Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TK Park แกว้งเท้าหาเรื่อง การเขียนเหมือนอะไร...นิ้วกลม และ อ่านเพื่อจิตอาสา...คมความคิดหนึ่งศิลปิน  

ขออนุญาตเก็บตกบางส่วนของกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การอ่านการเขียนกับนักเขียนและศิลปินของ TK Park เมื่อาทิตย์ที่ผ่านมามาฝากทุกคนค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์และช่วยแตกแขนงมุมมองการอ่านและการเขียนออกไปนะคะ flower


“อ่านกับนักเขียน” พี่เอ๋ นิ้วกลม - สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์

ที่มาข้อความจากคุณ : Ka-Me-Ku-Mi  

.
.  


คำถามช่วงแรกๆของวันนี้ก็จะเป็นแนวๆว่า..อะไรคือแรงบันดาลใจในการเขียน แล้วพี่เริ่มต้นเขียน
จากตรงไหน ขอเล่ารวมๆ ละกันเนอะ


พี่เอ๋บอกว่า..เริ่มแรกคือ “แกว่งเท้าหาเรื่อง” 5555+ เป็นการออกหาเรื่อง..แต่ไม่ใช่หาเรื่องชาวบ้านนะ แต่เป็นการหา
เรื่องมาเขียน จากนั้นก็นึกถึงแก่นหลักของการเขียน พี่เอ๋ยกตัวอย่างหนังสือโตเกียวไม่มีขา ว่ามันไม่ใช่แค่หนังสือบอกเล่าการ
เดินทาง แต่แก่นที่อยากจะบอกก็คือ..ความฝันมันไม่มีขา ถ้าเราอยากจะเดินไปหามัน เราต้องไปด้วยขาของเราเอง..
ก็เหมือนกับคนที่อยากไปโตเกียว แต่ไม่เคยได้ก้าวเดิน ไม่เคยได้เริ่มต้นไงหละ..  อย่าคิดว่า..
สิ่งเหล่านี้มันไม่มีขาที่จะเดินหนีเราไปไหน สิ่งที่มีขาและพร้อมจะ เดินจากเราไปมันคือ “โอกาส” ต่างหาก ไม่ใช่สถานที่..


พี่เอ๋ยังพูดถึงการเขียนอีกว่า..หลายคนไม่รู้จะเริ่มต้นเขียนตอนไหน หรือหลายคนก็มักคิดว่า
สิ่งที่ตัวเองเขียนนั้น ไม่น่าสนใจพอจะให้คนอื่นได้อ่าน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว..
ไม่มีชีวิตของใคร ความคิดของใครที่ไม่น่าสนใจ
อยู่ที่ว่าเราเชื่อมั้ย..ว่ามันน่าสนใจ

แล้วเราจะเขียนยังไงให้น่าสนใจหละ..5555+  พี่เอ๋ว่าอย่างง่ายๆเลย..ขอแค่เราเขียนด้วยความรู้สึกของเรา เขียนด้วยความ
ชอบของเรา มันจะออกมาเป็นตัวเราและภาษาของเรามากที่สุด พอถึงจุดนึงที่เราคิดว่า เอาหละ เราชอบงานของเรามากแระ
อยากจะเอาออกไปอวดให้ชาวโลกได้อ่าน ก็...จัดไป~!!!


การเขียนก็เหมือนกับการขี้
ตอนพี่เอ๋ปล่อยประโยคนี้ออกมา..มันช่าง..ฮา~~!!! 5555+ เหมือนกันยังไง พี่เอ๋เปรียบเทียบไว้ว่าเวลาคนเราปวดขี้..
พอถึงจุดๆนึง เราก็ต้องปล่อยออกมา ก็เหมือนกับการเขียน พอเราเขียนอะไรมากๆเข้า วันนึงเราก็อยากจะปล่อยมันออกไป
ความจริงไม่ต้องสนใจก็ได้นะว่าใครจะชอบมั้ย 555+ อย่างที่แก้มเขียนนี่ก็ไม่ต่างกัน แก้มเขียนก็เพราะอยากเขียน
เขียนด้วยภาษาแบบแก้มๆนี่แหละ ถึงใครๆอาจจะไม่ชอบ แต่อย่างน้อยตัวเราเองก็ชอบนะ 5555555+  


