ความคิดเห็นที่ 1 ท่าทางคุณสหายจะประทับใจโปรแกรมนี้มากเลยนะ : ) ถ้าว่างๆ ต้องไปลองโหลดมาลองบ้าง จีนไม่ได้สร้างโปรแกรมนี้เองนะคะ แต่บริษัท IBM ร่วมมือกับรัฐบาลจีนใช้เวลากว่าสามปีในการสร้าง SAN FRANCISCO - IBM on Friday opened online doors to a virtual version of the famed Forbidden City in China that served for centuries as an exclusive realm for the nation's emperors. The US technology colossus spent more than three years working with Chinese officials and the Palace Museum to construct an interactive, animated replica of the 178-acre (720,000 square-metre) walled fortress in the Dongcheng District of Beijing. ที่มา http://www.channelnewsasia.com/stories/afp_asiapacific/view/381998/1/.html จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 23:16:53

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าอยากรู้ได้คำตอบอย่างละเอียดจริงๆ คงต้องไปค้นหาเพิ่มเติมว่า โปรแกรมแต่ละตัว ใว่ใช้ภาษาคอมพิวเตอร์อะไรในการเขียน ลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปถามผู้รู้ที่ห้องคอมฯต่อนะคะ   1) "Service-oriented architecture (SOA patterns)"   2) IBM software products  (WebSphere Application Server, Advanced ESB (WebSphere Message Broker) and DB2, GarageGames’ Torque Game Engine) Q14.What platform is it running on? A14: The Forbidden City: Beyond Space and Time is built utilizing SOA patterns and bestof-breed solution architecture. Premier IBM software products, such as WebSphere Application Server, Advanced ESB (WebSphere Message Broker) and DB2, GarageGames’ Torque Game Engine and open-source components power key features and services. To support highest level of performance, robustness, thousands of concurrent users and scalability comparable to that of the Massive Multiplayer Online Games, back end components run on one of IBM’s state of the art computing platforms BladeCenters running Linux Blade servers. ที่มา ----- http://www.beyondspaceandtime.org/FCBSTWeb/docs/fcbst_faq_en_US.pdf http://www.beyondspaceandtime.org/FCBSTWeb/web/index.html#link=whatis http://en.wikipedia.org/wiki/Service-oriented_architecture แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 52 00:06:27 จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 23:52:46

ความคิดเห็นที่ 3   ส่วนใหญ่ WebSphere มันจะผูกอยู่กับพวก JAVA เป็นหลักครับ (ก็เหมือนกับ Oracle นั่นเอง) ตัว WebSphere เอง เป็นเครื่องมือในการพัฒนาโปรแกรม(Tools) ตัวหนึ่งในหลาย ๆ ตัวที่อิงกับภาษาเชิงวัตถุ(Object Oriented Programming : OOP) ซึ่งส่วนมากเราจะรู้จักตัวที่ดัง ๆ ก็ได้แก่ Java แต่สมัยนี้ก็จะมีพวกรุ่นใหม่ ๆ อย่าง Grail ,Ruby ,Python ฯลฯ เป็นต้น คู่แข่งของ WebSphere ก็คือพวก Eclipse(ขององค์กรต่างหาก) , NetBean(ของ SUN) ตัว WebSphere จะเป็นของค่ายไอบีเอ็มโดยเฉพาะครับ สำหรับฐานข้อมูลก็ใช้ของ IBM เหมือนกันคือ DB2 และก็อาศัยเครื่องมือ(Engine) ที่เอาไว้สำหรับสร้างเกมส์พวก 3 มิติมาเป็นตัวกลางในการคำนวณผลรูปภาพ ก่อนที่จะแสดงกลับออกมาผ่านทาง WebSphere ครับ (เหมือนกับเราใช้งาน WebBrowser อย่างเช่น IE,Mozilla FireFox,Opera นั่นแหละครับ) โดยมีตัว WebServer หลักเป็น Linux ครับ น่าสังเกตว่างานนี้ Microsoft ไม่ได้แตะเงินสักหยวนเลย ไม่รู้จะปีนเกลียวกันตั้งแต่เรื่องไล่จับลิขสิทธิ์ SW กันหรือเปล่านะครั จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 15:43:34 A:124.121.140.59 X: TicketID:197085

