ความคิดเห็นที่ 1 |
|
ความเห็นส่วนตัว อาจจะตรงไปตรงมานิดหน่อย อย่าโกรธนะครับ เพราะผมอยากให้ลองพิจารณาดู เพื่อเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวทั้งด้านการศึกษาต่อและการทำงาน
1. เกรดเฉลี่ยระดับปริญญาตรีที่คาดว่าจะได้รับ ผมว่าค่อนข้างต่ำหากคุณต้องการเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษระดับมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยของรัฐใน กทม.
2. คุณควรจะทำงานเก็บเงินสักสองสามปี แล้วอาจจะให้ที่บ้านช่วยด้านการเงินอีกสักหน่อย ให้ได้เงินก้อนพอสมควร ในขณะเดียวกันก็พัฒนาภาษาให้ดี จะได้เลือกสอบเข้าเรียนได้ในมหาวิทยาลัยที่ดี ซึ่งค่าเรียนอาจจะแพงสักหน่อย ผมขอใช้คำว่ามหาวิทยาลัยทีดี เป็นคำกลางๆนะครับ บางท่านอาจไม่พอใจ เพียงแต่อยากให้ลองพิจารณาดูว่าการได้เรียนในสถาบันหรือหลักสูตรที่เป็นที่ยอมรับหรือมีการแข่งขันสูง ย่อมทำให้คุณมีโอกาสพบเพื่อนร่วมรุ่นที่เก่งในระดับหนึ่ง ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้คุณขยันเรียนด้วย
3. ที่อยากให้คุณลองทำงานและเก็บเงินก่อนสักพัก เนื่องจากว่าผมอยากให้คุณเรียนภาคปกติ จะได้ทุ่มเทในการพัฒนาทักษะภาษาและการทำวิจัย หากคุณภาษาอังกฤษยังไม่ดีมากนัก แต่เลือกเรียนภาคพิเศษตอนเย็น หรือเสาร์ อาทิตย์ คุณจะไม่มีเวลาทุ่มเทในการเรียนมากนัก เพราะคุณต้องทำงานด้วย คุณอาจเรียนจบได้ แต่ความสามารถอาจสู้คนที่เรียนภาคปกติหรือภาคพิเศษที่พื้นฐานภาษาดีมากอยู่แล้ว มีคนจบปริญญาโทสาขาภาษาอังกฤษ การสอนภาษาอังกฤษ หรือภาษาศาสตร์ประยุกต์มากมาย ที่อาจได้เกรดไม่ดีนักและตัวภาษาก็ไม่ดีมาก จึงไม่สามารถหางานตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยได้ หรืออาจได้เป็นแค่ตำแหน่งอาจารย์อัตราจ้างชั่วคราวหรืออาจารย์พิเศษเท่านั้น เพราะปัจจุบันมีคนจบสาขาเหล่านี้ทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี
4. ลองเข้าไปดู profile ของอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ด้านภาษาอังกฤษ แล้วลองดูว่า ถ้าเราอยากเข้าไปสอนในมหาวิทยาลัยที่เล็งไว้ เราควรจะมี profile ประมาณไหน
5. เปลี่ยนทัศนะคติและการพูดแสดงความคิดเห็นบางเรื่อง เช่น พยายามอย่าพูดว่าอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยคนที่เก่งมากๆมักสอนไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะว่าสอนรู้เรื่อง-ไม่รู้เรื่อง ดี-ไม่ดี บางครั้งก็อยู่ที่ทัศนะคติของนักเรียนเอง หรือความสามารถของนักเรียนเองที่จะสามารถทำความเข้าใจได้หรือเปล่าเช่นกัน อาจารย์ท่านหนึ่งอาจสอนเป็นที่ถูกใจนักเรียนบางคน แต่สำหรับนักเรียนบางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ แทนที่คุณจะบอกว่าคุณมีความสามารถในการสอนและถ่ายทอดและโยงเข้ากับการวิจารณ์อาจารย์ที่เก่งแต่สอนไม่รู้เรื่อง มันดูเหมือนเป็นการยกตนข่มท่าน แต่กลับดูแล้วเหมือนองุ่นเปรี้ยว มะนาวหวานมากกว่า เพราะคุณไม่เก่งเหมือนอาจารย์คุณ อันนี้อย่าโกรธนะครับ อยากให้ระมัดระวังสักนิด เพราะวันหนึ่งเมื่อคุณต้องทำงานไม่ว่าจะงานอะไรก็ตาม การวิจารณ์ผู้ร่วมงานในทางลบ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม จะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆมากมาย ลองเปลี่ยนจากการมองข้อด้อยของคนอื่นแล้วเอามาปรับปรุงตัวเองโดยไม่ต้องพูดให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี ในกรณีของคุณ คุณน่าที่จะพัฒนาตัวคุณเองให้เก่งทั้งภาษาและการสอน
