ความคิดเห็นที่ 1 เหมือนกันเลย เราก็เรียนเองอยู่ค่ะ เพราะไม่มีโรงเรียนใกล้บ้าน เริ่มจากศูนย์เหมือนกัน ตอนนี้ทักษะเพิ่มมาเป็น 0.001 แล้ว (น่าภูมิใจตรงไหนเนี่ย) อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ถือว่ามาชวนเจ้าของกระทู้คุยแล้วกันนะคะ เราเริ่มจากหัดอ่าน pinyin ค่ะ เปิดตามเว็บแบบที่เค้าออกเสียงคำให้ฟัง แล้วก็ดูตัวอักษรภาษาอังกฤษตาม ดูไปซักพักจนชินก็จะเริ่มรู้เข้าใจหลักการออกเสียงแบบง่ายๆค่ะ ตอนแรกๆจะยากนิดนึงเพราะอ่านไม่เหมือนภาษาอังกฤษ ถ้าจะให้ดีน่าจะหาคนสอนออกเสียงค่ะ (พอดีเรามีคนช่วยสอนออกเสียง โชคดีไป) ทีนี้ถ้าดูตามเว็บให้ระวังนิดนึง เพราะที่สอนแบบผิดๆก็มี เคยไปเปิดเจอเว็บไหนจำไม่ได้ คนไทยเขียน(ไม่รู้คนเขียนเป็นครูสอนพิเศษรึเปล่า) เข้าใจว่าเจ้าของเว็บปรารถนาดี แต่เจ้าของภาษามาดูแล้วบอกว่าใช้ไม่ได้ สอนผิดเต็มเลย เราเคยมาโพสต์ถามที่นี่ ได้เว็บนี้มาค่ะ http://thai.cri.cn/learnchinese/index.html อันนี้ดีมาก แถมไม่มีมั่วแน่นอนเพราะเป็นเว็ปของสถานีวิทยุ CRI จากประเทศจีนมาเองเลย (ให้เครดิตคุณหนุ่มรัตนะตรงนี้ด้วยค่ะ ) หลังจากเราเริ่มคุ้นๆกะวิธีออกเสียงพินยิน พอดีที่บ้านมีหนังสือของอาจารย์ประพิณ มโนมัยวิบูล (ศุนย์หนังสือจุฬา) เราเลยอาศัยเล่มนี้เรียนไปพร้อมๆกันค่ะ ตอนนี้อ่านจบบทที่สองแล้ว ยังจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ พอพูดเป็นประโยคง่ายๆได้ เขียนยังไม่เป็นซักกะตัว แต่ก้อจะพยายามต่อไป ปัญหาของการเรียนเองคือเรามักจะผลัดวันประกันพรุ่งค่ะ บางทีมีธุระเรื่องอื่นก็เลยต้องหยุดเรียนไปทำอย่างอื่นก่อน มีข้ออ้างไปเรื่อย เลยยังไปไม่ถึงไหนซักกะที เรียนช้าแบบนี้ไม่รู้อีกกี่ปีจะพูดเป็นภาษากะเค้า แฮ่ๆ จากคุณ : The Starry Night เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 04:38:56

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มจากออกเสียง Pinyin  ให้ถูกต้อง ก็ไปที่ เวป นี้ http://www.quickmandarin.com/chinesepinyintable/ มี ตาราง ทุกเสียง ที่ใช้ในภาษาจีนกลาง คลิก ที่ แต่ละช่อง เพื่อฟังเสียงวรรณยุกต์ ทั้ง  ๔  เสียง พอชำนาญ หรือจับแนวทางได้แล้ว ค่อยไปเริ่ม ที่  thai.cri.cn หัดเขียน จากที่นี่ได้เลย  เพราะมี วิธีเขียนแต่ละเส้น ให้ดู จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 08:50:44

ความคิดเห็นที่ 3 มาช่วยยืนยันอีกคนว่าคุณจะไม่มีทางเรียนภาษาจีนได้ไกลถ้าไม่เข้าใจระบบการออกเสียงพินยินก่อนเพราะมันคือเครื่องมือขั้นพื้นฐานที่สุดที่จะทำให้เราจดจำอักษรจีน และใช้ฝึกฝนการสนทนา ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ให้หาครูที่สอนการออกเสียงดีๆจากพินยินก่อน แม่นๆแล้วเรียนเอาเองก้ยังได้เพราะโครงสร้างภาษาจีนไม่ได้ต่างจากไทยมาก พวกอักษรจีนเองก็หมั่นคัดหมั่นเขียนด้วยตัวเองได้สบายๆ บทสนทนาก็หาจากหนังสือ+ซีดี อินเตอร์เน๊ตได้ตามใจชอบ ขอแต่ต้องใจสู้ไม่ย่อท้อในช่วงแรกเท่านั้น จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 10:00:38

