ความคิดเห็นที่ 1 สเปน และ อิตาเลียน ลงท้าย o = ชาย  / ลงท้าย a = ญ latin  ลงท้าย us = ชาย / ลงท้าย a = ญ สรุปง่าย ๆ ภาษา romance ( ภาษาที่มีพื้นมาจาก ละติน ) ก็จะแนวเดียวๆกันในการแบ่งแยกเพศ จากคุณ : Rey Elessar เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:48:09

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะเป็นความคุ้นชินมากกว่า เพราะอย่างบอกว่าชื่อ Yuri ถ้าเป็นรัสเซีย ก็ต้องว่าผู้ชาย ถ้าเป็นญี่ปุ่น ก็ชื่อผู้หญิง จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 02:34:59

ความคิดเห็นที่ 3   จะพยายามให้ข้อมูลดูครับ แต่ไม่รู้จะช่วยได้มากแค่ไหนเหมือนกันนะครับ ถ้าเป็นชื่อของคนยุโรปรวมถึงคนในทวีปอเมริกาหลายชื่อตั้งตามชื่อของคนในดินแดนแถบอิสราเอลโบราณครับ อย่างถ้าเป็นมาเรีย มารี หรือขึ้นต้นชื่อตามนี้ ก็ต้องเป็นผู้หญิง (ตั้งตามชื่อผู้หญิงที่ให้กำเนิดพระเยซู - ในบางประเทศที่ใช้ภาษา เช่น ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกสมีการผสมลักษณะการตั้งชื่อกับวัฒนธรรมท้องถิ่นทำให้ใช้ชื่อผู้หญิงรวมกับชื่อผู้ชายบ้าง) หรือ John, Ivan, Evan, Owen, Jean, Juan, Ian, Jan, Gianni, Giovanni, Jeovanni ฯลฯ ก็มาจากชื่อจอห์นหรือยอห์นครับ ซึ่งตามตำนานศาสนากลุ่ม Semitic (ยิว คริสต์ อิสลาม) มีบุคคลหลายคนชื่อนี้ แต่ทั้งนั้นก็เป็นผู้ชาย (ชื่อ Eve [ชื่อผู้หญิง - ไม่มีพยัญชนะ ' n ' ] บางทีอาจสับสนกับ ชื่อ Evan) อาจจะต้องลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาการตั้งชื่อของภาษายิวครับ :) หรือบางชื่อมีความหมาย(ของรากคำ)ไปในทำนองเดียวกับเพศที่บ่งถึง เช่น William มาจาก will คือเจตจำนง (ไม่แน่ใจว่า william แปลว่า ผู้เลือก หรือผู้ถูกเลือกเหมือนกัน :D) ขอต่อ # ถัดไปครับ เน็ตพอหยุดใช้มาพิมพ์นานเกินแล้วชอบหลุด แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 04:01:15 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:55:46 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:50:15 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:41:28 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:41:01 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:07:58 จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 03:06:37

ความคิดเห็นที่ 4   อย่างชื่อคนไทย ปัจจุบันมักตั้งเป็นภาษาบาลี-สันสกฤต มีความบ่งถึงเพศบ้าง บางทีก็ไม่บ่งถึงเพศ ถ้าบ่งถึงเพศมักเป็นคำที่มีความหมายหรือนัยยะบ่งถึงเพศในตัว หรือเป็นชื่อบุคคลหรือเทพตามคติพราหมณ์-ฮินดูครับ เช่น วิษณุ, กฤษณะ, อานนท์, (นึกชื่อไม่ค่อยออก :P) หรือถ้าเป็นภาษาไทยแท้ ก็สมชาย, สมหญิง บางทีก็ไม่บ่งเพศ เช่น สมนึก, สมหวัง หรือบางทีเป็นคำที่ยอมรับกันแล้วว่าต้องเป็นคำที่บ่งถึงเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้นครับ เช่น เกษม, ลัดดา (ไว้นึกออกอีกจะมาเพิ่มเติมให้ครับ :) แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 16:49:20 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:50:59 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:40:03 จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 03:16:30

