ความคิดเห็นที่ 1 เนื่องจากกระทู้ดังกล่าว ผมได้รับหนังสือ๒เล่มจากผู้ที่เคารพนับถือส่งมาให้ทางไปรณีย์ สมควรที่จะนำมาเพิ่มเติมเป็นภาคผนวกเพื่อให้เรื่องราวชีวประวัติของพระองค์เจ้าปฏษฎางค์สมบูรณ์ขึ้น  แม้ว่ายังไร้เงาสตรีผู้สูงศักดิ์และเรื่องราวที่ขาดหายไปหลังจากที่ท่านทรงออกจากสยามไประเหเร่ร่อนก่อนที่จะทรงบวชเป็นพระภิกษุและประทับอยู่ในศรีลังกา ขอเริ่มด้วยภาพที่คุณเก้าแต้มอยากเห็น  ถ้าไม่มีกระทู้ของคุณเก้าแต้มในห้องสมุดที่ขอรูปพระองค์เจ้าปฏษฎางค์ทรงไว้หนวดเครายาว เรื่องราวของเอกบุรุษพระองค์นี้คงจะไม่มีใครค้นคว้ามาเล่าสู่กันฟัง ตอนนั้นผมหามาได้เพียงภาพนี้ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:17:11

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ก็ได้บรรยายไว้ตอนหนึ่งว่า อาจารย์ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยาไปพูดในปาฐกกถาครั้งหนึ่งที่ญี่ปุ่น ใจความประมาณว่า ในปี๒๔๖๓ กรุงโตเกียวได้จัดการประกวดระดับนานาชาติ บุรุษผู้มีเครายาวและสวยที่สุดในโลกขึ้น ซึ่งผู้เข้าประกวดสามารถส่งเป็นรูปถ่ายได้ พระองค์เจ้าปฏษฎางค์ตอนนั้นไว้เครายาวแบบโบฮีเมีย ก็เข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศ ทราบว่ารูปถ่ายของท่านที่ส่งเข้าประกวด ครั้งหนึ่งแขวนแสดงไว้ในอิมพีเรียล โฮเตล อันโด่งดัง โรงแรมนี้ต่อมาในสมัยหลังสงครามได้รื้อลงแล้วสร้างเป็นตึกสูง แต่ก็ยังมีอีกภาพแขวนไว้ในรีสอร์ทโฮเตลเก่าแก่แห่งหนึ่งในฮาโกเน่ คราวที่แล้วผมไม่มีภาพนี้ ซึ่งเพิงจะได้มาทางไปรณีย์ดังกล่าวแล้ว ในภาพเขียนบรรยายว่าถ่ายในปี๒๔๖๓เช่นเดียวกัน ก็คงจะภาพนี้แหละ ที่ได้รับรางวัลที่ว่า เป็นอันว่า ไม่ต้องไปถึงฮาโกเน่เพื่อจะตามหาภาพที่ชนะประกวดแล้ว จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:19:25

ความคิดเห็นที่ 3 มาดูข้อความที่ท่านทรงเขียนไว้ บนสุด “มอบให้แก่ศิษย์ เอ็ม ชินานันท์ภิกขุ (M. Jinanand Bhikhu) ๒๘กรกฎาคม๒๔๖๔” สงสัยจะเป็นพระศรีลังกาที่อดีตเคยเป็นศิษย์ โดยท่านอาจจะเป็นพระอุปัชฌาย์ สังเกตุจากฉายาที่คล้ายชินวรวงศ์เมื่อครั้งที่ท่านเป็นพระภิกษุเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 23:37:42 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:23:32