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกับทุกคนข้างบน แต่คิดตรงกับคุณโจโฉค่อนข้างมาก  ถ้าไม่เดือนร้อนเรื่่องเวลา ทุน และสถานที่  หาครูสอนสักคอร์ส  2 คอร์ส ดีไหม  เรียนไปด้วยฝึกฝนไปด้วย  ไปเร็วนะ เปล่งเสียงผิด ถูก มีคนชี้แนะไง  (ส่วน คุณ คห 1 นั้น  เขามีคนข้างเคียงชี้แนะอยู่แล้ว  อิอิ) แนะกระทู้ที่ไม่มีวันเก่าของคุณ YuBing อยู่กับบ้านเรียนภาษาจีนกันดีกว่า http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/04/K7765921/K7765921.html ส่วนอันนี้ผมเคยโพสต์ไว้เป็นบทสนทนาง่ายๆ เป็นบล็อกของ หงส์เหล่าซือ  ครูชาวไต้หวัน  ที่อธิบายด้วยภาษาไทย ของดี ฟรีด้วย สนทนาภาษาจีนกลางพื้นฐานทั้งตำราและไฟล์เสียง http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/07/K8131731/K8131731.html จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 12:22:32

ความคิดเห็นที่ 5 ^^^^^ ^^^^^ ใช่แล้ว.....สู้โว้ย.... จากคุณ : เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy) เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 14:33:30