6. อีกครั้งครับ มีอาจารย์มากมายที่ทั้งเก่งและสอนดี ผมเชื่อว่าถ้ามหาวิทยาลัยต้องการอาจารย์ย่อมต้องการคนที่เก่งและสอนดีมาลำดับแรก ส่วนอาจารย์ที่เก่งแต่สอนไม่รู้เรื่อง และอาจารย์ที่ไม่เก่งแต่สอนดี อันนี้คงต้องลองพิจารณาอีกที เพียงแต่ว่าสาขาภาษา ขั้นแรกของการสอบคัดเลือกคือสอบข้อเขียนเพื่อคัดคนเก่ง ถ้าคุณไม่สามารถแสดงความเก่งให้เห็นได้ก่อน คุณก็อาจไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถในการสอนให้กรรมการได้ดูครับ
7. ถ้าต้องการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอาจารย์ด้านภาษา ควรมีความระมัดระวังในการใช้ภาษา ถึงแม้ว่าจะเป็นการเขียนแบบไม่เป็นทางการในเวปบอร์ดก็ตาม ไม่ว่าภาษาไทยหรืออังกฤษ เขียนแล้วควรตรวจทานสักนิดว่าสะกดผิดหรือเขียนย่อคำไปหรือเปล่า (ผมเองก็พลาดบ่อยๆ) แต่ที่เตือนเพราะว่าอยากให้คุณระมัดระวังในการใช้ภาษาให้มากที่สุด เพราะจะเป็นการช่วยทำให้คุณระมัดระวังและพัฒนาภาษาไปได้ในตัว ฝึกให้เคยชินนะครับ เพราะเวลาที่คุณไปเป็นอาจารย์แล้ว ถ้าคุณพลาดบ่อย อาจารย์ผู้ใหญ่เล่นงานเอาแน่ๆ (อันนี้แล้วแต่ดวงครับ)
8. ตอนนี้ไม่ต้องกังวล อายุยังไม่มากครับ ค่อยๆศึกษาดูว่าที่ไหนน่าเรียนและเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ดีที่สุด การสมัครเรียน ป.โท เราทำได้เรื่อยๆ ไม่เหมือนการหาที่เรียนแบบสมัยปริญญาตรี ดังนั้น จะลงทุนลงแรงเรียนทั้งที ก็หาที่เรียนที่ดีๆไปเลย อย่าลืมว่าเวลาที่คุณสมัครเข้าเป็นอาจารย์ มีคนสมัครมากมาย ทั้งที่จบปริญญาตรีเกรดดีๆ แล้วจบโท-เอก จากมหาวิทยาลัยดีๆในเมืองไทย อีกส่วนหนึ่งจบจากเมืองนอก ถ้าอยากได้สอนที่ดีๆ ก็ต้องวางแผนดีๆครับ
9. ความเห็นส่วนตัวมากๆนะครับสำหรับข้อนี้ ถ้าผมเป็นคุณผมจะพยายามเลือกสอบเข้าปริญญาโทในสาขาต่อไปนี้ก่อนคือ
MA (English) คณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ (ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันนี้ยังบังคับว่าจะต้องได้เกรดเฉลี่ยเฉพาะวิชาเอกภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่าสามหรือเปล่า)
MA (Applied Linguistics/Teaching English for Specific Purposes) คณะศิลปศาสตร์ มหิดล
MA (Linguistics) ของคณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ แล้วเลือกทำวิจัยออกแนว Applied Linguistics หรือ English Linguistics
MA (English as an International Language) หลักสูตรร่วมระหว่างสถาบันภาษาจุฬาฯ อักษรศาสตร์ และครุศาสตร์ จุฬาฯ
MA (Applied Linguistics) ของบางมด
ส่วนหลักสูตรอื่นๆ ก็แล้วแต่ว่าคุณจะชอบที่ไหนเป็นพิเศษ
จากคุณ |
:
JP
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ต.ค. 52 02:40:57
A:212.9.104.91 X: TicketID:141052
|
|
|
|