ความคิดเห็นที่ 1 คุณยังแยก เขมร กับ ขอมไม่ออกเลยนะครับ จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 17:10:27

ความคิดเห็นที่ 2 ขอม คือไทย ไม่ใช่เขมร: ข้อคิดเห็นกรณีปราสาทนครวัด พระวิหาร และพิมาย http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000078678 จากคุณ : UnlimitedDreams เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 17:24:18

ความคิดเห็นที่ 3 ขำค่ะ อย่าเอาเรื่อง "ประเทศ" ขึ้นมาเวลาพูดเรื่องประวัติศาสตร์ในยุคที่ไม่มีประเทศเลยค่ะ มันก็แค่ว่าความเจริญไปจอดตรงไหนแล้วแพร่ไปไหนๆ ประเทศนั้นมามีทีหลัง ขอม กับ เขมร เป็นคนละจำพวกค่ะ อักษรขอมเป็นอักษรโบราณ เรียกว่ามีมานานมาก อาณาจักรยุคหลังเรียกว่าเป็น "ลูกหลาน" จะมีอะไรเหมือนพ่อแม่ก็ไม่แปลก แต่ก็จะมีหน้าตาที่ต่างออกไป วัฒนธรรมอย่าไปมองที่ว่าใครเลียนแบบใคร เรียกว่าการถ่ายทอด ส่งผ่านดีกว่า เพราะมันไม่ได้เป็นแบบเด็กที่เห็นคนเขียนอักษรวิบัติแล้วคิดว่าเท่ก็ทำตาม หรือไปแต่งตัวเปรี้ยวโป๊ แบบนั้นก๊อปค่ะ แต่เรื่องภาษานั้นมีวิวัฒนาการและความเป็นมาที่ลึกซึ้ง เกินกว่าจะมองแล้วพูดว่า "คล้ายๆกัน เฮ้ย ชัวร์เลย ลอกเขามา ชัวร์ๆๆๆ" จากคุณ : kurika เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 18:24:31

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมไม่คิดว่าเกิดมาจากแหล่งเดียวกันล่ะครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 18:42:25

ความคิดเห็นที่ 5   เขมรปลอมตัวมาตั้งกระทู้? จากคุณ : อิอิ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 19:56:36 A:124.122.123.232 X: TicketID:175904

ความคิดเห็นที่ 6 ก็เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า พ่อขุนรามคำแหง ทรงประดิษฐ์อักษรไทย จากอักษรขอมและอักษรมอญ รวมทั้งหลักภาษาไทย ก็มีเค้าโครงมาจากภาษาบาลีและสันสกฤตเป็นเสียส่วนใหญ่ ถามว่าเราลอกเค้ามาใหม่ ตอบว่า "ไม่" เพียงแต่เราพัฒนาของที่ดีอยู่แล้ว ให้ดีมากขึ้น ซึ่งนักภาษาศาสตร์ ไม่สามารถจัดตระกูลของภาษาไทยให้อยู่ร่วมกับตระกูลไหนได้ เห็นด้วยกับคุณ kurika ที่ว่า อย่าเอาคำว่า "ประเทศ" มาใช้ในบริบทแห่งประวัติศาสตร์ เพราะในอดีตไม่มีประเทศ มีแต่ "นครรัฐ" ซึ่งมีการถ่ายถอดและรับวัฒนธรรมซึ่งกันและกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจะมาบอกในเวลานี้ว่าประเทศใด ลอกอะไรมาจากประเภทใด ยกตัวอย่างให้ง่ายขึ้น อาณาจักรจีน โบราณ ต่างถ่ายถอดวัฒนธรรมต่างๆ ให้อาณาจักรรอบข้าง ทั้งธิเบต ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม หรือหากจะดูที่ใกล้ตัว รัฐอยุธยา มีอาณาเขตด้านบนเพียงแค่อุตรดิตถ์ รดยมีรัฐแพร่ รัฐน่าน และรัฐล้านนา อยู่ด้านบน ด้านตะวันตกมีรัฐมอญ รัฐพม่า รัฐยะไข่ รัฐไทใหญ่ เป็นเพื่อนบ้าน ด้านตะวันออก เรามีรัฐศรีสัตนาคนหุต รัฐจำปาศักดิ์ รัฐขอม ทางใต้เรามีรัฐปัตตานี โดยสยามประเทศ พึ่งเริ่มขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ หลังจากทรงปฏิรูปการปกครอง จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 20:21:03

ความคิดเห็นที่ 7 ตามที่รู้มา ปัลลวะ(อินเดีย)------>อักษรเขมรโบราณ ----->อักษรเขมร ปัลลวะ(อินเดีย)------>อักษรเขมรโบราณ ----->อักษรไทย ปัลลวะ(อินเดีย)------>อักษรเขมรโบราณ ----->อักษรลาว ปัลลวะ(อินเดีย)------>อักษรมอญ ----->พม่า ปัลลวะ(อินเดีย)------>จัมปา ปัลลวะ(อินเดีย)------>ชวา ดูภาพประกอบที่ http://www.cs.colostate.edu/~malaiya/images/south1.gif จากคุณ : นภาอากศ (นภาอากาศ) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 21:08:44

