ความคิดเห็นที่ 1 เชื้อสายใกล้่ชิดครับ แต่จะนับว่าเป็นเชื้อชาติเดียวกันนั้น คงมิเชิง เพราะต่างฝ่ายต่างก็ผสมด้วยชาติพันธุ์อื่นๆรอบๆ ทำให้แตกต่างกันไป โดยหลัีกการดั้งเดิมแล้ว ภาษาเกาหลีจัดเป็นภาษาในตระกูลอัลติกแน่นอนครับ แต่ทว่านักภาษาศาสตร์ยุคหลังๆ มีความเห็นว่า ควรจะจัดภาษาเกาหลีและญี่ปุ่น แยกออกเป็นภาษาต่างหากจากสายอัลติกอื่นๆ เพราะแม้จะมีไวยกรณ์บางประการหรือคำบางคำร่วมกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็มีเอกลักษณ์จำเพาะของตน ทำให้การนำมาเป็นภาษาในตระกูลเดียวกันนั้น นักภาษาศาสตร์บางสำนักไม่ใคร่เห็นด้วยเท่าไหร่ เหมือนคนไทยภาคกลาง กับชาวลาวหล่ะครับ แม้จะมีภาษาในตระกูลไท-กะได เช่นกัน แต่ถ้าว่าด้วยเชื้อสายแล้ว คนไทยภาคกลางปะปนด้วยชาติพันธุ์ต่างๆทั้ง มอญ เขมร ชวา ละว้า ส่วนชาวลาวทางตอนเหนือเอง ก็ปะปนด้วยเชื้อสายของพวก ข่า ขมุ แม้ว ละว้า เช่นกัน (ซึ่ง ข่า ขมุ และชาวเขาเผ่าต่างๆที่หลบหนีเข้าป่า ไม่ยอมลงมารับอำนาจของลาว ปัจจุบันก็กลายเป็นชาวลาวเทิงไป ส่วนพวกที่ยอมอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษชาวลาว ก็แปลงและผสมผสานกลายเป็นลาวลุ่มไปหมด) แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 11:04:32 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 11:04:08 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 11:02:32 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:59:44

ความคิดเห็นที่ 2 ว่ากันทางประวัติศาสตร์ ชนชาติแมนจูสามารถย้อนประวัติไปได้ถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น (ซึ่งอาจจะเลื่อนลอยไปหน่อย) แต่ถ้าจะเอาแบบที่ชัดเจนละก็ ชาวแมนจูก็คือชาวหนี่วเจินที่สร้างกิมก๊กในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้นเอง (ออกเสียงว่า "จูเซิน" ในภาษาแมนจู) ซึ่งเมื่อกิมก๊กถูกมองโกลบุกยึดและทำลายลงชาวหนี่วเจินที่ยังหลงเหลือก็ยังคงกระจัดกระจายอยู่ในแถบภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน แล้วก็ผ่านไป 400 ปี จนกระทั่งหัวหน้าเผ่าผู้หนึ่ง นามนูรฮาชี แห่งเผ่าไอซินจิโอโร ได้รวบรวมชาวแมนจูตระกูลต่างๆ ที่กระจัดกระจายให้มารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และก็อาศัยช่วงความวุ่ยวายจากการโค่มล้มราชวงศ์หมิง และความร่วมมือจากอู๋ซานกุ้ย เข้ายึดเมืองปักกิ่งได้สำเร็จ แล้วก็ปกครองจงหยวนได้ถึง 400 ปี แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 13:56:04 จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 13:55:09

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าดูจากในแง่ความสัมพันธ์ของชนชาติในแถบภูมิภาคเอเซียตะวันออกแล้ว เกาหลี ใกล้ชิดกับทางญี่ป่นและจีน ส่วน แมนจูใกล้ชิดกับมองโกลและจีน และถ้าพิจารณาจากแง่ของภาษาแล้ว ทั้งสองภาษาก็ใกล้กันพอสมควร ทั้งสองภาษาต่างอยู่ในสาย Tungusic ด้วยกันทั้งสิ้น ผมไม่ทราบว่าในสมัยโบราณตอนที่ชาวกิมก๊กสิ้นชาติอยู่ภายใต้การปกครองของมองโกล กับเกาหลีก่อนตั้งราชวงศ์โชซอน ภาษาของทั้งสองมีความใกล้เคียงกันมากน้อยแค่ไหน แต่จากที่ผมศึกษาภาษาแมนจู ตามแบบที่ใช้กันในช่วงต้นราชวงศ์ชิงแล้ว ก็ปรากฎว่า ทั้งสองภาษานี้ มีโครงสร้างทางไวยกรณ์ร่วมกันในบางจุดเช่น โครงสร้างประโยคแบบ   ประธาน-กรรม-กริยา  โดยมี การก บอกหน้าที่ของคำแต่ละคำในประโยค การผันกริยา ทั้งแบบ มาลา - เวลา (แต่ภาษาแมนจูไม่คำเสริมแสดงความสุภาพแบบภาษาเกาหลี) ในส่วนที่แตกต่างก็  เช่น  การสร้างคำใหม่ในภาษา ซึ่งตรงนี้ภาษาแมนจูใช้รูปแบบการสร้างคำใหม่ใกล้เคียงกับภาษามองโกลด้วยการเปลี่ยนเสียงท้ายคำ ตัวอย่าง tacigv โรงเรียน tacimbi การเรียน bithe (อ่านว่าบิทเฮอนะครับ) หนังสือ ตัวอักษร bithesi (บิทเฮอซี) กลอนกระดาษ Usin ท้องนา Usisi ชาวนา honin แพะ honici หนังแกะ คำยืม   จากที่ผมเรียนภาษาเกาหลีมาบ้าง ผมสังเกตุได้ว่า คำยืมในภาษาเกาหลีนั้นส่วนใหญ่ มาจากภาษาจีน (ที่อาจยืมผ่านมาจากญี่ปุ่นอีกที) ส่วนในภาษาแมนจูนั้น ยืมมาจากภาษามองโกลเป็นหลัก (แต่หลังจากที่เข้าปกครองจีนมากขึ้นก็ได้หันมาใช้คำยืมจากภาษาจีนอีกที) และมีคำยืมที่มาจากภาษาทิเบตอีกปะปราย (โดยยืมผ่านภาษามองโกลอีกที) คราวๆ ผมก็พูดได้ประมาณนี้แหละครับ   ผิดตรงไหนก็ท้วงได้นะครับ จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 14:14:10