ความคิดเห็นที่ 5   หรือชื่อของคนในกลุ่มเอเซียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี) บางชื่อใช้ได้ทั้งสองเพศ เช่นภาษาญี่ปุ่นก็มี Hikaru ภาษาจีนนึกไม่ออก เกาหลีก็นึกไม่ออก :P ภาษาญี่ปุ่นที่บ่งเพศ เท่าที่สังเกตดู ชื่อผู้ชายที่ใช้อักษร kanji สองตัว มักลงท้ายเป็น 'hide', 'hiko', 'hito', 'hiro', 'tomo', 'o', 'shi' ฯลฯ ส่วนผู้หญิงก็มักลงท้ายเป็น 'ko' หรือ 'na' หรืออย่างคำ 'mi' ใช้ได้ทั้งสองเพศ บางชื่อมีความหมายในภาษา บางชื่อไม่มี (เคยมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นบางคนบอกว่าทั้งชื่อและนามสกุลไม่มีความหมายในภาษาของตัวเอง) ส่วนภาษาเกาหลี ไม่ค่อยรู้นะครับ เท่าที่รู้คือรู้ว่าบางชื่อไม่บ่งถึงเพศหรือบ่งได้ทั้งชาย-หญิง :D แต่เบื้องต้นก็น่าจะพอสรุปได้ว่า ชื่อที่บ่งถึงเพศในภาษาใดๆ จะมีความสอดคล้องกับความหมายของคำที่ใช้ตั้งชื่อนั้นในภาษานั้นครับ :) อ้อ อยากรู้ด้วยครับว่าคุณ fafay เรียนวิชาปรัชญาภาษาอยู่ที่ไหนครับ? :) แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 04:06:26 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 04:04:52 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:48:25 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:47:24 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:37:35 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:30:28 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 03:28:32 จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 03:25:39

ความคิดเห็นที่ 6   ลองตอบคำถามบ้าง ไม่รู้จะตรงคำถามแค่ไหนเหมือนกันครับ "ชื่อเฉพาะดังกล่าวนั้นทำให้ทุกๆ คนสามารถเชื่อมโยงไปถึงเพศของเจ้าของชื่อได้หรือไม่คะ และคิดว่าการที่เราสามารถเชื่อมโยงและ/หรือไม่สามารถเชื่อมโยงชื่อกับเพศได้นั้น มีสาเหตุมาจากอะไรคะ" ? ผมคิดว่าไม่จำเป็นที่ชื่อจะต้องเชื่อมโยงกับเพศเสมอไปครับ การตั้งชื่อเป็นการสร้างคำขึ้นเพื่อบ่งถึงสิ่งเฉพาะนะครับ อย่างสะพาน ถนน ซอย ฯลฯ ก็มีชื่อเฉพาะของมัน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะมีเพศ(?) (แม้ว่าชื่อของสิ่งเฉพาะที่ไม่มีเพศอาจจะตรงกับสิ่งเฉพาะที่มีเพศก็ได้) พอได้ยินชื่อทำให้เรานึกถึงสิ่งเฉพาะนั้นๆ ถ้าสิ่งนั้นมีเพศ เราอาจนึกได้ว่าชื่อนี้บ่งถึงสิ่งที่มีเพศใด ถ้าไม่คำนึงถึงความหมายจนเกินไปก็อาจเป็นไปได้ที่จะมีการตั้งชื่อคนว่าสมหญิงทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชาย(?) ถ้าเราไม่เข้าใจความหมายของคำนั้น เราก็ไม่น่าจะรู้ได้แน่ชัดว่าบ่งถึงอะไรแน่ หรือเปล่า? สมมุติว่าคนที่ใช้ภาษาต่างกันรู้จักกัน และรู้ชื่อของกันและกัน แต่ไม่รู้ความหมายของชื่อของแต่ละคน ในคนสองคนนี้ การรู้จักชื่อของอีกคนหนึ่งก็เพื่อใช้บ่งถึงคนคนนั้นเท่านั้น หรือเปล่า? แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 04:36:16 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 04:35:08 จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 04:32:38

