ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีหลักฐานว่าคนกรุงเก่าเคยหล่อรูปหุ่นพระนเรศวร...ถ้ามีก้อของ หลอกลวง... จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 00:03:39

ความคิดเห็นที่ 2 คนไทยในอดีตไม่มีคติการหล่อรูปปั้นหรืออนุสาวรีย์บุคคล ยกเว้นการสร้างพระพุทธรูป คิดว่าหุ่นดังกล่าวคงไม่น่าจะมีอยู่จริงครับ จากคุณ : Lowfailer เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 01:02:39

ความคิดเห็นที่ 3 มีคุณ Lowfailer คห 2 เข้ามาแล้ว เชิญ ท่านๆพี่ๆอาๆน้าๆ ห้องสมุดออกมาแก้หน่อยครับ ดึกแล้วจะได้ไม่เหงา จากคุณ : Diwali เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 01:33:36

ความคิดเห็นที่ 4 ความนิยมสร้างรูปปั้น รูปหล่อของบุคคลสำคัญ เราเพิ่งรับมาจากฝรั่งในสมัยรัตนโกสินทร์นี่เองครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 01:43:36

ความคิดเห็นที่ 5 ในคลังกระทู้เก่า ของคุณเงาอดีต เคยนำเล่าเรื่องไว้แล้วตามนี้ครับ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/01/K7397618/K7397618.html จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 09:26:13

ความคิดเห็นที่ 6 เคยได้ยินแต่เรื่องพระบรมรูปพระนเรศวรกระทืบบาทครับ จากคุณ : . (ปลาทองสยองเมือง) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 11:33:56

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณหนุ่มรัตนะ ครับ จากคุณ : WIN.J BT. R. (พ.ฐานุตฺตโร) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 11:41:16

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 52 13:50:01 จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 13:49:11

ความคิดเห็นที่ 9 รูปที่เขาเล่าลือกันว่าเป็นรูปพระนเรศวร  ไม่มีหลักฐานอ้างอิง อันที่จริงน่าจะเป็นหุ่นรูปไว้เวลาจัดเครื่องฉลองพระองค์ถวาย เรียกเจ้าพ่อห้องเครื่อง  ก็เหมาะสมแล้ว ไฟล์ภาพโดยคุณ เงาอดีต จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 13:49:34

ความคิดเห็นที่ 10 จากรูป...นี่หรือที่ว่าตกทอดจากครั้งกรุงเก่า?...หุ่นพระนเรศวร ก้อพออนุโลม แต่ไม่ใช่หุ่นพระนริศแน่...เพราะอยุธยาไม่เคย มีพระเจ้าแผ่นดินพระนามว่าพระนเรศวรงัยละ...แต่เรื่องความ เชื่อ จะว่ายังงัยก้อว่ากันไป สุดแท้แต่ อันนี้จะห้ามกันไม่ได้... จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:10:02

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ ^ ไม่เข้าใจกับ คห.10 จากคุณ : วุฒิสันติ์กุล เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 20:18:58

ความคิดเห็นที่ 12 สิ่งที่คุณ เต๋าฯ จะอธิบายคือ นักประวัติศาสตร์บางส่วนเชื่อว่า พระนเรศวร คือ ชื่อตำแหน่งของสมเด็จพระหน่อพระพุทธเจ้า หรือ รัชทายาทอันประสูติแต่สมเด็จพระอัครมเหสี เหมือนกับตำแหน่ง พระราเมศวร พระมหาธรรมราชา หรือ ชื่ออื่น ส่วนรัชกาลที่ต่อสมเด็จพระมหาธรรมราชา คือ "สมเด็จพระนริศ" มิใช่ พระนเรศวร ตามที่เราเค้าใจกัน ซึ่งคำว่า "พระนเรศวร" นักประวัติศาสตร์ในชั้นหลังต่างถ่ายคำมาจากจดหมายเหตุของชาวต่างประเทศทั้งสิ้น ซึ่งมี "ความเป็นไปได้" ทั้ง "สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า" หรือ "สมเด็จพระนริศเป็นเจ้า" จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 21:52:47

