ความคิดเห็นที่ 1 ปริญญาเหล่านั้น เป็นปริญญากิตติมศักดิ์ครับ  เข้าใจว่า คงใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับการมอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่สามัญชนทั่วไป กล่าวคือ ดูจากพระราชกรณียกิจที่มีความโดดเด่นในด้านนั้นๆ เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 19:59:25 จากคุณ : สัญญาณหางปลา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 19:59:00

ความคิดเห็นที่ 2 อย่างไรก็ตาม การที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะเสนอเพื่อทูลเกล้าฯถวายปริญญาในสาขาใดนั้น ก็ต้องมีการประชุมกันของสภามหาวิทยาลัยซึ่งก็ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ ซึ่งนั่นแสดงถึงความเห็นพ้องต้องกันว่าควรที่จะเสนอขอพระราชทานทูลเกล้าฯถวายปริญญา กอปรกับพระราชกรณียกิจ พระกรณียกิจ ที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด แผ่ไปถึงพสกนิกรอันเป็นประโยชน์ในรูปของโครงการ กิจกรรมต่างๆที่สามารถขยายผลได้อย่างชัดเจน  สิ่งเหล่านี้ล่ะครับ ที่มหาวิทยาลัยต่างๆมีการเสนอขึ้น เพื่อทูลเกล้าฯถวายปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในด้านนั้นๆ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 20:23:01 จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 20:21:05

ความคิดเห็นที่ 3 ด้วยความสัตย์จริง ผมว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วที่ต้องถวายน่ะ ซึ่งผมว่าพระองค์ก็อาจจะไม่ได้มีพระราชกรณียกิจทางนั้นด้วย จากคุณ : I will see U in the next life. เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 17:20:27

ความคิดเห็นที่ 4 ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมครับ คงไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัตินะครับ เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็มีระเบียบกฏเกณฑ์ในการที่จะให้ปริญญากิตติมศักดิ์ในสาขาใดสาขาหนึ่ง แตกต่างกันไป ขอหยิบยกของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมา ...โดยผู้ที่จะได้รับจะต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้      (๑) เป็นผู้ซึ่งบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและมหาวิทยาลัย ประเทศชาติ หรือนานาชาติ จึงสมควรได้รับการยกย่องในวงวิชาการเพื่อเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นเจริญรอยตาม ต่อไป      (๒) เป็นผู้ซึ่งมีผลงานวิชาการดีเด่นในสาขาวิชาที่มีการสอนในมหาวิทยาลัย และในมหาิวิทยาลัยอื่นๆ รายละเอียดก็อาจจะแตกต่างกันไปไม่มากนัก ซึ่งอย่างไรก็ตาม การจะถวายปริญญาบัตรแด่พระบรมวงศานุวงศ์นั้น สภามหาวิทยาลัยต้องพิจารณาแล้วครับว่าเหมาะสมที่จะทูลเกล้าฯถวาย ไม่ใช่มหาวิทยาลัยนั้นๆมีกี่คณะก็จะถวายปริญญาแด่เจ้านายไปเสียหมด ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติ จริงๆแล้วหากสังเกตนะครับ มหาวิทยาลัยเดียวกันในแต่ละปี นั้นไม่ได้มีการทูลเกล้าฯถวายปริญญากิตติมศักดิ์แก่พระบรมวงศ์ทุกปีครับ เพราะสภามหาวิทยาลัยก็มีการพิจารณาให้มีความเหมาะสม อันจะแสดงถึงความเป็นศักดิ์และสิทธิ์ของปริญญามหาวิทยาลัยนั้นๆด้วย แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 18:23:10 แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 18:15:44 จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 18:14:40

ความคิดเห็นที่ 5 อย่างพระองค์โสมก็ทรงงานมามากไม่เห็นมหาวิทยาลัยต่างๆถวายปริญญาแด่พระองค์เลยหรือว่างานที่ทรงทำไม่ตรงกับสาขาที่มหาวิทยาลัยเปิดสอนค่ะเห็นทรงงานมากมายหลายด้านล้วนก่อเกิดประโยชน์กับประชาชนส่วนรวม จากคุณ : code_ramida เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 18:38:09

ความคิดเห็นที่ 6 ปริญญากิตติมศักดิ์ อันนี้เป็น สื่อโฆษณา มหาวิทยาลัยอย่างหนึ่งอะครับ โดยดูจาก ใครที่มีความสามารถโดดเด่น ในด้านใดด้านหนึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัด เช่น   นาง กบ เป็นเกษตรกร อยู่บ้านหนองใหญ่ (คนเดียวกับแม่ของ น.ส.ดาวมหา'ลัย) วุฒิการศึกษา พออ่านออกเขียนเป็น  วันดีคืนดี คุณเธอพบว่า หากเอาข้าวเปลือก ไปปลูกกล้า ในกอกุหลาบ จะได้ข้าวหอมกุหลาบ มาตีตลาด ข้าวหอมมะลิ จนการเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ใครก็พุดถึงแต่ ข้าวหอมกุหลาบแม่กบ อย่างนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรบ้านหนองใหญ่ก็เลยเรียก คณะกรรมการมหา'ลัยมาประชุมกัน จะให้ปริญญากิตติมศักดิ์ กับ นางกบ เพราะว่าต่อไป หากใคถามนางกบว่า จบที่ไหนมา นาง กบ จะได้ ตอบว่า ป.ตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรบ้านหนองใหญ่ ซึ่งก็จะทำให้ มหา'ลัยดังไปด้วย ในขณะเดียวกัน นางกบ ก็รู้สึกเป็นเกียรติว่า ตัวเองไม่ได้โง่ ยังไงๆ ข้าก็ได้ ป.ตรีโว๊ย  ไม่ต้องกระเสือกกระสนไปเรียนที่กรุงเทพฯ เหมือนลูกสาว เรื่องของเรื่อง ปริญญา กิตติมศักดิ์ มันคือประการฉะนี้ ซึ่งมันมาพร้อมกับระบบมหาวิทยาลัย จากตะวันตก ส่วนในไทยนั้น ก็มีปนๆกัน ทั้งในเรื่องการถวายพระเกียรติและการประชาสัมพันธ์ แต่กระนั้น ก็ต้องพิจารณาในพระราชกรณียกิจที่ทรงเกี่ยวข้อง ด้วยมิใช่จะได้ทุก สาขาวิชา ส่วนในเรื่องเหตุผลของการทูลเกล้าฯ ถวายนั้น ในประกาศราชสดุดี ของมหาวิทยาลัย ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เพื่อเป็นเกียรติและเป็นสิริมงคล แก่มหาวิทยาลัย สืบไป จากคุณ : <<First>> เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 18:30:22