ความคิดเห็นที่ 1 กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี  ทรงใช้พระแสงปืนยิงพระองค์ที่ตำหนักริมถนนพายัพ  เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕  สาเหตุไม่แจ้งชัด  แต่มีบันทึกว่า ทรงเป็นโรคลมชักมาแต่ทรงพระเยาว์  ซึ่งเรื้อรังมาตลอดพระชนม์ชีพ  และในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันบันทึกไว้ว่า ทรงเป็นโรคเส้นประสาทพิการมาเจ็ดเดือน  และก่อนที่จะปลงพระชนม์ชีพนั้น  ได้ทรงเขียนปริศนาให้หม่อมเสี่ยงทาย  แต่หม่อมไม่ทราบความในปริศนานั้น จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 06:58:43

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อยอดจากคุณ V_Mee พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ (กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี) (๒๔๒๗-๒๔๕๕) ทรงเป็นพระราชโอสรในลำดับที่ ๔๔ ในรัชกาลที่ ๕ กับเจ้าทิพเกสร ซึ่งเป็นธิดาของเจ้าน้อย มหาพรหม ก่อนหน้าจะสิ้นพระชนม์ไม่นาน ทรงหมั้นกับเจ้าสิริมา ณ เชียงใหม่ ซึ่งได้เกิดเสียชีวิตจากตะคริวขณะว่ายน้ำ ในพระราชวังดุสิต ไม่ช้านานพระองค์ก็ปลงพระชนม์ชีพ แต่ด้วยสาเหตุใดไม่ปรากฎ ภาพประกอบ รูปหมู่พระราชโอรส ฉายที่ประเทศอังกฤษ พ0ศ. ๒๔๔๔ จากซ้าย พระองค์เจ้ารังสิตประยุรศักดิ์, พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ, สมเด็จเจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ, พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์, พระองค์เจ้าสุริยงประยุรพันธุ์ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 07:28:21

ความคิดเห็นที่ 3 หม่อมเจ้าทิพยสัมพันธ์ ในพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ปลงพระชนม์พระองค์เอง ด้วยการเสวยยาพิษ เนื่องจากน้อยพระทัยพระสวามี หลังจากนั้น รัชกาลที่ ๕ สถาปนาพระอัฐิเป็นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 08:37:55

ความคิดเห็นที่ 4 โอ๊ะๆ มะหมาน่าเอ็นดู จากคุณ : PADAPA--DOO เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:06:52

ความคิดเห็นที่ 5 น่าเศร้า จากคุณ : cybrarian เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 10:28:19

ความคิดเห็นที่ 6 มจ.อากาศดำเกิง -ยังไม่ได้ระบุแน่ชัด ว่า เป็นอุบัติเหตุหรือท่านปลงพระชนม์ด้วยแก๊ส จากคุณ : ต้นจั่น เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 11:37:54

ความคิดเห็นที่ 7 คห. 1 และ 2 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ กรมหมื่นสรรควิสับนรบดี ปลงพระชนม์พระองคืเอง ด้วยพรแสงปืน เนื่องจากเสียพระทัย รู้สึกโทมนัสยิ่งนักที่สูญเสียพระชายาอันเป็นที่รักไป เจ้าศิริมา ณ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นตะคริวในสระน้ำถึงแก่พิราลัย พระองค์โศกเศร้าถึงกับไม่เป็นอันกินอันนอน จนประชวรหนัก และท้ายที่สุดตัดสินพระทัยใช้พระแสงปืน ตรัสว่า "รอพี่ด้วย พี่จะตามน้องไป" แล้วก็ทรงลั่นพระไกปืน (คำถูกรึป่าว อิอิ) ดังทั่วพระตำหนัก สิ้นพระชนม์ตามเจ้าศิริมาไป... เคยอ่านเจอนะครับ จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 15:05:50

ความคิดเห็นที่ 8 ... จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 15:10:28