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ผมเริ่มคิดแบบคุณจขกท เลยครับ แต่ผมเป็นพวกไม่เคยเรียนพิเศษ แล้วก็รั้นไม่ยอมไปเรียน เสริม(ส่วนนึงเพราะกลัวเปลืองตังค์พ่อแม่ ส่วนนึงเพราะรู้สึก ว่าของอย่างงี้เรียนเองก็ได้ ไม่รีบ) แล้วผมก็เริ่มเก็บสะสมตัวหนังสือจีน อ่านป้ายตามเยาวราช อ่าน ตัวหนังสือที่อยู่ตามหนังสือจีน ซื้อหนังสือแบบเรียนเริ่มแรก เล่มบางๆ(เพราะราคาถูกดี 19 หรือ 29 บาทประมาณนั้น)ของ นานมี ตอนนี้น่าจะยังมีอยู่มั๊งครับ ระบบพินอินที่ผมเห็นก็เห็นจากหนังสือเล่มนี้นี่แหละครับ อ่านป้ายมาก็กลับมาถามแม่บ้างถามเพื่อนที่ไปเรียนคอร์สภาษาจีน เริ่มต้นบ้าง บางทีก็ถามเรื่องตัวอักษรจากคนเรียนญี่ปุ่นบ้าง แบบไป เรื่อยแหละครับ เห็นหนังสือภาพอธิบายที่มาของอักษรจีนในห้องสมุด ในนั้นมีวิธีเขียน ตัวอักษรจีนทีละเส้น ก็ยืมมาอ่านและลอกลงในสมุดเล่มยาวที่ตอนนั้น ต้องใช้จดวิชาเรียน รด.(ที่เค้าใช้ทำสมุดบัญชีปกสีน้ำเงินสีเขียวสมัยก่อน อะครับ ตอนนี้ไม่รู้ยังใช้อยู่รึเปล่า) ลอกมันทุกตัวอักษรในเล่ม แล้วก็ฝึก คัดไปเรื่อยๆทุกวันนี้ยังคัดไม่หมดเรย สิบกว่าปีมาแล้ว 555 หนังสือเกี่ยวกับเรื่องจีนทั้งหลายก็ยืนอ่านตามร้านหนังสือบ้าง ซื้อมาเอง ก็มีบ้าง ตัวอักษรที่พอจำได้ก็เลยมีทั้งแซ่ทั้งชื่อ แต่ไม่เป็นระบบระเบียบ ซักอย่าง จำได้บ้าง ลืมไปก็เยอะ แล้วก็มาถึงยุคที่หนังจีนฮ่องกงเริ่มมีซับไตเติ้ลเป็นภาษาจีน ก็นั่งศึกษาจาก หนังเลยครับ อ่านได้ตัว หว่อ หนี่ เตอ ซิน....ประมาณนั้น ช่วงนั้นเป็นตัวเต็ม ครับ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย มีอะไรให้อ่านให้รู้ก็ตะบันมันไปก่อน ช่วงนั้นพี่สาวเรียนโทจีน ซื้อดิกให้ ก็อัดวีดีโอมันเลยครับ ตอนดูสดก็เปิด ไบลิงกวัว แล้วก็อัดไว้ดูพากษ์ไทย พร้อมหยุดภาพในวีดีโอแล้วจดศัพท์ จดจากตัวหนังสือบนจอแหละครับ ขยุกขยุยมาก จดใส่กระดาษรีไซเคิล เอสี่นี่ เย็บรวมไว้บ้าง กระจัดกระจายบ้าง จดได้ซักพักก็มาเปิดดิก โดยเรียน รู้วิธีเปิดดิกจากการอาสาช่วยเปิดดิกเพื่อให้พี่สาวทำการบ้าน(วิธีเปิดดิกสมัย นั้นมีวิธีนึงที่สมัยนี้ไม่เป็นที่นิยมกันแล้ว แบบที่ให้ดูมุมสี่มุมของตัวอักษรนั่น แหละครับ) ช่วงนั้นเรียนที่มหาลัยมีอะไรให้ทำมากมาย(ไม่ได้เรียนวิชาภาษาจีนนะครับ) แต่ถ้ามีเวลาก็ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิมอยู่ จดศัพท์ (ยังคง)ถามคนที่ไป เรียนคอร์สภาษาจีนอยู่เรื่อยๆ ว่าประโยคนี้พูดยังไง อ่านยังไง บางครั้งพี่สาวก็ให้ไปนั่งฟังเลกเชอร์ภาษาจีนที่ธรรมศาสตร์ จำได้เลยว่า ฝนตกก็ไปทั้งเปียกๆอย่างงั้น ฟังเค้าเรียนก็ไม่รู้อะไรนักเพราะไม่มีพื้นฐาน แต่เค้าเรียนกันมันเกินพื้นฐานไป ไปฟังอยู่หลายที ขอฟังขอรู้ไว้ก่อน สมัยนั้นยังไม่มีอินเตอร์เนตแพร่หลายแบบสมัยนี้นะครับ ทางเลือกในการ เรียนเองก็มีอยู่เท่านี้ จบมาทำงานในวิชาชีพที่เรียนมาก็ไม่มีเวลามากนัก แต่เมื่อไหร่ที่มีพี่ๆน้องๆ ในออฟฟิสไปเรียนภาษาจีนมา ก็เข้าไปถามไปขอดูหนังสือ ยืมไปอ่าน ในใจคิดแต่ว่าทำงานหาเงินได้พอเมื่อไหร่จะได้มาเรียนที่จีนให้มันรู้กันไปเลย แต่อีกใจนึงก็คิดว่าหรือไปหางานสิงคโปรทำดี เผื่อจะให้สภาพแวดล้อมช่วย ให้เป็นภาษาจีน จะได้ไม่ต้องเรียน....ทำงานได้แล้วยังได้ภาษาอีก ยุ่งไปยุ่งมาก็ทำงานอยู่ที่ไทยมันตลอดแหละครับ ไม่ได้ไปไหน พอทำงานได้ห้าหกปี ก็เลยตกลงปลงใจ มาเรียนภาษาโดยเฉพาะที่จีน ที่เก็บสะสมมาทั้งหมด ทำให้ทดสอบข้ามบทเรียนไปได้เทอมนึงครับ (แหะๆ สิบกว่าปี) คำถามที่คนจีนถามแล้วไม่รู้จะตอบยังไงเป็นประจำคือ "เรียนภาษาจีน มากี่ปีแล้ว" จะตอบทีไรต้องดูอารมณ์ก่อนว่าขี้เกียจอธิบายมั๊ย ถ้าเปรียบภาษาจีนเป็นผู้หญิงคนนึง ผมก็เป็นเพื่อนคุยกับเค้าบ้าง ห่างหาย บ้างกันมาตลอดสิบกว่าปีครับ แต่ยิ่งนานยิ่งค่อยๆรู้จักกันมากขึ้น ทุกวันนี้ ถึงขั้นอยู่ด้วยกันแล้ว..แต่ก็ยังต้องรู้จักกั้นมากมากขึ้นอีกครับ แหะๆ แต่นึกไปทุกที อดีตพวกนั้นมันเป็นเรื่องหอมหวลสำหรับผมเสมอครับ ไม่รู้ตอบอะไรจขกท รึเปล่า แต่เห็นคำว่า"เรียนด้วยตัวเอง"แล้วมันสะกิด ใจฮะ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 16:19:11 จากคุณ : Ngo No.5 เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 52 16:11:20

