ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ แต่มีปัญหากะเน็ตอยู่ เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับสารวัตร ปกติผมใช้ ทรู ไฮสปรีด รุ่นเสียบสายแลนธรรมดา มีโมเด็มมันก็ใช้กับวินสะโด้ เวอร์ชั่นเก่า ใหม่สุดก็แค่ เอ๊กซ์ซ์ พี แต่ที่นี้คอมพ์เจ้ากรรมมันดันเจ๊ง เกิดปรากฎการ์ไฟไม่เข้าเครื่อง และด้วยโน๊ตบุคตัวนั้นมันชราเต็มที นับรอยตีนกาได้มากกว่าเจ้าของไปกว่าสองขีด ก็เลยชั่งใจอยู่ว่า จะเอาไปซ่อมดี หรือเอาตัวใหม่มาเสียบสายใช้ดี แต่มันดันเกิดปัญหาว่า เจ้าตัวใหม่เนี้ย มันดันเป็น วิสต้า แผ่นโปรแกรมของโมเด็มมันใช้กันไม่ได้ ก็เลยใช้เน็ตไม่ได้ ส่วนที่ทำงานก็ใช้แบบหาสายไม่เจอ ก็เลยกลายเป็นว่า ดูที่บ้านไม่ได้ไปซะแล้ว ใครมีความรู้เรื่องนี้ช่วยสงเคราะห์หน่อยเถอะครับ ความรู้เรื่องคอมพ์ผมมันถอยหลังไปทุกปี เมื่อก่อนนี้ก็ได้ประมาณเด็ก ม.ปลาย เดี๋ยวนี้ แค่ประถมก็สู้มันไม่ได้แล้ว ผมควรทำไงดีครับ  มันเปลี่ยนโมเด็มได้ไหม ต้องไปติดต่อกับ ทรู หรือเปล่าเนี่ย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 09:31:50

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่อคั่นเวลาระหว่างรอนักมวยตัีวจริง และบวกกับเมื่อวันก่อนผมดูเรื่อง Terminal ที่ Tom Hanks เล่นมีฉากหนึ่งที่นางเอกเล่าเรื่องครัวซองแล้วเพจเจอร์ดัง แล้วไม่ได้เล่าต่อ ผมสงสัยเลยไปค้นมา..... จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 09:34:16

ความคิดเห็นที่ 3 อาจารย์สื่อฯ ครับ ผมแนะได้ดังนี้ครับ 1. จดยี่ห้อ รุ่นของโมเด็ม ไปเสิร์จหาเว็บของเจ้าของโมเด็มในเนต เพื่อหาโปรแกรมอัพเกรด ไม่ต้องไปถามที่ทูรครับ เพราะเขาจะช่วยอะไรเราไม่ได้ 2. ซื้อโมเด็มใหม่ในพันทิพย์ตอนนี้ตัวไม่กี่ตังค์ 3. ถ้าใจถึงพอก็ลงวินโดว์ใหม่เลยครับ เอา XP Pack 3 มาลงครับ วินโดว์ตัวนี้เสถียรสุด ใช้ได้ยันคอมเจ๊งอีกรอบครับ ผมพอแนะได้ประมาณนี้ครับ ฉากที่นางเอกเล่าเรื่องครัวซองครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 09:51:11

ความคิดเห็นที่ 4 ค้นเจอได้รายละเอียดดังนี้(อาจจะไม่ถูกทีเดียวเพราะผมแปลเอง) เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงเวียนนา เดือนกันยายน ปี ค.ศ.1683 ขณะที่กองทัพของจักรวรรดิออตโตมันล้อมกรุงเวียนนาอยู่  กองทัพเติร์กพังกำแพงได้ด้านหนึ่งเมืองใกล้จะแตกอยู่รอมมะะร่อ บรรดาผู้พ่อครัวในเมืองเวียนนาคิดจะเอาใจผู้พิชิต จึงทำขนมปังคล้ายรูปพระจันทร์เสียวขึ้น รูปพระจันทร์เสี้ยวเป็นสัญลักษณ์ของอิสลาม และปรากฎอยู่บนธงของออตโตมัน แต่แล้วกองทัพโปแลนด์และรัฐเยอรมันอื่นๆยกมาช่วยไว้ทัน กองทัพเติร์กถอยกลับฮังการี่ ครัวซองค์จึงกลายเป็นอาหารสำหรับการเฉลิมฉลองชัยชนะแทน จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 12:22:56