ความคิดเห็นที่ 9 องค์ดิลก ใช่มั้ยคะ ที่เรียนจบ ดร.จากเยอรมัน ทำปริญญาเรื่องชาวนา เห็นว่าฉลาดมาก ทำไมท่านรักภรรยามากขนาดนี้หนอ จากคุณ : เอเธนา เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 18:40:40

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ข้อมูลค่ะ  แต่... ถ้าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ ก็อยากจะรบกวนขอเพิ่มนะคะ   คืออยากรู้ว่าท่านทรงงานอยู่ในกระทรวงใด  หรือทรงงานด้านไหน เรื่องของเรื่องคือมีรุ่นน้องคนหนึ่งขอให้ช่วยคิดหัวข้อวิทยานิพนธ์ค่ะ  น้องสนใจประเด็นเกี่ยวกับการขัดแย้งทางความคิดระหว่างนักเรียนนอกที่จบกลับมาในสมัย ร.5   กับกลุ่มผู้บริหารประเทศในขณะนั้น ทีนี้ดิฉันคลับคล้ายคลับคลาว่ามีเจ้านายพระองค์หนึ่งปลงประชนม์ชีพตัวเอง  ก็เลยอยากทราบข้อมูลว่าเป็นประเด็นเรื่องส่วนพระองค์  หรือเรื่องงาน  แต่เท่าที่ทุกท่านให้ข้อมูลมาก็เป็นประเด็นเรื่องส่วนพระองค์   ถ้าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มจากนี้ก็รบกวนด้วยนะคะ จากคุณ : ดอกไม้ใต้หมอน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 20:19:36

ความคิดเห็นที่ 11 และก็ยังมี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา ที่ทรงปลงพระชนม์พระองค์เองด้วยนะครับ. จากคุณ : อิมพีเรียล (Imperial T) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 20:30:54

ความคิดเห็นที่ 12 พระองค์ล่าสุดที่หลักฐานว่า ทรงปลงชนม์ ด้วยเหตุที่ทรงขัดแย้งกับ นายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) เกี่ยวการฟ้องร้องและยึดทรัพย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ อดีตประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่อานันทมหิดล ตั้งแต่วันที่เสวยราช ถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๗๘ จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 20:39:31

ความคิดเห็นที่ 13 เรียนคุณ V_Mee ข้อความที่ว่า  "และก่อนที่จะปลงพระชนม์ชีพนั้น  ได้ทรงเขียนปริศนาให้หม่อมเสี่ยงทาย  แต่หม่อมไม่ทราบความในปริศนานั้น" คุณ V_Mee   พอจะทราบหรือไม่คะว่าทรงเขียนว่าอย่างไร จากคุณ : ดอกไม้ใต้หมอน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 52 23:29:08

ความคิดเห็นที่ 14 ความในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน  วันที่  ๑๒  มกราคม  พ.ศ. ๒๔๕๕ มีดังนี้ "วันนี้กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ทรงประชวรพระโรตเส้นประสาทพการมาราว ๗ เดือนเศษแล้ว  ถึงกับยอมให้ หมอมาโน ชาติฝรั่งเศส เจาะตัดข้างในพระงค์ก๋ไม่หาย  กลับกำเริบขึ้น  เวลา ๒ ทุ่มยิงพระงค์ด้วยปืนสิ้นพระชนม์  พระชนม์นับได้ ๒๙ พรรษา  เดิมทีจะเกิดเหตุนี้สองสามวัน  ทรงลายพระหัตถ์เปนการเลี่ยงทายให้หม่อมของพระองค์ท่านคิด  เปนปฤษณา ๒ ข้อ  หม่อมห้ามไม่ทราบว่าจะเปนเช่นนั้นก็ตีปัญหาไม่แตก  พระองค์ท่านก็ทรงฉีกจดหมายฉบับนั้นเสียจนเลอียด  ไม่ทราบว่าจะเปนข้อความกระไร  แล้วพระองค์ท่านก็ทรงตัดสินในทางที่จะทำลายพระองค์  บรรทมอยู่ในที่บรรทมโดยพระอาการที่ประชวรทนทุกข์เวทนาอยู่ไม่ได้  ทรงสับนกปืนลั่นขึ้นไบนหลังคาตำหนักเพื่อลองปืนนัด ๑ แล้ว  ทันใดนั้นทรงยิงเข้าพระองค์อีกนัดหนึ่ง  ในเวลานั้นหม่อมห้ามฤามหาดเล็กของพระองค์ท่านพากันตกตลึง  หาได้จับยึดยื้อแย่งปืนอย่างหนึ่งอย่างใดไม่  ในเหตุนี้ทรงกำสลดพระไทยยิ่งนัก  โปรดให้ข้าราการในพระราชสำนักนิ์ไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด ๔๐ วัน" จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 08:50:46