ความคิดเห็นที่ 13 สมเด็จพระนริศไม่เคยได้ยินในเอกสารของไทย ส่วน "นเรศ" ปรากฎในเอกสาiชั้นต้นกฎหมายตราสามดวง  เป็นพระราชกฤษฎีกาลักษณะพระอัยการศึกที่ประกาศโดยสมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวร ในแผ่นดินของพระองค์ ทรงออกพระนามสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชตามกฎหมายนี้ว่า  “ศุภมัสดุ ศักราช ๙๕๕ พยัคฆสังวัจฉรมาฆมาสกาฬปักษ์ เอกาทศมีดิถีครุวารกาลบริเฉทกำหนด พระบาทสมเด็จพระเอกาทศรถอิศวรบรมนาถบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งมงกุฎพิมานสถานพิมุขไพชยนต์ปราสาทมีพระราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสแก่พระยาศรีธรรมาว่า พระหลวงเมืองขุนหมื่นข้าทูลละอองธุลีพระบาท ฝ่ายทหารพลเรือนเกณฑ์เข้ากระบวนทัพ ได้รบพุ่งด้วยสมเด็จบรมบาทบงกชลักษณอัครปุริโสดม บรมหน่อนราเจ้าฟ้านเรศวรเชษฐาธิบดี มีชัยชำนะแก่มหาอุปราชหน่อพระเจ้าไชยทศทิศเมืองหงสาวดีนั้น ฝ่ายทหารพลเรือนล้มตายในการรณรงค์สงครามเป็นอันมาก และรอดชีวิตเข้ามาได้เป็นอันมากนั้น ก็ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานพูนบำเหน็จแล้ว และซึ่งขุนหมื่นนายอากรภาษีและนายหมวดค่าส่วยขึ้น ณ พระคลังหลวง และส่วยสาอากรนั้น เข้าการณรงค์รบพุ่งล้มตายในที่รบเป็นอันมาก จึงทรงพระกรุณาตรัสประภาษว่า มันทำการรณรงค์สงครามมีบำเหน็จความชอบอยู่นั้น ถ้าและหนี้สินส่วยสาอากรขึ้นแก่พระคลังหลวงติดค้างอยู่มากน้อยเท่าใดให้ยกไว้ มีลูกหลานให้รับราชการแทนเลี้ยงไว้สืบไป ถ้าและขุนหมื่นนายอากรภาษีนายค่าส่วยซึ่งขึ้นพระคลังติดค้างอยู่ ก็ให้ยกเป็นบำเหน็จผู้ตายในการรณรงค์ผู้เป็นเจ้าแล้วอย่างให้บุตรภรรยาใช้หนี้เลย ถ้าและมีพี่น้องลูกหลานให้เลี้ยงเป็นข้าเฝ้าและเลี้ยงไว้ในที่ทหารใช้ราชการสืบไป อนึ่ง ผู้ใดมีน้ำใจจัดแต่งลูกหลานพี่น้องอาสาเข้ากองทัพได้รบพุ่งล้มตายในที่รบ ถ้าหาหนี้สิน ณ พระคลังหลวงติดค้างมิได้ ให้พระราชทานบุตรภรรยาโดยพระราชกฤษฎีกา ถ้าหนี้สินพระคลังหลวงติดค้าง ก็ให้ยกพระราชทานให้แก่บุตรภรรยามิได้เอาเลย และรอดคืนมาหาหนี้สินหลวงติดค้างมิได้นั้น ให้พระราชทานโดยพระราชกฤษฎีกา เลี้ยงไว้ในที่ทหาร” ดังนี้ สำหรับคำว่า "นเรศวร/นเรศ" เป็นชื่อตำแหน่งสมเด็จพระบรมหน่อพุทธางกูรจริง  เหมือนกับคำว่า "ราเมศวร"  แต่ก็กลายเป็นพระนามเฉพาะเช่นกัน  แม้แต่ "สมเด็จพระบรมหน่อพุทธางกูร" เอง  ก็ยังกลายเป็นพระนามเฉพาะของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน  ความเป็นไปได้ระหว่าง "นเรศ" กับ "นริศ" ผมคิดว่า "นเรศ" จะดูดีกว่า . ศิลปวัฒนธรรมเขาว่ายิ่งกว่านั้น  "สมเด็จพระนเรศวรราชาธิราชเจ้า"  ท่านก็ชักให้มันขาดจากกัน "สม-เด็ด-พระ-นะ-เรด-วอ-ระ-รา-ชา-ธิ-ราด-เจ้า"   โอ้...อันเก่ายังไม่เคลียร์เลย จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 22:43:09

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนพระแสงองค์ที่รูป(เจ้าพ่อห้องเครื่อง)แนบอยู่นั้น เป็นแบบจำลองพระขรรค์ชัยศรีจากประเทศเขมร รับสั่งให้จำลองถ่ายแบบในรัชกาลที่ ๔ พระแสงขรรค์ชัยศรี ของเราปรากฎในหนังสือสาส์นสมเด็จว่าเป็น ใบหอก จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 22:48:30

ความคิดเห็นที่ 15 “พระนริศ” (Prae Naerih) และ “พระนริศราชาธิราช” ตรงกับคำให้การชาวกรุงเก่า (โยทธยา ยาสะเวง) จากการสอบปากคำ เชลยศึกชาวศรีอยุทธยาเมื่อครั้งเสียกรุงใน พ.ศ. ๒๓๑๐ เรียกพระองค์ว่า “พระนริศ” และคัมภีร์สังคีติยวงศ์ของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน (สมัยที่ยังดำรงสมณศักดิ์พระพิมลธรรม) ซึ่งรจนาเป็นภาษาบาลีใน พ.ศ.๒๓๓๒ เรียกพระองค์ว่า “พระนริสสราช” (นริสสราชา) อัน มีความหมายเช่นเดียวกับพระนามว่า “สมเด็จพระนเรศ” พระราชพงศาวดารฯ ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ที่สมเด็จพระรามาธิบดี พระองค์ที่๔ (สมเด็จพระนารายณ์) โปรดให้เรียบเรียงขึ้นใน พ.ศ.๒๒๒๓ เรียกสมเด็จพระนเรศต่างออกไปว่า “สมเด็จพระนารายณ์บพิตรเป็นเจ้า” แต่ด้วยสาเหตุที่พระองค์สวรรคตอย่างปัจจุบันทันด่วนที่เมืองหาง (ห้างหลวง) ระหว่างยกทัพขึ้นไปตีเมืองอังวะ สุทธิศักดิ์ ระบอบ สุขสุวานนท์. “สมเด็จพระนเรศวร” พระนามแปลกปลอมของ “สมเด็จพระนเรศ”. ศิลปวัฒนธรรม ๒๗, ๓(๒๕๔๙) : ๔๒-๔๓. จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 01:55:08