ความคิดเห็นที่ 8   ในสมัยก่อนที่ยังไม่เกิดประเทศมีการทำสงครามกวาดต้อนผู้คนกันไปมา อยุธยาก็เป็นรัฐที่ใหญ่รัฐหนึ่งในสมัยนั้น เวลาไปตีรัฐอื่นๆคิดว่าผู้นำอยุธยาอยากจะกวาดต้อนคนพวกไหนมา ระหว่างคนมีมีความรู้ช่างฝีมือ หรือคนไม่มีความรู้อะไร เพราะการเดินทางแต่ละครั้งก็เปลืองเสบียงใช่เล่น แน่นอนย่อมกวาดต้อนครอบครัวพวกเจ้านายเก่งๆและคนที่มีความรู้ความสามารถมา พอมาถึงอยุธยาแล้วจะหนีกลับบ้านเมืองเดิมก็ยากลำบากเพราะทั้งระยะทางแถมภาระที่ต้องพาคนในครอบครัวไป แถมไม่มีกองทหารคุ้มกันโจรป่าแบบตอนกองทัพอยุธยาพามา ไม่ใช่แบบเชลยทหารหนีคุก ครอบครัวเหล่านั้นก็เลยต้องจำอยู่ในอยุธยา แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่แบบเลวร้ายเสียหน่อย เพราะในสมัยนั้นมีการส่งเสริมคนมีความสามารถอยู่แล้ว กลุ่มคนมีความรู้ที่ถูกกวาดต้อนมานั้นก็ย่อมใช้ความรู้ความสามารถของตนรับใช้อยุธยา เพื่อเลื่อนฐานะของตน ทีนี้พอได้ดิบได้ดีใครที่ไหนอยากจะกลับไปบ้านเมืองเก่าที่โทรมไปแล้ว ลูกหลานที่ออกมาเลยกลายเป็นคนในรัฐอุธยาไปโดยปริยาย เกิดคำถามขึ้นว่าผลงานความรู้เล่านั้นเป็นของใครระหว่างลูกหลานกลุ่มคนที่ถูกกวาดต้อนมาอยุธยาจนสืบเนื่องเป็นประเทศไทย มันก็ย่อมเป็นของลูกหลานของกลุ่มคนเหล่านั้นซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคนไทยแล้วนั่นเอง มันก็เป็นสิทธิ์อันชอบธรรม ของลูกหลานของคนกลุ่มนั้นที่จะใช้ความรู้ของบรรพบุรุษไม่ใช่หรือ มันก็น่าตลกทีเดียวเพราะเรามีบรรพบรุษฝ่ายหนึ่งที่เป็นผู้ชนะและอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ปราชัยที่ถูกกวาดต้อนมา แน่นอนว่าใครอยากจะให้ลูกหลานตนเอง หรือตัวลูกหลานเองอยากจะถูกกล่าวว่าเป็นผู้ปราชัยที่ถูกกวาดต้อนมา ดังนั้นเรื่องราวของบรรพบุรุษฝ่ายผู้ปราชัยที่ถูกกวาดต้อนมา จึงถูกลืมเลือนไปในที่สุด กลายเป็นว่านับตัวเองเป็นฝ่ายที่ชนะสงครามในสมัยก่อนเท่านั้น โดยลืมไปว่าพวกที่ปราชัยไปนั้นก็คือบรรพบุรุษของตนเช่นกัน คนไทยในปัจจุบันก็จึงเป็นผู้ชนะและปราชัยในสงครามสมัยก่อนในเวลาเดียวกัน คำถามจึงมีขึ้นว่าลูกหลานของผู้สร้างผลงานไม่มีสิทธิ์ใช้ผลงานนั้โดยบอกว่าเป็นของตนเชียวหรือ จากคุณ : ช่างปั้นหม้อ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 21:42:19 A:125.26.222.156 X: TicketID:228782

ความคิดเห็นที่ 9   เอะอะก็ปัลวะ ปัลวะ ชอบเดินตามก้นฝรั่งเศส และ อินเดีย กันจริง ทำไมไม่คิดว่ามันเป็นของคนไทยในพื้นที่นี้คิดกันเองมั่งหละหนอ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 22:05:57 A:192.168.51.191 X:119.42.70.133 TicketID:207948

ความคิดเห็นที่ 10   ^ ^ ^ ^ ^ ^ ใช่ค่ะ เห็นด้วยกับ คห. 9 ไทยพูดฮินดีรึเปล่าคะ เอะอะอะไรก็ไทยไม่มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ไรเงี้ย ถามหน่อยว่าคุณเกิดทันกันหรอคะ ถึงได้เราไม่มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ไม่คิดบ้างล่ะว่าภาษาไทยต่างจากอินเดียอะไรนี่มากมายก่ายก่อง ไปเหนือ ไปอิสาน ไปใต้ ไม่เห็นมีคนไทยใช้ฮินดีสักคน จากคุณ : เสร่อมาตอบ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 22:55:00 A:115.67.133.168 X: TicketID:174238

