ความคิดเห็นที่ 1   มีรุ่นน้องผมคนนึงที่จบตรีปรัชญา ไปเปิดร้านไอศกรีมร้านนึงชื่อร้าน "Philosophy Ice-cream" นี่ก็น่าจะเป็นอีกตัวอย่างนึงของคำว่า "ปรัชญากินได้" (หรือเปล่า?) :) ... ผมว่าปรัชญาจะ "กินได้" ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะกินด้วย บางคนกิน บางคนไม่กิน อย่างบางคนกินไอศกริมปรัชญา(ของรุ่นน้องผม)แล้วเชื่อว่าตัวเองได้กินปรัชญาเข้าไปจริงๆ แต่ปรัชญาจริงๆ ที่คนกินได้ มีหรือเปล่า ผมว่ามีนะ ง่ายๆ เลย มันก็คือการตั้งคำถามนั่นแหละครับ คนตั้งคำถามเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็กินปรัชญาแล้ว รู้จักตั้งคำถาม ว่าอันไหนจริง อันไหนเท็จ เช่น "ของอย่างนี้นำไปสู่สันติภาพได้จริงหรือเปล่า?" หรือ "ข้อมูลนี้ ข้อมูลนั้นจริงแค่ไหน?" เป็นต้นครับ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 14:26:29 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 52 14:24:09 จากคุณ : Zero_Zero เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 14:19:47

ความคิดเห็นที่ 2 เราไม่ได้ศึกษาปรัชญาเพราะอยากพูดจาให้ฟังดู intellectual เหมือน นักปรัชญาพวก Plato, Socrates และ Aristotle จริงๆแล้วเรา "ทำตรงกันข้าม" นั่นก็คือ "พูดจาเหมือนคนโง่ คนบ้า คนไร้การศึกษา คนที่มีสถานภาพทางสังคมต่ำต้อย" ตามหลักปรัชญาของเต๋า หลักปรัชญาของเต๋า "รักษาอาการป่วยได้ เพราะมันเป็นต้นกำเนิดแห่งวิชาการแพทย์ของจีน"  และมันก็ "กินได้ เพราะวิธีการทำอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อรักษาโรค และเพื่อคงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล ใช้หลักการตามทฤษฎีธาตุทั้ง 5 ของนักพรตเต๋า" ปรัชญาเป็นเรื่องเป็นเรื่องตายของเรา หากไม่มีปรัชญาเต๋า ป่านนี้เราคงไม่รู้วิชา alternative medicine มากพอที่จะรักษาอาการป่วยของตนเอง แล้วก็ตายไปเมื่อหลายปีไปแล้ว ลองไปอ่านบทความเก่าๆของเราได้ เรื่องปรัชญาของเต๋า เซน และฮินดูที่เราใช้ผสมผสานกันในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในการเดินเหิน (จัด posture) และหายใจ"... การตีความแบบถอดรหัส Dao De Jing  (version 1) เราเขียนบทความทำนองนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2547 (2004)  (อาจมีเขียนไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย แต่หาไม่เจอ) แล้ว (ตอนนั้นเราใช้ชื่อ tansy แต่ไม่ได้ใช้ login) ตาม link นี้ไป http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W2699854/W2699854.html การตีความแบบถอดรหัส Dao De Jing (version2) ที่เราทำไว้ (เมื่อตอนใช้ login เดิมคือ agelesstansy...ในกระทู้ทีว่านี้ (เราเขียนไว้เมื่อปี 2008) เราเริ่มตีความ Dao De Jing ตั้งแต่ คคห 11 - 15) ตาม link นี้ไป http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/07/K6813048/K6813048.html ระหว่าง 2 versions นี้ อันที่เขียนในปี 2004 มีเรื่องแนวคิดของ Zen ปนอยู่หน่อยๆและมีตัวสะกดผิดเยอะหน่อย  แต่ใน version ที่เขียนปี 2008 สะกดผิดน้อยลง แล้วเอาเรื่อง Zen ออก แต่เติม technical terms เป็นภาษา sanskrit เข้าไป ซึ่งเอามาจาก tantra ของฮินดู จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 18:17:21