ความคิดเห็นที่ 15 หม่อมขององค์ดิลกที่ว่า หม่อมไหนหรือขอรับ หลังจากเจ้าศิริมาสิ้น องค์ดิลกสมรสใหม่กับใครหรือขอรับ จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 11:59:07

ความคิดเห็นที่ 16 สาเหตุที่ทรงปลงพระชนม์พระองค์เองของ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี มีหลายสาเหตุ คะ 1.ทรงน้อยพระทัย ร.6 ที่ให้ทรงกรมเป็นแค่เมือง สรรค ทั้งเจ้าองค์อื่นๆจะได้ทรงกรมเป็นเมืองใหญ่ๆ เช่น กรมหลวงนครไชยศรี กรมพระกำแพงเพชร กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม เป็นต้น 2.ทรงเสียพระทัยที่ต้องสูญเสียพระชายา เจ้าศิริมา ในการจมน้ำที่พระราชวังสวนดุสิต 3.ทรงหว้าเหว่พระหฤทัยที่เจ้าจอมมารดาของพระองค์สิ้นไปตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ไม่มีเจ้าพี่เจ้าน้องร่วมเจ้าจอมมารดา ทรงได้รับการอภิบาลจากพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เพราะว่าเจ้าจอมมารดาเจ้าทิพย์เกษรของท่านมีศักดิ์เป็นหลานของพระราชชายาฯ จากคุณ : giggsmay เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 12:38:52

ความคิดเห็นที่ 17 หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง รพีพัฒน์ นั้น เคยอ่านในบันทึกของหม่อมเจ้าสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร ท่าเล่าว่า ท่านชายทรงลงประชนม์ด้วยแก๊ส ไม่แน่ใจว่า ที่ประเทศฮ่องกง หรือเปล่า ทรงอาภัพในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องที่ไม่เป็นที่โปรด ปรานของพระบิดา รวมถึงในเรื่องความรัก จากคุณ : akkarachai เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 14:00:26

