ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มที่ใจ ตื่นเช้ามา ถ้าใจคุณกระหวัดนึกถึงว่า วันนี้จะแปลอะไร แปลอย่างไร เมื่อวานได้แปลอะไรไปแล้วบ้าง ถูกผิด ประการใดบ้าง คุณก็เป็นนักแปลแล้ว มันไม่มีเส้นทางตายตัวหรอก ว่าจะต้องมาจากทางนั้น ทำอย่างโน้น แล้วจะกลายเป็นนักแปล รู้แปล แฮริสัน ฟอร์ด (ป่าวหว่า) เป็นช่างไม้ในกองถ่าย ก่อนโดนตาจอร์จลูคัส ลากให้มารับบท Captain Solo ใน Star War ทั้งสามภาค? ส่วนเรื่องการหางาน อย่างง่ายๆ ก็เว็บสมัครงาน ประเภท นักแปล/นักเขียนประจำกองบรรณาธิการ อะไรทำนองนั้น   อย่างกลางๆ หน่อย ก็ไล่ดูตามเว็บสำนักพิมพ์ต่างๆ อาจจะเริ่มต้นจากสำนักพิมพ์ที่เผยแพร่หนังสือแปลที่คุณชอบอ่าน แล้วก็เสนอตัวสมัครงานเข้าไป อย่างยากเลย คว้าบทความมาสักปึก แปลแล้วส่งไปให้ทางนั้นเค้าอ่าน ถ้าดีเค้าก็เอาเอง ไม่ต้องกลัว เพชรแท้น่ะ ถึงจะปนกับก้อนดิน คนก็เห็นคุณค่า แต่ขอเตือนให้รู้ไว้ว่า การเริ่มต้นอาชีพนักแปล เป็นเสมือนการทำสัญญาตลอดชีพ กับโรคกระเพาะ โรคเครียด ปวดหลัง ปวดตา นอนไม่พอ ฯลฯ และที่หนักหนาที่สุด โรคไม่มีจะแดรก....>_< May the force be with you จากคุณ : SaintPSU เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 03:40:58

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ที่คุณพูดว่า "และที่หนักหนาที่สุด โรคไม่มีจะแดรก....>_<" ถ้าไปเจอ "งานแปล" แบบนี้บ่อยๆก็มีทางอดตายได้เหมือนกันนะ ลองไปอ่านกระทู้นี้ดูได้ โครตจี้เส้นเลยอ้ะ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8644032/K8644032.html แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 52 10:54:46 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 10:47:49

