ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะง่ายขึ้นครับ เพราะอย่างน้อยๆ ตัวคันจิก็มีรากมาจากตัวจีน ความหมายพอเดาได้ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 02:32:33

ความคิดเห็นที่ 2 ถามว่าง่ายขึ้นไหม แน่นอนค่ะว่าง่ายขึ้นแน่ ตามความเห็นหนึ่งค่ะ จากคุณ : ploy_angjoe เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 03:37:26

ความคิดเห็นที่ 3 เจอคันจิแล้วสบายเลยค่ะ ถ้ารู้จีนสัก1000-1500 ไปเรียนญี่ปุ่นด้วยก็จะสะดวกขึ้น แต่ก็ต้องเข้าใจว่า เป็นแค่การรับรากไป บางคำไป พวกไวยากรณ์ พวกเสียง หรือคำในบางคำก็อาจมีความหมายที่ต่างออกไปค่ะ บางทีเราจะคุยกับเพื่อนญี่ปุ่น คิดไม่ออกก็เขียนจีนให้เพื่อน เขาก็พอเข้าใจจากคันจิค่ะ จากคุณ : kurika เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 08:22:01

ความคิดเห็นที่ 4 เราเคยพยายามเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่พักนึง ในแง่ความหมายช่วยได้เยอะ แต่เรื่องเสียงอ่านนี่มันตีกันอีรุงตุงนังเลย แถมตัวคันจิที่เจอก็ผสมกันไปหมดระหว่างตัวย่อ ตัวเต็ม แล้วก็ตัวแบบที่ญี่ปุ่นเค้าประดิษฐ์เอง ตอนนี้เลยเอาแค่ภาษาอังกฤษ กับภาษาจีนสองภาษาพอละ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : YuBing เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 11:06:26

ความคิดเห็นที่ 5 ผมกลับเห็นแตกต่างนะ.... ถ้าคุณกำลังจะ "เริ่ม" เรียนจีน จากที่ไม่รู้อะไรเลย เพื่อที่จะเรียนจีนไประยะหนึ่ง (เท่าไรล่ะ?) แล้วค่อยหันไปเรียนญี่ปุ่น บอกได้เลยว่า กว่าที่คุณจะเก่งภาษาจีน จนมันส่งผลดีต่อการเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้น.... คงนานครับ ถ้ามีเป้าหมายที่ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว ควรเรียนภาษาญี่ปุ่นไปเลยดีกว่า อย่างที่ คคห. ๓ บอกว่า "เจอคันจิแล้วสบายเลยค่ะ ถ้ารู้จีนสัก1000-1500 ไปเรียนญี่ปุ่นด้วยก็จะสะดวกขึ้น" ก็คือตรงนี้แหละ ..... กว่าคุณจะรู้จีนสักพันตัวเนี่ย มันนานเท่าไหร่ล่ะ? กว่าจะถึงตอนนั้น ถ้าเริ่มด้วยภาษาญี่ปุ่นแต่ต้น จะไม่ดีกว่าเหรอ? และอีกอย่างหนึ่ง..... ผมรู้จักคนจีนที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่นก็หลายคน แต่ละคน...แน่นอนว่า พวกเขาบอกว่าเขาเรียนภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเทียบความเร็วกันแล้ว ก็เร็วกว่าผม (และคนที่มาจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ตัวอักษรจีน) แน่ ๆ ล่ะ แต่.... ตราบใดที่พวกเขายังไม่ทิ้งวิธีคิดแบบภาษาจีน ผมก็ไม่เห็นว่า มีคนจีนที่พูดญี่ปุ่น/แต่งประโยคญี่ปุ่นได้เป็นธรรมชาติสักคน มันจะเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เพี้ยน ๆ แบบเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่นั่นแล ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน มีประสบการณ์ในการใช้ภาษาญี่ปุ่นนานแค่ไหนแล้วก็ตาม... รวมทั้งเรื่องของการใช้ศัพท์ผิด ๆ หรือตีความหมายของคำแบบผิด ๆ อันเนื่องจากความสับสนในความหมายของคันจิที่เขียนเหมือนกัน แต่ใช้ในความหมายที่แตกต่างกันระหว่างในภาษาจีนกับญี่ปุ่น (อย่างที่คคห. ๔ ว่าไว้) ก็... มาเสนอมุมมองที่แตกต่างครับ สรุปคือ ถ้ารู้ภาษาจีนอยู่แล้วก็แล้วไป แต่ถ้ากำลังคิดจะเรียนจีนแค่คอร์สสองคอร์ส... มันไม่ได้ช่วยในการเรียนภาษาญี่ปุ่นเลยครับ จากคุณ : star_seeker เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 13:38:35