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องรัฐชาติกับเรื่องชาติพันธุ์ เป็นคนละเรื่องกัน เรื่องชาติพันธุ์กับภาษาวัฒนธรรมก็คนละเรื่องกัน แต่ภาษาในจารึกขอมเป็นภาษาเดียวกับที่คนเขมรพูดกันอยู่ในปัจจุบัน เหมือนกับที่ภาษาในจารึกหลักที่ ๑ เป็นภาษาเดียวกันกับที่คนไทยพูดกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ขอมที่คนแต่ละพวกรู้จักอาจจะต่างกัน แต่ขอมที่สร้างปราสาทหินต่างๆ คือขอมเดียวกับพวกที่พูดภาษาเขมรปัจจุบัน จะเชื่ออะไรก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง จอมพล ป. กับหลวงวิจิตรวาทการตายไปนานแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 17:14:53 จากคุณ : CrazyHOrse เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 23:01:06

ความคิดเห็นที่ 12   ใครจะคิดก่อนไม่สำคัญ สำคัญที่ใครใช้ประโยชน์ได้มากกว่ากัน ธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนจะรุ่งเรืองที่มคธก่อนไม่สำคัญ สำคัญที่ธรรมนั้นรุ่งเรืองภายในใจเราก็พอแล้ว จากคุณ : ช่างปั้นหม้อ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 23:14:54 A:125.26.222.156 X: TicketID:228782

ความคิดเห็นที่ 13 จุดนี้เป็นจุดหนึ่งที่น่าสนใจครับ จารึกต่างๆ ส่วนมากเป็นคำศาสนามากครับ ทั้งพราหมณ์และพุทธ ให้คนกัมพูชา ปัจจุบันอ่านก็อาจจะทำความเข้าใจได้ยากพอควร หากเรามองประวัติศาสตร์โดยละลายรัฐชาติปัจจุบันออกไป ก็อย่ามุ่งแต่จะละลายรัฐชาติไทยของเราเลยครับ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมุมมองของ กลุ่มชาตินิยม จะเพื่อนบ้านนิยม ก็ให้นิยมกันอย่างพองามครับ เพราะคง ไม่มีชนชาติลาว เขมร พม่า มอญ เวียด เป็นเจ้าของวัฒนธรรมที่พัฒนาจนเป็นที่ยอมรับของคนในรัฐชาติปัจจุบันนี้หรอกครับ จากคุณ : Plateen เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 23:20:39