ความคิดเห็นที่ 3   ปรัชญาคือ รัฐธรรมนูญของชีวิตเราครับ มันมีหลักการที่มั่นคงเที่ยงแท้ แต่บางทีเราต้องสับย่อยลงมาบ้าง ผมเห็นคุณค่าของปรัชญา ก็เมื่อใดที่สังคมของผมมันโง่ผิดปกติ แหละครับผมก็ดึงปรัชญาเข้ามาจู่โจมอย่างรวดเร็ว ผมเห็นปัญหาของชีวิต ก็คิดกำหนดเป็นปรัชญาขึ้นมานิแหละครับ การประยุกต์ใช้ คนคนนั้นต้องเก่งพอสมควรนะครับ ปรัชญาคือนามธรรมที่ใกล้ชิดกับรูปธรรม เหมาะสำหรับผู้มีอำนาจ ผู้บริหาร เพราะคนเหล่านี้จำเป็นต้องโดนขัดเกลาเพื่อจะดูดีที่สุดในท่ามกลางฝูงชน มันกินไม่ได้ ต่มันสามารถแก้ปัญหาชีวิตเราได้ครับ อบต ก็เอาปรัชญาไปใช้คิดสร้างแผนพัฒนาท้องถิ่นขึ้นครับ กินได้ นายก ก็เอาปรัชญา มาร์ก ซิส มาบริหารประเทศท่ามกลางทุนนิยมสามารได้ครับ ใครก็ใช้ได้ทั้งนั้น หากมีเหลี่ยมครับ จากคุณ : 1234 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 52 21:20:30 A:113.53.179.150 X: TicketID:226796

ความคิดเห็นที่ 4   หากการใช้ภาษาทำให้เรากินอิ่มได้ "ปรัชญาภาษา" ก็ต้องทำได้ หากการใช้คณิตศาสตร์ทำให้เรากินอิ่ม "ปรัชญาด้านคณิตศาสตร์" ก็ต้องทำได้ หากการเล่นกีฬาทำให้เรากินอิ่ม "ปรัชญาด้านกีฬา" ก็ต้องทำได้ การพัฒนาหรือประยุกต์ใช้สำคัญ   ปรัชญา คือ แก่น .. ปรัชญา คือ ความสวยงาม .. หากใส่ลงไปในกิจกรรมหรือกิจการใดล้วนดึงดูดคนได้เสมอ เพียงแต่ผมพูดง่ายไปหน่อยแต่ตอนทำอาจทำยากก็ได้ (ไม่งั้นบ้านเราคงเต็มไปด้วยปรัชญาไปแล้ว) จากคุณ : vincentlenon เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 09:25:07

ความคิดเห็นที่ 5 คุณฟอร์จูน ครับ เป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ เต๋าเป็นศาสตร์ที่ช่วยเหลือมนุษย์อย่างออกนอกหน้าที่สุดแล้วมั้งครับ  ถามหน่อยครับ การเผากระดาษเงินกระดาษทอง มีความเป็นมาอย่างไรครับ 1234  ครับ มีกระทู้ข้างล่างครับ ประชาธิปไตยคืออะไร "การปกครองโดยผู้ถูกปกครอง"  มันง่ายๆแค่นี้ แต่ไหง การปกครองกลายเป็นการยอมให้คนถือปืนไปซะได้  เรื่องมันเป็นอย่างนี้ แล้วจะทำยังไงดีละครับ จะแก้สำนึกที่ฝั่งไหนก่อนดี  แต่ถ้าทำให้คนถือปืน วางปืนได้ก่อนจะดีมากเลย ปรัชญา ทำเป็นแก่น พอเวลาเอาไปใช้ ใช้ยาก นอกจากคนใช้เรื่องๆ ใช้จนเก่ง ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ด้วยอคติ คิดว่าเอาไปใช้แล้วจะกลายเป็นคนบ้าซิ ยิ่งน่าคิด (บ้าอุดมคติ)   มันมาได้อย่างไร  หรือมันมาจากพวกรุ่นพี่ ที่ทำตัวไม่ค่อยเหมือนมนุษย์มนารึเปล่าครับ 55 (ไว้หนวด ไว้เครา พูดจามีสาระลึกๆ พูดตรงๆไม่เป็น ) เดี๋ยวโดนด่าแน่ รำไม่ดีโทษปี๋ โทษกลอง) จากคุณ : พงษ์ชัยวัฒน์ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 14:08:10

