ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนพระเครื่องต้น จัดถวายครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 10:41:03

ความคิดเห็นที่ 2 มีการกล่าวถึงในหนังสือใกล้เบื้องพระยุคลบาท ของคุณลัดดาซุบซิบ ว่าห้องพระเครื่องต้น นั้นมี หัวหน้าส่วนพระเครื่องต้น ณ พระตำหนักจิตรลดาฯ คนปัจจุบันชื่อ เอกสิทธิ์ วัชรปรีชานนท์ โดยมีพระเครื่องต้นอยู่ ๓ ห้อง - ห้องพระเครื่องต้นฝรั่ง มีลูกหลานกุ๊กแต่รัชสมัย ร.๖ เป็นคนจีนชื่อ เยี่ยหง แซ่ห่าน - ห้องพระเครื่องต้นหวาน คุณสมิง ดวงทิพย์ - ดูแลห้องพระเครื่องต้นไทย   ท่านผู้หญิงประสานสุข ตันติเวชกุล มารดาวัย ๘๐ ต้น ของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 11:01:06

ความคิดเห็นที่ 3   ไม่ทราบว่ามีพนักงงานผู้ทำหน้าที่ทดสอบอาหารหรือไม่นะครับ จึงขอเรียนดังนนี้ เเละขออนุญานอกเรื่อง                ที่ทราบก็ คือ เมื่อเครื่องเสวยปรุงเสร็จและจัดลงในจานชามเรียบร้อยแล้ว  พนักงานในห้องเครื่องจะจัดเรียงเครื่องเสวยและตรวสอบให้ตรงกับรายการ แล้วบรรจุลงถาดเงินแล้วห่อหุ้มด้วยผ้าขาวผูกโบว์ตีครั่งประทับตรา  มีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังยกไปยังที่ ๆ มีพระราชประสงค์ให้ตั้งเครื่อง เเละไม่มีผู้ใดทำลายตราครั่งจนกว่าจะถึงเวลาเสวย  และหัวหน้าผู้ประจำโต๊ะเสวยจะเป็นผู้แกะครั่งด้วยตนเองเท่านั้น เเละมีการจัดเวรอย่างมีระบบระเบียบ                 เมื่อก่อนท่านผู้หญิงประสานสุขเป็นผู้ปรุงเครื่องเสวยไทยถวาย ซึ่งปรุงทั้งเครื่องคาวเเละเครื่องหวาน โดยใช้ตำรับต่างๆ ดั่งเดิมเเละคิดขึ้นใหม่ ด้วยความที่มีภูมิลำเนาเป็นชาวเพชรบุรี จึงมีปรุงเครื่อเสวยในท้องถิ่นได้ดี และนำวัตถุดิบของจ.เพชรบุรีมาดัดดเเปลงได้อย่างน่าสนใจ เช่น ลอดช่องน้ำตาลข้น ที่ปรุงน้ำกะทิข้นเหลวด้วยน้ำตาลโตนด และแทรกด้วยเกลือเพียงเล็กน้อย และเเกงหัวตาลหรือเเกงหัวโตนด และยังมีเครื่องเสวยพิเศษที่มีท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค รับพระราชเสาวนีย์ให้ร่วมคิดรายการถวายทั้งในส่วนพระองค์และส่วนในหลวง                 ขณะประทั้บ ณ วังไกลกังวล เครื่องเสวยบางครั้งจัดถวายจาก โรงเเรมข้างนอกก็มีครับ เเต่ต้องผ่านการตรวจสอบที่เคร่งคัดเช่นเดิม และยังมีห้องเครื่องในวังนำขึ้นทูลเกล้าฯเป็นการปกติ *** ขอเพิ่มเติม คุณ คคห. ที่ 2-3  เด็กท้ายวัง                ท่านผู้หญิงประสานสุข ตันติเวชกุล ปัจจุบันถึงเเก่อนิจกรรมแล้วนะครับ พระราชทานเพลิงศพ  เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2546                  เมื่อปี สองปีก่อน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงมีรับสั่ง ให้นำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทรงให้ทำถวายขึ้นโต๊ะเสวย ที่วังไกลกังวล ทุก 3 วัน แต่ปัจจุบันไม่ทราบความถี่ในการทูลเกล้าฯ เหมือกันครับ                             โดยส่วนตัวมักจำสลับกันท่านผู้หญิงประสารสุวรรณ มารดาท่านพลากร และคุณพระนาย  สุวรรณรัฐ  เป็นเสมอๆ                 รูปท่านผู้หญิงประสานสุข ตันติเวชกุล มารดา อ.ดร.สุเมธ จากคุณ : hoshi_pupu :: ข้าหลังวัง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:30:15

