 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
นอกจากนี้ใน พ.ศ. ๒๔๔๘ ซุ้มประตูทรงยอดมงกุฎ นี้ได้ชำรุดทรุดโทรมลงมาก เนื่องจากก่อสร้างมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ ๓ แล้ว พระยาราชสงครามได้กราบบังคมทูลว่า ถ้าจะโปรดเกล้าให้ซ่อมใหม่ ก็ใช้เงินสูงถึง ๑๖,๐๐๐ บาท (๒๐๐ ชั่ง) หรือไม่ก็ทำการรื้อทิ้งเสีย เพราะเกรงว่าจะเกินอันตรายเมื่อเวลาเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานผ้าพระกฐิน ซึ่งทรงมีพระราชกระแส เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๘ ว่า ซุ้มประตูนี้อยากจะให้คงรูปเดิมเพราะปรากฎแก่คนว่า เป็นหลักของชาวบางกอกมาช้านานแล้ว ขอให้พระยาราชสงครามคิดการเป็นก่อรวมอย่างประตูวัดเทพศิรินทราวาส แต่ที่วัดอรุณขอให้คงรูปเสีย ที่รับยอดเป็นก่อรวม แล้วจะติดหลังคาเป็นเครื่องไม้ต่อออกมาก็ได้ ขอให้ถ่ายรูปเดิมไว้ให้มั่นคง เวลาทำอย่าให้แปลกกว่าเก่าเลยเป็นอันขาด อย่าเพิ่งให้รื้อ จะไปถ่ายรูปไว้เป็นพยาน เมื่อกะประมาณเป็นเงินเท่าไร ให้ขึ้นงบประมาณปีหน้าคงจะหาเงินได้ กฐินจะย้ายไปประตูเหนือ ก็ย้าย
นี่เป็นพระราชดำรัสแห่งองค์ล้นเกล้าฯ ซึ่งไม่ยอมให้รื้อทำลายประตูยอดทรงมงกุฎแห่งนี้ลงไป และโปรดให้ถ่ายภาพไว้ เพื่อให้การบูรณะซ่อมแซมเหมือนของเดิมมากที่สุด ถึงแม้ในตอนท้ายพระราชดำรัสว่า กฐินจะย้ายไปประตูเหนือก็ย้าย หมายถึงว่า เวลางานพระราชทานผ้าพระกฐิน จะต้องเสด็จพระราชดำเนินอ้อมไปทางประตูพระระเบียงด้านทิศเหนือ ซึ่งมีระยะทางไกลกว่า
ภาพลายเส้นประตู ซึ่งวาดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ ๔
จากคุณ |
:
หนุ่มรัตนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ต.ค. 52 19:32:18
|
|
|
|
 |