ความคิดเห็นที่ 1 บางชื่อก็พอจะเดาได้นะครับ แต่ไม่กล้าลง อิอิ เอาเป็นว่าลองไปดูในคลังกระทู้เก่าดีกว่าครับผม http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/08/K4603333/K4603333.html แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 00:25:31 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 00:24:06 จากคุณ : Numenor เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 00:14:43

ความคิดเห็นที่ 2 ลืมอีกข้อที่สำคัญค่ะ  ที่ว่า พระองค์จุลทรงตกลงไว้กับคนผู้หนึ่ง(เรื่องแต่งงาน)แต่สุดท้ายก็เลิกกันไป เพราะฝ่ายนั้นไม่ต้องการเกี่ยวข้อง  สตรีผู้นั้นคือใครคะ พอจะเล่าเรื่องราวได้ไหมคะ ปล.ขอย้ำว่าอยากรู้มากค่ะ ขอหลังไมค์ก็ยังดี จากคุณ : บ๊องบ๊องอยากรู้จนตัวสั่น (ต๊องต๊อง กะ บ๊องบ๊อง) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 00:31:27

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องการเปลีี่ยนรัชกาลสมัย ร.๗ บุคคลนั้น ใช่ สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์ฯ หรือเปล่าครับ จากคุณ : salt_kit เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 01:44:02

ความคิดเห็นที่ 4 คำถามที่ ๒, ๓ และ ๔  มีคำตอบเดียวกันครับ  ลองตรวจสอบดูได้ไม่ยากครับ  เพราะในรัชกาลที่ ๗ เจ้านายพระองค์นั้นทรงมีความใกล้ชิดกับในหลวงมาก  เพราะเป็นญาติเกี่ยวดองใกล้ชิดหลายซับหลายซ้อนยิ่งกว่าเจ้านายพระองค์อื่นๆ จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 07:07:30

ความคิดเห็นที่ 5 พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ สมเด็จกรมพระสวัสดิวัตนวิศิษฎ์ เป็นทั้งเสด็จน้าและเป็นพระสัสสุระ(พ่อตา)ใน ร.7 จากคุณ : giggsmay เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 11:16:50

ความคิดเห็นที่ 6 อยากรู้คำตอบของความเห็นที่2 ด้วยค่ะ จากคุณ : เชี่ยวหมุน แต่ชื่นใจ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:25:48

ความคิดเห็นที่ 7 เคยอ่านเจอคะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะจำพระนามถูกเหรอเปล่า น่าจะเป็น ม.จ ฤดีวรวรรณ วรวรรณ พระธิดาใน พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ จากคุณ : giggsmay เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:31:54

ความคิดเห็นที่ 8 รู้สึกว่า ร.6 เอง ก็ไม่พอพระทัย กรมพระยาดำรงฯนะคะ มีเขียนไว้ในจดหมายถึงพระยายมราชด้วยค่ะ จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 14:56:48

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องในหลวงรัชกาลที่ ๖ กับกรมพระยาดำรงราชานุภาพนั้น  สาเหตุฟลักๆ น่าจะมาจากเรื่องการเสียดินแดน  ถึงขนาดมีพระราชกระแสไว้ในพระราชพินัยกรรมฉบับสุดท้ายก่อนสวรรคตไม่นาน  ทรงสั่งห้ามตั้งกรมพนะยาดำรงฯ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โดยเด็ดขาด  ด้วยทรงเกรงว่าจะเอาแผ่นดินสยามไปยกให้ต่างชาติ เรื่องนี้มีข้อสังเกตอยู่ว่า เมื่อครั้งกรมพระยาดำรงฯ กราบถวายบังคมลาพักราชการเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘  ก็ทรงหวังว่าศิษย์เอกคือ พระยามหาอำมาตยาธิบดีจะได้ขึ้นเป็นเสนาบดีแทน  ดังจะเห็นได้ว่า พระยามหาอำมาตยฯ ได้เป็นผู้รั้งเสนาบดีมหาดไทยอยู่ช่วงหนึ่ง  แต่ไม่นานนักก็โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย  กัลยาณมิตร) จากอุปราชมณฑลภาคพายัพเข้ามาเป็นเสนาบดีมหาดไทย  แล้วให้พระยามหาอำมาตยฯ ผู้รั้งเสนาบดีมหาดไทยออกไปเป็นอุปราชมณฑลภาคตะวันตก  ต่อมาไม่นานพระยามหาอำมาตยฯ ก็กราบถวายบังคมลาออกจากราชการ  แล้วถูกถออนจากสมาชิกรัตนวราภรณ์  ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงที่พระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในพระองค์ เรื่องของพระยามหาอำมาตยฯ ยังมีปรากฏในพระนิพนธ์คำนำของพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร  ในหนังสืองานศพพระยามหาอำมาตยฯ ว่า คนเราย่อมีข้อผิดพลาดบกพร่องแต่แล้วไปแล้วก็ไม่ควรนำมากล่าวถึง  ก็เลยไม่ทราบว่า การที่พระยามหาอำมาตยฯ ลาออกจากราชการตามสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ไปนั้น  จะมาจากสาเหตุเดียวกันหรือไม่ เรื่องการเสียดินแดนนี้ดูเหมือนล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ จะทรงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก  เพราะเมื่อกรุงสยามทำสะญญากู้เงินจากรัฐบาลอังกฤษที่มลายูเพื่อมาสร้างทางรถไฟสายใต้แล้วต้องเสียดินแดน ๓ รัฐมลายูให้อังกฤษ  โดยที่เจ้าพระยาไทรบุรีไม่ได้รับรู้รับทราบมาก่อน  พร้อมกันนั้นยังต้องทำสัญญาลับกับอังกฤษว่าจะไม่ยกดินแดนตั้งแต่บางสะพานลงไปให้แก่ชาติใดๆ  และเพื่อเป็นหลักประกันรัฐบาลสยามต้องไม่ส่งกองทหารลงไปประจำด้วย  สัญญานี้ลงนามกันตอนกลางเดือนมีนาคม  ๒๔๕๑  อีกไม่ถุงหนึ่งเดือนต่อมา  ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ก็เสด็จเลียบหัวเมืองมณฑลปักษ์ใค้ทันที  และเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ในเวลาต่อมาสยามก็ไม่เสียดินแดนอีกเลย  เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๗ มีพระราชดำรัสในกนวันฉลองความเสมอภาคของกรุงสยาม  ก็มีพระราชดำรัสว่า การที่สยามยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตและภาษีร้อยชักสามโดยไม่ต้องเสียอะไรแลกเปลี่ยนเลยนั้น  นับว่าเป็นคุณูปการของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ โดยแท้ จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 52 16:27:22