ความคิดเห็นที่ 14   ขอบคุณ คุณนภาอากาศ มากครับ แต่อยากจะขอแก้ไข  "อักษรเขมรโบราณ"  เป็น "อักษรขอมโบราณ"  ครับ  แม้ว่าในผังจะแสดงว่า Khmer เหมือนกันก็ตามครับ ผมเคยแสดงความเห็นเอาไว้ว่า ชนขอมโบราณส่วนหนึ่งในปัจจุบันนั้นคือคนไทยนี่แหละ  ส่วนใหญ่มีความเห็นต่างจากผม  เพราะติดชาตินิยม  คนไทยก็ต้องคนไทยซิ คนไทยไม่ใช่เขมร  .... ว่าไปนั่น อาณาจักรโบราณ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่วงไปถึงลุ่มน้ำอื่นๆในภาคกลางและอิสานประเทศไทย เป็นของชนขอมทั้งสิ้น (ข้ามเขตเทือกเขาตะนาวศรีก็จะเป็นอาณาจักรมอญโบราณ)  ชาวขอมเองก็ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีการรบพุ่งกัน ใครรวบรวมผู้คนได้ก็ตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่  อาณาจักรขอมโบราณจึงมีหลายกลุ่ม  ที่มีหลักฐานชัดเจนก็อย่างเช่นเมืองหริภุญชัย หรือเมืองลำพูน ซึ่งพระนางจามเทวี พระธิดาของกษัตริย์ขอมแห่งกรุงละโว้ ทรงสร้างเมืองขึ้น  ในลิลิตพระร่วงก็มีบันทึกถึงขอมดำดิน ซึ่งก็ทำให้แปลความได้ว่า ขอมไม่ใช่กลุ่มเดียวกับคนไทย แต่ก็อยู่ร่วมกันมาในพื้นที่เดียวกัน  ทางภาคตะวันตก ก็มีปราสาทเมืองสิงห์ ที่กาญจนบุรี เป็นหลักฐาน  ภาคกลางที่ชัดเจนก็เป็นเมืองลพบุรี หรือละโว้ มีปรางค์สามยอด ปรางค์แขก และศาลพระกาฬ  ทางภาคอิสานก็มีพระธาตุ กู่ ปราสาทหินต่างๆมากมาย เช่นพระธาตุเชิงชุม  พระธาตุนาเวง ในจังหวัดสกลนคร ภายในองค์พระธาตุเชิงชุมมีวัตถุโบราณและจารึกเป็นภาษาขอม เขียนติดเอาไว้ที่ข้างใน  ส่วนในลาวนั้น อาณาจักรขอมคงอยู่ไม่ไกลจากหลวงพระบางขึ้นไปมากนัก เพราะเกินกว่านั้นไม่มีสถาปัตยกรรม หรือปฏิมากรรมของขอมให้เห็นเลย  ในเวียดนามใต้ส่วนใหญ่ก็เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรขอมด้วย แต่ก็น่าจะไม่มากนัก เพราะมีพวกจามอยู่   ถ้าลองเทียบพื้นที่แล้ว จะเห็นว่าอาณาจักรขอมโบราณ อยู่ในเขตประเทศไทยปัจจุบันนี้มากที่สุด นับจากลำพูน ไปกาญจนบุรี ภาคกลาง  และภาคอิสานทั้งหมด คนขอมกับคนไทย อยู่ด้วยกันในแผ่นดินเดียวกัน จนผสมผสานกลายเป็นคนไทยทั้งหมด อาจจะเนื่องด้วยคนไทยมีอะไรที่เหนือกว่า ทำให้กลืนชาติพันธ์ชาวขอมไปจนหมด ซึ่งก็น่าหมายความว่า คนขอมโบราณในพื้นที่ที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน ได้กลายเป็นคนไทยไปจนหมดแล้ว  ซึ่งถ้าพิจารณาดูแล้ว ชาวอิสานน่าจะสืบสายเลือดชาวขอมมากที่สุด เนื่องจากเป็นชุมชนขอมโบราณหลายแห่ง  และการคมนาคมที่ยากลำบากในการเดินทางผ่านเทือกเขาดงพญาไฟ หรือดงพญาเย็นในปัจจุบัน ถ้านับย้อนไปแค่ 100 ปี การเดินทางไปภาคอิสานนี่ถือว่าโหดมากทีเดียว ทั้งเส้นทางที่ยากลำบาก และไข้ป่า เหมือนเป็นปราการกั้น ชาวอิสานเมื่อสัก 100 ปีที่แล้วจึงไปมาหาสู่กัน ในเขตประเทศลาว และเขตประเทศเขมรเสียเป็นส่วนใหญ่  (ลบแผนที่เขตแดนไทย ลาว เขมร ออกไปก่อนนะครับ) จารึกภาษาขอมด้านในองค์พระธาตุเชิงชุมครับ มีจารึกเอาไว้ 2 แผ่น ผมจำคำแปลได้แค่ ผู้นำหรือเจ้าเมืองชื่อ "โขลญพล" จารึกในสมัยพุทธศววรษที่ 16  ต้องรอวันพระใหญ่นะครับ  ถึงจะเปิดให้เข้าภายใน  เพราะมีวัตถุโบราณอายุกว่าพันปี  เคยเอาภาพนี้ให้คนเขมรอ่าน ปรากฏว่าอ่านไม่รู้เรื่องครับ  ได้แค่คาดว่าตัวนี้น่าจะเป็นอักษรอะไร  ส่วนตัวผมจึงคาดว่า ภาษาเขมรเองก็พัฒนามาจากภาษาขอมโบราณอีกทีเหมือนกัน และไม่เหมือนกันเสียทีเดียว  คงจะเหมือนๆกับคนไทยปัจจุบัน อ่านศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงนั่นแหละครับ (ผมเคยไปนั่งอ่านที่ข้างธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์ ไปไม่เป็นเหมือนกันครับ) แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 52 00:20:50 จากคุณ : Satan no.13 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 00:17:59

ความคิดเห็นที่ 15 มีใช้ก็ดีแล้ว จากคุณ : ฉั่วเป่งใช้ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 04:24:15

ความคิดเห็นที่ 16 คนขอมกับคนไทย อยู่ด้วยกันในแผ่นดินเดียวกัน จนผสมผสานกลายเป็นคนไทยทั้งหมด อาจจะเนื่องด้วยคนไทยมีอะไรที่เหนือกว่า ทำให้กลืนชาติพันธ์ชาวขอมไปจนหมด ซึ่งก็น่าหมายความว่า คนขอมโบราณในพื้นที่ที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน ได้กลายเป็นคนไทยไปจนหมดแล้ว   หรือว่า คนขอมกับคนไทย อยู่ด้วยกันในแผ่นดินเดียวกัน จนผสมผสานกลายเป็นคนขอมทั้งหมด  อาจจะเนื่องด้วยคนขอมมีอะไรที่เหนือกว่า ทำให้กลืนชาติพันธ์ชาวไทยไปจนหมด   แต่ภาษาไทย ง่ายกว่า ภาษาขอม  คนขอมกลับเอาภาษาไทยมาใช้แทน และต่อมาจึงเรียกว่าตัวเองเป็นไทย ทั้ง ๆ ที่จริงเป็นขอม ? ? ? ? ? ? จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 10:23:30

