เรื่องนี้ ผู้ใดแต่งครับ
|
|
เรื่องนี้ไม่ทราบว่าเป็นของนักเขียนท่านใด ชื่อเรื่องก็ไม่มี วานผู้แต่งมาแต่งต่อให้จบด้วยครับ อิ อิ อิ
ในสมัยราชวงศ์ซ้อง มีพรรคใหญ่ชื่อ "วายุมาศพิรุณโปรย" (เอามาจากเรื่อง พยากรณ์ประกาศิต) ซ่องซุมกำลังผู้คนในเขตกังน้ำ(เจียงหนาน)ไว้มากมาย พรรคนี้มีสำนักใหญ่อยู่ที่เมืองหังจิว (หางโจว) หัวหน้าพรรคมีนามว่า "หวงตัง" มันหวังยึดครองยุทธจักร และมันพร้อมจะสู้รบกับอีกสามพรรคใหญ่
แต่ฉับพลันนั้นหวงตังกลับถูกลอบสังหาร ทำให้พรรควายุมาศพิรุณโปรยกลับแตกแยกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกนำโดย "เทวราชหน้าดำ" เจ้าหอตะวันออก ส่วนชื่อแซ่ที่แท้จริงของมัน ผู้คนต่างลืมเลือนไปหมดสิ้น มันได้ยึดอำนาจของพรรควายุมาศพิรุณโปรยไว้ ทั้งเปลี่ยนชื่อป้ายตึกใหญ่้เป็น "ตึกมฤตยูดำ"
ข้าง "ฮ่อกิ่มเอี้ย" ผู้คุมกฎซ้าย กลับเห็นว่ามันจะนำพาพรรควายุมาศพิรุณโปรยตกต่ำลง มันจึงนำพาพรรคพวกที่สนับสนุนตน หลบหนีจากการตามล่าของเทวราชหน้าดำ ไปชุมนุมกันอยู่ที่ฮกจิว (ฝุโจว) ตั้ง "สำนักสามานย์" (เอามาจากเรื่อง โฉมสะคราญ ปณิธาน จอมคน) ขึ้นที่นั่น
พวกมันทั้งสองกลุ่มกลับไม่มีใครทราบว่าจู่ๆ ก็มี "ชมรมด้ามดาบ" (เอามาจากเรื่อง พยากรณ์ประกาศิต) ก่อตั้งขึ้นมา ชมรมนี้กลับขยายตัวจนน่าหวั่นเกรง เพียงอาทิตย์เดียวชมรมของพวกมันก็กลายเป็นพรรคขนาดกล างแล้ว
เทวราชหน้าตำเห็นเช่นนั้นก็กลัวเกรงว่า มันจะขยายอำนาจไม่เท่ากับที่หวงตังเคยทำไว้ มันจึงสั่งเหล่าสมุนเข้าไปโจมตีชมรมด้ามดาบที่กวางตุ ้ง (กวนตง) ทันที แม้ว่าพวกมันยังต้องสู้รบกับสำนักสามานย์ก็ตาม ชมรมด้ามดาบได้รับความช่วยเหลือจาก "กลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้ว" แห่งกังน้ำ (เจียงหนาน) จนพวกมันสามารถต้านทานกำลังของตึกมฤตยูดำได้ไม่มากก็ น้อย การศึกระหว่าง "ตึกมฤตยูดำ" กับ "ชมรมด้ามดาบ" กลับยาวนานยิ่ง ไม่น่าเชื่อว่าพวกพรรคเล็กพรรคน้อยจะรวมตัวกันช่วยเห ลือชมรมด้ามดาบต้านศึกครั้งนี้!! แม้แต่ "เทวราชหน้าดำ" ยังไม่ยินยอมเชื่อถือ!!