ความคิดเห็นที่ 4 “ถ่ายเมื่อสูญเสียเพื่อนแท้หนึ่งเดียวผู้เป็นเสมือนบิดาบุญธรรมคนที่๒ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เพื่อนผู้เป็นชายชาตรีและเป็นผู้เสียสละเพื่อชาติแท้จริงของสยาม” กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงเป็นเพื่อนในยามยากของพระองค์เจ้าปฏษฎางค์นั้น ครั้งยังเป็นพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เสด็จไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๘ ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่พระองค์เจ้าปฏษฎางค์ทรงเป็นอัครราชทูตอยู่ทวีปยุโรป แต่ก็ประจำอยู่ในปารีส ทั้ง๒พระองค์จึงไม่น่าจะสนิทสนมกันได้   ๑๑ มีนาคม ๒๔๕๔ พระภิกษุพระองค์เจ้าปฏษฎางค์ถูกบังคับให้สึกหลังจากเสด็จกลับจากศรีลังกามาร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าหลวง ก่อนหน้านั้น๑ปีกรมหลวงราชบุรีฯ ทรงทำหนังสือกราบบังคมทูลลาออกจากราชการเพราะประชวรปวดพระเศียร (คดีพญาระกา) แม้ว่าในปี๒๔๕๕ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรง กลับเข้ารับราชการเป็นเสนาบดีกระทรวงเกษตรธิการก็ดูไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับวิถีชีวิตของพระองค์เจ้าปฏษฎางค์ที่จะนำพามาให้สนิทกัน แต่พระองค์เจ้าปฏษฎางค์ทรงบันทึกไว้ในพระประวัติว่าได้ไปอาศัยบ้านเช่าของกรมหลวงราชบุรีฯ เลยประทานให้อยู่จนตลอดชีวิต จึงได้ซ่อมอยู่จนผู้รับมรดกเรียกคืน แต่ก็ไม่แจ้งว่าเป็นช่วงปีใด ในปี พ.ศ. ๒๔๖๒ กรมหลวงราชบุรีฯทรงประชวรหนักจนต้องเสด็จไปรักษาพระองค์ที่ประเทศฝรั่งเศส และก็สิ้นพระชนม์ที่นั่นโดยสิริพระชันษาเพียง ๔๕ ปี ๙ เดือนเศษ เรียกว่ายังหนุ่มอยู่มากจนใครก็ไม่นึกว่าพระองค์จะสิ้นเร็ว และเมื่อไม่ได้ทรงระบุชัดเจนว่าบ้านที่ประทานให้อยู่จนตลอดชีวิตนั้น เป็นชีวิตใคร พระองค์เจ้าปฏษฎางค์ก็เลยต้องคืนโดยที่เสียค่าซ่อมไปไม่ทราบว่าจะคุ้มกับค่าเช่าที่ไม่ต้องเสียนั้นหรือหาไม่ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:24:47

ความคิดเห็นที่ 5 “ถูกบังคับด้วยความจำเป็นให้สึกในวันที่๑๑ มีนาคม ๒๔๕๔ และปฏิเสธพระสังฆราชานุญาตจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้าแห่งสยามให้บวชใหม่ และพระบรมราชานุญาตจากพระรามาธิบดีแห่งสยามให้กลับไปบวชใหม่ที่ศรีลังกา” ข้อความนี้ขัดกับอีกกระแสหนึ่งที่ว่า สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงวินิจฉัยว่าพระชินวรวงศ์(พระภิกษุพระองค์เจ้าปฏษฎางค์) กระทำอทินนาทานต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากการเป็นพระสงฆ์เสียแล้ว ตั้งแต่ครั้งแอบเอาพระบรมสารีริกธาตุที่อังกฤษขุดได้ที่อินเดียไว้กับตนโดยที่เจ้าของมิได้รู้เห็น ถ้าจริงดังว่าผู้ต้องปาราชิก ก็ไม่สามารถบวชอีกได้ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 09:57:18 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:26:01

ความคิดเห็นที่ 6 พระองค์เจ้าปฏษฎางค์ ในช่วงที่ทรงเจริญรุ่งเรืองทางโลก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:26:44

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อเริ่มเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์ ทรงเป็นพระชินวรวงศ์ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:27:26

