ความคิดเห็นที่ 1 พระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวนนี้ เราเองเป็นคนบูรณะขึ้นมาใหม่ ด้วยเงินจำนวนหลายแสนชั่ง เพื่อเป็นที่พำนักผ่อนคลายแห่งเรา เดิมเป็นบริเวณเขาและสวนทางตะวันตกของพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวน แต่อนิจจาได้ถูกฝรั่งอั้งม๊อ บุกรุกทำลายเผาเมืองในครั้งนั้น นำความปวดใจให้กับข้า ยิ่งนัก ทุกอย่างถูกเผาทำลายลงอย่างไม่ปรานี ข้ายังจำได้ดี ได้ร่วมเสด็จหนีกับพระราชสวามี (จักรพรรดิ์เสียนเฟิง) หลบหนีปลอมตัวออกจากกรุงปักกิ่งอย่างน่ากลัว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:43:23

ความคิดเห็นที่ 2 พวกเจ้ามาถึงกันแล้ว ก็ตามกันเข้ามาในประตูแห่งพระราชวังฤดูร้อนกันได้แล้ว แต่อย่าลืมว่า เมื่อพบหน้าข้าแล้ว ต้องเรียกว่า พระหมื่นปี จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:45:02

ความคิดเห็นที่ 3 นี่ไง อดีตความรุ่งเรืองแห่งพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวน ที่บรรพบุรุษของข้า (จักรพรรดิ์คังซี ถึง จักรพรรด์เฉียนหลง) ได้ก่อสร้างขยายแบบไว้ให้แก่เรา จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:47:31

ความคิดเห็นที่ 4 พวกเจ้ามาถึงพร้อมหน้ากันเรียบร้อยดีใช่ไหม สองข้างซ้ายและขวา คือ องค์หญิงสองพี่น้อง (หรงหลิง-เต๋อหลิง) ผู้ซึ่งเข้ามาเป็นนางสนองพระโอษฐ์แห่งเรา นางทั้งสองข้ารักและเอ็นดูนางมาก พวกนางจะคอยสอดส่องพฤติกรรมของพวกเจ้าทั้งหลายให้กับข้าเป็นอย่างดี จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:50:03

ความคิดเห็นที่ 5 ข้า หรือ ผู้เฒ่าหมื่นปี แม้ว่าตัวข้าจะเล็ก อายุกว่า 70 ปีแล้ว แต่การเดินของข้านั้นคล่องแคล่ว ว่องไว ราวกับพญาหงส์ร่อนรำบนนภา พวกนางกำนัลและเหล่าขันทีเดินสู้ข้าไม่ไหวหรอก จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:52:30

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อคืนหิมะ คงลงจัดมาก ดูนี่ๆ ต้นสนยังทนทานต่อหิมะได้ ทำไมข้าจะอยู่ดูความรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่แห่งประเทศของข้าฯ มิได้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:54:11

ความคิดเห็นที่ 7 มุมนี้หิมะ สวยมาก ขอถ่ายรูปไว้หน่อยละกัน องค์หญิงทั้งสองมาใกล้ๆข้าด้วย ส่วนขวามือข้า (จากซ้ายคนแรก) เป็นแม่ขององค์หญิงทั้งสอง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:56:13

ความคิดเห็นที่ 8 เดี่ยวข้าจะพาพวกเจ้าขึ้นไปไหว้พระบนหอพระแปดเหลี่ยม ซึ่งได้บูรณะเรียบร้อยแล้ว ข้าได้นำพระหยกขาว มาประดิษฐานไว้ด้วย แต่ต้องเหนื่อยหน่อย เพราะต้องขึ้นไดไป 200 กว่าขั้น แต่พวกเจ้าคงเดินสู้ข้าไม่ได้หรอก ข้าเดินขึ้นทุกวัน เสี่ยวกุ๊ยจื่อ (ขันที) กรุกวาดหิมะออกได้ ข้าจะไปไหว้พระ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:59:49

ความคิดเห็นที่ 9 มุมนี้สวยจับใจ เห็นหอพระและทะเลสาบ ซึ่งข้าสั่งให้แรงงานเป็นคนขุดขึ้นมา เพื่อให้เหมือนทะเลสาบที่ข้าเห็นจากภายนอกมา เลยขุดจำลองไว้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:01:50

ความคิดเห็นที่ 10 ลงจากเขามาแล้ว ข้ายังมีเรี่ยวแรงอยู่ เหล่าขันทีกลัวจะลื่นหกล้มไป เลยช่วยกันพยุง เพราะกลัวจะลื่น ข้าจะพาไปดูสิ่งของอย่างหนึ่งกัน ตามข้ามาซิ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:04:03

