|  | 
				
					|  ความคิดเห็นที่  19 |   
รศ.ธงทอง  จันทรางศุ  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม  เล่ารายละเอียดความเป็นมาของเครื่องราชกกุธภัณฑ์  สิ่งล้ำค่าของคนไทย  เป็นวิทยาทานความสำคัญของ เบญจราชกกุธภัณฑ์
 เครื่องราชกกุธภัณฑ์  เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชาธิบดี ประกอบด้วย 5 สิ่งรวมเรียกว่า เบญจราชกกุธภัณฑ์  สำหรับเบญจราชกกุธภัณฑ์  ตามวรรณคดีต่างๆ ทางพุทธศาสนา เช่น อรรถถาปปัญจสูทนีภาค 3 อรรถกถาสมันตปาสาทิกา  ภาค 1 มหาวงศ์ ทีปวงศ์ อภิธานัปปทีปิกาสังกิจชาดก  กล่าวว่า เบญจราชกกุธภัณธ์  ประกอบด้วย  ฉัตร, วาลวิชนี, พระขรรค์, อุณหิส, และบาทุกา  แต่ของไทยจะประกอบด้วย  พระมหาพิชัยมงกุฎ  วาลวิชนี  พระแส้และพระจามรี  พระแสงขรรค์ชัยศรี  ธารพระกร  และฉลองพระบาท
 ในสมัยอยุธยาเครื่องราชกกุธภัณฑ์นับเป็นของจำเป็นและของใช้ในพิธีบรมราชาภิเษก  โดยจะใช้เมื่อเวลาที่พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ก่อนสิ้นรัชกาลลง  และพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่เสวยราชย์  และเมื่อเราเสียกรุงศรีอยุธยาในปีพุทธศักราช 2310 คาดว่าสิ่งของเหล่านี้ได้สูญหายไป  ฉะนั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  ทรงสถาปนากรุงเทพฯขึ้นเป็นนครราชธานี  พระองค์ได้ทรงสร้างเบญจราชกกุธภัณฑ์สำรับใหม่ขึ้นและได้มีพระราชพิธีบรมราชาพิเษกในปี 2328
 ทั้งนี้พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์  จะต้องผ่านกระบวนการพิธีที่เรียกว่า บรมราชาภิเษก ก่อน คือการรับสมมติขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินเพื่อเป็นพระเกียรติยศ  ในพิธีจะมีการถวายเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์เช่นเดียวกับชาวยุโรปที่สวมมงกุฎ  แต่ของไทยจะไม่ใช้วิธีการสวมพระมหาพิชัยมงกุฎ  เนื่องจากหัวใจสำคัญของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอยู่ที่การถวายน้ำอภิเษก  หลังการถวายน้ำอภิเษกแล้วจึงถวายของซึ่งสิ่งของเหล่านี้นับเป็นของสำคัญสำหรับบ้านเมืองมาโดยตลอด
 หากพระเจ้าแผ่นดินยังไม่ได้ทำพิธีบรมราชาภิเษก  หรือยังไม่ได้รับเบญจราชกกุธภัณฑ์  พระเกียรติยศจะยังไม่เต็มที่  เป็นต้นว่า  ยังไม่ออกพระนามว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เรียกเพียงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ฉัตรก็เพียง 7 ชั้น  เพราะฉัตร 9 ชั้นจะถวายนพิธีบรมราชาภิเษก  คำสั่งของพระเจ้าแผ่นดินจะเรียกเพียงพระราชโองการ  ไม่ใช้พระบรมราชโองการ  ด้วยเหตุนี้พระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ที่ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม  เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม  เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 นั้น  เป็นพระราชกระแสรับสั่งหลังจากผ่านพิธีเหล่านี้แล้วจึงเรียกว่า  พระปฐมบรมราชโองการ  เพราะเป็นพระบรมราชโองการองค์แรก  ก่อนหน้านั้นเป็นเพียงแต่เพียงพระราชโองการ
 องค์ประกอบของเบญจราชกกุธภัณฑ์
 ในพระราชวงศ์จักรีมีพิธีบรมราชาภิเษกแล้วทั้งหมด 8 รัชกาล  ยกเว้นเพียงรัชกาลที่ 8 ที่ไม่ได้ใช้เนื่องจากเสด็จสวรรคก่อนโดยยังไม่ได้ผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  และในแต่ละปีจะมีการเชิญเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ออกมาสมโภช  ในพระราชพิธีฉัตรมงคล  วันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี  โดยจะประดิษฐานบนพระแท่นราชบัลลังก์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
 สำหรับประวัติความเป็นมาของเบญจราชกกุธภัณฑ์  ซึ้งประกอบด้วย  พระมหาพิชัยมงกุฎ  วาลวิชนี พระแส้และพระจามรี  พระแสงขรรค์ชัยศรี  ธารพระกร  และฉลองพระบาท  มีดังนี้
 
 พระมหาพิชัยมงกุฎ  สูง 66 เซนติเมตร  หนัก 7,300 กรัม  สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 สำหรับเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ทำด้วยทองคำลงยาราชาวดี  สองข้างมีจอนหูทำด้วยทองคำลงยาราชาวดีเช่นกัน  แต่ละชั้นประดับด้วยดอกไม้เพชร  เดิมยอดพระมหาพิชัยมงกุฎเป็นยอดแหลมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้พระราชสมบัติ  ไปหาซื้อเพชรจากเมืองกัลกัตตา  ประเทศอินเดีย  และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ติดไว้ที่ยอดพระมหามงกุฎ  โดยพระราชทานนามว่า มหาวิเชียรมณี
 พระมหาพิชัยมงกุฎนี้  แต่เดิมเวลาทำพิธีบรมราชาภิเษก  พระมหากษัตริย์ก็ทรงรับจากพราหมณ์แล้วทรงใช้  ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  จึงทรงอนุโลมตามแบบประเทศตะวันตกให้ถือว่าขณะที่สวมพระมหามงกุฎเป็นตอนสำคัญที่สุดของพิธี  พราหมณ์เป่าสังข์  ไกวบัณเฑาะว์มีการประโคม  ยิงสลุต  และพระสงฆ์สวดชัยมงคลทั่วราชอาณาจักร
 
 ภาพ มหาวิเชียรมณี
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
หนุ่มรัตนะ     |  
					| เขียนเมื่อ | : 
14 ธ.ค. 52 15:45:16 |  
					|  |  |  |  |