ความคิดเห็นที่ 6 ระวังภาษาจะตีกันหน่อยนะคะ เราดูซีรีย์เกาหลีมากไป ฟังเสียงเกาหลีบ่อยไป ไม่รู้ภาษาเกาหลีได้คำศัพท์บางตัวเท่านั้น ยังเคยเผลอพูดภาษาเกาหลีกับคนจีนด้วยค่ะ จากคุณ : หรงเออร์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 14:58:30

ความคิดเห็นที่ 7 ปกติผมก็เป็นคนสุขภาพแข็งแรง กินอิ่มนอนหลับ  แต่ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นโรคชนิดเดียวกับ คุณ  YuBing เคยเรียนภาษาญี่ปุ่น  แต่แล้วสับสนกับเสียงอ่านภาษาจีนที่ตนเองมีพื้นฐานอยู่แล้ว  เพราะอักษรจีนคำเดียวเสียงเดียว  แต่ภาษาญี่ปุ่นคำเดียวเปล่งหลายพยางค์ในบางครั้ง   จึงสับสนเป็นยุงตีกัน ผลคือ  ถอยดีก่า ไม่อาววลีก่า......... จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 16:22:27

ความคิดเห็นที่ 8 เขียนเหมือนกัน แต่อ่านไม่เหมือนกัน จากคุณ : จอร์ด บางขัน เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 16:37:51

ความคิดเห็นที่ 9 ผมคิดว่าทำแบบนั้นมันจะ ตีกัน นะครับ เอาแค่ pinyin กับ romanji ก็ตีกันแย่แล้วฮะ ผมเรียนจีนแล้วลองไปเรียนญี่ปุ่น พออ่านตัวRomanjiแล้วอ่านไม่ได้อ่ะ ติดอ่านแบบpinyinมาเลย ไหนจะไวยากรณ์อะไรอีก ตัวอักษรคันจิก็ใช่ว่าความหมายจะเหมือนภาษาจีนทุกตัวนะ  บางตัวก็เขียนไม่เหมือนจีนเลย ถ้าจะเรียนญี่ปุ่นก็มุ่งมั่นไปเรียนญี่ปุ่นเลยดีกว่าครับ เรียนจีนเพื่อจะไปเรียนญี่ปุ่นมันเสียเวลานะ ผมว่า แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 52 20:23:03 จากคุณ : maddogg20 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 20:19:47

ความคิดเห็นที่ 10   เห็นด้วยกับหลายความเห็น หากอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้วก็เรียนภาษาญี่ปุ่นไปเลยครับจะได้พื้นฐานแน่นๆ เพราะตัวคันจิหลายตัวเขียนไม่เหมือนจีน (แค่พอเดากันได้) แถมยังมีตัวคาตากานะ มาสะกด คำทับเสียงต่างชาติอีก ฮิรากานะ ก็ใช้ในรูปประโยคด้วย และยังมีการผันรูปของกริยา คุณศัพท์ รูปอดีต รูปปฏิเสธ อีก ฯลฯ เยอะแยะ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่า ไวยากรณ์ญี่ปุ่นซับซ้อนกว่า แต่ถ้าอยากเรียนจีนก็เลือกจีนเถอะครับ เอาให้เก่ง ส่งใจช่วยครับผม จากคุณ : xiaomao เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 20:24:21 A:124.120.192.228 X: TicketID:214314

ความคิดเห็นที่ 11 อาจจะ .. ทำให้เรียนได้ เร็วขึ้น .... เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน แต่ .. เชื่อว่า จะไม่ทำให้ง่ายขึ้น ... เพราะไอ้ความคล้ายคลึงกันนั่นแหละ และ อื่นๆ ฯลฯ จากคุณ : sproutshift เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 01:42:06