ความคิดเห็นที่ 17 งั้นเรามาหาคำตอบกันหน่อยดีกว่าว่า อะไรคือ ไทยแท้ และไทยแท้อยู่ตรงไหน โปรดอย่าลืมกันว่า ในสุวรรณภูมินี้ ประกอบขึ้นจากหลายชาติพันธุ์ ทั้งไทยเล็ก ไทยใหญ่ ไทยยวน ส่วย ขอม ฯลฯ ซึ่งแต่ละชาติพันธุ์ก็กระจายอยู่ทั่วแผ่นดินนี้ ซึ่งต่างก็มีภาษา จารีต และวัฒนธรรมเป็นของตนเอง โดยส่วนตัว ผมคิดว่า "ไทย" จริงๆ เกิดขึ้นในหลังจากสมัยจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ที่เริ่มการสร้างวัฒนธรรมใหม่ และมีผลมาจากประดิษฐกรรมของหลวงวิจิตรวาทการทั้งสิ้น ทั้งการสร้างชาตินิยม การกลืนวัฒนธรรมต่างๆ การบังคับให้เรียนภาษาไทยกลาง ตลอดจนอะไรต่างๆ มากมาย ลองช่วยกันพิจารณาดีกว่า จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 10:55:20

ความคิดเห็นที่ 18 ให้สังเกตุอักขระประดิษฐ์นะครับ เห็นชัดเจนคือ อักษรเกาหลี ซึ่งเป็นอักษรประดิษฐ์ มีเอกลักษณ์ชัดเจน โดดเด่น ไม่เหมือนใครในภูมิภาคเดียวกัน อักษรจีน ก็คืออักษรจีน เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ เป็นอักษรภาพ หนึ่งตัว มีเสียงอ่าน และมีความหมาย ไม่ต้องประกอบกับเสียงสระ อ่านออกมาได้เลย อักษรญี่ปุ่น นี่พัฒนามาจากอักษรจีน หนึ่งอักษร มีเสียงสระต่อท้าย ออกเสียงได้เลย แต่มีความหมายหรือไม่ แยกเป็นกรณีไป และภาษาญี่ปุ่น ก็รับอักษรจีนไปมาก เกาหลี เมื่อก่อนก็ใช้อักษรจีน แต่มีการประดิษฐ์อักษรของตัวเอง จนเห็นทุกวันนี้ มีพยัญชนะ ที่ออกเสียงไม่ได้ ไม่มีเสียงสระต่อท้าย ต้องการสระเพื่อการออกเสียง มีระบบการผสมอักษร เกิดเป็นคำ จะเห็นว่าต่างจาก จีน และ ญี่ปุ่น เกาหลีบอกชัดเจนว่า อักษรฮันกึล เป็นอักษรประดิษฐ์ ในขณะที่ญี่ปุ่นก็บอกชัดเจนว่า อักษร ฮิรางานะ และ คะตาคานะ ประยุกต์มาจากอักษรจีน ประเด็นอยู่ที่ อักษรไทย เป็นอักษรประดิษฐ์ หรืออักษร ประยุกต์ ถ้าประดิษฐ์ ก็บอกไปว่า ประดิษฐ์ แต่ถ้าประยุกต์ ก็ต้องบอกว่า ประยุกต์มาจากอักษรอะไรครับ จากคุณ : เบคู กะ อูเว เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 11:22:08

ความคิดเห็นที่ 19 แอบเสนอความเห็นครับ.....ผมชอบอักษรไทยที่ มีการเติมหัว กลม ๆ ครับ - อย่างเช่น สระอา กลายเป็น วอ แหวน กอไก่ กลายเป็น ถอ ถุง จากคุณ : จี.ไอ.จ๊อด เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 13:09:54