ความคิดเห็นที่ 5 คุณสื่อศิลป์คับ ซื้อโมเด็มใหม่ก็ได้ เอา username กะ password ที่ได้จากทรู ไปให้เค้าด้วย เด๋วทางร้านทำให้หมดเลย มาถึงเราก็เสียบสายแลน ใช้ได้เลยครับ แนะนำยี่ห้อ D-link ครับ อันนี้ดีสุด ช่างคอมที่ทำงานแนะนำมา ไม่แนะนำยี่ห้อ SMC ผมใช้อยู่ แฮงค์ง่ายครับ ส่วนคอมพ์ ซื้อใหม่ก็ราคาไม่แพงมาก เดสท๊อปก็ราคาไม่ถึงหมื่น ไม่รวมจอ ไม่แตกต่างกันหรอกครับ ของเก่าถ้ายังใช้ได้ ก็ใช้ไปก่อน แต่ถ้าไม่มีแล้วก็ซื้อใหม่ดีกว่า แล้วเก็บฮาร์ดดิสค์ตัวเก่าไปใส่เพิ่มในตัวใหม่ด้วยเลยครับ เพราะนอกนั้นคงจะใช้ไม่ได้แล้ว เช็คราคาในนี้ครับ http://www.tohome.com/computer.aspx มีทั้นโน๊ตบุ๊ค เน็ทบุ๊ค แล้วก็เดสทอปด้วย ราคาไปซื้อจริงๆ คงถูกกว่านี้นิดหน่อยน่ะครับ สวัสดีปีใหม่ชาวสมาชิกยังเติร์ก ทุกๆ คนด้วยนะคร๊าบบบบบ จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 13:04:03

ความคิดเห็นที่ 6 สรุปคือผมควรหาใหม่หมดเลยใช่ไหมครับ ก๋ดีเหมือนกัน ยกชุดเลย แต่สงสัยจะติดปีใหม่ คงต้องรอหลังปีใหม่ งั้นวันนี้ ขออวยพรปีใหม่ทุกท่านนะครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 14:44:32

ความคิดเห็นที่ 7 สนับสนุนข้อ 3 ของคุณ ryzon ครับ  ให้ร้านลง หน้าต่าง XP Sp3 ให้ (แต่ร้านจะกล้าลงให้หรือเปล่าอันนั้นเป็นอีกปัญหานึง  เพราะเดี๋ยวนี้เค้าเขี้ยวกันเรื่องลิขสิทธิ์)  ส่วน Vista ผมว่าไม่น่าใช้ครับ  ห่วยพอ ๆ กับ Me สมัยก่อน สวัสดีปีใหม่ครับ จากคุณ : Dearance เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 17:19:34

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีปีใหม่เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวยังเตริ์ทุกท่านค่า!!!!!!! ไปเคาน์ดาวที่ไหนกันบ้างหรือเปล่าคะ ปีนี้แอบคาดหวังล็กๆว่าจะได้อ่านอะไรหนุกๆจากอาจารย์สื่อบ้างนะคะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 14:03:49

ความคิดเห็นที่ 9 แวะมาสวัสดีปีใหม่ พี่ๆชาวกระทู้ยังเติร์กด้วยคนครับ ขออนุญาตอ่านกระทู้ที่แล้วก่อนครับ จากคุณ : joblovenuk เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:50:03

