ความคิดเห็นที่ 1 เห็นแล้วคุ้นตาจังครับ งานชิ้นนี้เหมือนการบ้านอาจารย์จุมพตเลย อาจารย์ท่านที่เป็นอนุญาโตตุลาการ แล้วมาสอนงานแปลกฎหมายอ่ะ ใช่ไหม จากคุณ : apextopia เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 19:32:19

ความคิดเห็นที่ 2 ตกลง ให้ช่วยแปลคำถาม อย่างเดียว ไม่ใช่ หรอ แล้ว ตอนท้าย ให้ช่วยตอบ ด้วย นี่ หมายความว่าไง งะ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 52 07:38:04 จากคุณ : สระนาฬิเกร์ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 07:37:24

ความคิดเห็นที่ 3   1. draw a know-how agreement ร่างข้อตกลงหรือสัญญาเกี่ยวกับวิทยาการความรู้ 3. น่าจะแปลว่า อะไรคือสัญญาจะซื้อจะขาย(มันต่างกับสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด) 4. น่าจะแปลว่า ถ้าทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีการจดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่ผลจะเป็นอย่างไร? คู่สัญญาอีกฝ่ายจะฟ้องให้ผู้ขายโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรพย์ได้หรือไม่?เพราะเหตุใด? 5. หากคู่สัญญาอีกฝ่ายไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ เราจะบังคับให้เขาปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาได้หรือไม่? 6. correct น่าจะหมายถึง ทำให้ถูกต้องเลย make perfect น่าจะแปลว่า ทำให้สมบูรณ์ เพิ่มเติม "freedom of contract" หมายถึง หลักการของเสรีภาพในการทำสัญญา ประมาณนี้อะครับ อาจไม่ 100% นะ ถ้างง ลองมาคุยกันดูนะ beginninganew@windowslive.com จากคุณ : ปลาๆงูๆ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 19:06:47 A:222.123.17.8 X:

ความคิดเห็นที่ 4 เวงกรรม เรียนอะไรกันเนี่ย "โครตจะเพี้ยนเลยหละ...!!!" คุณ จขกท พิมพผิดหรือว่าอาจารย์คุณ "หลุดอย่างแรง" ภาษากฎหมายที่เขียนมาน่ะ มันมี non-native speaker's errors (ข้อผิดพลาดของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) เพียบเลย 1. You're asked to draw a know-how agreement with the US government; what factors you need to prepare yourself? ครงช่วงหลังเนี่ย what factors you need to prepare yourself? มันไม่เป็นคำถามนะ 2. Describe the concept of unforesee ability and how making distinction with force majeurs คำศัพท์ unforesee ไม่มีในภาษาอังกฤษ ช่วงนี้ เพี้ยน and how making distinction with force majeurs และสะกดผิดอีกต่างหาก ที่ถูกต้องเป็น force majeure 3. What is the agreement to sell or to buy? And must we make this agreement before making the completion of sell? completion of sell เพื้ยน เพราะ sell เป็น verb จริงๆแล้วต้องเป็น completion of sale  แต่ที่แน่ๆฝรั่งเจ้าของภาษาเขาใช้ closing sale  กัน แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 06:31:30 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 06:09:28

ความคิดเห็นที่ 5 4. What happen if making the sale contract of real estate without any registration with the competent officer? In such case, can another contracting party sue the another for transfering the ownership of such property? WHY? ตรงนี้นะ จะบอกให้ว่าผิดตรงไหน ตรงนี้ยังไงล่ะ ดูดีๆดิ มันไม่ใช่ประโยคนะ What happen if making the sale contract of real estate without any registration with the competent officer? ประโยคต้องมี verb นะ ลองหาดูดิว่า verb มันอยู่ตรงไหน subject คืออะไร และ object คืออะไร? บทเรียนหลุดๆแบบนี้ คุณ จขกท ไปเสียเวลาแปลทำไมกัน ทำไม่ไม่ส่งให้อาจารย์ไปแก้ภาษาอังกฤษของเขาใหม่ล่ะ? ดูดีๆว่ามันผิดตรงไหน? In such case, can another contracting party sue the another for transfering the ownership of such property? WHY? ทำไมมันเป็น  can another contracting party sue the another มันเพี้ยนอย่างแรง มันน่าจะเป็น can one contracting party sue another ... คำว่า "the another" ไม่มีฝรั่งเจ้าของภาษาที่ไหนเขาใช้กัน มันเป็นภาษาอังกฤษแบบไทยๆ เอ่อแล้วขอโทษที่นะ transfering ก็สะกดผิด (คุณสะกดเองหรือลอกจากอาจารย์มา?) มันต้องเป็น transferring ถึงจะถูก แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 06:27:18 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 06:16:56

