกเด็กที่อ่อนแอ ไม่เชื่อฟัง จะถูกส่งไปที่เรือนโบตั๋น (มีทั้งโสเภณีหญิงและชาย)

การคัดเลือกรอบถัดไป คือแบ่งเด็กที่ผ่านการคัดเลือกหนึ่งพันคนเป็น 10 กลุ่มกลุ่มละ 100 คน ให้ติดเบอร์ตั้งแต่ 1-100 แล้วให้มีดไปคนละเล่ม ก่อนจะให้แยกย้ายเข้าไปในตึกสิบหลัง หลังละ 100 คนตามเบอร์

หลี่หลินได้เบอร์ 100 ต้องเข้าไปในตึกสิบพร้อมกับเด็กคนอื่นๆ อีก 99 คน เงื่อนไขในการอยู่รอดในแต่ละวันคือ ต้องถือหัวของเด็กอื่นออกมาอย่างน้อย 1 หัว และเมื่อถึงวันสุดท้ายที่ตัดสินว่าใครบ้างที่จะเหลือรอดของแต่ละตึก หลี่หลินยิ้มในใจพลางคิดว่า ชาตินี้จะไม่มีพี่น้องคนไหนแอบแทงเขาจากข้างหลังได้อีกแล้ว

ตึกของหลี่หลินมีเด็กรอดตายถึง 5 คนจากทั้งหมด 17 คนของทั้งสิบตึก ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากจนเหลือเชื่อ เพราะตึกอื่นรอดตายกันออกมาอย่างมากก็แค่ 2 คน และสาเหตุที่พวกตึกสิบรอดออกมากันตั้งห้าคน เพราะรอบสุดท้าย แทนที่ห้าคนนี้จะฆ่ากันเอง ก็กลับแห่กันไปฆ่าเด็กที่รอดตายของตึกเก้าซึ่งอยู่ติดกันแทน ทำให้ตึกเก้าไม่มีใครรอดออกมาเลย

เนื่องจากเหตุการณ์นี้ผิดปกติอย่างมาก หัวหน้าฝ่ายคุมการคัดเด็ก ชื่อ หลี่เหยียนเหนียน จึงให้พวกหลี่หลินที่รอดออกมาทั้งห้าคนสารภาพออกมาว่าใครเป็นคนต้นคิดให้ใช้วิธีดำกินดำแบบนี้ เด็กสามในห้าคนแอบเหลือบมองไปที่ 99 ส่วนหลี่หลิน แม้ไม่คิดจะให้เด็กแปดขวบมาเป็นแพะรับบาปแทนตัว แต่ก็ไม่คิดจะทำตัวให้เด่นเกินเหตุเช่นกัน เพราะเรียกรู้มาตั้งแต่ชาติก่อนแล้วว่าพวกนักฆ่าเก่งๆ ที่อยู่หัวแถวมักต้องตายก่อนใคร ไม่ใช่ว่าฝีมือไม่ดีพอ แต่เป็นเพราะมักจะได้รับงานยากเกินไปจนรอดยาก

99 รับสารภาพว่าเป็นหัวโจกให้ทุกคนไปฆ่าเด็กของตึกเก้า แต่หลี่เหยียนเหนียนไม่เชื่อ สุดท้ายหลี่หลินจึงต้องสารภาพออกไปว่าเขาเองที่เป็นคนต้นคิดวางแผน ส่วน 99 เป็นหัวโจกนำขบวนลงมือ (99 มีน้องชายอายุพอๆ กับหลี่หลินอยู่คนหนึ่งที่เขารักมาก แต่ต้องแยกกันอยู่ จึงถือหลี่หลินเป็นน้องชายคนนั้น ตอนอยู่ในตึก 99 จะช่วยปกป้องหลี่หลินตลอด ฆ่าคนแทนให้ จนหลี่หลินไม่ต้องมือเปื้อนเลือดเลย)

หลี่เหยียนเหนียนรู้สึกเหลือเชื่อมาก เพราะในเด็กที่รอดตายทั้ง 17 คน หลี่หลินอายุน้อยที่สุด เมื่อเห็นท่าทางหนักแน่นเยือกเย็นผิดจากเด็กธรรมดาของหลี่หลิน หลี่เหยียนเหนียนก็ถามว่า แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่สารภาพ? หลี่หลินตอบว่า เพราะกลัวตาย! หลี่เหยียนเหนียนถามว่า แล้วที่สารภาพออกมานี่เลิกกลัวตายแล้วรึ? หลี่หลินตอบ เปล่า แต่เพราะรู้ดีว่าหลี่เหยียนเหนียนไม่มีทางฆ่าเขา อย่างมากก็แค่ส่งไปที่เรือนโบตั๋น หลี่เหยียนเหนียนถามว่า รู้หรือเปล่าว่าการถูกส่งไปเรือนโบตั๋นนั้นหมายความว่ายังไง? (หลี่เหยียนเหนียนไม่คิดว่าเด็กหกขวบจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเรือนโบตั๋น)

หลี่หลินตอบว่า “ตายใต้ดอกโบตั๋น เป็นปิศาจก็สำราญ”

คำตอบนี้ทำเอาทุกคนตกตะลึงกันไปหมด ผลคือ หลี่หลินกับ 99 รอดตายและไม่ถูกลงโทษ หลังจากนั้นเด็กแต่ละคนถูกส่งเข้าไปหาหลี่เหยียนเหนียนเป็นการส่วนตัวทีละคนเพื่อเลือกชื่อ โดยชื่อที่เลือกนี้จะมีผลกับอาจารย์ที่จะได้และวิชาที่จะฝึกด้วย หลี่หลินถูกให้เข้าไปหาเป็นคนแรก ชื่อที่ให้เลือกมี 5 ชื่อ คือ

ซิงหุน (วิญญาณดาว)
เยว่พ่อ (วิญญาณจันทร์)
หงอี (เสื้อสายรุ้ง)
อิงอวี่ (ขนอินทรี)
รื่อกวง (แสงอาทิตย์)

หลี่หลินบอกชื่ออะไรก็ได้ หลี่เหยียนเหนียนจึงเลือกชื่อ “ซิงหุน” ให้

ชื่อ “ซิงหุน” แปลว่า “วิญญาณดาว” ดาว จะปรากฏก็แต่ตอนกลางคืน ดังนั้นจากชื่อนี้ ชีวิตของหลี่หลินจึงถูกลิขิตแล้วว่าต้องอยู่แต่กับความมืดของราตรี

อาจารย์ของหลี่หลินมีฉายาว่า “คนประหลาดเสื้อเขียว” เนื่องจากอยู่แต่ในห้องมืดจนผิวขาวซีดคล้ายผีดิบ สีหน้าก็เย็นชาเหมือนผีดิบ ถนัดอาวุธลับและวิชาตัวเบา หลี่หลินต้องฝึกกับอาจารย์คนนี้เป็นเวลาสามปี

แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 52 09:47:43

แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 52 01:59:03

จากคุณ : Linmou
เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 52 01:51:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com