ความคิดเห็นที่ 16 คำให้การกรุงเก่ากับคัมภีร์สังคีติยวงศ์ เป็นภาษาอื่นนะครับ สังคีติยวงศ์  เป็นการเล่นคำ  อย่างเดียวกับสมเด็จพระนครอินทร์ (เพราะครองเมืองอินทร์มาแต่ก่อน) กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ  ก็แปลงให้สวยงามว่า สมเด็จพระอินทรราชาธิราช ส่วนคำให้การกรุงเก่ากับคำให้การขุนหลวงวัดประดู่  เป็นคำให้การภาษามอญและพม่า  แปลกลับมาเป็นไทยอีกที คำว่า "อยุทธยา" เขายังออกเสียงว่า โยเดีย เลยครับ พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ  ออกพระนามพระองค์ว่าพระนารายณ์  คู่กับพระอนุชาธิราชว่าพระอิศวร เป็นการเปรียบเป๋ยครับ (แหะแหะแหะ) รู้สึกว่า "ศิลปวัฒนธรรม" ราคาแพงขึ้นทุกวันๆ นะครับ  แต่ก่อนเล่มละ ๑๒ บาทเอง จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:05:05

ความคิดเห็นที่ 17 พระนามของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายไว้ว่า                    .... ที่ ๑๘ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นั้น ก็เปนพระนามเดิมแต่ยังเสด็จครองเมืองพระพิศณุโกลย์ เวลาได้ราชาภิเศกนั้นจะใช้พระนามเดิมของสมเด็จพระราชบิดาต่อไปทีเดียวฤๅอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ในเวลานั้นมีการรบพุ่งกันมาก ในพระราชพงษาวดารก็หาได้กล่าวถึงการบรมราชาภิเศกไม่ เพราะดังนั้นถ้าจะว่าก็เหมือนหนึ่งคิดเดาเกินไป ด้วยพระนามสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้านี้ปรากฏโด่งดังมาก ถ้าจะเรียกตามพระนามเดิมก็เปนการสมควรอยู่ แต่ถ้าจะเทียบเคียงตามท่านไปน่าแลผู้ไปหลังให้รอบคอบ แลเทียบแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าด้วย ก็จะเห็นลงได้บ้างว่าท่านเห็นจะใช้พระนามสมเด็จพระราชบิดา เปนสมเด็จพระสรรเพชญ์ ควรนับว่าเปนที่ ๒ .... พระราชกรัณยานุสรณ์  ว่าด้วยพระนามสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=15-03-2007&group=2&gblog=3 แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 52 11:19:48 จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:19:22

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^  จริงของคุณกัมม์ ศิลปฯ แพงขึ้นเยอะจนผมเองก้อไม่ไหวละ...     เลือกซื้อเฉพาะตรงที่อยากรู้จริงๆ แต่ก่อนผมต้องซื้อทุกเดือน     แต่ปีนี้แค่สามเล่ม...ความจริงมติชนเนี่ยก้อบริษัทมหาชนแล้ว     นา...กำไรหุ้นเจียดๆมาช่วยให้หนังสือถูกลงไม่ได้เร้อ...ราคา     หนีคนอ่านหยั่งงี้ต่อไปข้างลำบากจะเป็นสำนักพิมพ์ของมติชน     เองน่ะนะ... จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:21:29

ความคิดเห็นที่ 19 แพงมากเพราะเนื้อหาถูกกว่าราคามาก หนะครับ เมื่อเร็วๆ นี้  ก็พาดหัวข่าวว่า "คำให้การผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันประหารเจ้าตาก" โอย....กลัวคนไม่ซื้อเนาะ   คงจะผิดหวังอีกตามเคย  เลยเดินเลี่ยงมา จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:29:01

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนซื้อผมจะยืนอ่านหน้าแผงแบบไม่อายใคร แล้วประเมินเนื้อหา มันมีน้ำหนักได้กันกับชื่อบทความประมาณไหน ถ้าแค่สิวๆแต่ทำ เป็นโลดโผน หมายถึงตั้งชื่อบนความซะ แต่อ่านไปแล้วเบาโหวง... อย่าหวังว่าจะได้สตางค์ผม ก้อแพงซะขนาดนั้น ระดับ ศิลปฯ นะครับ ราคาขนาดนั้น ... ข้อมูลระดับต่วยตูน ก้อจะเอาเปรียบผู้บริโภค มากไปหน่อย...ไม่ซื้ออ่ะ จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 12:49:24