Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องเก่าเล่าใหม่ : การตัดสินใจของ จอมพล ป. (ตอนที่ ๑)  

ติดตามค้นคว้าเรื่องราวครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพาระหว่างปี ๒๔๘๔ ถึง ๒๔๘๘ แล้วผมเชื่อว่าคงมีหลายท่านที่มีข้อสงสัยเหมือนผมเกี่ยวกับการตัดสินใจของ จอมพล ป.พิบูลสงครามต่อ ๒ เหตุการณ์สำคัญของชาติในครั้งนั้นคือ ครั้งแรก เมื่อ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ ตัดสินใจยินยอมให้กองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนผ่านประเทศไทยและครั้งที่ ๒ เมื่อ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๕ ตัดสินใจประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา

ผมจะลองปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจทั้ง ๒ ครั้งนี้ดู เชิญติดตาม

ตัดสินใจครั้งแรก : ยินยอมให้ญี่ปุ่นเคลื่อนทัพผ่าน
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองระเบิดขึ้นในปี ๒๔๘๒ นั้น สมรภูมิยังคงจำกัดอยู่ในยุโรปและดินแดนที่เป็นอาณานิคมของมหาอำนาจในยุโรปเท่านั้น ซึ่งในช่วงระยะเวลานี้ เห็นได้ชัดเจนว่า รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนในการรักษาความเป็นกลาง ได้ปลุกใจคนไทยให้ลุกขึ้นต่อต้านในทุกวิถีทางหากประเทศไทยของเราถูกละเมิดความเป็นกลาง โดยมีความสำเร็จสดๆร้อนๆจากสงครามกับอินโดจีนของฝรั่งเศสจนได้ดินแดนคืนมาเป็นพลังสร้างความรักชาติและความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทยให้มากขึ้นไปอีก

แต่ว่าก็ว่าเถอะ ความสำเร็จของญี่ปุ่นที่มีชัยเหนือรัสเซียในยุทธนาวีที่จัตแลนด์ก็ดี ชัยชนะในคาบสมุทรชานตุงเกาหลี รวมทั้งชัยชนะที่มีต่อยักษ์ใหญ่อย่างจีนก็ดี ทำให้ใครต่อใครล้วนอดชื่นชมในแสนยานุภาพของมหาอำนาจใหม่แห่งเอเซียนี้ไม่ได้

กล่าวสำหรับคนไทย แม้จะลบแค้นฝรั่งเศสไปได้บ้างหลังสงครามอินโดจีนเมื่อปลายปี ๒๔๘๓ แต่ความขมขื่นครั้งที่เราเคยต้องเสียดินแดนให้กับฝรั่งเศสและอังกฤษครั้ง รศ.๑๑๒ ยังเพิ่งผ่านพ้นไปได้เพียงไม่กี่สิบปี ความโกรธแค้นประเทศตะวันตกที่กระทำย่ำยีต่อประเทศตะวันออกรวมทั้งไทย หากนับเป็นบาดแผลก็ยังไม่แห้งสนิท และเจ็บแปลบทุกครั้งเมื่อระลึกถึง

จึงไม่แปลกที่คนไทยจำนวนไม่น้อยแอบชื่นชมญี่ปุ่นอยู่ในใจ

ยิ่งเมื่อถูกบุกตอนเช้ามืด ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ แล้วทูตอังกฤษซึ่งเคยให้ความหวังกับเรามาโดยตลอดก็ “เปี๊ยนไป๋” บอกกับรัฐบาลไทยหน้าตาเฉยว่า ขอให้ช่วยตัวเองไปก่อน (เพราะอังกฤษเองก็กำลังเอาตัวไม่รอด) ไทยจึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่น

อาจารย์ แถมสุข นุ่มนนท์ บันทึกไว้อย่างชัดเจนใน "เมืองไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง"หนังสือดีอีกเล่มหนึ่งที่น่าอ่านว่า