ความคิดเห็นที่ 8 ผลงานด้านวัตถุธาตุ เมื่อทรงเข้าสู่ทางธรรม พระบรมสารีริกธาตุที่ทรงนำมาจากอินเดียได้ถูกนำมาบรรจุที่นี่ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:28:03

ความคิดเห็นที่ 9 ช่วงท้ายสุดก่อนที่จะทรงหมดบุญในพระศาสนา จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:29:00

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพทั้งหมด มาจากหนังสือเล่มนี้ครับ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:29:35

ความคิดเห็นที่ 11 ... สวัสดีท่านพี่และคุณแสนอักษรครับ ... ... ตั้งกระทู้ปลายสัปดาห์เลยนะครับรอบนี้ ภาพและข้อมูล... อ่านแล้ว ขนลุกครับ ^___________________^ จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:47:52

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบพระคุณมากครับ จากคุณ : เจ้าคุณแม่ทัพ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 00:07:47

ความคิดเห็นที่ 13 เรียนเชิญคุณนวรัตน์ เขียนเรื่อง คดีพระยาระกา  มาให้แฟน ๆ ชื่นใจ ต้นเรื่องก็ยุ่ง   ผลกระทบก็บานบุรีรมย์ คุณ jassb1  ดิฉันได้หนังสือที่หนากว่าพจนานุกรม ใหญ่เท่าๆสยามไสมยมาหนึ่งเล่ม เก็บไว้ใช้ได้หลายเรื่อง จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 00:07:48

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ คคห.ของผมกับคุณแสนอักษรห่างกันวินาทีเดียวเอง ป.ล.พอดีกิ๊ฟหมด ขอมาให้เดือนหน้านะครับ จากคุณ : เจ้าคุณแม่ทัพ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 00:12:12

ความคิดเห็นที่ 15 อย่าให้สัญญาเป็นสายลมนะคะ จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 00:46:29

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีทุกท่านครับ ขอบพระคุณสำหรับกิ๊ฟ คุณแสนอักษรครับ คดีพญาระกาผมว่ารอให้คุณเพ็ญชมพูเข้ามาขยายดีกว่า ขาโน้นข้อมูลเพียบ ผมมีก็เฉพาะในจดหมายเหตุต้นรัชกาลที่๖ จะเป็นมุมที่มองจากหนึ่งเดียวเท่านั้น จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 07:56:59

ความคิดเห็นที่ 17   อ่านไปเศร้าใจไป แต่ได้ความรู้ กระทู้คุณนวรัตนเหมือนช่องอากาศให้หายใจในบึงที่มีแต่จอกแหน รออ่านคดีพญาระกาต่อ (รู้เพียงจากมุมมองร.6 ฟังคุณแสนอักษรว่าแล้วอยากอ่าน) จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 09:30:02

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคุณวสันดิลกครับ แต่ท่านมหาใจเย็นรอคุณเพ็ญชมพูหน่อย แล้วให้คนอื่นๆก็ช่วยกันแจมโน่นแจมนี่จะได้ความรู้และความบันเทิงครบทุกรสตามแบบฉบับห้องสมุดของเรานะครับ คุณแสนอักษรเองผมก็เดาว่ากำลังพลิกคลังตำรารอเสริมอยู่แล้ว จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 09:48:12

ความคิดเห็นที่ 19   ท่านชินานันทภิกขุเป็นศิษย์โปรดของพระชินวรวงศ์ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา ปัจจุบันพระวัสกาดูเว มหินทวงศ์ (Venerable Waskaduwe Mahindawansa Maha Thero) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสและสังฆนายกแห่งอมรปุระนิกาย คลิปข้างล่างเป็นเหตุการณ์เมื่อวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2551 เป็นพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่วัดทีปทุตตมาราม โดยมีนายนิตย์ พิบูลสงคราม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและภริยาเป็นประธาน พร้อม ม.ล.อนงค์ (ชุมสาย) นิลอุบล  ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยาร่วมในพิธี ตอนท้ายคลิปมีกล่าวถึงพระองค์เจ้าปฤษฎางค์,รัตนเจดีย์ ประกอบภาพถ่ายของท่านเหมือนภาพที่คุณนวรัตนนำมาลงไว้ จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 10:00:46

