ความคิดเห็นที่ 1 พระประวัติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ พระนามเดิมว่า "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฤกษ์ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ และเจ้าจอมมารดาน้อยเล็ก ประสูติในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะเส็ง เอกศก จ.ศ.๑๑๗๑ ตรงกับวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ.๒๓๕๒ เวลา ๔ ทุ่มเศษ ซึ่งตรงกับวันเริ่มสวดมนต์ตั้งพระราพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย  จึงได้รับพระราชทานพระนามตามศุภนิมิตนี้ว่า "พระองค์เจ้าฤกษ์" ดำรงพระยศอย่างพระองค์เจ้าในพระราชวังบวรสถานมงคล พระองค์ทรงพระผนวชเป็นสามเณรเมื่อมีพระชนมายุได้ ๑๓ พรรษา เมื่อ พ.ศ.๒๓๖๕ แต่เมื่อทรงผนวชเป็นสามเณรได้ ๔ พรรษาพระองค์ประชวรด้วยพระโรคไข้ทรพิษ จึงได้ลาผนวชออกไปรักษาพระองค์ และเมื่อทรงหายแล้วจึงได้กลับมาทรงพระผนวชอีกครั้งจนกระทั่งมีพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา จึงได้ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ เมื่อ พ.ศ.๒๓๗๒ ได้รับพระนามฉายาว่า "ปญฺญอคฺโค" โดยพระองค์ได้ศึกษาพระธรรมวินัยในสำนักของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะที่ทรงพระผนวชเป็นภิกษุ) และได้เสด็จมาประทับที่วัดบวรนิเวศวิหารเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๙ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 16:21:08 จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:13:06

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๒ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งเป็นพระราชาคณะ มีสมณศักดิ์เสมอพระราชาคณะชั้นสามัญ พ.ศ.๒๓๙๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาเป็น "กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ทรงพระอิสริยยศเป็นปธานาธิบดี (สะกดตามตัวสะกดเดิม) ใน "ธรรมยุติกนิกายิกสังฆมัธยมบวรนิเวศาทิคณะ" ทรงสมณศักดิ์เสมอสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่ (ถือว่าสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์จึงทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตพระองค์แรก) พ.ศ. ๒๔๑๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาเลื่อนกรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ เป็น "กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์" และโปรดเกล้าฯให้ใช้คำนำพระนามเป็น "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ" เป็นพิเศษเหมือนพระองค์เจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวัง พ.ศ.๒๔๓๔ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งพระราชพิธีถวายพระมหาสมณุตมาภิเษก แด่กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ซึ่งต่อมาภายหลังได้แก้เป็น "สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์" ในฝ่ายสมณศักดิ์ เป็นมหาสังฆปริณายกประธานแห่งพระสงฆ์ทั่วพระราอาณาจักร เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๓๔ นับเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวิยาลงกรณ์ เมื่อครั้งที่ได้รับการถวายมหาสมณุตมาภิเษกนั้น ทรงเจริญพระชนมายุถึง ๘๒ พรรษาแล้ว ครั้น พ.ศ.๒๔๓๕ พระองค์ได้ทรงพระประชวรด้วยพระโรคชรา และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๔๓๕ เวลา ๒๓.๐๓ น. สิริพระชนมายุ ๘๓ พรรษา กับ ๑๓ วัน ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหารได้ ๔๒ ปี และทรงดำรงตำแห่งสมเด็จพระสังฆราชได้ ๑๐ เดือนเศษ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:36:46

ความคิดเห็นที่ 3 . แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 16:42:54 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 16:42:03 จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:41:28

ความคิดเห็นที่ 4 พิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในโอกาสครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ จัดขึ้นในวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒  ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ เป็นประธานสงฆ์ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:46:22

ความคิดเห็นที่ 5 (พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:53:15

ความคิดเห็นที่ 6 (พิธีบำเพ็ญกุศลถวายสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ภายในพระอุโบสถ) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 16:56:55

ความคิดเห็นที่ 7 ในพิธีบำเพ็ญกุศลวันนี้ ได้มีการอัญเชิญพระเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ออกมาตั้งสำหรับบำเพ็ญกุศลถวายและให้ประชาชนได้สักการะ บริเวณโต๊ะหมู่หน้าพระประธานภายในพระอุโบสถด้วย แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 18:53:31 จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:04:57

ความคิดเห็นที่ 8 . จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:05:37

ความคิดเห็นที่ 9 พระเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายในพระตำหนักเดิม วัดบวรนิเวศวิหาร และจะอัญเชิญออกมาบำเพ็ญกุศลในโอกาสสำคัญเท่านั้น (อย่างเช่นในงานบำเพ็ญกุศลครบ ๒๐๐ ปีวันประสูติของพระองค์ เป็นต้น) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:12:30

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพที่ประดิษฐานเจดีย์พระอัฐิของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (องค์กลาง) ร่วมกับเจดีย์พระอัฐิของสมเด็จพระสังฆราชอีกสองพระองค์ภายในพระตำหนักเดิม วัดบวรนิเวศวิหาร จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:16:51