"หากจะพิจารณาถึงเหตุการณ์ในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ ด้วยความเป็นธรรมแล้ว คงจะเป็นที่ยอมรับกันว่า การตัดสินใจของรัฐบาลที่ยอมให้กองทัพญี่ปุ่นผ่านเป็นการถูกต้องและถูกจังหวะเวลา กองทัพญี่ปุ่นจู่โจมอย่างกระทันหัน คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการและประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับกันว่ากองทัพไทยสู้ญีปุ่นไม่ได้จริงๆ"

ช่วงเวลานั้นใครๆก็เชื่อมั่นในแสนยานุภาพของญี่ปุ่น…

"จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็มิควรจะต้องตกเป็นแพะรับบาปแต่ผู้เดียว เพราะถ้าพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ประชาชนในเวลานั้น ไม่ว่าชาวไทย ชาวจีน หรือแม้แต่ผู้ที่นิยมอังกฤษ อเมริกา ต่างชื่นชมความสามารถของแสนยานุภาพญี่ปุ่น ทุกคนมั่นใจว่าญี่ปุ่นต้องชนะ และสัมพันธมิตรต้องพ่ายแพ้อย่างไม่มีประตูสู้"

และเมื่อมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ ๔/๒๔๘๔ เมื่อ ๒๓ ธันวาคม ๒๔๘๔

"สภาผู้แทนราษฎรในวันนั้น ตื่นเต้นกับข้อสัญญาที่ญี่ปุ่นรับรองจะคืนดินแดนทางมลายูและพม่าให้กับไทย สมาชิกสภาฯส่วนใหญ่จึงสนับสนุนนโยบายผูกมิตรกับญี่ปุ่น และขอร้องรัฐบาลให้ดำเนินการเข้ากับญี่ปุ่นไปจนถึงที่สุด ผู้แทนราษฎรท่านหนึ่งลุกขึ้นมาถามรัฐบาลว่าจะประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรหรือไม่…"

แม้ก่อนหน้านี้เมื่อรัฐบาลยินยอมให้ญี่ปุ่นเคลื่อนทัพผ่านดินแดนไทยในสายของวันที่ ๘ ธันวาคม "ชาวไทยงงและไม่เข้าใจท่าทีและพฤติการณ์ของรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้ประมาณสามเดือน รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามชุดเดียวกันนี้ได้ออกคำสั่งให้ประชาชนชาวไทยร่วมใจกันต่อสู้จนเลือดหยดสุดท้าย หากมีชาติหนึ่งชาติใดรุกล้ำดินแดนไทยอันเป็นที่รักยิ่งของทุกคน"ก็ตาม แต่"ในขณะนั้น ไม่มีใครจะให้ความกระจ่างแก่ประชาชนได้"

จากหนังสือ "เอกราชได้มา…ด้วยการต่อสู้"ซึ่งจัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในวันประกาศสันติภาพ ๑๖ สิงหาคม ๒๔๘๘ ครบ ๔๐ ปี ๑๖ สิงหาคม ๒๕๒๘ ในส่วนของคำปรารภ ซึ่งลงท้ายโดย"อดีตเสรีไทย ทายาท และผู้ศรัทธา” ก็กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า…

"เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ อุบัติขึ้นในเอเซียในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ กองทัพญี่ปุ่นก็ได้บุกเข้าประเทศไทยพร้อมๆกับการเปิดฉากโจมตีฐานทัพอเมริกันที่อ่าวเพิร์ล ในชั้นต้น รัฐบาลไทยขณะนั้นได้เลือกทางออกที่ดีที่สุดคือ ตกลงยอมให้ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทยแต่อย่างเดียว"

การตัดสินใจของรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ครั้งนี้จึงอาจกล่าวได้ว่า มีเหตุผลสมควรสนับสนุน แต่หากเลือกหนทางยืนหยัดป้องกันดินแดนจนเลือดหยดสุดท้ายเล่า …

ประวัติศาสตร์ของไทยช่วงเวลานั้นจะพลิกโฉมไปอย่างไร ?

ติดตามอ่านเพิ่มเติมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ที่ http://www.bloommedia.co.th/webboard/viewtopic.php?f=23&t=566 ครับ

จากคุณ : Gen.Bunchon
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 01:06:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com