ความคิดเห็นที่ 4 ทั้ง SinoTibetan & Altaic มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าผิวเหลืองทางใต้ โดยการแยกกลุ่มชาติพันธ์เริ่มตั้งแต่ยุคน้ำแข็งสุดท้ายทางตอนเหนือของจีน เมื่อพ้นยุคน้ำแข็งได้ขยายย้ายถิ่นออกไป บ้างไปปนกับชนเผ่าอื่นๆ เมื่ออยู่ห่างกันนานก็เกิดความแตกต่างทางภาษาและเกิดภาษาใหม่ บ้างได้รับอิทธิพลจากคนท้องถิ่นเช่น ไอนุในญี่ปุ่น หรือเย้าบางเผ่าได้อพยพไปในคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ภาษามีลักษณะจำเพาะ ลองหางานวิจัยพันธุกรรมมนุษย์ ภาษาและชาติพันธุ์ดูนะครับมีตีพิมพ์ออกมาเรื่อยๆครับ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 16:16:12

ความคิดเห็นที่ 5 ผมขอแสดงความเห็นในความเห็นที่ 3 เกี่ยวกับเรื่องภาษาเกาหลีนะครับ โดยจะพูดในสองประเด็นคือ ประเด็นความเป็นมาทางภาษาซึ่งเกี่ยวพันกับบริบททางประวัติศาสตร์ และคำยืมจากภาษาจีนในภาษาเกาหลีครับ ประเด็นแรกนั้น ในความคิดเห็นของผมจากการอ่านหนังสือและบทความทางประวัติศาสตร์เกาหลีมาหลายเล่มอยู่ หากมองในความแง่การส่งผ่านทางวัฒนธรรมแล้ว ควรจะเรียงเป็น จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น และในหลายๆวัฒนธรรมนั้นนั่นก็คือภาษา ผมเห็นว่าคำต่างๆในภาษาเกาหลีและภาษาญี่ปุ่นที่มีความคล้ายคลึงกันนั้นน่าจะเป็นการทีี่่เกาหลีส่งคำเหล่านั้นไปยังญี่ปุ่่นหรือญี่ปุ่นเป็นฝ่ายยืมไปเองมากกว่าที่เกาหลีจะเป็นฝ่ายยืมคำมาจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์โชซอนที่ราชสำนักดำเนินนโยบายต่างประเทศกับชาติที่เจริญด้อยกว่าตนในลักษณะต้องให้ญี่ปุ่นเข้ามาสวามิภักดิ์หรือเป็นฝ่ายเข้ามาหาตัวเอง ในขณะที่โลกทัศน์ของโชซอนมีต่อจีนนั้นดูสูงและพร้อมที่จะยอมรับความเจริญและวัฒนธรรมต่างๆเข้ามามาก (ซึ่งภาษาก็เป็นหนึ่งในนั้น)โดยเฉพาะในช่วงตอนต้นสมัยราชวงศ์โชซอนที่ตรงกับสมัยราชวงศ์หมิงของจีน อีกประเด็นคือคำยืมในภาษาจีนนั้น ภาษาเกาหลีเป็นอีกภาษาหนึ่งที่รับคำจีนเข้ามามากในการสื่อสาร โดยเฉพาะคำศัพท์ที่เป็นทางวิทยาการต่างๆ เช่นการแพทย์ การศึกษา หรือทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น จากคุณ : ภารตยุทธ (ภารตยุทธ) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:46:07

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณภารตยุทธ สำหรับความคิดเห็นครับ คงบู   เข้าใจว่าน่าจะเป็น กงบู้ ในภาษาจีน ซองกง   คงเป็น   เฉิงกง ส่วน  ซูซุล   ก็ต้องเป็น  โซ่วซู่ จำได้ว่า คำพวกนี้เป็นคำนาม  ส่วนคำว่า ฮาดา แปลว่าทำ ซึ่งคงยืมมาจากจีนแน่นอน แต่ว่าไปยังไม่เคยถามเลยว่า   ทำไม ต้อง ซารัง(ความรัก) แล้วค่อย ฮาดา(ทำ) ด้วย  เพราะสองคำนี้ก็คำเกาหลีแท้ๆ เลยนี้หน่า แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 17:55:00 จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:52:17

ความคิดเห็นที่ 7 และขอเสริมการอธิบายโครงสร้างประโยคเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ เผื่อจะได้อ่านความเห็นที่ 3 ได้ชัดเจนมากขึ้นครับ จากคุณ : ภารตยุทธ (ภารตยุทธ) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:02:10

ความคิดเห็นที่ 8 in chinese class in harbin there have many koreans they always told me by comparing with chinese when i asked korean language จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:59:08

ความคิดเห็นที่ 9 แทฮัก ฟังคล้าย ไต่ฮัก (มหาวิทยาลัย) ในภาษาเตี่ยจิว ซองกง ฟังคล้าย เซ่งกง (สำเร็จ) จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 23:46:28