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้สำหรับท่านมหาครับ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 10:15:13

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ Navarat.C พูดดั่งนี้ก็เหมือนนำความคิดอันต่ำต้อยของข้าพเจ้ามาแผ่กลางห้อง (ซูสีไทเฮา) เมื่อไรจะเขียนวิกฤตการณ์วังหน้าคะ  อิฉันนึกไม่ออกว่าจะไปอ่านอะไรมาแจม เรื่องพระยาระกานั้น  ฉบับที่น่าอ่านที่สุดก็คือ พระบิดาของกฎหมายไทย  ที่คุณนิกร ทัสสโรเรียบเรียง  นานมีพิมพ์ ๒๕๔๙  อ่านแล้วก็โล่งใจไม่ต้องควานหาเอกสารอื่นๆมาอ่านตาม ท่านเขียนได้ละเอียดจริง จะให้ดีก็อ่าน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปกร  ของวิมลพรรณ ปีตธวัชชัย  ที่ค้นเอกสารอยู่หลายปี  เป็นระดับมุมมองด้านนโบยาย หนังสือพิมพ์สมัยโน้นอย่างสยามไสมยทั้งหยิกและหยอกเป็นนักหนา เริ่มตั้งแต่ใครมาหลอกตัวละครไป หนูพักตร์เจ้าตัวต้นเหตุนี้ มาหัดละครอยู่ในวังของกรมพระนราธิป  ไม่ได้รับเงินค่าตัว พออายุ ๑๗ ก็ตกเป็นหม่อมโดยไม่สมัครใจ  หนูแกก็นัดแม่มาพาหนี เสด็จในกรมก็พามหาดเล็กร่วมสามสิบไปค้นบ้านอำแดงพุด แม่   และค้นบ้านชาวบ้านไปอีก ๑๘ หลัง หนูพักตร์นี้สงสัยจะเกิดดวงแรงมาก ไม่มีข้อมูลไหนจะดีเท่าที่คุณ นิกร  ทัสสโรเรียบเรียงมาแล้ว จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 10:18:49

ความคิดเห็นที่ 22 คุณแสนแย้มข้อมูลที ตามอ่านกันชนิดหูตาเหลือกครับ ^______________________^ จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 10:23:32

ความคิดเห็นที่ 23 โอ้โห สะใจครับ สะใจ คดีพญาระกาจะมันตรงเบื้องหลังการถ่ายทำ หนูพักตร์นี่แหละเป็นตัวชูโรง น่าติดตามพอๆกับหญิงผู้สูงศักดิ์ในวงจรชีวิตของพระองค์เจ้าปฏษฎางค์เลยทีเดียว เอามาตีแผ่ลงกลางห้องจริงๆเลยครับ รับรองไทยมุงเพียบ ล้วนมีความคิดอันต่ำต้อยอยากไปรู้เรื่องของคนอื่นด้วยกันทั้งนั้น จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 10:49:35

ความคิดเห็นที่ 24 แหม เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านที่มาแบ่งปันความรู้นะคะ เดี๋ยวจะไปหาหนังสือ กรมพระยาเทววงศ์ฯ ขอ คุณวิมลพรรณ มาอ่านอีกทีตามที่คุณแสนอักษรแนะนำ จากคุณ : little kitty เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 11:31:36