ความคิดเห็นที่ 6 เรากำลังก้าวไปอยู่แต่ในโลกที่สุดโต่งทาางวัตถุ  ที่แต่ละคนแทบจะจ้องมองอยู่แต่ฟากเดียวของถนนชีวิต ที่เป็นทางออกของการดำเนินชีวิตที่สงบสุข  แล้วอีกฟากละ มันอยู่ไหน หรือทางสายกลางละ มันจะเป็นยังไง  มันมีอยู่จริงหรือ? แล้วมันใช้เดินได้อย่างสงบสุขได้จริงรึเปล่า?       ถึงทุกคนสงสัย แต่ความสับสนมักจะมีมากกว่า จนพร้อมที่จะจำใจพยายามเดินไปทางวัตถุสุดโต่งนั้นให้ได้ แม้นว่าจะต้อง ใช้จ่ายอย่างไร หรือต้องเสียงต่ออะไรหลายอย่างก็ตาม เพราะความที่เชื่อว่า มันคือหนทางเดียวที่จะทำให้เราเดินได้อย่างมีความสุขกับสิ่งที่จับต้องได้ เพราะมันง่ายที่จะทำให้เด็กและสตรี รู้สึกปลอดภัย มากกว่าสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ ซึ่งเป็นนามธรรมเกินไปสำหรับเขา แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 52 16:10:41 จากคุณ : พงษ์ชัยวัฒน์ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 52 16:02:55

ความคิดเห็นที่ 7   คุณพี่พงษ์ชัยวัฒน์ฮะ การทำแผนพัฒนาก็เอามาจากความต้องการของประชาชนนั้นแหละครับ เพราะปรัชญาเป็นศาสตร์ที่เป็นนามธรรม เวลาเราไปใช้จึงเลือกมาเพียง 50% ครับ สำหรับผมแล้วไม่ยึดติดนะครับ เพราะผมเชื่อในลัทธิเต๋า นักปรัชญามีแนวทางเป็นของตนเอง เพราะพวกเขาไม่ค่อยเิดินตามหลังใคร อย่างผมเองก็เลือกจะใช้ชีวิตติดดิน เพราะผมเคารพธรรมชาติ นักปรัชญาคือ หัวหน้าขบวนการปฏิวัติทุกๆครั้งบนโลกใบนี้ครับ ก็คำตอบเดิมแหละครับ คนส่วนใหญ๋จะด่านักปรัชญาว่าบ้า ที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ตามสื่อภาพยนต์(ที่ดี)จะมีปรัชญาแฝงเอาไว้ให้คิดครับ เพลงดนตรี(ที่ดี)จะมีปรัชญาเป็นผลรวมของมันไว้ครับ สิ่งนี้เองทำให้ผมอยากเดินทางเข้ามาใกล้กับปรัชญาอย่างถึงแก่น เพราะเราเกิดมาทั้งที่ควรเก็บเกี่ยวสิ่งนี้เอาไว้ เมื่อเราย้อนมองดูทางที่ผ่านมาแล้วจะร้องว่า โอ้พระเจ้า จากคุณ : 1234 เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 52 01:31:58 A:125.26.198.116 X: TicketID:226796

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับผม ขอให้ความหมายของปรัชญาแบบพื้นๆเลยว่า หมายถึง "การมองเห็นความจริงของโลกและชีวิต" ซึ่งคนที่มองเห็นความจริงบางอย่าง เช่น เป็นคน ต้องกิน ไม่กินก็ตาย แค่นี้ผมก็ถือว่าคนนั้นเห็นความจริงบางอย่างแล้วนะ และมันก็ผลักดันชีวิตของเขา โดยที่เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่ามันอยู่ที่ก้นบึ้งความคิดของตนแท้ๆ แบบนี้เป็นปรัชญารึยังครับ จากคุณ : sproutshift เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 19:08:14

ความคิดเห็นที่ 9 คห 8"การมองเห็นความจริงของโลกและชีวิต" จนสรุปเป็นบทเรียน(ต้นเหตุปัญหา) สรุปเป็นหนทาง(ป้องกัน) สรุปเป็นวิธี (พัฒนา) สรุปความรู้ให้เกิดความเจริญพัฒนา โอ้โห ทีนี้ก็ได้มีอะไรไปคุยแล้ว ว่าเราไม่ได้บ้า แต่เราคุยกันถึงสิ่งที่สร้างสรรค์จริงๆเน้อ 55 สุดยอด วันนี้ตั้งคำถามได้ตรงคำตอบจริงๆ คุณฟอร์จูนครับ การมองเห็นความจริงบนโลกใบนี้ ยังไงก็มองเห็นนะครับ แต่การมองเห็นโลกใบนี้ ในมิติอื่น  ยังต้องพึ่งความรู้จากคุณนะครับ อย่าคิดว่าเราไม่สนใจนะครับ กรุณามาตอบด้วยครับ เค้าว่ากันว่า ศาสตร์ที่จะมาช่วยมนุษย์(เช่นแพทย์ทางเลือก) จะค่อยๆมีมากขึ้น จนวิทยาศาสตร์จะอายม้วนไปเลย   จะเป็นไปได้แค่ไหนครับ จากคุณ : พงษ์ชัยวัฒน์ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 21:43:21