ความคิดเห็นที่ 4 ลัดดาคงไม่ update แล้วมั้ง ท่านผู้หญิงประสานสุข ท่านเสียไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:30:49

ความคิดเห็นที่ 5   ลัดดาจอมมั่ว แบบเเกงโฮะครับ เอาแกงนั่น ต้มนี่ ผัดโน่นมารวมๆ กันเข้าก็ได้แกงชามใหม่ขายสร้างรายได้ แต่ก็ยังมีข้อดีนะครับ เป็นคีย์ให้ผู้ที่ต้องการค้นคว้า  จะได้เป็นเเนวในการสืบค้นข้อมูล จากคุณ : hoshi_pupu :: ข้าหลังวัง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 13:36:43

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับ ว่าแต่ ลัดดา คือใคร อะไร ยังไงครับ??? งง จากคุณ : taro-tg69 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 19:00:31

ความคิดเห็นที่ 7   เพื่อนไปฝึกงานที่ปาร์นายเลิศ เค้าบอกว่าที่นี่ทำอาหารเช้า ถวายในหลวงคือซุปฟักทอง จากคุณ : รู้รักสามัคคี เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 21:22:15 A:124.120.180.137 X: TicketID:175904

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ คุณเด็กท้ายวังและคุณข้าหลังวังที่กรุณาให้ความรู้ และขออนุญาตตอบคุณข้างบนนะครับ "ลัดดา" คือนามปากกาของ คุณแถมสิน รัตนพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นผู้เขียนบทความ "ซุบซิบ" คนแรก ๆ ของเมืองไทย มีผลงานในนิตยสารหลายเล่ม เช่น สกุลไทย ผู้จัดการ สมรสกับคุณลัดดา มีบุตรด้วยกัน ๑ คน แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 52 21:37:08 จากคุณ : วศินสุข เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 21:35:32

ความคิดเห็นที่ 9 ผมอยากจะให้กิฟท์กับคุณข้าหลังวังในหลายๆกระทู้เป็นอย่างยิ่งเลยครับ เพราะได้ให้ความรู้ สร้างความอัพเดตให้เป็นข้อมูลปัจจุบันมากๆ ออกตัวก่อนครับ จริงๆแล้ว ผมก็ตามอ่านจากหนังสือนี่ล่ะ เป็นเด็กท้ายวังน่ะครับ ต้องติดตามข่าวสารเอาไม่งั้นจะไกลปืนเที่ยงเสีย  แต่ถ้าได้รับความรู้จากท่านทั้งหลายมาเสริมให้สมบูรณ์มันก็เป็นสิ่งที่ดีครับ เรื่องคุณลัดดาซุบซิบนั้น ผมมองว่าท่านก็มีส่วนดีเยอะอยู่นะครับ ถ้าตามอ่านจากในหนังสือพิมพ์ บางครั้งเรื่องในวังอะไรหลายๆอย่างก็ได้เค้านี่ล่ะที่เอามาให้คนนอกวังอย่างพวกเราได้รับรู้กัน รวมถึงข้อมูลที่ผมนำมาก็อีกเช่นกัน ถ้าไม่ได้หนังสือของเขา ก็คงไม่ทราบเหมือนกันว่าห้องพระเครื่องต้นมีแบ่งเป็น ๓ ห้องน่ะครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 22:36:42

ความคิดเห็นที่ 10 โรงแรมสวิสโซเทล นายเลิศปาร์คนี่มีพ่อครัวดีมากๆแน่ๆเลยครับ เพราะเท่าที่จำได้เป็นที่พอพระทัยกับพระบรมวงศ์หลายๆพระองค์ทีเดียว จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 22:41:18

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณอีกครั้งครับ ขอถามอีกนะครับว่า ห้องเครื่องต้อง stand by 24 ชั่วโมงไหมครับ? จากคุณ : taro-tg69 เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 00:24:58