ความคิดเห็นที่ 25 อิอิ   หนูพักตร์เธอเป็นดาราลครค่ะ เธอคงไม่เต็มใจรับราชการฝ่ายในเพราะมีชายหนุ่มผู้มั่งคั่งมาชมละครกันหลายคน เสด็จฯ ตามที่อ่านมานะคะ  (หน้า ๓๐๐ คดีพระยาระกา)เสด็จลากหม่อมมาที่ประตูโรงละครแล้วตบต่อหน้าผู้คนในระหว่างแสดงละคร เธอถูกตบมาหลายครั้งแล้ว พูดอยู่เสมอว่า อย่างไรก็จะไม่ขออยู่ที่วัง ถึงจะให้เป็นท่านผู้หญิงก็ไม่อยู่ อำแดงพุดพาหนูพักตร์ไปแจ้งที่โรงพักกองตระเวณบุบฝาราม สงสัยมีทะแนะ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็หาอ่านกันพอได้นี่คะ  ร้านขายหนังสือก็อยากขายจะตายไป เสียดายเจ้านาย คือ กรมหลวงราชบุรี ผู้เป็นที่พึ่งของคนยากทั้งหลาย(คนที่ติดคุกไม่ใช่นักเรียนที่สอบไม่ได้สักที)ผู้เป็นครูที่ลูกศิษย์รักและบูชา(ทรงตั้งอัตราเงินเดือนผู้พิพากษาสูงมากเพื่อรักษาความสุจริต) อิฉันจะเผยอไปอ่านพระประวัติหรือเหตุการณ์บ้านเมืองอะไรได้ นับปีก็ยังไม่ค่อยถูก อ่านที่นายวรรณ(ตามที่เข้าใจผิดกันว่าชื่อเทียนวรรณ)เขียนว่าได้รับพระเมตตาเมื่อติดคุก ก็กลับใจมาอ่านทุกอย่างที่หาได้ เจ้านายไทยที่ทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน  มีค่ะ จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 12:00:24

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องคดีพญาระกาเป็นเรื่องใหญ่ น่าจะแยกออกมาเป็นอีกกระทู้หนึ่ง จะลองเริ่มต้นดู และขอให้คุณแสนอักษรและคุณ Navarat.C ช่วยสานต่อ คดีพญาระกา http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8266277/K8266277.html จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 13:37:23

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านกระทู้พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ พร้อม ๆ กับ ไปอ่านกระทู้พญาระกา ขอบคุณทุกท่านที่นำข้อมูลดี ๆ มาแบ่งปันค่ะ จากคุณ : เกิดมาใจดำ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 13:54:38

ความคิดเห็นที่ 28   ตามเข้ามาอ่านด้วยคนครับ ขอบพระคุณท่าน จขกท และทุกๆท่านที่เข้ามาเสริมนะครับ จากคุณ : MA<O>MiYA เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 21:33:26

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบพระคุณมากที่ให้ความรู้มหาศาล จากคุณ : cybrarian เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 23:54:56

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ little kitty ทำงานใกล้ห้องสมุดหรือคะ  ดีจังเลย วิมลพรรณเป็นนักเขียนประวัติบุคคลที่ นิ่ม  ค่ะ มี กิ้ฟ อย่างแปลกประหลาด ลองอ่านงานเล่มอื่นของเธอนะคะ เธอใช้ข้อมูลหายากเป็นลัง ๆ เธอเคยเป็นนักข่าวหญิงคนแรกของสยามรัฐค่ะ  พูดช้า ๆ   แต่เขียนแกร่ง จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 00:11:48