ในการศึกครั้งนั้น แม้หงอจ้่าวอ้วงจะบาดเจ็บ แต่ก็ส่งทูตซ้าย "เจ็กเกี้ยม" บอกข่าวแก่สำนักสามานย์ที่เป็นอริกัน สำนักสามานย์ได้ทราบข่าวก็ส่งกำลังที่สั่งสมไว้ บุกตะลุยตึกมฤตยูดำที่เมืองหังจิวทันที เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์พวกมันก็ยึดตึกมฤตยูดำเอ าไว้ได้ อีกทั้งยังรวบรวมสมุนของตึกมฤตยูดำที่เหลือได้อีก เทวราชหน้าำดำแม้เคืองแค้นแต่จะทำเช่นใดได้ ตอนนี้ตึกของมันถูกยึดไปหมดแล้ว "พรรควายุมาศพิรุณโปรย" เหลือเพียงตำนานอันยิ่งใหญ่ที่แสนเลือนลางติดตราไว้เ พียงนั้น
หลังจากที่สำนักสามานย์ยึดตึกมฤตยูดำเอาไว้ได้ ฮ่อกิ่มเอี้ย ก็ได้ล้มป่วยและเสียชีวิตลง "ฮ่อเอี้ยวฮวง" จึงขึ้นตำรงตำแหน่งประมุขแห่งสำนักสามานย์แทนที
สำนักสามานย์รวบรวมกำลังไพร่พลบุกตะลุยพรรคเล็กพรรคน ้อยในแดนกังน้ำจนเกือบหมดสิ้น พวกมันตั้งสาขาสำนักสามานย์ไว้แทบจะทั่วทั้งสิบทิศ ใต้ตะวันแห่งกังน้ำ หากไปที่ใดไหนเลยจะมิมีสำนักสามานย์ แต่ก็ยังหวั่นเกรงชมรมด้ามดาบอยู่ แม้มันจะส่งสายลับมาสืบข่าวแต่ก็มิทราบข่าวคราวแม้แต ่น้อย หากออกหน้าออกตามากเกินไป ชมรมด้ามดาบนั้นก็เคยมีไมตรีต่อกันมาก่อน จะเป็นที่ครหาต่อชาวยุทธทั่วหล้า
ข้างชมรมด้ามดาบยามนี้ชุมนุมด้วยยอดยุทธมากมาย แม้เป็นเพียงพรรคเล็กๆ แต่ก็เป็นที่รวบรวมเหล่ายอดฝีมือ ชมรมด้ามดาบตั้ง "กลุ่มบัณฑิต" ขึ้นมาแยกต่างหากออกไป แต่เพียงไม่นานทางชมรมด้ามดาบก็ขัดแย้งกับกลุ่มบัณฑิ ตทันที สืบเนื่องมาจากชมรมด้ามดาบหันไปสู้รบกับ "สำนักไท่ซาน" (เอามาจากกระบี่เย้ยยุทธจักร) จนทำให้กลุ่มบัณฑิตไม่พอใจ กลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้วช่วยเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่กลายเป็นว่า ชมรมด้ามดาบและกลุ่มบัณฑิตกลับแตกคอกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้านชมรมด้ามดาบก็มีบ้างเช่นกันที่คล้อยตามมาอยู่กับ กลุ่มบัณทิต
สำนักสามานย์เห็นเป็นโอกาสจึงส่ง "เอ่งเซียวจุ้ย" เจ้าสาขาวิหคเหินมาเจรจากับชมรมด้ามดาบ ตอนนั้นชมรมด้ามดาบติดพันการรบกับสำนักไท่ซานอยู่ เห็นว่าสำนักสามานย์ก็มีความแค้นกับสำนักไท่ซานเช่นก ัน จึงตบปากรับคำว่าจะเข้าร่วมด้วย แต่ชมรมด้ามดาบขอจัดการเรื่องภายในพรรคให้สำเร็จก่อน
กลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้วเห็นแล้วก็ไม่ทักท้วงประการใด กลับเดินทางไปแดนประจิม พร้อมประกาศจะไม่เข้าร่วมกับสำนักสามานย์ แต่พวกมันกลับพบเจอดาบฆ่ามังกร!!!! (เอามาจากเรื่อง ดาบมังกรหยก)
กลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้ว ติดต่อกับ "มึ้งฮูหยิน" หัวหน้าชมรมกลุ่มบัณฑิต บอกกล่าวว่าตนเองได้พบเจอดาบฆ่ามังกรแล้ว เหล่ายอดฝีมือกลุ่มบัณฑิตจึงได้เข้าร่วมกับกลุ่มสามพ ี่น้องแซ่โง้ว ทิ้งให้เหล่าบัณฑิตหนุ่มอยู่ที่เมืองกวางจิว (กวนโจว) ต่อไป