ความคิดเห็นที่ 20   คห 16  คุณนายช่างปลูกเรือนครับ ผมมี "ความคิด" คล้อยไปเป็นอย่างหลังมากกว่าครับ เพราะเปอร์เซนต์คนไทย เทียบกับคนขอมแล้วคนไทยมีน้อยกว่า  คนที่อยู่ในแผ่นดินไทยส่วนใหญ่ จึงเป็นชาวขอมครับ แต่ชาวขอมกับชาวไทยได้ร่วมพงษ์พันธ์ สืบสายมาเป็นคนไทยทั้งหมด  และคนไทย ต้องมีอะไรที่ดีกว่าคนขอมแน่นอน ซึ่งผมก็ยังไม่สามารถหาเหตุผลตรงนี้ได้  อย่างเช่นภาษา ทำไมคนขอมจึงยอมรับและใช้ภาษาไทย  ทั้งๆที่ภาษาขอมก็มีใช้มาก่อนหน้านั้น  และอะไรทำให้ชาวขอมละภูมิชาติพันธ์ของตนมาเป็นคนไทย  (ชาตินิยมในสมัยรัฐนิยม  ยังสอนให้ดูถูกคนเขมร ซึ่งก็เป็นขอมอีกกลุ่มหนึ่ง ทั้งๆที่คนไทยและคนเขมรรวมทั้งคนลาวก็สืบมาจากชาวขอมด้วยกัน) แต่บรรรดาพวกชาตินิยม ถล่มผมยับครับ ทั้งในที่สัมมนาวิชาการ  และที่โรงเรียน  ขนาดเรียกผมว่า "ไอ้เขมรเนรคุณ" เลยครับ  .... ยกข้อหักล้างเรื่องคนไต  ไปโน่นเลยครับ ตั้งแต่อาณาจักรน่านเจ้า ถูกมองโกลตีแตกแล้ว ไทยแยกเป็น 3 สาย  ไทน้อยถอยร่นลงมาสร้างสุโขทัย  ... นี่มันแบบเรียนสมัยรัฐนิยมชัดๆ  ...  ผมก็พยายามแย้งว่า คนไทยไม่ได้ถอยร่นมาจากไหนครับ เป็นกลุ่มที่อยู่ติดแผ่นดินนี้อยู่แล้ว อยู่มากว่า 3,000 ปี อย่างแอ่งอารยธรรมอิสาน  แอ่งสกลนคร รอยอารยธรรมที่บ้านเชียง  ภาพเขียนที่ผาแต้ม  .... ท่านเหล่านั้นก็โต้ตอบมาว่า พวกนั้นสูญสิ้นเผ่าพันธ์ไปหมดแล้ว .... ??????? คนไทยถูกปลูกฝังเรื่องชาตินิยมมานาน จนครอบงำความคิดของผู้ใหญ่  ยากที่จะปรับปรุงทัศนคติแล้วครับ  ตัวเล็กๆอย่างผมก็ได้แต่เงียบไว้ครับ จากคุณ : Satan no.13 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 13:12:23

ความคิดเห็นที่ 21 - นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม เติม หาง อย่าง ลอ ลิง เป็น สอ เสือ บอ ใบไม้เป็น ปอ ปลา - และกลุ่ม เติม หยัก อย่าง คอ ควาย เป็น คอ คน  ดอ เด็ก เป็น ดอผู้ใหญ่ เอ๋ย ตอ เต่า บอ ใบใม้ เป็น พอ พาน - และอีกหลาย ลีลา เสียงสูง กลางต่ำ วรรณยุกต์ เวลา เอามาแต่งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน นี่ หยุ่ง เหยิง คิดกัน ขมองแตก - อยากให้มี อักษร แทน คำ เหมือน จีน ญี่ปุ่น เหมือนกัน เท่าที่ผม นึกออก มีเพียง ตัว ฤ เอาไว้ใช้จน งง ว่าจะเป็น หรือ รึ หลังประโยคคำถาม หรือ เชื่อมประโยคดี   - จะมีภาษาชาติไหน ละเมียด เท่านี้ไหมหน่อ เรื่องภาษาเขมรนี่ผมไม่มีพื้นความรู้เลย นอกจาก หมอเขมร - ผมภูมิใจครับ ที่ได้ใช้ ภาษาไทย จากคุณ : จี.ไอ.จ๊อด เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 13:31:33