ความคิดเห็นที่ 7 ...ผมเริ่มต้นการเรียนภาษาจีนด้วยตนเองครับ....ลองผิดลองถูก...หลายวิธี...พอสรุปเป็นขั้นๆ...ได้ดังนี้...เริ่มจาก....    1. ฟัง (CD ,website ) ฟังแล้วจำการพูดประโยคง่ายๆ...เช่น คำกล่าวทักทาย  การกล่าวต้อนรับ การนับ  การบอกเวลา  การสั่งอาหาร  การกล่าวอำลา ฯลฯ  ฟังหลายๆเที่ยว จนจำขึ้นใจ ประโยคเหล่านี้จะเป็นประโยคสั้นๆ  จำง่ายใช้เกิดประโยชน์  สิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจให้เราใคร่เรียนรู้ภาษีจีนต่อไป   http://www.fm100cmu.com/blog/Nihao/content.php?id=541   2.  พูด นำคำที่เรียนรู้ในข้อ 1. มาใช้...พูดบ่อยๆ...ใช้บ่อยๆ...เจอใครก็...หนีห่าว...ชือฟ่านเลอมา...ชือเสิ่นเมอะ...จุ้ยจิ้นหมังมา...ไจ้เจี้ยน...ฯลฯ...ผิดบ้างถูกบ้าง...ไม่เป็นไร...ใจสู้ซะอย่าง...อ้อ...หาเพลงความหมายดีๆ...ถูกใจ...ถูกใจมาฟัง...เป็นแรงบันดาลใจได้เยอะเชียวแหละ...   http://www.youtube.com/watch?v=Rbhho4xOK1E   http://www.fm100cmu.com/blog/Nihao/content.php?id=681   3.  สร้างทัศนคติและเข้าใจภาษาจีนให้ถ่องแท้...ภาษาจีนเป็นภาษา...ภาพ...สืบทอดมาหลายพันปี...แต่ละขีดของตัวอักษร...มีความหมายมีความสำคัญมีที่มา...สะท้อนถึงการดำรงชีวิต...ประเพณีวัฒนธรรม...ความนึกคิดของผู้คนในยุคต่างๆ...ผู้ประดิษฐ์อักษรได้ถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ลงในตัวอักษร...สรุปง่ายๆก็คือ...ตัวอักษรหนึ่งตัวคือตำนานหนึ่งบทนั่นเอง...หนึ่งขีดในตัวอักษรจีน...จะขาดไม่ได้จะเกินไม่ถูก...ต่อมาก็คือ...เสียง...การออกเสียงต้องออกเสียงให้ชัดเจน...ชนิด " ฟันธง " จะอ้ำอึ้ง...หรือ...ออกแนวกั๊กๆเสียง...ไม่ได้...เนื่องจากภาษาจีนมีวรรณยุกต์ 4 เสียง ไม่รวมเสียงเบา หากออกเสียงผิดความหมายก็จะแตกต่างออกไป...ย่อมเกิดความยุ่งยากแน่นอน...   4.  พินอิน...คราวนี้หล่ะ...จะได้ออกเสียงได้ถูกต้องซ่ะที...ลองหาเปิดดูใน website ต่างๆ...พยายามออกเสียงให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษามากที่สุด...ดูตัวอักษรภาษาอังกฤษที่กำกับมาพร้อมเสียงวรรณยุกต์...การออกเสียงเมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษอาจไม่เหมือน...แต่ก็ช่วยสร้างความมั่นใจได้เยอะ...เชื่อเหอะน่า...   http://www.quickmandarin.com/chinesepinyintable/       5. อ่าน...หาหนังสือดีๆ...website...เจ๋งๆ...( ย้ำว่าภาษาจีนน๊ะ...)มาเป็นเพื่อนคู่ใจสักหลายๆเล่มหลายๆwebsite...ว่างเป็นหยิบอ่าน...ว่างเป็นเปิดฟัง...หา MP3 MP4 สักเครื่องติดตัวไว้...เข้าส้วมฟัง...อาบน้ำฟัง...ก่อนนอนฟัง...โอ้...ก้าวหน้า...ก้าวหน้า...แน่นอน... ....ลองพิมพ์คำว่า  learn chiness ในช่อง search  ของ youtube ดูซิ...   http://www.youtube.com/watch?v=8Im8dvRPpps&NR=1   http://www.youtube.com/profile?user=thmk0828&view=videos&start=20   6.  คิดและนึก...เป็นภาษาจีน...ในชีวิตประจำวัน...เราผ่านเรื่องราวมากมาย...ตื่นนอน...แปรงฟัน...อาบน้ำ...ทานข้าว...ดื่มน้ำ...นั่งรอรถ...ที่ป้ายรถเมล์...เจอสาวสวย...ขาวอวบอึ๋ม...เธอมองมาทางเรา...เรายิ้มให้...แล้วทำไมเธอไม่ยิ้มกับเรา...ว้า...มากับแฟนนี่หว่า...เศร้าเลยเรา...ฯลฯ...คิดเป็นภาษาจีนออกเสียงในใจ...ทำได้ป่าว...   7.  มาถึง...ฮั่นจื้อ...แล้วหล่ะ...หาฮั่นจื้อกงมาดู...หาหนังสือมาอ่าน...หาDict. สักเล่ม...หา Class ดีๆ...เหล่าซือสวยๆ...แล้วไปเรียนซ่ะ...นักกีฬาที่ดียังต้องมีโค๊ช...จะไปอาศัยพรสวรรค์กับสติปัญญาอย่างเดียว...คงยาก...เชื่อผม...คุณจะไปได้เร็วและไกลกว่าใครๆ...ว่าแต่จะไปเที่ยวเมืองจีนเมื่อไหร่...อย่าลืมชวนด้วยหล่ะ...อิอิอิ...  http://www.youtube.com/watch?v=4TQJJlPMtoE&feature=channel   8.  จีบเหล่าชือ/สาวจีน...อันนี้ขอไม่...บรรยาย...น.18...อิอิอิ...Walking Dict. ......ฟิ้ววววววว....... ...สุดท้าย...มีข้อแนะนำอย่างนี้น๊ะครับ...อักษรจีนถึงมีมากมาย...แต่ถ้าเรียนรู้อย่างเป็นระบบ...ก็ไม่ยากอย่างที่คิด...มีอักษรพื้นฐานอยู่  214 ตัว  (อ้างถึงคำนำในหนังสือ สนุกกับคำจีน ของ วีระชัย มาศฉมาดล ) และมีอักษรบังคับเพื่อการฟังรู้อ่านได้อยู่ประมาณ 3000 ตัว  ขอให้ใจเย็นๆในการศึกษา อย่ารีบร้อน อย่ามูมมาม ค่อยเป็นค่อยไป ใช้ธรรมชาติของการใช้เป็นตัวช่วยในการเรียนรู้....จำไว้ว่า..."  กินข้าวให้กินทีละคำ...จำอักษรต้องจำทีละตัว  "...ไจ้เจี้ยน... แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 52 11:06:23 จากคุณ : เซียมหล่อตือ เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 11:01:04