ความคิดเห็นที่ 10 เชียร์ซื้อคอมฯ ใหม่อีกเสียงครับ วันก่อนไปซื้อมา จดสเป็คไปซะหรูเลย HD 500 GB 2 ตัว + ที่อ่านการ์ด + DVD RW + อะไรต่ออะไรมากมาย (ไม่รวมจอ) น้องมันบอกราคา 13,000 บอกมันว่า "เฮ้ย คิดใหม่ซิ ซื้อครั้งก่อน สเป็คประมาณนี้เกือบสามหมื่น..." น้องเขาบอกว่า เดี๋ยวนี้คอมฯ ถูก ราคานี้ละหรูสุดแล้วพี่ ส่วน OS ผมใช้ Windows 7 ครับ เร็วกว่า XP แล้วก็ดูท่าว่าจะเสถียรดี สวัสดีปีใหม่นะครับ สมาชิกบ้านยังเติร์กทุกท่าน มีความสุขและร่ำรวยทั่วหน้านะครับ จากคุณ : ha ha yee เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 20:18:47

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ คุณหมอ นอกจากคำแนะนำแล้ว สะดวกโอนเงินค่าคอมพ์ใหม่ให้ผมด้วยเป่าครับ จะได้แจ้งเบอร์บัญชีให้ทราบเลย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 15:35:57

ความคิดเห็นที่ 12 ท่านเดียแรนซ์ครับ การที่จะเอาไฟล์ทั้งหมดที่คุณหมอเก็บไว้เป็นเท็กซ์ไฟล์น่ะ ผมคาดว่าจะต้องใช้หน้าที่เป็นword ประมาณร่วมๆหมื่นหน้ากว่าๆนะครับ เพราะผมเคยเก็บไว้ได้ที่ประมาณภาคที่ 10 แค่นั้นก็ร่วมๆเกือบพันหน้าแล้วครับ (แค่เนื้อหานะครับ เพราะผมตัดที่เป็นน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงออกไปอีก ฮิฮิ) ผมแนะนำว่า ถ้าท่านเดียแรนซ์จะรวบรวมจริงๆ ก็น่าจะขออนุญาตท่านอาจานใหญ่กับท่านอาจานสื่อ ขอพิมพ์ออกขายมันซะเลย แล้วแบ่งกำไรส่วนหนึ่ง ซื้อไม้กอล์ฟดีๆ กับไวน์ชั้นเลิศเป็นของกำนันของผู้ใหญ่ ให้ท่านอาจารย์ทั้งสอง อีกส่วนหนึ่งเราเอาไว้เป็นทุนไปสังสรรค์กัน ฮิฮิ สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ กี่ปีแล้วเนี่ยเว็บนี้ ทำไมมันไปไม่ถึงไหนกันเสียทีล่ะเนี่ย ฮิฮิ จากคุณ : ฤาษีวยาส เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:28:50

