 |
ความคิดเห็นที่ 6 |
สวยงามมากเลยครับ สถานที่นี้คือมูลนิธิเทียนฟ้า ก่อตั้งเป็นโรงพยาบาลช่วยเหลือผู้คน อยู่แถววงเวียนโอเดียน
ส่วนเจ้าแม่กวนอิม องค์นี้สันนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปีมาแล้ว ซึ่งมีความศักดิ์สิทธ์มาก
ประเพณีการทิ้งกระจาด เป็นพิธีกรรมจีนอย่างหนึ่งที่นิยมจัดขึ้นในเทศกาลต่างๆ ของชาวจีน หรือเรียกกันว่า ซีโกว แปลว่าการให้ทานแก่วิญญาณไร้ญาติ เป็นพิธีกรรมของจีนที่มีที่มาจากพระพุทธศาสนา จากพระสูตร ในพระไตรปิฏกจีน ชื่อเปรตมุข-อัคนีชวาลยศรการ-นาม-ธารณีสูตร ได้กล่าวว่า ครั้งนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จประทับแสดงพระธรรมเทศนา ณ นิโครธารามวิหาร เมืองกบิลพัสดุ์ พระอานนท์เถระเจ้า พุทธอนุชาได้หลีกออกไปเข้าญาณสมาบัติ อยู่ที่โคนต้นไม้ใหญ่ ขณะที่พระอานนท์บำเพ็ญญาณปริเวทธรรมอยู่นั้น ได้มีอสูรกายตนหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า บอกชื่อว่า อัคนีชวาลมุขเปรต หรือเอี่ยมเข้า รูปร่างสูงใหญ่หน้าเขียว แสยะเขี้ยว ตามตัวมีแต่หนังหุ้มกระดูก ลำคอเล็กเท่ารูเข็ม มีเปลวไฟโชติช่วงออกจากปากเป็นนิจ ได้กล่าวกับพระอานนท์ว่า ท่านอานนท์ เราได้รับความทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัสเพราะความหิวกระหาย จะกินก็ไม่ได้แต่ทุกขเวทนาเหลือหลาย ท่านผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า อุดมด้วยความเมตตากรุณาต่อสัตว์ ขอพระเถระท่านอุทิศสิ่งอุปโภคบริโภคเป็นไทยทานแก่ฝูงเปรตด้วยเถิด ถ้าท่านไม่กระทำในกาลอีก ๓ วัน ก็จะถึงซึ่งแก่มรณะ ว่าแล้วอสูรกายตนนั้นก็หายไป พระอานนท์เกิดความสะดุ้งกลัว เข้าเฝ้าพระบรมศาสดากราบทูลให้ทรงทราบแลขอพระพุทธองค์ เป็นที่พึ่งพระพุทธองค์
พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่พระอานนท์ว่า ในอดีตเมื่อพระองค์ยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ในนั้น พระโพธิสัตว์ได้ตรัสเทศนาถึงพิธีโยคเปรตพลี เพื่อโปรดเหล่าเปรตและสัตว์ทั้งหลาย ดังนั้น อัคนีชวาลมุขเปรตตนนั้นคือ พระอวโลกิตเตศวรโพธิสัตว์ (พระกวนอิม) ผู้มีปณิธานที่จะโปรดสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์ ได้นิรมิตกายมาเพื่อเป็นอุบายให้พระพุทธองค์แสดงพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับพิธี โยคเปรตพลีอุทิศแก่พระอานนท์ เพื่อโปรดสัตว์ไตรภูมิเป็นปฐม และพิธีนี้ได้เป็นแนวทางปฏิบัติของนิกายมนตรยาน เพื่อแสดงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าและเหล่าพระโพธิสัตว์ต่อเหล่า สัตว์โลกทั้งหลาย เมื่อมีการแปลพระสูตรเป็นภาษาจีน พิธีนี้จึงมีการถ่ายทอดสืบเนื่องต่อมา
ต่อมาเมื่อหลังราชวงศ์ถังพิธีนี้จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายออกไป จนเป็นที่นิยมของประชาชนมีการประกอบพิธีทั่วไปในประเทศจีน ทั้งในงานศพ ในงานวันเกิด ในเทศกาลสารทจีนเดือน ๗ และในเทศกาลอื่น แม้แต่ในศาสนาเต๋าก็รับแนวคิดนี้จากพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังเป็นประเพณีนิยมในประเทศที่รับพระพุทธศาสนาจากจีน เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลี ก็ได้รับความนิยมด้วย ในส่วนของประชาชนจีนทั่วไป เมื่อถึงวันที่กำหนดก็จะจัดมณฑลพิธีและนิมนต์พระสงฆ์ไปสวดพระพุทธมนต์อุทิศ แก่วิญญาณ ส่วนชาวจีนที่อยู่ตามถิ่นห่างไกล นิมนต์พระสงฆ์ลำบากก็จะจัดเพียงเครื่องบูชาเซ่นไหว้ด้วยอาหารแก่วิญญาณเร่ ร่อนและบรรพบุรุษแทน จนทุกวันนี้
ส่วนประวัติพระมาลัย เป็นพระที่สามารถลงไปโปรดสัตว์ยังนรกภูมิ และท่านได้แต่งตำราไว้เพื่อโปรดสัตว์โลกไม่ให้ทำชั่ว เช่นงานสวดศพ ยังต้องสวดบทพระมาลัย และมีตู้พระมาลัยด้านหน้า http://www.geocities.com/tummasati/document/malai1.htm
แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 52 16:37:53
จากคุณ |
:
หนุ่มรัตนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ก.ย. 52 16:15:25
|
|
|
|
 |