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่า ลงเรียนก่อนซัก คอร์ส สองคอร์ส เรียนวิธีออกเสียง กะอาจารย์ วิีธีการตวัดปากกาก่อนดีก่าคับ แล้วคอ่ยออกมาต่อเอง จะได้ถูกต้อง จากคุณ : richie_air เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 09:18:04

ความคิดเห็นที่ 9 เราว่ามันค่อนข้างจะยากนะ ถ้าไม่รู้ภาษาจีันมาเลย แล้วเรียนด้วยตัวเองจากการอ่านหนังสือ เพราะจะทำให้เราออกเสียงไม่ถูกต้อง ตัวทับไทยมันสะกดยังไงก็ไม่เหมือนกับเสียงจริงในบางตัวอักษร แ่ตุ่ถ้าคุณมีคนรู้จักพูดจีนได้ อันนี้ถ้าคุณจะอ่านเองเรียนเอง แล้วไปปรึกษาหรือถามคน ๆ นั้นได้ เราก็ว่ามันก็ไม่ยากจนเกินไปนักถ้าจะเรียนด้วยตัวเอง เริ่มต้นเราว่าสำคัญสุด เพราะถ้าออกเสียงผิดแต่แรก เราจะติดแบบนั้น แล้วเราจะไม่รู้ตัวว่าเราออกเสียงไม่ถูกต้องหน่ะค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : Aphone เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:19:49

ความคิดเห็นที่ 10 แนะนำที่เรียนตัวต่อตัวค่ะ ^^ artschulatutor.igetweb.com จากคุณ : gappiie เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 16:51:01