ความคิดเห็นที่ 13 อ่อ ใครดูเรื่องมังกรสร้างชาติมาแล้วบ้างครับ ถ้าใครยังไม่ได้ดู ผมก็จะบอกว่ายินดีด้วย เพราะท่านเซฟเงินในกระเป๋าของท่านได้เป็นอย่างดี ยินดีด้วยจริงๆ หนังมันทำออกมาโปรประกันดาจริงๆ สมแล้วที่เป็นพวกประเทศคอมมิวนิสต์ตัวแม่ แต่ขอโทษ ใครที่เขารู้เรื่องประวัติศาสตร์จีนจริงๆ เข้าไปนั่งดูแทนที่จะซาบซึ้งเขามีแต่จะนั่งขำกัน แต่ตอนจบก็ยังอุตส่ามีอาเจ๊กวัยสักห้าสิบ เดินไปยืนหน้าจอ แล้วหันไปคุยกับคนตรวจตั๋วว่า เป็นหนังที่ดีมาก ดีมากจริงๆ ...ผมสังเกตุเห็นว่าตอนที่แกพูดน่ะ น้ำเสียงแกสั่นเครือด้วยความปลื้มปิติใจมากๆ ในขณะที่ผมกำลังคิดอยู่ว่า กูจะเอาเงินค่าตั๋วหนังคืนได้จากใครดี ผมคาดเดาว่า อาเจ้กแกคงซาบซึ้งสุดๆ ก็ตอนที่เพลงอินเตอร์นาซิอองนาล (เอ๊ะนี่มันชื่อทีมอินเตอร์มิลานนี่) ภาคภาษาจีนดังกระหึ่มจากปากของท่านโจวเอินไหล เพราะเป็นช่วงที่บิ๊วอารมณ์กันสุดๆ ถ้านี่เป็นสมัยคอมมูนิสต์ครองอินโดจีน หนังเรื่องนี้คงถูกยกย่องในหมู่ปัญญาชนของชาติ(ที่อยู่ในป่า)สมัยนั้นแบบสุดๆ แต่ผมว่าสมัยนี้ ใครคิดจะทำอะไร คนเขาอ่านขาดหมดแล้วล่ะครับ การโฆษณาชวนเชื่อนั้น สมัยนี้ ต้องทำให้เนียนสุดๆจริงๆ เพราะเวลาคนอื่นเขาจับได้ มันจะเสียน้องหมาเอาน่ะเซ่ ดูอย่างนาธาน เป็นต้น จากคุณ : ฤาษีวยาส เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:39:03

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าหนังเรื่องนี้เป็นความพยายามอีกขั้นหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ครับ หลังจากเริ่ม "ลุกขึ้นยืน" จาก สงครามฝิ่น อันนั้นมันประมาณหนังนักศึกษาปีหนึ่งทำ อันนี้ก็ดีขึ้นหน่อย ในเรื่องของแสง เงา ที่เป็น"หนัง"มากขึ้น ไม่ใช่ละครประเภทแสงระดับเดียวกันหมด แม้กระทั่งมุมกล้องก็พยายามให้อินเตอร์ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ค่อยลงตัว บางฉากยังไม่ค่อยดี อย่างฉากที่ทีปรึกษาอเมริกัน เอาปืนเอ็ม 1 มาลองยิง เหมือนสมบัติยิงเอ็ม 16 ในหนังดอกดินยังไงยังงั้น นี่ถ้าเขาเชิญพ่อรอง ไปพากษ์ด้วย คงได้มีทริกเป่าปากเป็นเสียงปืน ปุ้ง ๆ กันลมใส่แน่ ๆ ฉากเครื่องบินท่านก็ล่อ CG มันซะทุกเครื่อง การดำเนินเรื่องก็พยายามอินเตอร์จนดูแทบไม่รู้เรื่อง ต้องคนมีพื้นฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนช่วงนั้นจริง ๆ เพราะแค่จำตัวละครก็แย่แล้วครับ ดาราจีนอินเตอร์ก็ขนเอามาปะหน้ากันซะเว่อร์ ไม่รู้จะเอามาทำไม เห็นหน้าเจ๊ท ลี อยู่ทีนึง ในบทแม่ทัพเรือยุคสงครามญี่ปุ่น จากนั้นก็หลับ ๆ ตื่น ๆ จนจบเรื่อง จำไม่ได้เหมือนกันว่าน้าแกโผล่มาตอนไหนอีกหรือเปล่า ส่วนขวัญใจพ่อยก อย่างจาง ซิ ยี่ ก็ออกมาจีบปากจีบคอ คุยกับท่านประธานเหมาเอาตอนจะจบเรื่องแล้ว น่าเสียดาย ทีแรกยังลุ้นว่า เจ๊ แกน่าจะมาเล่นเป็นศรีภรรยาของโจว เอิน ไหล จะได้มีฉากตบกะมาดามแก๊ง 4 คนบ้าง เรื่องคุณภาพ ความคมชัด ของการถ่ายทำ ผ่านครับ แม้ว่ามุมกล้องจะชวนเสียนหัวนิดนึง แต่ก็พอแตะ ๆ ขอบอินเตอร์ได้แล้ว เดี๋ยวรอบหน้ามาว่า เรื่องเนื้อหากันหน่อย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 09:45:35