ความคิดเห็นที่ 6 5. If one of the parties failed to perform his/her contractual obligation(s), how can he enforce the contract? ถามอะไรบ้าๆ แต่ดูดีๆนะ verb form มันผิด ลองไปบริกรรมดูดีๆ 6. Do you think that, in every cases, the court can correct or modify or make perfect the contract? Is such action contrary to the concept freedom of contract? "every cases" เพี้ยน make perfect the contract"  เป็น collocation (การผสมคำ) แบบคนไทย ไม่ใช่แบบนักกฎหมายฝรั่ง the concept freedom of contract เขียนแบบนี้ แสดงว่า คนเขียนไม่เคยเรียน basic grammar เรื่อง parts of speech เราแปลเอกสารกฎหมายโหดๆมาก มาหลายปีแล้ว (แต่ไม่อยากบอกว่ากี่ปีเพราะไม่อยากเปิดเผยอายุ...เรายังวัยรุ่นซิงๆอยู่ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)  ขอพูดแบบไม่เกรงใจเลยว่า "ถ้าอาจารย์เขียนภาษาอังกฤษเขียนได้แค่นี้นะ ได้โปรดอย่าไปสอนภาษาอังกฤษที่เป็นภาษากฎหมายให้นักศึกษาเลย โปรดสงสารนักศึกษาเถิด  ลำพังคนสอนเองน่ะ แค่แปลหรือเขียนภาษากฎหมายเป็นภาษาอังกฤษ ให้ตัวเอง เอาชีวิตรอดนะ ก็เผลอๆจะไปไม่รอดอยู่แล้วหละ..." เฮ็อ...กลุ้มใจ ระบบการศึกษาไทย เขาคัดเลือกอาจารย์กันยังไงหว่า? หรือว่าลูกศิษย์ลอกมาผิดหมด แล้วเอาอาจารย์มาประจานกลางเวป...???!!" แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 06:46:10 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 06:34:59 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 06:26:02

ความคิดเห็นที่ 7 สรุป คุณ จกขท ไม่ต้องไปแปลให้เสียเวลาเลย ส่งคืนอาจารย์ไปเรียนภาษาอังกฤษใหม่ลูกเดียวเลยหละ จริงๆแล้วถ้าอาจารย์รู้ตัวว่าเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้ (หรือไม่รู้ตัว?)  แต่ถ้าต้องการสอนศิษย์ให้เข้าใจภาษากฎหมาย (เพราะสอนยังไงศิษย์ก็เขียนภาษากฎหมายเป็นอังกฤษไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละเนื่องจากแม่ปูก็เดินไม่ตรง) เมื่อตระหนักได้เช่นนี้ทำไม่อาจารย์ไม่เอา ภาษากฎหมายที่นักกฎหมายฝรั่งเขียนมาสอนนักศึกษาล่ะ? ทำไมต้องดันทุรังเขียนอะไรเพี่ยนๆมาให้นักศึกษาเรียนกันล่ะ? หรือไม่ตระหนัก? หรือตระหนัก แต่อาจารย์คิดว่านักศึกษามันโง่ ไม่รู้ว่าอาจารย์เอาประโยคภาษาอังกฤษเพื่ยนๆ (ที่พยายามเขียนเป็นภาษากฎหมาย) มาให้นักศึกษาเรียนกัน  เวงกรรม...การศึกษาไทย...เฮ้อ...!!! แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 06:43:24 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 06:42:10