พี่เอ๋ยังแนะนำอีกว่า ให้เราลองเขียน Morning Pages คือการที่เราตื่นขึ้นมาปุ๊บ..ก็เขียนทุกสิ่งที่อยากเขียน
โดยไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องขัดเกลา และต้องไม่ให้คนอื่นได้อ่าน และนั่นจะเป็นตัวตนของเรามากที่สุด
รวมทั้งอาจจะเปิดเผยด้านมืดของเราออกมาเลยก็เป็นได้ 555555+
พี่เอ๋จบท้ายเรื่องการเขียนด้วยประโยคสั้นๆว่า..” สิ่งที่ดีที่สุดของการเขียนคือ การได้เข้าใจตัวเอง ”


อ้อ..ยังมีเรื่องการเดินทางด้วย มีคำถาม ถามพี่เอ๋ว่า..พี่เอ๋จัดการยังไงกับชีวิตงานประจำกับการเดินทางไปนู่นนี่นั่น..
ชอบประโยคนึงของพี่เอ๋มากๆ..พี่เอ๋บอกว่า (คำพูดอาจจะไม่เป๊ะนะ)
.
.
“ ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ในโลกใบเล็กๆใบเดิมของตัวเอง ”


การเดินทางออกจากโลกใบเล็กๆของเรา ไม่จำเป็นต้อง “เดินทาง” จริงๆก็ได้นะ แค่ได้อ่านหนังสือซักเล่ม  ดูรายการทีวี
ซักรายการ ก็เรียกว่าเดินทางแล้ว..เป็นการเดินทางออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ
พี่เอ๋ว่า..การได้อ่านหนังสือของใครซักเล่ม มันเหมือนเค้าให้แว่นกับเรามาอันนึง ให้เราได้เห็นมุมมองของคนๆนั้น
ให้เราได้เข้าใจในเรื่องๆนั้นมากขึ้น คงเหมือนเวลาที่เราได้คุยกับใครมากขึ้น เราก็จะรู้จักตัวตนของเค้ามากขึ้นนั่นแหละ..


มีคนถามพี่เอ๋ว่า..พี่เอ๋ชอบอ่านหนังสือประเภทไหน
แก้มชอบคำตอบพี่เค้านะ (ตั้งแต่อ่าน note มา แกก็ชอบทุกคำตอบของพี่เค้านั่นแหละ 555+)
พี่เค้าว่า..มีหนังสืออยู่ 2 ประเภทที่เค้าชอบ คือ..

หนังสือที่ทุบหัวเรา กับ หนังสือที่ทุบใจเรา
หนังสือที่ทุบหัวเรา คือหนังสือที่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิดของเรา หรือให้สิ่งใหม่ๆให้กับเรา ส่วน..
หนังสือที่ทุบใจเรา คือหนังสือที่อาจจะไม่ได้ให้อะไรใหม่ๆกับเราเลยก็ได้ แต่มันโดน~!!!  


หลายคนอยากอ่าน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอ่านจากตรงไหน..
หนังสือไม่ใช่วิชา..แต่หนังสือคือ“คำตอบ”  ขอแค่เริ่มต้นง่ายๆ ด้วย “คำถาม” และ “ความสงสัย”
จากนั้นเราก็ไปหาคำตอบจากหนังสือ แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นการอ่านได้ง่ายๆแล้วหละ
แถมการได้อ่านในสิ่งที่เราอยากรู้ มันจะทำให้เราไม่เบื่อด้วยนะ..ใช่มะ (ยกเว้นหนังสือเรียน 5555+
ที่เราอยากรุ้..แต่ยัง still ขี้เกียจอ่านอยู่ดี ก๊ากกกกก..)
.
.
วันนี้คุณ..ขี้..แล้วรึยัง ??
.
.
.
ปล.ขอโทษนะคะ หากจะมีคำไม่สุภาพหลุดไปบ้าง 5555+ ที่เขียนมาก็แทรกความคิดและภาษาของตัวเองลงไปด้วยนะคะ
ถ้าได้ฟังพี่เอ๋พูดเองจะดีกว่านี้มาก 5555+ แต่แก้มว่าฟังแล้วได้อะไรดีดีเยอะเลย อย่างน้อยสำหรับใครที่ไม่กล้าจะเขียน..
ก็คงจะได้ลองซักครั้ง..แล้วคุณจะติดใจ~!!!!

จากคุณ : Yimie
เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 17:12:10




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com