ความคิดเห็นที่ 15 เนื้อหาของเรื่อง เมื่อเทียบกับงานกึ่งสารคดีก่อนหน้านี้ ก็นับว่า พี่มังกร แกผ่อนเบามือไปเยอะแล้วครับ เพราะเมื่อก่อนนั้น เล่นเชิดชูวีรบุุรุษกันสุดลิ่มทิ่มประตู มีอยู่เรื่องหนึ่ง เน้นบทบาทของป๋าเติ้งซะเลิศเลอ ถึงขนาดเปิดฉากมาเป็นเติ้งโกนหัวระหว่างเข้าร่วมขบวนปฏิวัติ ในเรื่องนี้มีโผล่มาตอนท้าย ที่กำลังเดินเข้าห้องประชุม หลังยึดประเทศแล้ว คิดว่าคนคิดฉากนี้มา คงเอาไว้เปิดตัวแกนนำพรรคที่เหลือ ๆ ให้หมดมากกว่าอย่างอื่น ก็ขนาดป๋าเติ้งเองยังบอกว่า ตอนช่วงนั้น ตะแกไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก "ก็แค่เดินตามกองทัพไป" ส่วนพระเอกของเรื่องอย่างประธานเหมา ไม่รู้เมืองจีนนี่เขามีคนหน้าเหมือนประธานเหมากี่คน เพราะเห็นสร้างกี่ทีก้หาคนหน้าเหมือนมาได้ทุกครั้งไป เรื่องนี้ก็เหมือนอีกแล้ว ในเรื่องเห็นได้ชัดว่า พยายามสร้างภาพของประธานเหมาใหม่ ให้มีความเป็นผู้เป็นคน หลาย ๆ มิติ มากกว่าสมัยโปรปะกันดาเยอะ อย่างการสูบบุหรี่จัด หรือการพูดคุยกับแกนนำในหลาย ๆ ฉาก และที่เห็นชัดว่า "ยัด"เข้าไปตามนโยบาย "สร้างภาพ" คือ ฉากที่เดินตรวจเมืองแล้วบ่นกับเหล่าอกนนำว่า เดินมาสองถนนแล้ว ยังหาซื้อบุหรี่ไม่ได้เลย ตบด้วยประโยคเด็ดว่า "เรื่องการปฎิวัติ เราอาจจะเป็น 1 ในแผ่นดิน แต่เรื่องการค้าขาย เราสู้พ่อค้าไม่ได้  ต้องเชิญเขากลับมาค้าขายตามปกติ" ผมว่านิยามเกี่ยวกับ "นายทุน"ตรงนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงในสมัยนั้นนะ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับแนวคิดของเหมา เมื่อกำหนดนโยบายก้าวกระโดดหรือปฎิวัติวัฒนธรรม ส่วนเจียงก็พอกัน พยายามสร้างให้ดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ในบทหนังพยายามเน้นให้คุยกับลูกชายมากขึ้น แทนที่จะเป็นเผด็จการโหดร้าย โหดเหี้ยม เหมือนก่อน ๆ ก็มีความเป็นคนที่ห่วงใยบ้านเมืองมากขึ้น เพียงแต่มีวิธีการที่ต่างจากเหมาเท่านั้น สรุปแล้วก็ซื้อ ดีวีดี เอาไว้ดูเล่น ๆ แก้เซ็งได้ครับ อย่างน้อยหนังก็ชัดเจนดี ดูแล้วไม่ปวดตา ส่วนจะปวดหัวนั่นก็อีกเรื่องนึงครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 10:06:24