ความคิดเห็นที่ 7   **คำเตือนข้อมูลนี้เกิดจากประสบการณ์ การตั้งชื่อมีทั้งแบบมีความหมายและไม่มีความหมาย แบบมีความหมายนั้น  นิยมตั้งตามเพศอยู่แล้วไม่ว่าชาติพันธุ์ไหน  การตั้งแบบมีความหมายน่าจะขึ้นกับมุมมองในเพศนั้นๆของผู้ตั้ง(น่าจะเป็นบิดา มารดา หรือไม่ก็เกิดจากการเปลี่ยนเอง) อาจเกี่ยวถึงดวงชะตา หรือสิ่งที่ใช้ชี้นำดวงชะตาของเจ้าของชื่อในอนาคต  แต่น่าจะเกี่ยวพันถึงเพศอย่างชัดเจน   แบบไม่มีความหมาย  ที่เห็นๆก็พวกผิวขาวส่วนใหญ่  อาจตั้งจากความชอบส่วนตัวและอาจเกี่ยวกับศาสนา  ไม่ค่อยเห็นการผสมใหม่ แต่ก็ขึ้นกับเพศเช่นกัน การตั้งชื่อน่าจะเกี่ยวพันถึงเพศอย่างชัดเจน  ทั้งนี้ประสบการณ์จะบอกว่าชื่อนั้นเป็นเพศอะไร  เว้นแต่เป็นชื่อใหม่ที่ยังไม่เคยรู้หรือภาษาต่างประเทศ จากคุณ : vincentlenon เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:08:55

ความคิดเห็นที่ 8 มาช่วยตอบคำถามบ้าง ^^ ชื่อเฉพาะดังกล่าวนั้นทำให้ทุกๆ คนสามารถเชื่อมโยงไปถึงเพศของเจ้าของชื่อได้หรือไม่คะ และคิดว่าการที่เราสามารถเชื่อมโยงและ/หรือไม่สามารถเชื่อมโยงชื่อกับเพศได้นั้น มีสาเหตุมาจากอะไรคะ - สำหรับชื่อที่ได้อ่านมาจากเจ้าของกระทู้ เราระบุเพศของชื่อได้นะ โดยความคิดเห็นแล้ว การออกเสียงของชื่อดูจะเป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกันในการระบุเพศ เสียงที่ออกมาฟังแล้วอ่อนหวาน หรือค่อนข้างแข็ง ความเคยชินก็คงเป็นส่วนหนึ่งในการระบุเพศด้วย แต่นั่นคงใช้สำหรับพวกชื่อแปลกๆที่เดี๋ยวนี้คนเราช่างสรรหามาตั้งกันจัง เพราะสำหรับชื่อที่ไม่ได้ใช้ศัพท์ยากหรือซับซ้อนจนเกินไป น่าจะไปลองถามเด็กเล็กๆดู เอาชื่อผู้ชายกับผู้หญิงไปถามแล้วให้ทายว่าชื่อไหนผู้ชาย ชื่อไหนผู้หญิง เด็กเล็กๆยังไม่มีประสบการณ์คุ้นเคยกับเรื่องชื่อมากนัก แต่ส่วนใหญ่น่าจะแยกเพศเอาจากชื่อได้ มันอยู่ที่ความรู้สึกเวลาได้ยินชื่ออ่ะ เพราะฉะนั้นการออกเสียงของชื่ออะไรก็ตามน่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญในการสามารถรู้สึกระบุเพศได้จากชื่อนะ จากคุณ : NZtak เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:12:52

ความคิดเห็นที่ 9 อย่างชื่อเกาหลี บางชื่อก็ใช้ได้ทั้งชายหญิงนะ เช่น จีฮุน มีทั้งชายและหญิง แอบระบุยากเหมือนกันนะ ส่วนของไทยจะง่ายกว่า เพราะความหมายหรือชื่อมักจะสื่อไปถึงเพศนั้นๆ เลย จากคุณ : daisyjjh เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:45:40