ความคิดเห็นที่ 22 **************** ขอม คือไทย ไม่ใช่เขมร **************** ประโยคนี้เป็นจริงแค่ด้านเดียว อันที่จริงแล้วขอมเป็นชื่อเรียกของวัฒนธรรม ซึ่งขอมนั้นประกอบด้วยคนหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น เขมร ไท มอญ ละว้า ฯลฯ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับว่า ชนชนผู้ปกครองของขอม โดยมากเกี่ยวดองกับเขมร และศูนย์กลางของอาณาจักร ก็อยู่ในประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน อารยะธรรมของขอมได้รับมาจากชมพูทวีป แต่ไม่ได้รับหรือลอก มาทั้งหมดเพราะอารยธรรมนั้นมีการผสมผสาน ปรับปรุ่ง และมีการ พัฒนาต่อยอด มาอย่างยาวนานนับร้อยนับพันปี ชนชั้นผู้นำของขอมยุคแรก ๆนั้น คือการผสมกับระหว่างชาวอินเดีย และหัวหน้าชาวพื้นเมืองในพื้นที่ ซึ่งชนพื้นเมืองในพื้นที่นั้น มีการผสมกันจนได้เป็นชาวเขมรในปัจจุบัน ส่วนอาณาจักนละโว้นั้น ก็นับเป็นอาณาจักรขอม แต่ยุคหลัง ๆ อำนาจของชนชั้นปกครองตกเป็นของคนชาติไท และปฏิเสธอิทธิพลขอม ซึ่งอาณาจักรละโว้นี้ภายหลังได้พัฒนามาเป็นอยุธยา ไทเริมแผ่อำนาจทับขอมตั้งแต่ปี พ.ศ.1700เศษ ช่วงนี้ ไทขับไล่ขอมและ กุมอำนาจเหนือลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ใีปีพ.ศ.1800เศษ ไทได้ทำสงคราม กับขอมโดยตรง(หมายถึงรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนขอม) สามารถขับไล่ขอม ออกจากภาคตะวันออกในปัจจุบันได้ ปรากฏหลักฐานทางฝ่ายจีนว่า ขอมเกณฑ์ประชากรทุกคนเป็นทหารทำสงครามกับไท แต่ขอมเสียหายย่อยยับบ้านเรือนถูกทำลาย สมบัติถูกแย่งชิง ถึงขั้นขอมต้องลงเรือหนีลงทะเล ส่วนหนึ่งหนีไปกัมพูชา อีกส่วนก็หนีไปมลายู นักประวัติศาสตร์ไทยสมัยก่อน ตีความว่า ไทที่ทำสงครามกับขอมนี้คือพ่อขุนรามคำแหง แต่จากหลักฐานใหม่พบว่า ในช่วงนั้นพ่อขุนรามคำแหงป่วยกำลังใกล้สิ้นพระชนน์ ไม่น่าจะยกทัพไปรบกับขอมได้ และพบหลักฐานจากฝ่ายจีนว่า ในสมัยกุบไลข่านนั้น นอกจากสุโขทัย ที่ส่งบรรณาการให้ราชวงค์หยวน ก็ยังมีไทอีกกลุ่มหนึ่งคือลพบุรี(ละโว้)อีกอาณาจักรหนึ่งที่ส่งบรรณาการให้ราชวงค์หยวน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ไทที่รบกับขอมในช่วงนั้นน่าจะเป็นไทละโว้ ไม่ใช่ไทสุโขทัย จากคุณ : Sarani เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 14:49:44

ความคิดเห็นที่ 23 เพิ่มเติมอีกนิด ในสมัยอยุธยานั้น ไทมีอำนาจเหนือขอม พระมหากษัตรย์ไทสามารถเอาเขมร(ช่วงนี้ขอเรียกเขมรละกัน) มาเป็นเมืองขึ้น พงศาวดารเขมรบันทึกไว้ ขุนหลวงพระงั่วรบชนะเขมร ได้กวาดตอน ประชาชน ขุนนางข้าราชการ ประมาณ 9หมื่นคน กลับไปอยุธยา นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆครั้งที่ไท ไปกวาดต้อนชาวเขมร หรือแม้กระทั้งคนชาติอื่นมาไว้ในอาณาจักรตน มีบันทึกจากพวกฝรั่งบันทึกไว้ว่า ในสมัยพระนารายณ์ มีชางต่างชาติอยู่ใน อยุธยา ประมาณ 1 ใน 6 ดังนั้นคนไทยในปัจจุบันนั้น ถ้าจะหาคนไทแท้ ๆ คงหายากเติมที และไม่แน่ว่าพ่อแม่พี่น้องของพวกเรา อาจเกี่ยวดองกับ ลาว เขมร ไทล้านนา ก็เป็นได้ จึงสรุปได้ว่า ไทย เขมร ลาว ต่างก็เป็นพี่น้องทั้งนั้น ถ้ามีโอกาสก็พูดคุยกันดี ๆ อย่าไปดูถูก หรือเหยียดหยามเขาเลย จากคุณ : Sarani เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 14:58:16

ความคิดเห็นที่ 24   ทำไมต้องเอามาเปรียบเทียบ ของไทยกับต่างชาติล่ะครับ **จขกท** ทำอย่างกับไม่ใช่คนไทยเลย จากคุณ : Lucifer13 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 15:38:50

ความคิดเห็นที่ 25   ^ ^ มันก็คล้ายกันจริง ๆ นี่ครับ คนช่างสังเกต ช่างสงสัย โดนด่าซะงั้น จากคุณ : ผู้ชายที่หลงรักตัวอักษร เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 15:47:32

ความคิดเห็นที่ 26   ขอบคุณ คุณ Sarani มากครับ จากคุณ : Satan no.13 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 18:33:07

ความคิดเห็นที่ 27 ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพม่า กัมพูชา ลาว และ เวียดนาม ปัจจุบัน ทั้งในอดีตกาลที่ยาวนาน หรือ ในช่วงที่เรากำลังแรกเปลี่ยนความรู้กันอยู่นี้ ก็เฉกเช่นเดี่ยวกันกับไทย คือ ไม่มีเขมร แท้ ลาวแท้ เวียดนามแท้ เหมือนกันครับ หากมองเช่นนี้เราจะเห็นความเหมือนและแตกต่าง ประวัติศาสตร์จะสนุกและน่าสนใจอีกมาก จากคุณ : Plateen เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 52 21:39:35