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องการสิ้นพระชนม์ของกรมหมื่นสรรควิสัยนรบดีนั้น  จะว่ากันไปแล้วไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัด  ที่ยกมากล่าวกันนั้นก็เป็นเรื่องที่ฟังเขาเล่ากันมาทั้งนั้น ประเด็นเรื่องทรงกรมที่ว่าให้ทรงกรมเป็นเมืองเล็กนั้น  ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์กันจริงๆ เมืองสรรค์ก็ไม่ใช่เมืองเล็ก  เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มาช้านาน  ถ้าจะว่าไปเมืองพิจิตรก็ไม่ใช่เมืองใหญ่เมืองโตอะไร  แต่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มาช้านาน  เจ้าที่ทรงเป็นเมืองพิจิตรจึงมีฐานันดรเป็นถึงสมเด็จเจ้าฟ้า การตั้งกรมพระราชโอรสพระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕ นั้น  พระราชโอรสชั้นสมเด็จเจ้าฟ้าจะทรงกรมเป็นเมืองลูกหลวง  เว้นแต่รัชกาลที่ ๖ และ ๗ ที่ทรงกรมเป็นราชธานีในอดีต คือ เทพทวาราวดี = กรุงศรีอยุธยา  และสุโขทัยธรรมาธิราช = กรุงสุโขทัย  ส่วนชั้นพระองค์เจ้าชั้นโตก็จะทรงกรมเป็นนามมณฑล  เมื่อหมดนามมณฑลจึงเป็นนามเมืองลดหลั่นกันลงมา   ส่วนเรื่องทรงเสียพระทัยเรื่องเจ้าสิริมาจมน้ำตายนั้นก็ว่ากันไป  แต่ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริง  และถ้าพิจารณาจากจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันที่เจ้าพนักงานพระอาลักษณ์บันทึกไว้ตามคำบอกเล่าของข้าในกรมก็บ่งชี้ว่า นอกจากเจ้าสิริมาแล้วยังทรงมีหม่อมอื่นอยู่อีก  จะทรงมีหม่อมอีก ๑ คน หรือหลายคนก็ไม่ได้ระบุไว้ชัด  เรื่องเจ้าสิริมาจมน้ำตายจึงไม่น่าจะใช่สาเหตุหลัก  แต่ที่บันทึกว่า ประชวรเส้นประสาทพิการมานานกว่า ๗ เดือน  แม้หมอจะตัดผ่าตัดข้างใน  ซึ่งก็ไม่ทราบเป็นโรคร้ายอะไร  ข้อนี้น่าจะเป็นสาเหตุหลักให้ทรงคิดปลงพระชนม์มากกว่า  เพราะคงจะทรงทรมานกับโรคร้ายนี้  ที่อาจจะเกี่ยวพันกับที่ทรงเป็นโรคลมชักมาแต่ทรงพระเยาว์  และคงจะหมดหวังที่จะรักษามากกว่าอย่างอื่น  จึงทรงตัดสินพระทัยเช่นนั้น  กรณีเช่นนี้มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เรื่องที่ทรงถูกเรียกกลับจากยุโรป  แล้วไปเขียนกันว่า เพราะเจ้าจอมมารดาป่วย  เมื่อเสด็จกลับมาเลยทำให้เจ้าจอมมารดาหายป่วย  ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เมื่อสอบจากเอกสารจดหมายเหตุกลับกลายเป็นว่า ทรงถูกเรียกตัวกลับมา  เพราะล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ มีพระราชดำริที่จะส่งขึ้นไปประทับที่เชียงใหม่ให้เป็นหัวหน้าของตระกูลเจ้าเมืองเชียงใหม่  ลำปาง และลำพูน  เพราะทรงมีเชื้อสายทางเจ้าจอมมารดาที่เป็นเจ้าเชียงใหม่  แต่เมื่อตกลงกันได้ว่า จะให้เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ขึ้นเป็นเจ้านครเชียงใหม่  แต่เปลี่ยนสถานะจากเจ้าประเทศราชมาเป็นขุนนางสยาม  ก็เลยโปรดให้เสด็จกลับไปอังกฤษอีกครั้ง  หลังจากที่หยุดเรียนไป ๑ ปี  แล้วเป็นเหตุให้ทรงตัดสินใจบ้ายไปเรียนที่ยอรมันแทน  เพราะหากจะเรียนที่อังกฤษก็ตามเพื่อนไม่ทันแล้ว จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 19:50:03

ความคิดเห็นที่ 19 กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี  จบการศึกษาแล้วกลับมาทรงงานในหน่วยงานไหนคะ  รบกวนคุณ  V_Mee  หรือผู้รู้ท่านอื่นด้วยค่ะ จากคุณ : ดอกไม้ใต้หมอน เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 20:04:46

ความคิดเห็นที่ 20 กรมหมื่นสรรคฯทรงศึกษาจบที่ มหาวิทยาลัย ทึบบิงเง็น ได้ดีกรี ด๊อกเตอร์วิสตาร์ต กลับมาทรงงานที่กรม พลัมภัง(ตอนนี้คือ กรมการปกครอง) แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 52 20:55:35 จากคุณ : giggsmay เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 52 20:55:07