ความคิดเห็นที่ 10 เพศในภาษา โดยเฉพาะภาษาในยุโรป จะมีลักษณะไวยกรณ์ทางเพศที่บ่งบอกอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นคำนำหน้านามเพศ อย่างในภาษาฝรั่งเศส Le La หรือระบบตัวลงท้ายอย่างรัสเซีย ที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ สระอี (ย์) จะเป็นเพศชาย ส่วนเพศหญิงลงท้าย อา ยา เป็นต้น ส่วนในภาษาไทยที่รับมาจากอินเดียซะส่วนใหญ่ มักจะลงท้ายด้วยอาเป็นชาย เช่น วิทยา ส่วนหญิงมักจะลงท้ายด้วยอี เช่น ดรุณี แต่ในสมัยก่อน เพศในทางภาษาไทย ยังไม่โดดเด่น เพราะมีคนจำนวนมากชื่อเหมือนจะเป็นเพศหญิงแต่ก็เป็นชาย อย่างกุหลาบ สายประดิษฐ์ คนแต่งข้างหลังภาพก็เป็นชาย เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ เป็นต้น ซึ่งการเน้นเพศทางชื่อ เพิ่งมามีในสมัยหลัง ในช่วงยุคเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย กุหลาบ สายประดิษฐ์ ก็เคยถูกบังคับให้เปลี่ยนชื่อให้เป็นนามแบบชายเหมือนกัน จากคุณ : Viengวิไล เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 20:28:24

ความคิดเห็นที่ 11 ผมงงอย่าง เค้าเรียก ปรัชญาภาษาเหรอครับ  ผมนึกว่า เค้าหมายถึง Ordinary language philosophy or linguistic philosophy is a philosophical school that approaches traditional philosophical problems as rooted in misunderstandings philosophers develop by distorting or forgetting what words actually mean. การหาลักษณะของภาษาทั้งโลก น่าจะ เรียกว่า linguistic Typology มากกว่านะครับ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันไม่ค่อยได้อ่านสาขานี้นะครับ แต่ผมว่ายากนะครับ พวกนี้มันมีลักษณะของ Arbitariness ยากครับ ภาษาที่มีวิภัตติมากก็จะมีวัภัตติช่วยบอก แต่ อย่างภาษาไทยยากมากๆครับ แต่ถ้าจะศึกษาจริงๆ ควรจะต้อง เริ่มที่ภาษาไทยภาษาเดียวก่อนนะครับ ลองเอาคำทั้งหมด ที่เป็นชื่อคน มาวิเคราะห์ ส่วนหนึ่ง วิเคราะห์ระบบเสียง  2.ศึกษาความหมาย 3.ประวัติการใช้  แต่จะได้คำตอบหรือไม่ผมไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะสังเกตว่า ชื่อแปลกๆใหม่ๆสมัยนี้ถ้าได้ยินครั้งแรก ก็มีลังเลบ้างว่าเจ้าของชื่อเป็นชายหรือหญิงครับ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 23:56:10

ความคิดเห็นที่ 12   #11 ที่ไป copy มานั่นเป็นชื่อสำนักคิด (school) ไม่ใช่ชื่อวิชา (subject) หรือเปล่าครับ? ปรัชญาภาษา อังกฤษเรียกว่า "Philosophy of Language" น่ะครับ อืม อธิบายคร่าวๆ วิชาปรัชญาภาษาตั้งคำถามกับเรื่องที่วิชาภาษาศาสตร์ยอมรับว่าจริงแล้วล่ะมั้งครับ :) จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 01:14:10

ความคิดเห็นที่ 13 วิชาปรัชญาภาษา (Philosophy of Language) ที่เราเรียน เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาษาและความเป็นจริง ธรรมชาติของภาษา และทฤษฎีความหมายค่ะ เรืองที่เรียนก็เช่น ความหมายและการบ่งถึง, คำบรรยายแบบชี้เฉพาะ, ทฤษฎีความหมาย วัจนกรรม, อุปลักษณ์ เป็นต้นค่ะ ขอบคุณทุกๆ คำตอบนะคะ จากข้อมูลที่รวบรวมดูนั้นค่อนข้างกว้างมากเลยทีเดียว ไม่เหมาะกับการนำมาเขียนเชิงบทความ แต่เหมาะกับการเก็บเอาไปทำสารนิพนธ์มาก ถ้าข้อมูลทั้งหมดนี้ไม่ได้ใช้ในบทความ ก็จะเก็บไปใช้ตอนทำสารนิพนธ์นะคะ ฉะนั้นหากใครยังพอมีข้อมูลเพิ่มเติมอีก กรุณาบอกด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ :) จากคุณ : fafay เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 19:00:26