ความคิดเห็นที่ 31 พูดตามความรู้สึกจากการอ่านผลงานของคุณวิมลพรรณครับ เมื่อตอนที่เธอเขียนเรื่องราวคดีดังร่วมกับแพทย์ผู้บุตร(ของแพทย์ผู้มีส่วนร่วมคดีนั้น) ดูเหมือนกิ้ฟยังไม่ปรากฏอย่างแปลกประหลาดนะครับ ความเป็นเหตุเป็นผลยังน้อยไปหน่อย  อ่านถึง #30 เลยไม่แน่ใจว่าเพราะอิทธิพลจากสยามรัฐหรือเปล่า แต่ความรู้สึกว่าเธอมีกิฟท์ตีตื้นขึ้น ก็ตอนได้อ่านหนังสือชุดที่มี 2 เล่มดังแนะนำข้างบนนั่นแหละครับ อ่านตอนต้น #25 ของคุณแสนอักษร แล้วรู้สึกละเหี่ยใจ ทำกันต่อหน้าประชาชีเลยเหรอ เลยขอนำความบางตอนมาขยายความเกี่ยวกับผู้มีบารมีเจ้าของละครสมัยก่อน เท็จจริงเพียงใดไม่ทราบ เพราะ "พลูหลวง" ผู้ถ่ายทอดก็บอกว่าอ่านมาเหมือนกัน ... ผมเคยอ่านพบว่า  เจ้านาย  หรือ  เจ้าพระยาบางท่านซึ่งมีนิวาสสถานอยู่ในคลองฝั่งธนบุรี  ซึ่งมีละครเป็นของตนเอง  มีโรงซ้อมละคร  ตัวนางเอก เช่น  บุษบา  หรือ รจนา  มักตกเป็นอนุภรรยาของท่านทั้งนั้น  เมื่อท่านชอบใจก็จะเรียกเข้าไปหาในห้องนอนทั้งเครื่องทรง  แล้วก็เสพเมถุนทั้งเครื่องทรงอย่างนั้นแหละ  ผมว่าเป็นการกระทำอันอุบาทว์มาก  น่าจะเกิดผลร้ายแก่ท่านผู้นั้น... จากคุณ : NickyNick เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:10:48

ความคิดเห็นที่ 32 คนที่มีข้อมูล  อ่านมามาก   ศึกษาเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา   ได้ฝึกหัดเขียนบทความที่มีเหตุและมีผลรองรับ มีความจำที่ดีเลิศ   อยู่ในหมู่นักปราชญ์หรือบุคคลที่พบและเห็นมามาก เป็นผู้นบนอบถ่อมตน   สร้างไมตรี ย่อมพัฒนาตนเองได้เกิดความคาดหมายทั้งปวง เห็นแถวนี้เหมือนกัน งำประกายไว้ไม่ได้หรอก จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:10:22

ความคิดเห็นที่ 33 "อรวรรณ"  เขียนไว้หลายแห่งเรื่องเสพนางละครทั้งรัดเครื่องอยู่ น่าจะลำบากนิดหน่อย ไม่เหมือนสอพินยาที่นอนกับกุสุมาที่ไร้สติ  เครื่องแต่งกายมิได้รัดกุมตรึงตราซับซ้อน นักประพันธ์ใหญ่อีกคนก็เขียนไว้  เป็นเชิงตำหนิ คงคิดว่าตนเองเป็นพระอินทร์กระมัง  เฟ้นชมนางสวรรค์ที่เป็นพรหมจารีอยู่เป็นนิจ การบังคับใจของหญิงสาวที่อยู่ใต้การปกครองของภรรยาตนเอง อายุก็แตกต่างกันมาก มิได้เลี้ยงดูยกย่องในฐานะภรรยา ลุแก่มาตุคามโดยไม่คำนึงถึงฐานะอันสูงของตนเอง จริตของนางละครย่อมฝึกปรือมาดีในการเคลื่อนไหวให้ต้องใจชาย เสน่ห์ที่จับใจฝูงชนนั้นเป็นคุณสมบัติพิเศษ เมื่อมีกระทาชายมาร่วมชื่นชม(ออกทรัพย์ตีตั๋วมาดู)มากมาย พระอินทร์ก็ต้องการแสดงความเป็นเลิศชาย เด็ดดอกไม้แรกแย้มเสีย เรื่องก็เป็นดั่งนี้แลสหายทั้งปวง จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:39:11