ความคิดเห็นที่ 12   ไม่ต้องประจำการ 24 ชั่วโมงครับ  เพราะยังไรเสียก็มีมหาดเล็กเวรประจำการอยู่  หากเเต่ห้องเครื่องจะมีกำหนดที่ต้องตั้งเครื่องเสวยเป็นเวลาเพียงเท่านั้น ก็จัดตามเวลา หรือสนองพระราชประสงค์ตามแต่จะมีรับสั่งลงมา บางครั้งก็มีการถวายจากข้างนอก หรือข้าราชบริพารนำขึ้นถวายตามระเบียบ คือ ผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอน                 หลังจากพระกระยาหารค่ำเเล้ว เมื่อก่อนที่ในหลวงทรงงานดึกๆ  มหาดเล็กจะถวายพระกระยาหารว่างเบาๆ อีกชุดหนึ่ง เช่น หูฉลามบ้าง(ตอนนี้งดเสวยเเล้ว เพราะทรงเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ เมื่อก่อนทรงโปรดมาก ขนาดทรงเพ้อระหว่างประชวร “ว่าอยากเสวยหูฉลามไม่ใส่ผงชูรส” คำสัมภาษณ์ท่านผู้หญิงบุตรี รองราชเลขานุการฯ )  บางครั้งก็ตั้งหมี่เกี๊ยวถุงละ 25- 30 ก็มีครับ                 แต่ด้วยขณะนี้ทรงเจริญพระชนมพรรษาสูง จึงมีการงด แต่บางครั้งก็ตั้งเพื่อสนองพระราชประสงค์ตามโอกาส                 ปี 2- 3 ที่ผ่านมา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ รับสั่งให้มีการถวายน้ำข้าวกล้องงอกเป็นพระกระยาหารเสริม ซึ่งในหลวงก็ทรงโปรดมากทีเดียว เเรกเริ่มนำขึ้นถวายทุก 3 วัน เเต่บัดนี้ความถี่ในการเสวยเท่าใดไม่ทราบเเล้วครับ                 และในหลวงก็ทรงโปรดเสวยผัดถั่วงอกมากทีเดียว แต่ต้องผัดเเค่สะดุ้งไฟเท่านั้น กล่าวคือไม่เละจนนิ่ม และต้องไม่ใส่ผงชูรส                 ขอเพิ่มในส่วนห้องเครื่องวังไกลกังวล นั้นใหญ่มากครับ มีส่วนเก็บ อุปกรณ์ จำพวกจาน ชาม  ช้อน แยกต่างหาก และยังมีห้องไว้พระกระยาหารที่ปรุงเสร็จแล้วก่อนนำขึ้นถวาย( แฟนซีรีส์คงคุ้นกับคำว่า “ ห้องลำเลียง” )                 ขอออกตัวก่อนนะครับว่า “ไม่ได้รู้มาก แต่ตอบเท่าที่รู้” ส่วนมากจะเก็บจากการพบพูดคุยกับ ผู้รู้บางท่านบ้าง ในส่วนตัว เรียกว่า “พบปราชญ์น่ะครับ”  แต่ก็อ่านหนังสือเก่าของปู่-ย่านะครับโชคดีที่ท่านเป็นครูเก่า และเก็บไว้มากพอดู เป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียวสำหรับผม จากคุณ : hoshi_pupu :: ข้าหลังวัง เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 10:37:28

ความคิดเห็นที่ 13   ผมก็ตามดู "คุณเด็กท้ายวัง" อยู่เช่นกันครับ ดูเเนวการตอบเเล้วเหมือนยังเด็กครับดูจริงใจ  ดูใฝ่รู้ทีเดียว หลังไมค์มาเเต่ละครั้งบางครั้งก็อึ้งเพราะจนด้วยเกล้าจริงๆ เคยได้ยินเรื่องนี้กันหรือไม่                 ** วันหนึ่งใน พ.ศ.2528 พระทนต์องค์หนึ่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหักเฉียดโพรงประสาทฟัน จำเป็นที่จะต้องตามตัวทันตแพทย์ประจำพระองค์มาถวายการรักษา ทว่าบังเอิญเวลานั้น เป็นเวลาที่ราษฎรกำลังเดือดร้อนสาหัสจากปัญหาน้ำท่วม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีรับสั่งถามทันตแพทย์ว่าจะใช้เวลารักษานานเท่าใด ทันตแพทย์กราบบังคมทูลว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า “ขอรอไว้ก่อนนะ ฉันทนได้ วันนี้ขอไปดูราษฎรและช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมก่อน” ฟังเเล้วคิดว่า การออกชื่อวังไกลกังวล  เป็น  "กังวลไกล" นั่นเห็นจะไม่ผิดนัก เหตุด้วยว่า อยู่ที่ใดทุกข์ของราษฎร์ก็ตามติดชิดพระองค์ไปเสียทุกที่ รูปพระตำหนักเปี่ยมสุขครับ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 52 11:51:52 จากคุณ : hoshi_pupu :: ข้าหลังวัง เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 11:41:44

ความคิดเห็นที่ 14 รักในหลวงค่ะ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน รู้สึกประทับใจจังคะ ที่บางครั้งท่านทรงเคยเสวย บะหมีเกี๊ยวเหมือนกับพสกนิกรด้วย รู้สึกเหมือนท่านเข้าใกล้ประชาชนของพระองค์ทุกคนเลยมีความสุขจัง จากคุณ : lovemonkey เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 13:05:20

