|
ความคิดเห็นที่ 14 |
ขอบคุณ คุณแอ๊ด ปากเกร็ด มากๆ ครับที่เอารูปมาร่วมด้วย
ปืนที่ใช้ในยุคนั้น มีเอกลักษณ์ มีเอกภาพเป็นของตัวเองมากครับ คือไทย (สยาม) เอาแบบมาจาก เมาเซอร์ยาว ของเยอรมัน แล้วมาดัดแปลง เรียกว่า ปลยบ.๖๖ (ปืนเล็กยาวแบบ ๖๖) ศูนย์เล็งจะเหมือนเมาเซอร์ เยอรมันเลย ปืนนี้กรมช่างแสง เป็นคนผลิต ระยะทำการ 1000 เมตร ระยะหวังผล 700 ลงมา กระสุนจะเป็นตับ ตับล่ะ 5 นัด กระสุนซ้อมจะทำด้วยหัวกระดาษ กระสุนซ้อมเป้าทำด้วยหัวตะกั่ว กระสุนจริงทำด้วยหัวทองเหลือง (เมื่อถึงเวลาเปิดเผยได้ ผมจะเอารูปมาลงให้ดูครับ) ปลดประจำการ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ ปัจจุบัน กรมช่างแสง เปลี่ยนชื่อเป็น กรมสรรพาวุธทหารบก, เรือ, อากาศ แต่ก็ผลิตยุทธภัณฑ์ที่มีเอกภาพแบบเก่าออกมาได้น้อยมาก ไม่คลาสสิคเท่า ปลยบ.๖๖ ส่วนมากมีกรมนี้ไว้เพื่อซ่อมปืนมากกว่า 5555
ส่วนกางเกงที่ใช้ ของทหารราบจะดัดแปลงมาจาก กางเกงทหารม้าเยอรมัน จะใช้วิธีรัดตั้งแต่ใต้หัวเข่า ถึงตาตุ่ม ให้กระชับ เพราะทหารราบจะใช้วิธีการเคลื่อนย้ายกำลังพลด้วยการเดิน จักรยานเสียส่วนมาก เลยต้องพันให้กระชับ
ปลยบ.๖๖ ถูกแจกจ่ายให้เสรีไทย ทั้งสายชาวบ้าน และสายเมืองนอก (อังกฤษ, อเมริกา) ในการต่อต้านญี่ปุ่น ต่อมาเกิดความแตกแยกด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ ปืนนี้บางส่วนเลยตกอยู่ในมือ ทปท ของพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ฮ. ของทางการที่ถูกยิงตก ส่วนมากจะถูกปืนชนิดนี้นี่แหละครับ
ส่วนดาบปลายปืน อันนี้ก็กรมช่างแสง ดัดแปลงมาจาก Short Seber (กระบี่สั้น) ของเยอรมัน
จะสังเกตุได้ว่าการทหาร สยาม (ไทย) จะได้รับอิทธิพลจากเยอรมันค่อนข้างมาก เพราะเยอรมันตอนนั้น ยุทธภัณฑ์พัฒนาไกลกว่าชาติอื่นๆ มาก
ป.ล. ส่วนปืนกลเบา จะขอไปเทียบกับอ้างอิงก่อน เขียนไปตอนนี้ อาจจะผิด
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 10:49:08
จากคุณ |
:
พี่คนใต้ใจดี
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ส.ค. 52 10:44:15
|
|
|
|
|