ความคิดเห็นที่ 34 คุณแสนอักษรคะ ไม่ได้ทำงานอยู่ใกล้ห้องสมุดหรอกค่ะ เป็นคน ชอบ ซื้อหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือ ประวัติศาสตร์ แต่ไม่ค่อยมีที่เก็บเลยต้องเก็บไว้ที่ที่ทำงาน เล่ม ของ กรมพระยาเทวะวงศ์ฯ นี่มีอยู่ใกล้ๆ มือ เลยหยิบกลับมาบ้านได้ค่ะ แต่ดิฉันชอบเข้าห้องสมุดของพันทิปค่ะ เข้ามาอ่านกระทู้ ประเทืองปัญญา อย่างกระทู้นี้ หรือ กระทู้ คดีพญาระกา ค่ะ จากคุณ : little kitty เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:40:42

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ ที่นำมาฝากค่ะ จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 08:44:09

ความคิดเห็นที่ 36 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 15:18:29

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาอ่านความรู้ที่น่าสนใจ ตามมาตั้งแต่กระทู้แรก   ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความรู้และข้อคิด ข้อคิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจเราตอนนี้ คือ ฝีมือของนักเขียนจะพัฒนาจากการอ่านมากเขียนมาก จากประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น แต่หาก "กิ๊ฟ" นั้น เรารู้ว่าเกิดจากฝีมือเขียนของคนอื่น (แม้ไม่ทั้งหมดแต่ก็บางส่วน) เราก็ลดความชื่นชมลง (แต่คุณค่าของงานไม่ลด เพราะเรารู้ว่าใครเขียนบ้าง)  ยิ่งหากเราได้รางวัลจากผลงาน เราก็ไม่รู้จะกล้ายิ้มรับไหมเพราะว่าผลงานนั้นไม่ใช่ฝีมือเราทั้งหมด ^ ^ ^ ก็แค่อยากบอก แต่บอกไม่ได้ จึงได้แต่บ่นๆ แบบรู้คนเดียว จากคุณ : Bt vista เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 15:32:28

ความคิดเห็นที่ 38 คิดว่าเข้าใจ คุณ Bt vista ขอน้อมรับ  และอยากเห็นคุณเข้ามาร่วมวงแสดงความคิดในเรื่องอื่นๆในห้องสมุดนี้อีก การหาเรื่องมาสนับสนุนกระทู้ประวัติศาสตร์ในเรื่องสำคัญๆ ที่ไม่ใช่เรื่องที่เคยอ่านมาก่อน จะทำความเข้าใจ  แล้วถ่ายทอด  คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อนๆแถวนี้ก็ได้อ้างอิงกันอย่างครบถ้วน  เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านที่สนใจไปตามหาหนังสืออ่านได้ บางท่านก็คงได้รายการหนังสือที่จะตนเองตามล่าไปบ้าง ความประสงค์ของดิฉันที่เข้ามาคุยเพื่อชวนกันให้อ่านหนังสือก็ได้ผลตามที่ต้องการแล้ว จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 16:30:34

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ ^ ขอบคุณมากค่ะคุณแสนอักษร อยากมีส่วนร่วมในการพูดคุย  แต่ความรู้ยังน้อยนิด เคยคิดว่ารู้พอควร แต่ยิ่งอ่านมากยิ่งพบว่ายิ่งรู้น้อย ยิ่งคุยหรือรับฟังผู้รู้ก็ยิ่งรู้ว่าตัวนั้นยังด้อยนัก  ชื่นชมท่านทั้งหลายในนี้ทีความรู้ดีๆ มาให้เสมอ ตอนนี้ดิฉันกำลังฝึกปรือฝีมืออยู่ ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาห้องสมุดเท่าไหร่ แต่หากพอมีเวลาว่างหรืออยากหลบจากหน้าที่ตอนนี้ก็จะแวบเข้ามาทันทีค่ะ จากคุณ : Bt vista เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 22:15:36