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่งเข้ามากระทู้ครับ ก็ต้องเข้ามาลงชื่อกันตามธรรมเนียม หลังจากไปลุยกับรถและคนที่ปายมาหนึ่งคืน (จำเป็นต้องไปเพราะญาติๆเค้าอยากไป) เรื่องคอมนี่ไม่ทราบว่าจะซื้อเป็น notebook หรือ desktop ครับ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็อย่าไปเอา vista นะครับ เล่น 7 ไปเลย หรือไม่ก็กลับมาหาคนคุ้นเคยอย่าง XP pack 3 จากคุณ : Ronachai (amscmu) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 10:39:45

ความคิดเห็นที่ 17 เฮ้อ พลาดไปโดน vista กะโน๊ตบุคเข้าให้แล้วนะสิ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 10:50:00

ความคิดเห็นที่ 18 ลองคุยกับร้านที่ซื้อมาสิครับ ขอให้เขาลงเป็น XP ให้ คนที่รู้จัก ซื้อมาแล้ว downgrade ลงทุกคนครับ ยกเว้นผบ.ผม เพราะไม่มีเวลาเอาไป downgrade แหะๆ ตอนนี้กำลังจับตาดู notebook ใหม่อยู่เหมือนกันครับ ของเก่านี่เต็มกลืนแล้ว จากคุณ : Ronachai (amscmu) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 21:00:05

ความคิดเห็นที่ 19 ไปดูมาแล้วครับ ดูไม่ค่อยรู้เรื่องอาจเป็นเพราะว่าจต้องบีบเหตุกาณ์ 5 ปี ภายใน 2 ชั่วโมง ดูแล้วเลยมึนๆ ดาราดังๆ โผล่มาคนละฉากครับ อย่างฉากนี้เจ็ตลี โผล่มาตอนต้นเรื่อง จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 13:30:23

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้พี่หลิวผม โผล่มาตอนท้ายๆ เป็นนายทหารของเจียงไคเช็ค ผู้รับผิดชอบการทิ้งระเบิดใส่ท่านประธานเหมาตอนท้ายเรื่อง จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 13:33:27

ความคิดเห็นที่ 21 อันนี้ Jackie Chan ครับ เห็นโผล่มาฉากเดียวครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 13:34:51

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องเริ่มต้นตอนที่ท่านประธานเหมา กับท่านนายพลเจียง ยังกอดคอจูปปาก ชนแก้วไวน์กันอยู่ หลังจากที่ร่วมมือกันโค่นญี่ปุ่น รูปท่านประธานเหมากับท่านนายพลเจียงชนแก้วกัน ผมลองเอารูปในหนังกับภาพจริงมาเทียบกันดู.... จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 13:57:56