ความคิดเห็นที่ 4 ^^ แวะมาขอบคุณคุณศรีสิทธิสงครามมากๆนะคะ สำหรับความรู้เรื่อง WebSphere กระจ่างขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องไปถึงห้องคอมฯ  : )                           พรุ่งนี้มีเรียนขอตัวไปอ่านหนังสือก่อน แล้วจะกลับมาเสริมว่า ทำไม Microsoft ไม่ได้แตะเงินสักหยวน? จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 10:48:07

ความคิดเห็นที่ 5   // ก็เพราะว่า โปรแกรมทุกอย่าง ตั้งแต่ตัวที่เอาไว้คำนวณผล ๓ มิติ,ตัวที่เอาไว้แสดงผลที่คำนวณเป็นภาพ,ตัวที่ทำหน้าที่เป็น Server,ตัวที่ทำหน้าที่เก็บฐานข้อมูลที่ใช้สำหรับการประมวลผลรูปภาพ ทุกโปรแกรมล้วนแล้วแต่ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์สักตัวครับ อย่างที่ได้เรียนไปว่า เป็นของ IBM ล้วน ๆ (ภาษาอย่าง JAVA ก็ของ SUN microsystem ครับ ) จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 15:38:55 A:124.121.135.31 X: TicketID:197085

ความคิดเห็นที่ 6   ขออภัยครับ ลืมอ่านประโยคข้างล่างครับ จากคุณ : ศรีสิทธิสงคราม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 15:41:58 A:124.121.135.31 X: TicketID:197085

ความคิดเห็นที่ 7 ^^ อู๊ย ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เรามาร่วมด้วยช่วยกันตอบคำถาม มีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแสดงความคิดเห็น เราออกจะดีใจ คุณอธิบายภาคเทคโนโลยีไปแล้ว ขอเพิ่มเติมสั้นๆ นะคะ ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการสร้าง “The Forbidden City: Beyond the Space and Time” เป็นโปรเจคที่เริ่มต้นเมื่อเดือน มิถุนายน 2005 ใช้เวลากว่าสามปี และค่าใช้จ่ายกว่า $3 ล้านเหรียญสหรัฐในการผลิต ไอบีเอ็มบริจาคเทคโนโลยีและเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเอง  โปรเจคนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมเมื่อเดือน ตุลาคม 2008 ค่ะ ยกคำพูดของคุณ Henry Chow ผู้จัดการทั่วไปของ IBM ประเทศจีน เขาได้พูดถึงโปรเจคนี้ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ Source:  http://www.ibm.com/ibm/responsibility/forbidden_city.shtml “This initiative takes the online experience to a new level of innovation with rich content, educational storytelling and community and social networking features that represent the next generation of 3-D Internet applications. IBM now has opened the door to a cultural treasure and rich heritage to everyone, everywhere which in the past was only available to relatively few.”  Henry Chow, General Manager, Greater China Group, IBM - October 2008 Other IBM's cultural heritage projects: โปรเจคอื่นๆที่น่าสนใจของไอบีเอ็มที่อยู่ในหมวด Arts and Culture Source:  http://www.ibm.com/ibm/ibmgives/grant/arts/index.shtml Michelangelo's Pietá, Vatican Library Hermitage Museum http://www.hermitagemuseum.org/ Eternal Egypt http://www.eternalegypt.org/ The Genographic Project www.ibm.com/genographic/ National Museum of African American History and Culture http://www.nmaahc.si.edu/ แหล่งข้อมูลอื่นๆ http://www.beyondspaceandtime.org/FCBSTWeb/docs/fcbst_faq_en_US.pdf http://www.channelnewsasia.com/stories/afp_asiapacific/view/381998/1/.html http://www.ibm.com/ibm/ibmgives/grant/arts/forbidden_city.shtml จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 11:15:52