ความคิดเห็นที่ 11 และในโอกาสงานครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้มีการจัดทำพัดรองที่ระลึกสำหรับถวายสมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะที่มาร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศลในวันนี้ด้วย จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:20:56

ความคิดเห็นที่ 12 พัดรองที่ระลึกงานครบ ๒๐๐ ปี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ มีลักษณะเป็นพัดหน้านาง พื้นสีเหลือง ปักลวดลายด้วยดิ้นทองและดิ้นเงิน ตรงกลางพัดเป็นภาพฉัตรห้าชั้น ถัดลงมาเป็นปักข้อความ "ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ ๑๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ ๒๔๕๒ - ๒๕๕๒" และบริเวณขอบพัดด้านล่างปักพระนามสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ตรงส่วนนมพัดทำด้วยโลหะรูปตราสัญลักษณ์งานครบ ๒๐๐ ปี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สำหรับด้ามพัดทำจากไม้  ส่วนคอและส้นพัดทำจากทองเหลือง แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 19:03:35 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 17:27:37 จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:26:43

ความคิดเห็นที่ 13 (ภาพพัดรองที่ระลึก) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:29:43

ความคิดเห็นที่ 14 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ มาเป็นประธานสงฆ์ในพิธีบำเพ็ญกุศลวันนี้ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:32:43

ความคิดเห็นที่ 15 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:34:25

ความคิดเห็นที่ 16 นอกจากงานพิธีบำเพ็ญกุศล ภายในพระอุโบสถ ในวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒แล้ว ทางวัดบวรนิเวศวิหารยังจัดให้มีนิทรรศการพระประวัติของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ณ พระตำหนักล่าง วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างวันที่ ๑๓ กันยายน - ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒ เวลา ๙.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ (พระตำหนักล่าง สถานที่จัดนิทรรศการ) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:41:05

ความคิดเห็นที่ 17 และเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานเปิดนิทรรศการ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:43:40

ความคิดเห็นที่ 18 . จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:44:18

ความคิดเห็นที่ 19 นิทรรศการนี้ แบ่งส่วนการจัดแสดงออกเป็นสองห้อง  โดยห้องแรกจัดแสดงภาพและเนื้อหาพระประวัติ พระพระศาสนกิจและพระเกียรติคุณ รวมทั้งผลงานของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:48:59

ความคิดเห็นที่ 20 . จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:51:46

ความคิดเห็นที่ 21 . แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 18:01:09 จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 17:53:29

ความคิดเห็นที่ 22 .. จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:03:49

ความคิดเห็นที่ 23 (ผลงานบางส่วนของพระองค์) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:04:30

ความคิดเห็นที่ 24 คณะผู้จัดงานนิทรรศการยังได้จัดทำสำเนาผลงานพระนิพนธ์บางส่วนของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ มาให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้อ่านและศึกษากันด้วย จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:07:47

ความคิดเห็นที่ 25 ตัวอย่างพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงตรวจชำระ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:08:58

ความคิดเห็นที่ 26 ตำราการดูลักษณะแมว จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:10:34

ความคิดเห็นที่ 27 สำเนาตัวอย่างสมุดไทยตำราการดูลักษณะแมว ฉบับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:12:48

ความคิดเห็นที่ 28 อีกสิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ก็คือ การสร้างพระกริ่งปวเรศ อันถือเป็นสุดยอดของพระกริ่งในประเทศไทย และถือเป็นแบบอย่างการสร้างพระกริ่งของประเทศไทยในระยะเวลาต่อมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:17:53

ความคิดเห็นที่ 29 (พระกริ่งปวเรศ) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:20:04

ความคิดเห็นที่ 30 พระรูปหล่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ประดิษฐานให้ประชาชนผู้เข้าชมงานได้สักการะภายในห้องนิทรรศการส่วนที่หนึ่ง จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:23:52

ความคิดเห็นที่ 31 . จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:25:54

ความคิดเห็นที่ 32 .. จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:28:11

ความคิดเห็นที่ 33 ในห้องจัดแสดงนิทรรศการส่วนที่สอง จัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ตลอดจนตาลปัตรพัดยศที่หาชมได้ยากของพระองค์ท่าน  นอกจากนี้ยังจัดแสดงพระกริ่งปวเรศจำลองรุ่นต่างๆที่จัดสร้างโดยบวรนิเวศให้ได้ชมกันด้วย แต่ผมไม่สามารถถ่ายภาพมาให้ชมได้ เนื่องจากในห้องจัดแสดงส่วนนี้ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพครับ และสำหรับท่านที่ต้องการมาชมนิทรรศการดังกล่าว สามารถมาชมได้ทุกวัน จนถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ระหว่างเวลา ๙.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น. ที่ตำหนักล่าง วัดบวรนิเวศวิหาร แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 19:08:01 จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:36:52