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่ามันเป็นเรื่องของการเขียนพล๊อตภาพยนต์นะ เหตุการณ์การเมืองจีนช่วงนั้นมันซ้บซ้อน ใคร ๆ ก็รู้อยู่ ดังนั้น หากจะนำเสนอในแบบ Information ก็น่าจะทำเป็นสารคดีไปเลย แต่ถ้าจะทำเป็นแบบภาพยนต์ ก็น่าจะเล่นแค่มุกใดมุกหนึ่ง เหมือนฮอลีวู๊ดสมัยใหม่ ยุคหลังไททานิก ที่นิยมเอาเรื่องเล็ก ๆ แทรกเข้ามา ในแบคกราวด์เหตุการณ์ใหญ่ ๆ บางเรื่องก็ดูดี บางเรื่องก็แย่ อย่างเจ้าเรื่อง อ่าวไข่มุกนั่นนะ ห่วยสนิท เรื่องนี้ ผมเข้าใจว่า จีนพยายามสร้างให้เป็นระดับตำนานอย่าง  Birth of Nation ที่พูดถึงเรื่องของอเมริกา แต่พอมาทำเข้าจริง ๆ แล้ว กลับไม่สามารถหาความลงตัวของเหตุการณ์ที่มีรายละเอียดยิบย่อยไปหมด จริง ๆ แล้ว ถ้าไม่ติดเรื่องที่พยายามจะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของทั้งประธานเหมา และนายพลเจียง เขาเลือกตัวเดินเรื่องสักคนนึงผ่านเหตุการณ์ใหญ่นี้ก็ได้ ไม่ว่าจะเอาประธานเหมาเอง หรือกลุ่มผู้นำสักคนสองคน โดยมีประธานเหมาเป็นตัวประกอบ แต่เข้าใจว่า ผู้นำของตั้งธงมาไว้แบบนี้  เลยขยับไม่ค่อยได้ ถ้าไม่โดนควบคุมมาก แค่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประธานเหมากับรองฯโจว เอิน ไหล ก็น่าสนุกแล้ว เช่น จับช่วงที่ประธานเหมาตกต่ำในพรรค แล้วต้องลงไปศึกษากับชาวนา ก่อนจะกลับมาเสนอแนวทางการต่อสู้ในที่ประชุมพรรค จนกระทั่งสามารถขึ้นเป็นผู้นำ และนำชัยชนะมาให้กองทัพแดงได้ โดยมีโจวเอินไหลเป็นสหายร่วมเป็นร่วมตาย และเป็นผู้เสนอให้เหมาขึ้นเป็นผู้นำตอนประชุมสมัชชา ยังมีความ Drama อีก อย่างตอนที่ขบวนทัพของกองทัพแดงแยกออกเป็นสองสาย แล้วผู้นำอีกคน ขอโจวเอินไหลร่วมทัพไปด้วยเพื่อเป็นตัวประกัน อย่างนี้ผมว่าน่าจะสนุกกว่านะ มากกว่าที่จะเสนอภาพรวม ๆ แล้วตัดฉากนั้นที ฉากนี้ที คนไม่มีพื้นเป็นอันไม่สนุกกัน ถึงคนมีพื้นก็ไม่ทันส์ เพราะมันตื้นไปนิด หรือว่าไงครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 09:24:50

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับอาจารย์สื่อฯและแฟนประจำทุกๆท่าน เพิ่งกลับจากต่างแดนก็มาตามอ่านกระทู้นี้เช่นเคย ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันปรุงประวัติศาสตร์ให้น่าอ่านน่าจดจำ นักเรียนเฒ่าคนนี้ขอติดตามเรียนกับอาจารย์ทุกท่านต่อไปนะครับ... จากคุณ : Uncle Tee เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 15:12:02

ความคิดเห็นที่ 25 หนังที่เกี่ยวกับช่วงนั้น "The Assembly " น่าจะของฮ่องกงทำนะครับ เป็นหนังเกี่ยวกับนายทหารของจีนคอมมิวนิสต์และทหารกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกส่งไปยันทัพก๊กมินตั๋ง ในการรบในจีนภาคเหนือ ซึ่งเฝ้ารอเสียงแตรที่เป็นสัญญาณถอย เหตุการณ์ต่อเนื่องถึงถึงสงคราเกาหลี ครึ่งแรก ยิงกันตลอด ครึ่งหลังออกจะดรามาหน่อยๆ  บ้านเรามี DVD ขายแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 17:17:09 จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:13:55