ความคิดเห็นที่ 11 สิ่งนี้ คือสิ่งที่อยากจะอวดพวกเจ้าได้เห็นว่า ประเทศจีนยิ่งใหญ่และสง่างามเพียงใด เราสามารถสร้างเรือหินอ่อนได้อย่างวิจิตร ซึ่งสร้างมาแต่รัชสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ แต่เรือเดิมได้ถูกทำลายไปแล้ว และข้าได้รื้อฟื้นความงาม และเพื่อผ่อนคลายความเครียดแห่งเรา ทว่าบัดนี้ข้าไม่อยากเห็นมันอีกต่อไป ดูซิ กระจกบานใหญ่ของข้าได้หายไปแล้ว หน้าต่างและกระจกสีแตกละเอียด ข้าไม่อยากพูดถึงมันมากเท่าไร ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บใจ ในสิ่งที่ต่างชาติเข้ามาทำกับข้าขนาดนี้ แต่เอาเถิดในเมื่อองค์หญิงทั้งสองรบเร้าจะเข้าไปในเรือหินอ่อน ข้าก็จะพานางทั้งสองไปดูกันสักครั้ง เพื่อรำรึกถึงวันเก่าๆ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:10:19

ความคิดเห็นที่ 12 ข้าชักจะอยากกลับตำหนักเสียแล้ว ก่อนกลับขอถ่ายภาพคู่กับหินประดับเสียสักหน่อย จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:12:17

ความคิดเห็นที่ 13 ความเย็นมากๆ จะทำให้เส้นผมของข้าเสียทรวดทรง ข้าขอจบการชมหิมะในพระราชวังเพียงเท่านี้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:16:08

ความคิดเห็นที่ 14 ขอส่งกลับด้วยเกี้ยวมารอพวกเจ้าแล้ว อยู่ท้ายประตูวัง เหล่าขันทีจะนำพาไป ไม่ไกลจากนี้เท่าไร จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:17:54

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบพระคุณมากๆครับผม พี่เห็นภาพถ่ายของไทเฮาซูสีเยอะๆก็วันนี้แล เดิมทีผมคิดว่าพระองค์ไม่ค่อยชอบถ่ายภาพเีสีัียอีก จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 09:46:51

ความคิดเห็นที่ 16 น้อมส่งเสด็จพระหมื่นปี จากคุณ : ว่างจัง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 10:16:22

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบการบรรยายประกอบภาพครับ จากคุณ : บุณฑริก เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 10:17:16

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณหนุ่มรัตนะ ที่ทำได้ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นครับ จากคุณ : ทอภู่เท่า เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 11:10:34

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ค่อยเห็นภาพพระนางซูสีไทเฮาถ่ายนอกสถานที่เท่าไหร่เลย ออกไปเดินดูหิมะแบบนี้ ดูภาพหนาวแทนจริงๆ เลย ขอบคุณมากนะคะที่นำมาให้พวกเราชมนะคะพี่หนุ่มฯ จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 11:59:06

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพชุดนี้หลายๆภพไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะครับ เห็นภาพแล้วหนาวเลยยย จากคุณ : ตงเหลงฉ่า เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:45:46

ความคิดเห็นที่ 21 มีให้ชมอีกมั้ย ชอบครับ จขกท.แนะนำแหล่งชมภาพพระนางฯหรือฮ่องเต้ ฮองเฮา ด้วยก็จะดีทีเดียว ชอบภาพเก่าๆครับ จากคุณ : Justin_T เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 15:03:27

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบพระคุณมากเลยครับ   ภาพ คห9  มุมคล้ายๆกับที่ผมถ่ายมาเลย จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 15:40:47

ความคิดเห็นที่ 23 สมดังคำร่ำลือ..เจ้าสัวแกลลอรี่ภาพคลาสสิก.. จากคุณ : เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 15:56:50

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องความสูงศักดิ์  ข้าน้อยยอมศิโรราบแด่พระหมื่นปีอย่างเต็มใจ แต่เรื่องเยาว์วัยและหล่อเหลานั้น  เห็นทีข้าน้อยจะมีชัยเหนือพระองค์อย่างแม่นมั่น ด้วยความยำเกรงในพระบารมี จาก ยวี่ ซวิน หลิง      ฃ่างภาพผู้ถวายงานแด่พระหมื่นปี ปล. หลายๆ ภาพในหมวดนี้  ล้วนเป็นผลงานแห่งข้าน้อยผู้ภักดีเป็นเลิศ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:29:43