กลุ่มเหล่าสองยอดฝีมือเดินทางไปถึงเซียมไซ (ส่านซี)เพื่อขุดเอาดาบฆ่ามังกรขึ้นมา มิทราบมีคนสำนักสามานย์สาขาเหยี่ยวราตรีติดตามมาได้เ ช่นไร หัวหน้าสาขาเหยี่ยวราตรี "ฮ่อหยุนตั๊ก" กล่าวว่า "พวกท่านมายังแดนเซียมไซ ตามที่พวกเราตกลงไว้ เราต้องแบ่งกันผลัดชมดาบฆ่ามังกรนี้"
กลุ่มเหล่าสองยอดฝีมือต่างมองหน้ากันไปมา มิทราบมันพูดถึงเรื่องอันใด หัวหน้ากลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้ว "โง้วเคี้ยงเล้ง" จึงกล่าวว่า "เรื่องเหล่านี้ เรามิได้เคยตกลงกันมาก่อนด้วยซ้ำไป"
ทั้งสองโต้เถียงกันไปมา จนฮ่อหยุนตั๊กทนไม่ไหว จึงล่าถอยจากไป กลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้วและเหล่ายอดฝีมือกลุ่มบัณฑิต ล้วนงุนงัน นึกไม่ถึงว่ามันจะถอยง่ายดายปานนี้
กลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้วและเหล่ายอดฝีมือกลุ่มบัณฑิตเ ดินทางกลับมากังน้ำ นึกมิถึงว่ากลับถูกสำนักสามานย์ตามล่า ..... เพียงไม่กี่วันก่อนจะไปแดนประจิมสองจอมยุทธจากชมรมด้ ามดาบก็ได้ออกจากสำนัก เดินทางดั้นด้นมาถึงกวางตุ้ง หวังพบมึ้งฮูหยินสักครา เพราะมีคำเล่าลือว่ามึ้งฮูหยินนั้นมีความงดงามยิ่งนั ก อีกทั้งพวกมันยังไปขัดแย้งกับผู้อาวุโสของชมรมด้ามดา บเข้าเสียอีก
"ตุ้ยเมี่ย" และ "เยิ่นหว่อสิง" ทั้งสองมาถึงกลับตกตะลึงในความงามของนางยิ่งนัก ยามนางชักกระบี่ดั่งสายน้ำไหลเย็นชื่นใจ ยามนางกรีดกราดคล้ายหมู่ผกาหอมหวนชวนใจนัก ทั้งสองจึงตกลงอยู่ดูแล "ตึกบัณฑิตก่อนเที่ยงคืน" แทนมึ้งฮูหยิน
ฝากกลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้วและเหล่ายอดฝีมือกลุ่มบัณฑ ิตก็ได้ต่อต้านสำนักสามานย์จนมาถึงปากน้ำเอี๊ยงจื้อก ัง ที่นั่นชุมนุมอยู่ด้วยกลุ่มชาวยุทธมากมาย มีคนผู้หนึ่ง "กำหลอก่วง" กำหลอก้วงถามไถ่เหล่าชาวยุทธ ณ ที่เหลาแห่งหนึ่ง
"ข้าพเจ้าเห็นว่ากลุ่มสามพี่น้องแซ่งุ้ยนั้น ได้พบขุมทรัพย์ของดาบฆ่ามังกรแล้ว"
เหล่าผู้กล้าหาญบนเหลาทั้งปวงล้วนแล้วแต่เป็นยอดยุทธ ทั้งสิ้น ต่างพากันส่งเสียงดังอึงอลสับสน ไม่อาจจำแนกได้ว่าเสียงใดเป็นเสียงของผู้ใด ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ แต่น้อยคนนักจะทราบข่าวนี้ เพราะชมรมด้ามดาบ กลุ่มบัณฑิต และกลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้วนั้นลึกลับยิ่งนัก บางคนกลับไม่เคยได้ยินชื่อเสียด้วยซ้ำไป
"ท่านกล่าวผิดแล้ว ความจริงกลุ่มของพวกเราชื่อว่า 'สามพี่น้องแซ่โง้ว' ต่างหาก และจะกล่าวตามสัตย์จริงแล้ว พวกเราได้ดาบฆ่ามังกรมาจริง แต่ถึงกระนั้นเราก็ขุดด้มาด้วยตัวของเราเอง"
ทั้งหมดมองไปที่ต้นเสียง กลับเป็นเพียงบัณฑิตหนุ่มผู้หนึ่ง ที่แท้มันคือ "โง้วซีบุ้น" บัณฑิตหนุ่มผู้เป็นหนึ่งในสามจอมยุทธแห่งกลุ่มสามพี่ น้องแซ่โง้ว
แต่เหตุไฉนมันจึงมาอยู่ที่นี่ได้!!
