ความคิดเห็นที่ 1 |
ไปสนใจทำไมหนังสือเฮงซวยแบบนี้ ดูความเฮงซวยของมัน ขายได้เพราะการตลาดชัดๆ
1. The Top Secret ขายได้เพราะไปตั้งชื่อคล้าย bestseller คือ The Secret จุดขายก็คือ The Top Secret ทำให้นักอ่านไทยหลงคิดว่า นักเขียนไทยเขียนได้ดีกว่า
"เพราะคำว่า Top นี่แหละ"
แต่จริงๆแล้วพวกเราต้องยอมรับว่าคนไทยเขียนมาสู้ของฝรั่งไม่ได้ เราไม่ได้ดูถูกคนไทยว่าไม่เก่งนะ ที่เก่งๆก็มี แต่เผลอๆส่งไป สนพ แล้ว สนพ ไม่เอาน่ะ ดันมาเอาแต่ของหมอสม
2. "ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" จุดขายอยู่ที่ไหน มันก็เป็นกลยุทธ์การตลาดคล้ายๆ 1. นั่นแหละ คือ สนพ รู้ว่า
ก. คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธเจ้า
ข. และคนทั่วโลกก็คิดว่าไอสไตน์เป็นอัฉริยะ
ดังนั้น อีตาหมอสม ก็เลย "จับแพะกับแกะมาชนกัน" โดยการเชียร์ว่า
"พระพุทธเจ้าเหนือชั้นกว่าอัฉริยะ ก็เลยทำให้คนไทยหลายๆคนที่ใช้ตรรกะไม่ค่อยจะเป็น คล้อยตาม"
แล้วหนังสือก็เลยดัง ทั้งๆที่จริงๆแล้วต้องมาพิจารณาว่า อีตาหมอสม
"ขนาดเขียนหนังสือเรื่องฟิสิกส์เด็กๆ ยังเขียนผิดเลย (ค้นคว้ามาไม่ดีพอ)"
แล้ว
"เขาจะไปวิจารณ์ผลงานไอสไตน์ได้ไง"
แล้วอีตาหมอสม ก็
"ไม่เคยมีประวัติการเรียนรู้ด้านจิตและวิญญาณเลย แล้วอยู่ดีๆมาคิดว่าศาสดาคิดยังไง ไปเทียบกับอัฉริยะได้ไง? "
มันมั่วทั้งเพ
ตอน Rhonda Bryne เขียนหนังาสือเรื่อง The Secret น่ะ เธอค้นข้อมูล (หนังสือโบราณ) เพียบเลย และไปติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องพลังจิต มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง The Law of Attraction จึงเขียนหนังสือ The Secret ดีๆออกมา แต่อยู่ดีๆ
"หมอสม แค่ค้นข้อมูลเรื่องฟิสิกส์ระดับนักเรียนมัธยม ก็ยังค้นไม่เป็น แล้วดันแต่งชื่อหนังสือว่า The Top Secret ไปเกทับหนังสือ The Secret ของ Rhonda Bryne เพื่อหวังทำการตลาด"
แล้วต่อมาเขาก็พาลไปเขียน เรื่อง "ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" เสียอีก
อย่างนี้เขาเรียกว่า
"ความสามารถมีไม่ถึง แต่อาศัยกลยุทธ์ทางการตลาดขายหนังสือ โดยคนเขียน และ สนพ ดูถูกคนไทย โดยการตั้งสมมุติฐานว่า" ...............
"คนไทยโง่ จึงคล้อยตามว่าหมอสมเป็นอัฉริยะขนาดเทียบพระพุทธเจ้ากับไอสไตน์ได้"
โปรดพิจารณาดูดีๆ แล้วจะเห็นทางสว่าง...
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ส.ค. 52 03:01:28
|
|
|
|