ความคิดเห็นที่ 28 บางทีประวัติศาสตร์ (ที่บิดเบือน).... พาคนในประเทศให้ด้อยพัฒนาทางปัญญาจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ประวัติศาสตร์ ที่เหยียดหยามประเทศหรือชนชาติอื่น จากคุณ : Mikoyan เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 08:11:01

ความคิดเห็นที่ 29 แหม สนุกจัง จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 15:45:05

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าขอมแพ้ละโว้จนกระจัดกระจาย ส่วนหนึ่งมารวมกับสยามภายหลัง ส่วนหนึุ่งอยู่ต่อที่เดิมรวมกับญวนกลายเป็นเขมรปัจจุบัน แล้วใครจะตู่เอาวัฒนธรรมขอมเป็นของตัวเองฝ่ายเดียวได้ไหม? ก่อนจะคลั่งชาติ ก็ลองขบคิดหาคำตอบก่อนว่า ใครคือคนไทยแท้ๆ? ในเมื่อ เชื้อสายลาว ญวณ มอญ ล้านนา มลายู ก็อยู่ในแผ่นดินนี้มาตั้งแต่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เ้ช่นกัน แล้วใครล่ะเป็นไทยแท้ๆ? จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:59:27

ความคิดเห็นที่ 31 ครับ ในทางเดียวกันหากมองลักษณะนั้น มันก็ไม่มี ลาวแท้ เขมรแท้ มอญแท้ เวียดนามแท้ มลายูแท้ ล้านนาแท้ เช่น กัน เพราะต่างก็หล่อหลอมมาจากวัฒนธรรมย่อยที่หลากหลาย บางทีการก่นด่า เรื่องชาตินิยม เรื่องไทยแท้นี่ ในบริบททุกวันนี้ สถานการณ์ตอนนี้มันก็ไม่ใช่ยุคมาลานำไทยแล้ว นอกจากคนที่จมฝังตัวอยู่กับอดีตจนไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง ในอีกด้านผมมองว่าเป็นการสร้างมุมมองทางชาติพันธุ์นิยมที่บิดเบือน ลบตัวตนในเรื่องความเป็นไทย และ แบ่งแยกความเป็นตัวตนใหม่ขึ้นมาในรูปแบบไม่แตกต่างกัน ผมมองว่า หากไทย คือประเทศไทยของเรา ที่พัฒนามาจากวัฒนธรรมอันหลากหลายมีประวัติศาสตร์ยาวนานในการพัฒนามาเป็นประเทศไทยทุกวันนี้ อดีตกาลบางส่วนเราก็มีประวัติและวัฒนธรรมอันงดงามหลายประการร่วมกับเพื่อนบ้าน ก็ไม่แปลกนี่ครับ ในอัตตลักษณ์ไทย ซึ่งอาจจะเรียกว่า "ไทยแท้" ได้นะครับในบริบทเช่นนี้ จากคุณ : Plateen เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 06:36:18

ความคิดเห็นที่ 32 #31 เห็นด้วย ถ้าจะมองหาอัตลักษณ์ของไทย ก็ควรจะมองการผสมผสานของวัฒนธรรม แบบที่ชาวอเมริกันเขามองตัวเอง ไม่ใช่จะมาแบ่งแยกว่า ฉันไทยแท้ เธอน่ะลาว เธอน่ะขอม ทั้งๆที่จริงๆแล้วมันก็เกี่ยวกันกันหมดนั่นแหละ แต่ไอ้แบบที่พูดว่า เขมรไม่ใช่ขอม เขมรเลยไม่มีสิทธิ์ในปราสาทพระวิหาร อันนี้ก็คือแบ่งแยกมั่วๆนั่นแหละ เพราะจริงๆ เขมร และสยาม ก็เป็นลูกหลานที่่ผสมผสานวัฒนธรรมขอมมาด้วยกันทั้งนั้น จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 12:14:31

ความคิดเห็นที่ 33   ผมเจ้าของกระทู้ (กรูผิดด้วยเหรอที่ความสงสัย เห็นมาด่ากันจัง เวร) สรุปอ่ะนะ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา จริงๆแล้วคือประเทศเดียวกัน เพราะสี่ประเทศนี้มีศิลป วัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนา สถาปัตยกรรม หลายๆอย่างร่วมกันหรือคล้ายคลึงกัน และแตกต่างประเทศอื่นๆอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าไม่ พวกยาวีก็ไม่ควรมารวมอยู่ในประเทศไทย เพราะใช้คนละภาษาและความเชื่อทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรมก็ไม่เหมือน เวียดนามก็ไม่น่ามารวม เพราะไม่มีวัดแบบไทย หน้าก็ออกไปทางจีนมากกว่า ไม่เหมือนคนไทย พม่า ลาว กัมพูชา หน้าเหมือนกันชนิดที่แบบว่าเป็นประเทศเดียวกันได้เลย (ฟิลิปปินส์ก็หน้าเหมือน แต่ศิลป วัฒนธรรมไม่เหมือนนะจ้ะ) จากคุณ : maceofzeus เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 17:00:43