เพียงชั่วก้านธูป พลันได้ยินเสียงต่อสู้ดังขึ้นมาที่ใต้เหลา เหล่ากลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้วและเหล่ายอดฝีมือกลุ่มบั ณฑิตถูกไล่ล่ามาจนถึงที่นี่นั่นเอง พลันเห็นเงาร่างหนึ่งโดดขึ้นบนเหลามา ที่แท้โ้ง้วเคี่ยงเล้งกระโดดลอยตัวขึ้นมาก่อน ติดตามมาด้วยฮ่อหยุนตั๊กเจ้าสาขาเหยี่ยวราตรี โง้วเคี่ยงเล้งหัวร่อขึ้นมาดังๆ คราหนึ่งก่อนกล่าว
"ข้าพเจ้าทราบอยู่แล้วว่า จะมีอะไรตามมาบ้างหลังจากที่พวกเรายึดของวิเศษมาแล้ว ดังนั้นมา...ให้ข้าพเจ้ารับทราบฝีมือท่าน"
ฮ่อหยุนตั๊กคารวะรอบทิศคราหนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า
"ทุกท่านในที่นี้โปรดเป็นพยานแก่สำนักสามานย์ของข้าพ เจ้า พวกสามพี่น้องแซ่โง้วนั้น พวกมันได้ตกลงกับพวกข้าพเจ้าแล้วว่า 'พวกท่านจะเข้าสู่สำนักสามานย์ และดาบนี้เมื่อได้มาก้ต้องแบ่งกันชม' ขอให้ทุกท่านโปรดเป็นพยานตัดสิน"
โง้วเคี่ยงเล้งส่งเสียงฮึคราหนึ่ง ชี้กระบี่ไปที่เบื้องหน้าของฮ่อหยุนตั๊ก แล้วกล่าวว่า
"ฮึ! ข้าพเจ้าไปตกลงกับพวกสำนักสามานย์ท่านเมื่อใด เมื่อพวกข้าพเจ้าได้ของวิเศษมาก็พร้อมจะสู้ศึกกับท่า นอยู่แล้ว"
โง้วเคี่ยงเล้งชี้กระบี่ไปเบื้องหน้าอีกคราก่อนกล่าว "แล้วเรื่องที่ท่านกล่าวหาว่า ข้าพเจ้าปรามาสสำนักท่านก็ไม่เป็นความจริงแต่ประการใ ด"
ชาวยุทธที่อยู่ในเหลาพากันฮือฮาเมื่อโง้วเคี่ยงเล้งพ ูดเยี่ยงนั้น ฮ่อหยุนตั๊กส่งเสียงฮึคราหนึ่ง กลับได้ยินเสียงหนึ่งลอดออกมา "มันทำเป็นอ้างว่าจะชิงดาบท่าน ความจริงแล้วมันต้องการโค่นล้มสกุลของท่านต่างหาก!" เสียงนี้มาจากบุรุษชุดดำผู้หนึ่ง มิมีใครทราบว่ามันเป็นผู้ใดกันแน่ ฮ่อหยุนตั๊กโกรธจนควันออกหู รีบชักกระบี่ออกมาจวงแทงโง้วเคี่ยงเล้งในบัดดล มันต้านรับด้วยกระบวนท่าพิสดารของสกุลโง้วก่อนจะกระโ จนออกจากเหลาไป ฮ่อหยุนตั๊กเห็นดังนั้นจึงใช้วิชาตัวเบาเข้าติดตาม