ความคิดเห็นที่ 12 โดยปกติถ้าเป็นเรื่องเสียงนี่จะเอาเสียงจีนไปเทียบกับญี่ปุ่นไม่ได้ได้แน่นอนครับ เพราะญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมจีนมาต่างยุคต่างสมัยเสียงของตัวหนังสือจึงแตกค่างกันไป โดยส่วยมากจะรับมาจากภาษาแถบกวางตุ้ง ประมาณนี้ครับ โดยส่วนตัวเรียนเอกญี่ปุ่น รู้ภาษาจีนเป็นทุนเดิม และ ภาษากวางตุ้งเล็กๆน้อยเพราะบ้านเป็นคนกวางตุ้ง เลยจะเดาเสียงญี่ปุ่นได้ เพราะญี่ปุ่นจะมีเสียงปิดท้ายเสมอซึ่งเสียงจะว่าไปเหมือนภาษากวางตุ้งบางอันไปพ้องแต้จิ๋ว  และไม่สามารถทำเป็นเสียงตายได้ จะต้องมีเสียงมาปิดท้ายเพิ่ม มันเลยดูเป็นหลายเสียง และภาษาญี่ปุ่นก็มีใช้ตัวอักษรจีนแต่ใส่เสียงญี่ปุ่น เรียกว่า คุนโยมิ ตรงนี้อาจจะเดาเสียงจากจีนไม่ได้เลย เพราะเป็นเสียงญี่ปุ่นทั้งหมด (แต่อาจจะรู้ความหายไม่เสมอไป)  ตอนแรกเรียนภาษาญี่ปุ่นก็คิดว่าตัวเองแน่ คันจิ อะไรคงแม่น เพราะเป็นคนจีนเรียนมาแต่เด็กๆ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะบางครั้งหวัดแบบจีน หรือ ลากเส้นแบบจีน ก็จะโดนอาจารย์ญี่ปุ่นคอมเม๊นมา อาจจะสรุปเลยไม่ได้ว่า ภาษาจีนจะช่วยภาษาญี่ปุ่นได้มากมาย เลยเห็นด้วยกับความเห็นของบางท่านว่า ลงเลือกเรียนอะไรสักอย่างไปเลยดีกว่า ถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งไม่แม่นพอจนสามารถไปเป็นฐานให้กับอีกภาษา(โดยเฉพาะเรียนญี่ปุ่นไปแล้วเอาไปใช้กะเรียนจีนได้น้อยมากๆ) ดังนั้นแล้ว การคิดว่าจะเลือกเรียน จีน หรือ ญี่ปุ่น เหมือนจะเป็นปัญหาโลกแตก ถ้าคุณอยากเบนเข็มไปญี่ปุ่นก็เบนไปญี่ปุ่นเลย และเรียนจีนเสริมๆเอา ถ้ามีเวลา เพราะไวยากรณ์ญี่ปุ่นมันยากต้องอาศัยความเข้าใจอย่างมาก ป.ล ควรเรียนในสิ่งที่ชอบอยากเรียนจริงๆนะสับ Ganbattekudasai! jia you! จากคุณ : ลมบูรพา (YoshiDa_Bangkok) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 15:05:27

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้เราอยู่ญี่ปุ่นนะคะ ความได้เปรียบของคนจีนที่มาเรียนภาษาญี่ปุ่น ก็คืออ่านพวกข้อสอบเกี่ยวกับการอ่านได้เร็วเพราะว่ารู้ความหมายรวมๆ จากคันจิซึ่งในไวยกรณ์ระดับสูงของญี่ปุ่นจะมีแต่ตัวคันจิเต็มไปหมด จะมีแค่ฮิรากานะก็แค่คำช่วยหรือไวยกรณ์ที่เป็นคำช่วยหรือคำเชื่อมเท่านั้น แต่ถ้าคนจีนที่มาเริ่มเรียนในระดับต้นของญี่ปุ่นจะมีปัญหาเรื่องไวยกรณ์ และการอ่านออกเสียงของศัพท์คำนั้นมาก เนื่องจากรูปไวยกรณ์ภาษาญี่ปุ่น ต่างกับไวยกรณ์จีน รู้ความหมายแต่ออกเสียงคำอ่านไม่ถูก และส่วนมากคนจีนที่ไม่ใช่คนไต้หวันที่เขียนตัวเต็มเหมือนญี่ปุ่นก็จะเขียน ไม่ค่อยถูกตามหลักของคันจิญี่ปุ่นค่ะ จากคุณ : i_am_redangel เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 01:53:11