ความคิดเห็นที่ 25 ไมเคยเห็นตั้งหลายภาพเหมือนคุณคุณ ตงเหลงฉ่า  เลยอะ ถ้าระหว่างทางกลับเจอซานจา ก็ซื้อมาฝากด้วยนะครับ จากคุณ : เหนียวเนื้อ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:30:35

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ อิอิ...ได้แอ๊บหล่อแล้วมีความสุข  ส่วนใครอยากเฒ่าชะแร่แก่ชราก็ขอให้หย่อนยานสมใจไปนะ +++++ อ่านกระทู้นี้ฝีมือคุณหนุ่มแล้ว  ทึ่งกับวิธีการนำเสนอเป็นอย่างมาก  เพราะนอกจากจะได้เห็นภาพที่หายากแล้ว  ยังได้ความรู้แทรกซึมอีกด้วย  ถ้าไม่ใช่เพราะ จขกท มีพื้นฐานความเข้าใจในประวัติของพระนางฯ แล้ว  ใครเล่าจะเขียนได้เพลิดเพลินอย่างนี้ ขอบคุณในความคิดสร้างสรรค์และเจริญปัญญา  นะครับ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:57:55

ความคิดเห็นที่ 27 จากคุณ : แพนด้ามหาภัย เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 17:59:34

ความคิดเห็นที่ 28 แต่อย่าลืมว่า เมื่อพบหน้าข้าแล้ว ต้องเรียกว่า พระหมื่นปี ^ ^ ^ ไม่ใช่ต้องเรียกว่า พระพันปีหลวง เหรอครับ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 20:47:38

ความคิดเห็นที่ 29 ทุกคนยำเกรงเหลือเกิน สมคำร่ำลือ จากคุณ : จอร์ด บางขัน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:45:40

ความคิดเห็นที่ 30 ## 28 ##   พระพันปีน้อยไปค่ะ จริงแล้วน่าจะเรียกว่า   พระแสนปีด้วยซ้ำไปค่ะ แต่ด้วยที่ว่าหน่วยนับของจีน  มีแค่หลักหมื่น  จึงให้เรียกว่าพระหมื่นปี แต่ถ้าแสนปี  น่าจะต้องเรียกว่า  พระสิบหมื่นปีหรือเปล่าคะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 08:43:14

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วเพลินไปด้วย ขอบคุณนะคะ  ที่เอามาให้ดู จากคุณ : แม่ตะวัน เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 11:20:01

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ แล้วจากตำแหน่งของพระนางซูสีคือ ไทเฮา หรือ ฮองไทเฮา (คือตำแหน่งที่ถวายให้พระมารดาของฮ่องเต้)  จะไม่ควรเรียกว่า พระหมื่นปี  เนื่องจาก เป็นคำสรรพนามที่ฮ่องเต้ทรงใช้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพระนางซูสีนั้นได้บัญชาราฃการหลังม่าน  อำนาจของพระนางจึงเสมอฮ่องเต้  ดังนั้น พระนางจึงโปรดให้เชื้อพระวงศ์ใกล้ชิดเรียกพระนางว่า พระหมื่นปี  แม้แต่กวงซวี่ฮ่องเต้ ยังต้องเรียกพระนางว่า พระหมื่นปี (วั่น ซุย เหยีย) ดังนั้น ต้องถือว่า เป็นความโปรดปรานเฉพาะพระองค์ครับ รูปแนบ  บัลลังก์บัญชาราชการหลังม่าน จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 16:21:52

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ ครับ เป็นไปตามนั้น ยิ่งตอนปลายราชวงศ์ชิง พระนางถือว่ามีอำนาจและบารมีมากที่สุดในแผ่นดิน อีกทั้งขันทีและบริวารพากันเอาใจพระนาง ส่วนห้องที่คุณ  Fortunism เป็นการว่าราชการหลังม่านไม้ไผ่ ซึ่งทอดขึงผ้าไหมสีเหลืองไว้ระหว่างบัลลังก์ การออกว่าราชการครั้งแรกของพระนางเริ่มในสมัยจักรพรรดิ์ถงจื๊อ (บุตรแห่งจักรพรรดิ์เสียนเฟิง กับพระนาง) และพระนางดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ และว่าราชการจนกว่าจักรพรรดิ์จะบรรลุนิติภาวะ ภาพมองแนวตรง เป็นมุมมองที่ข้าราชการชั้นสูงและเชื่อพระวงศ์ เข้ามาถวายงานราชการที่พระที่นั่ง Yang Xin Dian แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 52 20:05:20 จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 20:04:18

ความคิดเห็นที่ 34 โหวตก่อน พร้อมเก็บเข้าคลัง จากนั้นค่อยตามไปอ่าน จากคุณ : ploy_angjoe เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 17:13:33