ความคิดเห็นที่ 1 ผมไม่ได้เพี้ยนนะ หากแต่ สารท ในความเข้าใจของผมอาจจะต่างจากคุณเท่านั้น ถ้าจะว่าตาม พจนานุกรม ของราชบัณฑิตยสถาน ที่ผมไปลอกมา ท่านว่า สารท , สารทฤดู [สาด, สาระทะรึดู] น. ฤดูใบไม้ร่วง, ในประเทศเขตอบอุ่นทางซีกโลกเหนือ ซึ่งแบ่งฤดูกาลออกเป็น ๔ ฤดู คือ 1.ฤดูหนาว (เหมันตฤดู) 2.ฤดูใบไม้ผลิ (วสันตฤดู) 3.ฤดูร้อน (คิมหันตฤดู) 4.ฤดูใบไม้ร่วง (สารทฤดู) ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นในเดือน  กันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน. (อ. autumn). ...... สารทนี้ตรงกับภาษาจีนว่า “ ชิว ” ส่วน คำว่า “ สารทจีน ” ที่เราใช้กันอยู่นั้น เอกสารจีนบางฉบับเรียกว่า วัน หรือเทศกาล ‘ จงหยวน ’  บางฉบับเรียกหนักไปว่า ‘ กุ่ยเจี๋ย ’ หรือ ‘ เทศกาล ผี ’ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับสกสารท เมื่อก่อนผมเคยนึกขัดใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แต่ไม่กี่วันก่อนนี้เอง ผมได้มีโอกาสพูดคุย กับอาจารย์ที่ศึกษาและสอนประเพณีจีนที่มหาวิทยาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง ท่านใช้ ‘ สารท ’ ในความมหายของ ‘เทศกาล’ เฉยเลย เทศกาลอะไรท่านก็สารทไปหมด ทั้งๆที่ในประวัติแจ้งว่าท่านจบเอกมาทาง “ ภาษาไทย ” หรือนี่ผมกำลังขวางโลก........ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 23:02:57 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 22:59:45 จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 52 23:43:48

ความคิดเห็นที่ 2 การนับวันเข้าสู่ “ สารท ” ของจีนนั้น เขาแยกเป็นการนับ เป็นสองแบบ คือ 1.ตามปฏิทินสุริยคติโบราณ จะนับเข้าสู่สารทในวัน “ ลี่ชิว ” หรือประมาณวันที่ 7 หรือ 8 สิงหาคม ของทุกปี 2.ตามปฏิทินสุริยคติแบบสากลนิยม หรือ “ อุตุนิยม ” จะเริ่มนับเข้าสู่สารทในวัน “ ชิวเฟิน ” หรือประมาณวันที่ 22-24 ของเดือนกันยายนตของทุกปี หากเทียบกับคติโบราณแล้ว ชิวเฟินก็จะตกกึ่งกลางของฤดูสารท แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 00:00:26 จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 52 23:57:02

ความคิดเห็นที่ 3 ในวัน “ ชิวเฟิน ” นี้ทางฝรั่งเขามีชื่อเรียก ของเขาว่า “ Autumn Equinox ” ซึ่งบางถิ่นเขามีประเพณีเฉลิมฉลองด้วย ไทยเรียกวันชิวเฟินว่า “  สารทวิษุวัต ” หมายถึง จุดราตรีเสมอภาค หรือ จุดที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึง ตำแหน่งที่ โลกมีช่วงเวลากลางวันเท่ากับช่วงเวลากลางคืน ในประเทศจีน ถือเอาวันใกล้เคียงกันนี้เป็นหมายในการหว่านเพาะเมล็ดพันธุ์ธัญพืชเป็นรอบสองของปี โดยจีนทางเหนือชอบจะหว่านเพาะ ข้าวสาลี ซึ่งจะทนกับอากาศที่ค่อยเย็นลงได้ดี ขณะที่คนจีนทางใต้จะหว่านเพาะ ‘ข้าวเบา’ ที่เจริญเติบโตเร็ว ทั้งนี้เพราะระหว่างนี้จะมีสภาพฝนตกชุกอีกครั้งหนึ่ง แล้วฝนก็จะค่อยๆสร่างฟ้า  ขณะที่อุณหภูมิโดยทั่วไปค่อยๆลดต่ำลง พร้อมกับไม้ใหญ่จะค่อยๆสลัดใบร่วงลง คำจีนโบราณกล่าวถึงอากาศช่วงนี้ว่า ฝนยิ่งโปรยปราย อากาศก็จะยิ่งหนาวเย็น . . แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 52 23:45:44 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 23:13:22 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 23:11:13 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 00:16:46 จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 00:12:03