ความคิดเห็นที่ 34 ปิดท้ายด้วยภาพอันเป็นอัศจรรย์สำหรับผมและหลายๆท่านที่ได้พบเห็นในวันนี้ คือภาพพระอาทิตย์ทรงกลดขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในระหว่างประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. ซึ่งผมได้บันทึกภาพมาฝากใด้ชมกันด้วยครับ (พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือยอดพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:46:31

ความคิดเห็นที่ 35 (พระอาทิตย์ทรงกลด [ภาพนี้ถ่ายจากบริเวณด้านนอกวัด] ในวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ ๒๐๐ ปี วันประสูติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ) จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 18:50:38

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณครับที่นำภาพงานและนิทรรศการมาให้ชม เป็นมงคลยิ่งครับ ประกริ่งปวเรศ เป็นพระกริ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงหล่อขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่พระบรมวงศานุวงศ์ คาดว่าไม่น่ามีเกิน 30-50 องค์ ซึ่งสมัยก่อนการอาราธนาพระกริ่ง จะไม่นิยมนำมาแขวนบูชา แต่นิยมนำมาอาราธนาทำน้ำมนต์ โดยนำพระกริ่งวางไว้ในครอบน้ำมนต์ แล้วนำน้ำมารักษาโรค โดยเฉพาะ พระกริ่งปวเรศ เดิมมีชื่อเสียงด้วยเพราะสามารถทำน้ำมนต์แก้อหิวาห์ได้ พุทธคุณของพระกริ่งปวเรศจึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามาก ที่นำมาให้ชมเป็นองค์วัดบวร ที่ฐานจะปิดด้วยทองแดง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 20:20:03

ความคิดเห็นที่ 37 แม่พิมพ์อันล้ำค่าของพระกริ่งปวเรศ สร้างด้วยดินเผา การสร้างพระกริ่งจะสร้างจากหุ่นขึ้นผึ้ง นำขี้ผึ้งมากดในแม่พิมพ์แบบประกบ  แล้วนำมาแต่งพิมพ์หุ่นขึ้ผึ้ง นำมาหุ้มดินเพื่อทำการหล่อด้วยโลหะสำริด และนำมาแต่งองค์พระหลังจากหล่อเสร็จ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 20:25:08

ความคิดเห็นที่ 38 ดังภาพใน หัวข้อ 28 พระกริ่งปวเรศ ประดิษฐานในเก๋งจีนดินเผา ปัจจุบันจัดแสดงในอาคารพิพิธภัณฑ์ ตึก ภ.ป.ร. วัดบวรฯ ครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 20:32:36

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบพระคุณ คุณหนุ่มรัตนะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศครับ จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 21:13:07

ความคิดเห็นที่ 40 และเมื่อวานนี้ (วันที่ ๑๓ กันยายน) ได้มีการเชิญพระกริ่งปวเรศองค์จริงจากอาคารพิพิธภัณฑ์ ตึก ภ.ป.ร. วัดบวรนิเวศวิหาร มาจัดแสดงถวายให้สมเด็จพระเทพฯได้ทอดพระเนตรในห้องจัดแสดงนิทรรศการส่วนที่สองด้วย (ห้องแสดงเครื่องอัฐบริขาร เครื่องประกอบสมณศักดิ์ และพัดยศสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์) แต่หลังจากเสด็จกลับ ทางวัดก็ได้เก็บกลับไปรักษาในพิพิธภัณฑ์ตามเดิม คงเหลือแต่ตัวอย่างพระกริ่งปวเรศรุ่นที่ ๒ (ปี พ.ศ.๒๕๓๐) และตัวอย่างพระกริ่งปวเรศที่จัดสร้างในโอกาสครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ซึ่งจัดแสดงให้ชมอยู่ในตู้กระจกใสครับ (สมเด็จพระเทพฯทอดพระเนตรนิทรรศการพระประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์) ***แก้ไขคำผิดครับ*** แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 21:40:55 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 52 21:36:08 จากคุณ : พ ณ.ลำพู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 52 21:27:17

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆที่นำมาฝากชาวห้องสมุดครับ หวังว่าคงจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมนิทรรศการนี้ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 52 22:19:25 จากคุณ : akkarachai เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 17:08:15

ความคิดเห็นที่ 42 มาลงชื่อชื่นชม และขอบคุณ คุณ พ ณ.ลำพู เป็นอย่างสูงครับ ข้อมูลครบครัน สมเป็นกระทู้ห้องสมุดจริง ๆ ครับ จากคุณ : วศินสุข เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 21:11:45

ความคิดเห็นที่ 43 แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 52 22:19:08 จากคุณ : akkarachai เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 22:14:12

ความคิดเห็นที่ 44 มาลงชื่อขอบคุณด้วยคนครับ จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 52 22:43:56

ความคิดเห็นที่ 45 จากภาพตราสัญลักษณ์ (ภาพแรก) ไม่ทราบว่าท่านใดจะให้ความกรุณาแปลอักขระตรงกลางตราสัญลักษณ์ ได้บ้างไหมครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ จากคุณ : Oceanophila (Oceanophila) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 10:22:17