|  | 
				
					|  ความคิดเห็นที่  7 |   
เรียนคุณ ละอ่อนธรรม
 สำหรับองค์ชายองค์อื่นๆนั้น ที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ก็เช่น องค์ชายใหญ่อี้เหว่ย (สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ปี 1831), องค์ชายรองอี้คัง (สิ้นพระชนม์ในปี 1827), องค์ชายสามอี้จี (สิ้นพระชนม์ในปี 1830) ส่วนที่เหลือจะยังทรงพระเยาว์มากในตอนที่จักรพรรดิเต้ากวงสวรรคตหน่ะครับ (ขนาดองค์ชาย 8 ยังมีพระชนม์แค่ 5 ชันษาเท่านั้น เล็กๆกว่านั้นก็น่าจะยังมีครับ)
 
 องค์ชาย 7 อี้ซวน ที่อนาคตจะเป็นท่านอ๋องชุนนั้น ตอนจักรพรรดิเต้ากวงสวรรคตพึ่งพระชนม์ได้ 10 ชันษาหน่ะครับ
 
 ดังนั้นองค์ชายที่เจริญพระชันษาพอจะสืบทอดราชสมบัติได้ เลยมีแค่ จักรพรรดิเสียนเฟิง (ตอนนั้นพระชนม์ได้ 19 ชันษา และพระชันษาสูงสุดในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย), ท่านอ๋องตุน (องค์ชายห้า พระชนม์พอๆกับจักรพรรดิเสียนเฟิง แต่เป็นโอรสในเจ้าจอม), ท่านอ๋องกง (องค์ชาย 6 พระชนม์ได้ 17 ชันษา และเป็นโอรสในฮองเฮา)
 
 การที่จักรพรรดิเต้ากวงเลือก องค์ชายสี่อี้ฉู่เป็นจักรพรรดิ ก็ชอบด้วยทั้งคุณสมบัติ และวัยวุฒิแล้วหน่ะครับ เราอาจจะมองกันว่า ก่งอ๋องนั้นน่าจะปรีชากว่าจักรพรรดิเสียนเฟิง แต่จักรพรรดิเต้ากวงก็อาจจะเล็งเห็นว่า หากตั้งน้องเป็นจักรพรรดิ พี่และขุนนางบางส่วนอาจจะไม่ยอม และองค์ชายสี่ก็อาจจะช่วยน้องชายว่าราชการได้ไม่สนิทใจ
 
 การตั้งพี่เป็นจักรพรรดิ แล้วให้พี่น้องช่วยกันบริหารราชกิจ ดูจะทำให้ก่งอ๋องยอมรับได้ง่ายกว่าครับ และประชาชนขุนนางก็จะไม่ติฉินได้
 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 20:16:34
 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 20:12:54
 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 20:10:27
				 
				 
				
					| จากคุณ | : 
อุ้ย (digimontamer)       |  
					| เขียนเมื่อ | : 
19 พ.ย. 52 20:05:14 |  
					|  |  |  |  |