ความคิดเห็นที่ 14   อืม... ลองมาเพิ่มข้อมูลให้ครับ แต่ไม่รู้จะมีประโยชน์หรือเปล่านะ อย่างชื่อเกาหลีที่คุณ fafay ยกตัวอย่างมานี่ บอกตามตรงว่าผมไม่รู้เลยว่าเชื่อมโยงกับเพศไหนยังไง ถ้าลองบอกว่า "ลุงยุนโฮ" อันนี้รู้แน่ๆ ว่าเป็นเพศชาย แต่ที่รู้ไม่ใช่เพราะชื่อ "ยุนโฮ" แต่รู้เพราะคำว่า "ลุง" มากกว่า ซึ่งจริงๆ คำว่า "ยุนโฮ" อาจจะมีความหมายก็ได้ในภาษาเกาหลีและตามความหมายนั้นสิ่งที่ถูกบ่งถึงอาจจะต้องเป็นเพศชายเท่านั้นก็ได้ แต่สำหรับผมที่ไม่รู้ภาษาเกาหลี คำว่า "ยุนโฮ" ก็มีไว้เพื่อบ่งถึง "สิ่ง" บางสิ่งเท่านั้น ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร (รู้แต่ว่ามี "สิ่ง" ที่รองรับการบ่งถึงของคำ "ยุนโฮ") แต่ถ้าเราจะบ่งถึงชายคนหนึ่ง (สมมุติว่าชื่อ "ยุนโฮ" เนี่ยแหละ) เราก็ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อเขาก็ได้ เราอาจจะพูดว่า "ชายคนนั้น" หรือ "ลุงคนนั้น" เรารู้ว่าคำว่า "ชาย" หรือคำว่า "ลุง" มีความหมายอย่างไร และรู้ว่าสิ่งที่ไม่ใช่ผู้ชายหรือลุงที่อยู่ใกล้ๆ "สิ่ง" ที่ชื่อยุนโฮ จะต้องไม่มีทางเกี่ยวกับคำว่า "ชายคนนั้น" หรือ "ลุงคนนั้น" แน่ๆ หรือมีใครพูดขึ้นมาว่า "ยุนโฮเป็นผู้ชาย" ถ้าลองเทียบดูน่าจะเห็นความแตกต่างกับคนที่พูดว่า "ลุงคนนั้นเป็นผู้ชาย" เพราะคำว่า "ลุงคนนั้น" กับคำว่า "ยุนโฮ" สำหรับผมมีความหมายไม่เหมือนกัน คำว่า "ลุง" สำหรับผมบ่งถึงเพศชายในตัวด้วย แต่คำว่า "ยุนโฮ" สำหรับผมไม่บ่งถึงเพศ ตราบเท่าที่ผมยังไม่เคยเจอ "ยุนโฮ" ตัวจริง แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 52 22:03:50 จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 22:01:52

ความคิดเห็นที่ 15   เรื่องชื่อกับการคิดแบบอุปนัย ก็น่าสนใจนะครับ สมมุติเรารู้จักชื่อหนึ่ง สมมุติว่าเป็นจอห์น เราเห็นจอห์นคนแรกก็เป็นผู้ชาย เห็นจอห์นคนที่สองก็เป็นผู้ชายอีก เห็นคนชื่อจอห์นกี่คนๆ ก็เป็นผู้ชายหมด ดังนั้นเราเลยสรุปว่า ชื่อจอห์นเป็นชื่อของผู้ชาย(เท่านั้น) แต่วันดีคืนดีมีผู้หญิงชื่อจอห์นขึ้นมา ข้อมูลที่ว่าคนชื่อจอห์นจะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นก็เป็นอันต้องทิ้งไป (เพราะมันผิด) เราอาจจะบอกว่า ผู้หญิงชื่อจอห์นนั้นแปลก นั่นไม่ใช่เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้หญิงชื่อจอห์น แต่เป็นเพราะเราเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้หญิงชื่อจอห์นต่างหาก(?) แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 52 22:15:26 จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 22:14:44