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีหางานแปลจาก สนพ ทำอย่างนี้ รับรองว่าได้งานทำ sureๆ แต่ สนพ เล็กกับใหญ่ใช้วิธีไม่เหมือนกัน ก็เลยจะแยกไว้ให้ 1. สนพ เล็ก จดชื่อเบอร์โทรศัพท์บรรณาธิการบริหารจา่กหนังสือหรือจาก website ของ สนพ แล้วโทรไปหาเขา ส่วนใหญ่ผู้บริหารจะรับโทรศํพท์เอง และจะพูดคุยกันรู้เรื่องทันทีว่าจะนัดทดสอบการแปลยังไง และถ้าทดสอบผ่านก็ได้งานทำทันที  เราติดต่อแบบนี้ จนรู้จัก สนพ 3-4 แห่ง ซึ่งพอจะให้งานเราทำได้ 2. สนพ ใหญ่ วิธีแบบข้างบนใช้ไม่ได้ผล เพราะบรรณาธิการบริหาร หรือผู้บริหารระดับสูงรายอื่นๆ ไม่มีทางมารับโทรศัพท์เองหรอก คุณก็มีทางเลือกหลายทางเช่น 2.1 จด postal address หรือ email address จาก website ของ สนพ หรือจากหนังสือของ สนพ แล้วติดต่อไปด้วย snail mail หรือ email 2.2 หาเพื่อนฝูงที่เป็๋นนักแปลในสังกัด สนพ ใหญ่ๆ พวกเขาจะรู้ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ผู้บริหาร สนพ บางทีเพื่อนคุณฝากให้ผู้บริหารก็จะโทรหาคุณเอง หรือเพื่อนพูดเกริ่นไว้กับผู้บริหารก่อนแล้วให้คุณโทรไปหาผู้บริหารเอง อย่างนี้โอกาสได้งานทำมีค่อนข้างสูง ตอนเราใช้วิธีใน 2.1 ไม่ได้ผล เราก็ได้งานมาด้วยวิธี 2.2 นี้ เพราะเผอิญเรารู้จักเพื่อนๆที่เป็นนักแปลมากพอสมควร...หมายเหตุ นักแปลที่เป็นเพื่อนกันในกลุ่มใหญ่ๆมักจะช่วยเหลือกันโดยการแนะนำงานให้กันและกัน ในขณะที่ผู้บริหาร สนพ บางทีก็ถามนักแปลเก่งๆในสังกัดตัวเองว่า "พอจะแนะนำนักแปลคนไหนเก่งๆให้ได้บ้างหรือเปล่า" ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า มันจะคัดเลือกคนเก่งๆได้ง่ายกว่าไปสุ่มคัดเลือกเอาจากบรรดาผู้สมัครงานเป็นจำนวนมากนั้นเอง 2.3 อีกวิธีหนึ่ง เราคิดขึ้นมาได้เอง นั่นก็คือ คอยอ่านข่าวแวดวง สนพ ให้ดีๆ ว่า สนพ ไหนไปออกงานที่ไหน หรือจัดอบรมนักแปลที่ไหน ก็ยอมเสียเิงินไปลงเรียน แล้วในการเรียนหรือการสัมนานั้นคนในกองบรรณาธิการจะมากันหลายคน คุณก็เข้าไปเลียบๆเคียงๆพูดคุยทำความรู้จักกับพวกเขาให้พวกเขาคุ้นๆหน้าคุณ...จริงๆแล้วงานบางงานเข้าไปฟรีได้ก็มีเหมือนกันนะ เ่ช่นงานที่ สนพ ออกตัวหนังสือเล่มสำคัญๆที่เขาโปรโมทกันขนานใหญ่ในงานหนังสือ บ่อยครั้งที่คนในกองบรรณาธิจะการมากันเต็มเลย ถ้าคุณเข้าไปฟังคำบรรยายแล้วพยายามทำความรู้จักกับพวกเขา เช่นเข้าไปถามข้อมูลหนังสือที่เขากำลังโปรโมท "เพื่อเปิดฉากการสนทนา" ก็จะสร้างโอกาสให้ได้งาน เราก็เคยใช้วิธีนี้ แล้วได้งานทำจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น หมายเหตุ เราเคยใช้วิธีการ ใน 2.1 ติดต่อ สนพ ใหญ่ 3 แห่ง 2 ปีเต็มๆ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับมา แต่มีคนอื่นยืนยันว่า พวกเขาใช้วิธีนี้ แล้วได้งานทำ พอถกกันไปถกกันมาในห้องยำภาษา ก็เลยมีการทะเลาะกันในเรื่องนี้อย่างรุนแรง เราคิดว่ามันอาจติดต่อได้ผลก็ได้ แต่มันอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย อาจใช้เวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน หรือ 2 ปี หรือ never แต่เรารับรองว่า วิธีการใน 2.2 กับ 2.3 นี่ sure ที่สุด รับประกันว่าได้งานทำแน่ๆ โดยมีข้อแม้ว่า คุณทำบททดสอบผ่านนะ โชคดีนะ ขอให้ได้งานทำ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 52 00:05:38 แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 52 11:47:13 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 11:31:04

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าชอบภาษาอังกฤษ แนะนำให้ไปฝึกทำงานเป็นนักข่าวหรือคนแปลข่าวในบริษัทหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษเช่น Bangkok Post และ The Nation ก่อน เมื่อชำนาญการแปลข่าวแล้ว หรือมีชื่อเสียงแล้ว ค่อยหางานแปลเป็นงานเสริม เพราะปกติก่อนสำนักพิมพ์จะไว้ใจให้คุณแปลหนังสือ คุณจะต้องมีประสบการณ์ในการแปลระดับหนึ่งมาก่อน จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 14:09:46

ความคิดเห็นที่ 5 ระวังนักแปลเป็นงานที่เครียดนะครับ ขนาดผมแปลเป็นงานเสริมยังเครียดเลย เพราะต้องทำตาม deadline ให้ได้ ถ้าภาษาคุณดี แนะให้ทำงานอย่างอื่นดีกว่า เช่น เป็นนักข่าวที่นสพ Bangkok Post, The Nation คุณจะได้เขียนข่าวเป็นภาษาอังกฤษได้พัฒนาภาษาให้ดีได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องเขียนแทบทุกวัน พอถึงระดับหนึ่ง ภาษาอังกฤษคุณเขียนได้ดีแล้ว คุณก็จะเป็นนักแปลได้ทั้ง ไทย-อังกฤษ และ อังกฤษ เป็นไทย มีคนใน สนพ ทั้งสองทำงาน sideline แปลได้เงินแยะเหมือนกัน ถ้าคุณแปลแค่ อังกฤษ เป็นไทย คุณก็แค่ได้แต่งานราคาถูกๆ และเหนื่อยมากครับ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 14:51:46

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกๆ คห. เลยนะคะ เป็นประโยชน์มากๆจริงๆค่ะ ^^ จากคุณ : tO dA tOP (tO dA tOP) เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 17:51:18