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับ ถ้าจะถามต่อ ไม่แน่ใจว่าจะช้าไปรึป่าวนะครับ ถ้าช้าไป ผมขอหลังไมค์ไปถามนะครับ ที่อยากถามคือ พระราชินีทรงเสวยพร้อมกับในหลวงรึป่าวครับ? จากคุณ : taro-tg69 เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 16:40:38

ความคิดเห็นที่ 16 ได้รับทราบมาบ้าง อย่างที่คุณข้าหลังวังว่า ว่าในหลวงท่านโปรดพระกระยาหารง่ายๆ อย่างเช่นผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ เป็นต้น สมเด็จฯก็โปรดพวกยำไข่มดแดง เป็นต้น อย่างร้านผัดไทยทิพย์สมัย ก็ทราบว่า มีรถหลวง มาสั่งผัดไทขึ้นโต๊ะสมเด็จพระเทพรัตนฯ เหมือนกัน ในเรื่องเสวย ในงานเฝ้าฯที่ศาลาดุสิตละมั้งครับ สมเด็จฯมีรับสั่งในเรื่องการเสวยว่า ท่านเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการเสวยมากๆ ตามพระราชประสงค์ เป็นการเสวยแบบมื้อๆ ไม่จุกจิก มีรับสั่งอีกว่า สมเด็จพระเทพรัตนฯทรงพระเจริญด้วยเพราะเสวยจุกจิก ป.ล.ในสมัยรัชกาลที่ ๘ มีการเทียบเครื่อง ที่มีมหาดเล็กเทียบเครื่องอนิจกรรมด้วย เพราะต้องยาพิษ(แต่ไม่แน่ใจว่าจากการเทียบเครื่องหรือไม่) จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:01:20

ความคิดเห็นที่ 17 จากภาพ พระกระยาหารในงานฉลองสิริราชสมบัติ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยฯ จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:01:53

ความคิดเห็นที่ 18 เครื่องหวาน จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:03:54

ความคิดเห็นที่ 19 เครื่องหวานอีก จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:04:08

ความคิดเห็นที่ 20 ซุปใสสไตล์โบราณใช้ผักจากโครงการหลวง เป็นการนำผักสดหลากชนิดจากโครงการหลวงมาต้มปรุงรสแล้วกรองเอากากออกจะได้รสหวานจากผัก ชูรสด้วยเหล้าเชอรี่จะทำให้กลิ่นของซุปหอม จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:04:47

ความคิดเห็นที่ 21 เมนดิช จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:05:54

ความคิดเห็นที่ 22 เมนดิชอีก จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:06:32

ความคิดเห็นที่ 23 เชฟนอร์เบิร์ท คอสเนอร์ จากโรงแรมโอเร็ลเต็ล กำลังทำปลาเทราราดซอสเห็ด จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:08:33

ความคิดเห็นที่ 24 กำลังราดซอส จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:08:52

ความคิดเห็นที่ 25 อีกรูป จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:09:06

ความคิดเห็นที่ 26 รูปสุดท้ายครับ อ่อ พระกระยาหารนี่เป็น state banquet น่ะครับ เดี๋ยวพวกบางพวกจะมาหาว่า ในหลวงทรงฟุ่มเฟือยมากอีก จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:10:05

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นแล้ว หิวจริงๆกระทู้นี้ อิอิ จากคุณ : akkarachai เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 03:24:32

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากๆครับ คุณ natthaset ก็เข้ามาตอบด้วย ดีใจจัง จากคุณ : taro-tg69 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 11:42:08

ความคิดเห็นที่ 29   ไม่มีใครกล้าคิดว่าทรงฟุ่มเฟือยหรอก หากศึกษาเเละติดตามพระราชอัธยาศรัยก็จะทราบได้ว่า ที่เห็นว่า หรูหรานั้นเป็นการพระราชพิธีเเละการรับรองพระราชอาคันตุกะเฉพาะกาลเท่านั้นครับ เพราะ หากเป็นพระราชประสงค์ส่วนพระองค์ ทรงมิโปรดการฟุ่มเฟือย ขนาดพนักงานตั้งเครื่องผัดผักหรืออะไรสักอย่าง มีเนื้อเยอะมาก ก็ตรัสว่า"นี่ผัดผัก ไม่ใช่ผัดหมู"  นี่คือ ในหลวงของเราครับผม จากคุณ : hoshi_pupu :: ข้าหลังวัง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:32:28

ความคิดเห็นที่ 30 นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวงครับ ทรงพระเจริญ จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 12:18:15