ความคิดเห็นที่ 4 น่าสนใจนะครับ อยากรู้เหตุผลเช่นกันครับ เป็นการยากที่จะอธิบายเรื่องดาราศาสตร์กับฤดูกาลมากมากครับ การนับจันทรคติของจีนเป็นเรื่องซับซ้อนมาก  และแสดงให้เห็นว่าดาราศาสตร์ของจีนนั้นลึกซึ้งมาก  จึงทำให้จีนมีศาสตร์ของฮวงจุ้ยไงล่ะ หวังว่าคุณแปลงนามจะมาเล่าต่อนะครับ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 22:35:50

ความคิดเห็นที่ 5 คัมภีร์ “ หลี่จี้ ” ซึ่งเป็นบทบันทึกประเพณี และ วัตรปฏิบัติของคนจีนในยุคราชวงศ์โจว โดยบัณฑิต หรือบ้างว่าเป็นผลงานของท่านขงจื๊อ นั้นกล่าวว่า ราชกิจของพระราชา ‘ชุน’ บวงสรวงตะวัน ค่ำคืน ‘ชิว’ ไหว้จันทรา และ บูชา สุริยะ ทาง ทิศตะวันออก บูชา พระจันทร์ทางทิศตะวันตก แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 23:22:40 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 23:19:53 จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 22:50:47

ความคิดเห็นที่ 6 ดัง... จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 23:21:07

ความคิดเห็นที่ 7 หนังสือเกี่ยวด้วยพิธีกรรมจีนโบราณให้คำอธิบายความข้างต้นไว้ว่า “ ชิว ” หมายถึง วัน “ ชิวเฟิน ” หรือวันสารทจีน หรือ วันสารทวิษุวัต ส่วนที่ว่า ‘ บูชาจันทราทางทิศตะวันตก ’ นั้น ในอดีตนครหรือรัฐจีนที่มีเอกราช ท่านจะสร้าง “ ฐาน ” ซึ่งก็คือการกอบสร้างเนินสูง ขึ้นทั้งสี่ทิศนอกเมือง เพื่อเป็นที่บูชา ฟ้า ดิน ตะวัน และจันทรา การบูชาพระจันทร์นั้น พระจักรพรรดิจะกระทำ ณ ฐานทางทิศตะวันตกนอกประตูเมือง ฐานนี้เรียกว่า yue4 tan2 ซึ่งในอดีตกรุงปักกิ่งก็มีฐานบูชาพระจันทร์ด้วย หากแต่ปัจจุบันฐานดังกล่าวแปรสภาพไปเป็นสวนสาธารณะ การบูชาพระอาทิตย์ และ พระจันทร์ในเวลานั้น ก็เพื่อวิงวอนให้ท่านดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล หรือ ฟงเถียวหวี่ซุ่น นั่นเอง ภาพสวนสาธารณะ  yue4 tan2  กรุงปักกิ่งในปัจจุบัน ซึ่งในช่วงราชวงศ์หมิงยังเป็นฐานบูชาพระจันทร์ในคืนวันสารท จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 23:43:32

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพ.. จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 23:45:41

ความคิดเห็นที่ 9 รายงานตัวติดตามชมครับ... จากคุณ : เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 23:50:39

ความคิดเห็นที่ 10 ในส่วนประเพณี การบูชาพระจันทร์ตามความเชื่อพื้นบ้าน ในวันเพ็ญเดือนแปดก็ขอให้เป็นไปตามที่เพื่อนสมาชิกได้กล่าวกันไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน แต่ขออนุญาตเสริมประเพณีการไหว้พระจันทร์ ว่า คนจีนในอดีตผู้ชายเขาไม่ไหว้จันทร์ในเพ็ญเดือนแปด ด้วยมีความเชื่อว่า พระจันทร์ มีพลังหยาง ซึ่งเป็นพลังเสริมเฉพาะของอิสตรี นอกจากนี้ที่วัดมังกรฯ ในกรุงเทพยังมีการประกอบพิธีบูชาพระจันทร์ในคืนเพ็ญเดือนแปดของจีนด้วย แต่ท่านกล่าวว่าท่านบูชา “ ไท้อิม ” หรือ “ โสมเทพ ” ซึ่งทางพุทธฝ่ายอาจารยาวาทถือเป็นหนึ่งในยี่สิบสี่เทพบริบาลพุทธศาสนา(จูเทียง) ข้างท้ายเป็น ขนมไหว้พระจันทร์ในแบบของประเพณีแต้จิ๋ว ส่วนขนมแบบโหงวยิ้งที่แสดงกันในกระทู้ก่อนหน้านี้ เป็นขนมในแบบฉบับของจีนกวางตุ้ง แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 52 23:42:13 จากคุณ : แปลงนาม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 23:52:01