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ fortuneteller ใจเย็นๆครับ ผมยังรุสึกเลยว่าประโยคมันผิด แต่อาจานเค้าก็พูดภาษาอังกฤษได้ดีเว่อร์เหมือนฝรั่งนะครับ ผมก็ขอบคุณทุกคนที่มาแสดงความคิดเห็นนะครับ จากคุณ : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย (ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 16:31:25

ความคิดเห็นที่ 9 Speaking is a different skill from writing. The instructor should be careful in writing out sentences. I know he is quite proficient, but just not careful enough, thinking that it makes sense for anyone to look at and should pose no problem of understaning. Unfortunately, a student may not understand 100% and thus post these questions on Pantip board. I myself use English everyday and I know that I do commit writing mistakes quite easily. This is the main reason why I re-read my writing before submitting it for clients etc. A university instructor should do the same. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 19:00:18

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบคุณก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย คคห 8 เราไม่ได้ใจร้อนและไม่ได้โมโหใคร แต่เรา "ตกใจ แล้วงงมากๆว่า ทำไมใช้สื่อการสอน ที่ไม่ได้คุณภาพ แบบนี้?" ก่อนอื่นขอบอกนะว่า.. การเขียนภาษากฎหมายๆไม่ให้หลุดน่ะ อย่าคิดว่าหมูนะ ขนาดคนจบปริญญาตรีนิติศาสคร์จากไทย แล้วไปต่อปริญญาโทนิติศาสตร์ที่อังกฤษหรืออเมริกา แล้วจะไปเขียนภาษากฎหมายว่าความแข่งกับทนายฝรั่งเจ้าของภาษาในศาลในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 1 น่ะ "ยังไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ง่ายๆเลย" เพราะเขียนไปยังไงก็แพ้เขาอยู่ในมุ้งวันยังค่ำนั่นแหละ แต่ถ้าเรียนนิติในอังกฤษหรืออเมริกาตั้งแต่ปริญญาตรีแล้วต่อโทที่นั่นไปเลย หรือเรียนนิติแต่ในประเทศไทย แล้วมีชั่วบินทางด้านภาษาอังกฤษสูงมากๆนะ (ต้องเรียนและใช้งานภาษาอังกฤษอย่างหนักๆ เกิน 10 ปี แหงๆ หรือเผลอๆอาจเกิน 15 ปีอีกด้วย) ก็ไม่แน่นะ?  อาจพอสู้ฝรั่งเจ้าของภาษาได้  แต่ก็รับรองว่าเหนื่อยหึดขึ้นคอแน่ๆ... ถ้าอาจารย์ที่สอนภาษากฎหมายเขียนภาษาอังกฤษเป็นภาษากฎหมายเองไม่เก่ง (ก็น่าจะรู้ตัว) แล้วก็ไม่เห็นจะต้อง worry เลย เพราะสมัยนี้เขามี technology ที่เรียกว่า google ภาษากฎหมายสวยๆน่ะ ใช้ google หาเอา มีเยอะแยะเลย ที่จะเอามาใช้เป็นสื่อการสอนดีๆได้ ไม่จำเป็นต้องมั่ว...แบบที่มั่วมาให้เห็นแบบนี้... ถ้าจะเอาเป็น textbook ที่สอนตามขั้นตอนสวยๆนะ จะแนะนำให้ มีเล่มนี้คือ Cambridge Professional English in Use.  Law ใน textbook เล่มนี้เขาสอนไว้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานเลยว่าคนทีจะทำอาชีพด้านกฎหมายจะต้องเจอศัพท์อะไรบ้าง และภาษากฎหมายเขาเขียนกันยังไง มีสอนเกี่ยวกับกระบวนยุติธรรม เกี่ยวกับการร่างสัญญา การเขียนคำฟ้อง....ฯลฯ ตั้งหลายกระบวนท่าเพลงแน่ะ ตำราดีๆแบบนี้ก็น่าจะเอามาใช้สอนได้นะ...ไม่ใช่มั่วไปเรื่อย...ให้เสียชื่อคนสอนเองและเสียชื่อสถาบันตัวเอง... แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 11:27:38 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 11:24:51 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 11:23:26