วิชาตัวเบาของสำนักสามานย์นับว่ายอดเยี่ยมยิ่งไม่นาน ก็ติดตามใกล้ถึงตัวศัตรูแล้ว โง้วเคี่ยงเล้งสบถคราหนึ่งก่อนวกกระบี่ดำทำด้วยเหล็ก น้ำพี้พม่าด้วยกำลังอันแรง ต้านทานการบุกฮ่อหยุนตั๊กไว้ได้ ฮ่อหยุนตั๊กถึงกลับตะลึงงัน มิคาดว่าโง้วเคี่ยงเล้งจะมีเรี่ยวแรงเหลือถึงเพียงนี ้ การต่อสู้ผ่านไปสี่ห้าสิบกระบวนท่าแล้ว ฮ่อหยุนตั๊กเริ่มเหนื่อยล้าแล้ว
ยามนั้นมันมองไปยังจุดหนึ่ง ที่แท้มีคนซุ่มอยู่ !!
คนผู้นั้นเคลื่อนกายอย่างรวดเร็วยิ่ง เงากระบี่ครอบคลุมมาเบื้องหน้าโง้วเคี่ยงเล้งรวดเร็ว ยิ่ง ทั่วกายของโง้วเคี่ยงเล้งถึงกับมีหยดเลือดกระจายออกม า มึ้งฮูหยินที่อยู่ใกล้กันนั้นรีบพาเหล่ายอดฝึมือกลุ่ มบัณฑิตใหม่และสกุลโง้วติดตามมาในบัดดล
กลุ่มสามพี่น้องแซ่โง้ว ที่แท้ไม่ใช่มีเพียงสามคนเพียง หากแต่มียอดยุทธอยู่ในกลุ่มมากมาย เพียงแต่ว่าสามพี่น้องแห่งสกุลโง้วในยุคก่อนตั้งขึ้น มาเท่านั้น ในยามนี้ย่อมมีผู้คนแห่งสกุลโง้วมากมายนัก มึ้งฮูหยินเมื่อมาถึงก็ส่งเสียงบอกแผนการสู้ศึกทันที
"ศิษย์สกุลโง้วจงฟัง ปกป้องท่านหัวหน้าสกุล"
ฮ่อหยุนตั๊กแตกตื่นยิ่ง แต่บุรุษลึกลับนั้นกลับยิ้มอย่างมีเลศนัย มีนเป่าปากวีดหนึ่ง สมุนสำนักสามานย์ที่ซุ่มอยู่ก็ติดตามมานับร้อยคน
ที่แท้พวกมันวางแผนไว้ก่อนแล้ว !!
ฮ่อหยุนตั๊กเห็นดังนั้นจึงโถมกำลังเข้าใส่โง้วเคี่ยง เล้งอย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น มิคาดโง้วเคี่ยงเล้งนั้นมีขุมพลังจากที่แห่งใด กระแทกจนข้อมือของฮ่อหยุนตั๊กแทบชาด้านไป
ศิษย์สกุลโง้วและพวกเหล่าบัณฑิตต่างสู้รบกับพวกพรรคส ามานย์ได้อย่างสูสีอย่างไม่น่าเชื่อ ชาวยุทธมากมายต่างตะลึงงัน ไม่คาดคิดว่าจะมีสำนักพรรคใดกล้าหาญชาิญชัยประกาศศึก กับเหล่าศิษย์สำนักสามานย์ได้
ขอร้องครับ วานหาผู้แต่ง หรือกระซิบ ด้วยว่า อา เอ้ย!!!!!! ดาบโดนชิงไปแล้ว แต่งต่อ เหอะครับ
ปล. คนนี้ ได้มะ เมี๊ยวเยี้ยกลั้ง
จากคุณ |
:
neo-aehuhu
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ต.ค. 52 10:11:52
|
|
|
|