ความคิดเห็นที่ 7 อยากเล่นดนตรีเป็นอาชีพ เงื่อนไขสำคัญก็ต้องเก่งดนตรีเสียก่อน อยากเล่นเทนนิสอาชีพ ก็ต้องเก่งเทนนิสเสียก่อน อยากเล่นกอล์ฟเป็นอาชีพ ก็ต้องเก่งกอล์ฟเสียก่อน จะทำมาหากินอะไรเป็นอาชีพก็ต้องเก่งอย่างนั้น นี่เป็นกฎเหล็ก อีทีนี้เรื่องดนตรี่ เรื่องเทนนิส เรื่องกอล์ฟ เขามีโรงเรียนสอนวิชาพวกนี้แต่เด็ก แต่เรื่องแปล? นั่นน่ะสิ ไม่ยักมีโรงเรียนสอนการแปลมาแต่เด็ก ทำไม? ก็เพราะการแปลนั้นจะทำได้สำเร็จและเก่ง คนแปลต้องมีเงื่อนไขสองอย่าง 1.เก่งภาษาต้นทาง 2.เก่งภาษาปลายทาง ถ้าจะแปลคู่ภาษา ไทย-อังกฤษ ก็หมายความว่าต้องเก่งทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เก่งในระดับที่อ่านได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ รู้อย่างแม่นยำว่าคนเขียนเขาจะสื่ออะไร แล้วก็สามารถเขียนได้สละสลวย ไพเราะ ถ่ายทอดได้ ไม่ผิด ไม่ขาด ไม่เกิน จะทำอย่างนี้ได้ต้องสร้างสมประสบการณ์ในการอ่านการเขียนมานานพอสมควร แล้วก็ต้องมีความถนัดเป็นทุนด้วย จะสร้างสมประสบการณ์ได้ก็ต้องลงมือ ไม่มีทางอื่น อยากเป็นนักแปลก็ลงมือตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่าจดจ้อง ส่วนแปลเป็นแล้วจะหากินยังไง คนอื่นๆบอกไว้แล้ว แต่ขอบอกว่าไม่ง่าย คนที่มีฝีมือหากินเต็มเวลาเป็นนักแปลนั้นหายาก นอกจากต้องมือถึงจริงๆแล้วต้องรับผิดชอบ ต้องแกร่งทนความเครียดได้ ต้องมีความรู้รอบตัวสูง พวกนี้เป็นเงื่อนไขในตัวซึ่งถ้าสนใจพอก็ปลูกฝังได้ มันสำคัญตรงแล้วก็ต้องมีงานป้อนประจำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเอง ข้อหลังนี้เป็นเงื่อนไขนอกตัวซึ่งบังคับไม่ได้ ลู่ทางก็อย่างที่เซียนๆข้างบนว่า จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 08:53:21

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเคยได้ยินประวัติของนักแปลท่านหนึ่ง ท่านเริ่มทำงานการแปลด้วยใจรัก คือ ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งมาก ชอบมากจนอยากถ่ายทอดเก็บไว้เป็นภาษาไทย ท่านจึง ลองเอามาแปลเล่น ๆ แปลไปแปลมา ด้วยใจรัก เป็นเช่นนี้ จากหนึ่งเล่ม ก็เพิ่มเป็นสองเล่ม จากสองเล่ม ก็เป็นห้าเล่ม จากห้าเล่มเป็นสิบเล่ม และหลายสิบเล่ม เรียกว่า งานแปลเกิน เพราะ "ใจรัก" คือ "ฉันทะ" ล้วนๆ อยู่มาวันหนึ่ง ลูกหลานเห็นว่า ควรจะเผยแพร่งานแปล หลายสิบเล่มนั้นให้คนทั่วไปได้อ่านบ้าง จึงลองไปเสนอสำนักพิมพ์ดู และก้ได้พิมพ์จริง ๆ ตัวอย่างข้างต้นนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของนักแปล ที่แปลด้วยจุดเริ่มต้น คือ ความมีฉันทะ อย่างแท้จริง ครับ จากคุณ : เชษฐภัทร เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 09:45:21

ความคิดเห็นที่ 9   นักแปลทั้งหลายตอบไปหมดแล้ว .... ส่วนผมแวะมาดูเล่น เพราะไม่ใช่นักแปล แต่เป็นพวกจำเป็นต้องแปล :) จากคุณ : จำเป็นฯ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:22:37 A:118.172.53.202 X: TicketID:049757

ความคิดเห็นที่ 10   สร้างแรงบันดาลใจจากคุณป้าซูซาน บอยล์ก็ได้นะ จากคุณ : ชาต เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 15:16:42 A:58.8.76.233 X: TicketID:201623