ความคิดเห็นที่ 3 |
๒. เจ้าจอมภู่ สีดา เจ้าจอมในกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท มารดาชื่อเอี้ยง เป็นนายวิเสทปากบาตรในพระราชวังบวร
เดิมเป็นละครหลวงกรุงธนบุรี แล้วได้เป็นละครหลวงในรัชกาลที่ ๑ เป็นหญิงที่เล่าลือกันว่า “เป็นหญิงเลื่องชื่อลือชาว่างามมากในครั้งกระโน้น” ภายหลังต้องโทษประหารเพราะแม่เป็นกบฏ
ดังเหตุการณ์วังหน้า เมื่อ พ.ศ.๒๓๒๖ ครั้งนั้นสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงพระดำริเห็นว่า พระสงฆ์เมื่อรับบิณฑบาตรราษฎรไม่ต้องคอยท่า แต่หากเมื่อรับบาตรในวังเจ้านายและบ้านผู้มีบรรดาศักดิ์ใหญ่ต้องไปคอยรอ บางครั้งก็จนสายก็ยังมิได้กลับวัด จึงมีพระบัณฑูรไว้ว่า ในพระบวรราชวังนั้น ให้เจ้าพนักงานเตรียมเครื่องทรงบาตรตั้งที่ให้พร้อม แล้วจึงให้สังฆการีนิมนต์พระสงฆ์ แล้วพระองค์จะเสด็จลงทรงบาตรในเวลาเช้าโมงหนึ่ง ดังนั้นประตูดินในพระราชวังบวรจึงต้องเปิดก่อนย่ำรุ่ง ทำเช่นนี้เป็นธรรมเนียม
จนเมื่อมีชายบัณฑิตจากนครนายก ๒ คน อ้างตัวว่ามีวิชาความรู้ล่องหนหายตัวได้ เข้ามาอาศัยกับนางเอี้ยง แม่เจ้าจอมภู่ ทั้งสองร่วมคบคิดกับขุนนางวังหน้าหลายคน เช่น พระยาอภัยรณฤทธิ์ รวมทั้งนางเอี้ยงด้วย
เมื่อวันศุกร์ เดือน ๕ แรม ๒ ค่ำ (วันศุกร์ที่ ๑๘๙ เมษายน พ.ศ.๒๓๒๖) เวลาเช้า พวกวิเสทปากบาตรก็ขนกระบุงข้าวทรงบาตรเข้าไปทางประตูดินวังหน้า นางเอี้ยงออกอุบายให้ชายทั้งสองแต่งเป็นหญิงถือดาบซ่อนไว้ในผ้าห่มลอบเข้าไปพระราชวังบวร แล้วแอบอยู่ ๒ ข้างพระทวารที่จะเสด็จลงทรงบาตร แต่เดชะพระบารมีมีเหตุให้ทรงลงพระทวารอีกมุขข้างหน้า ซึ่งได้เสด็จไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระราชวังหลวงแต่เช้าตรู่ก่อนทรงบาตร
จนเมื่อมีพนักงานฝ่ายในมาพบก็ร้องอื้ออึงลงมาว่ามีผู้ชายถือดาบเข้ามาในพระราชวัง ชายทั้งสองก็ไล่ตามลงมา ขณะนั้นมีขุนหมื่นกรมวังคนหนึ่งกำลังคุมไพร่ก่อถนนในพระราชวัง เมื่อกบฏวิ่งไล่มา ก็เอาดาบฟันขุนหมื่นผู้นั้นคอขาดตายกับที่
บรรดาเจ้าจอมและจ่าโขลนก็ตกใจ วิ่งออกมาบอกความถึงข้างหน้า ข้าราชการเป็นอันมากจึงพากันวิ่งเข้าไปในพระราชวังล้อมจับชายทั้งสอง บางส่วนก็วิ่งไปยังพระราชวังหลวง กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและกรมพระราชวังบวร ซึ่งประทับอยู่ในท้องพระโรง ครั้นทรงทราบความจึงทรงมีพระบัญชาให้ตำรวจหลวงทั้งวังหลวงและวังหน้าเข้าระงับเหตุ จนจับได้
กบฏทั้งสองให้การซัดทอดผู้คบคิดที่เป็นขุนนางทั้งวังหน้าและวังหลวง มีพระยาอภัยรณฤทธิ์ พวกวิเสทปากบาตรวังหน้า รวมทั้ง เอี้ยงและบุตรหญิง ๑ บุตรชาย ๒ และ “จุ้ย” บุตรหญิงพระยาอภัยรณฤทธิ์ซึ่งอยู่พระราชวังหลวง เกษบุตรชายพระยาอภัยรณฤทธิ์กับทั้งบ่าวไพร่สมเด็จกรมพระราชวังบวรมีพระบัญชาให้เฆี่ยนสอบแล้วทั้งหมดรับเป็นสัตย์ นางเอี้ยงให้การว่าหลงเชื่ออ้ายบัณฑิตกบฏทั้งสอง และว่าจะยอมยกลูกสาว (คือเจ้าจอมภู่) ให้เป็นเจ้าจอมเมื่อสำเร็จการแล้ว
สมเด็จกรมพระราชวังบวรจึงให้ลงพระราชอาญาประหารชีวิตกบฏทั้งสองกับพวก รวมทั้งเจ้าจอมภู่ด้วย
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 22:03:37
จากคุณ |
:
จินตะหราวาตี
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ธ.ค. 52 22:01:06
|
|
|
|