ความคิดเห็นที่ 26 ก็คงจะเหมือนสุริโยทัยบ้านเรามังคะ   ที่ตัดไปตัดมา   คนมีพื้นยังงง  คนไม่มีพื้นยิ่งงงเข้าไปใหญ่  ไม่รู้อะไรมาจากไหน   อยู่ๆก็ก็โผล่มาฉากเดียวแล้วก็หายไปเลย   ก็น่าเห็นใจผู้นำเสนอนะคะ  ประวัติศาตร์ช่วงนั้นกินเวลาตั้งหลายปี  แต่ต้องเอามาทอนให้จบภายใน  3  ชั่วโมง    ก็เลยไม่รู้ว่าจะเอาอะไรก่อนอะไรหลัง    หนังก็เลยออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ แต่ถ้าจะเอาแบบอาจารย์สื่อว่าก็ดีนะคะ  คือให้นำเสนอเหตุการณ์สำคัญเป็นตอนๆ   เลือกเจาะเอาเฉพาะช่วงที่เป็นจุดพลิกผัน  น่าจะทำให้บรรจุรายละเอียดได้มากกว่านี้    และสามารถนำเสนอออกมาให้เห็นภาพที่ชัดเจนกว่า แต่ก็อีกแหละ   ถ้าหนังทำออกมาแบบนั้น  ก็จะได้กลุ่มผู้บริโภคเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น คือกลุ่มที่รู้อยู่แล้วว่าอะไรเกิดขึ้นช่วงนไหนบ้างและทำไมถึงเกิด  และหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก และก็รอดูว่าเขาจะทำหนังภาคต่ออกมาอีกหรือเปล่า  ทำให้คนดูกลุ่มนี้ซาบซึ้งไปกับอรรถรถที่ผู้สร้างหนังนำมาเสนอได้ดีกว่า แต่สำหรับผู้มี่ไม่รู้อะไรเลยละคะ   เผลอตีตั๋วมาดูเข้าก็คงไม่แคล้วหลับคาโรงหนังแน่ๆ ถึงยังไงก็คงไม่เข้าใจหรอกเพราะไม่รู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวเหล่านั้นเลยสักกะนิ๊ดเดียว   สู้หนังประเภทปายอินเลิฟ  หรือล่าสุด  ก็  32  ธันวาก็ไม่ได้  ลูกเล็กเด็กแดงตีตั๋วดูกันเป็นที่หนุกหนาน     ไม่เห็นมีใครบ่นว่าดูไม่รู้เรื่อง ช่วงนี้ถือเป็นช่วงพักยกก็แล้วกันนะคะ   ต้องขอขอบคุณคุณแป๋ง ที่จุดประกายเรื่องรีวิวภาพยนต์กันตั้งแต่โพสต์ข้างบน   เท่าที่ทราบมา  อาจารย์สื่อและสาวกยังเตริก์ในที่นี้ ต่างก็เป็นนักดูหนังตัวยงด้วยกันทั้งนั้น     และก็เชื่อว่าแต่ละท่านต่างก็มีกรุสมบัติที่น่าหวงแหนด้ยกันทั้งนั้น   ถ้ามีโอกาสเจอตัวเมื่อไหร่    ต้องขอยืมซะให้เข็ด จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 20:50:38

ความคิดเห็นที่ 27 assembly นี่ นั่งมองแผ่นอยู่ตั้งนาน เพราะนึกไม่ออกว่ามันจะเล่นประเด็นอะไร เลยไม่ค่อยอยากเสียเวลาดู แต่พอตัดใจดูแล้ว ก็โอเคครับ  พอใช้ได้ในแง่มุมประวัติศาสตร์นิ๊ดนึง เพราะไปเล่นกับกองพันที่มีอยู่จริงหรือเปล่าก็ยังสงสัย แล้วโยงกับประวัติศาสตร์ภาพใหญ่ได้ยากนิดนึง ไม่ได้ดู พ.ศ.ที่สร้างนะ แต่เข้าใจว่าน่าจะเป็นหนังสงครามยุค Post บัญชีออมทรัพย์ส่วนตัวของนายไรอัน เพราะใช้มุกธีมของเรื่องแบบประมาณว่า วีรบุรุษนิรนาม ที่มีส่วนสำคัญในสงคราม แต่ถูกลืม แตรสัญญาณถูกนำมาเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ทางการรื้อฟื้นคดีของกองทหารที่หายสาบสูญไป ว่ากองร้อยนี้มีอยู่จริงหรือไม่ เพราะเหลือเพียงผู้บังคับการเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ แถมยังป้ำ ๆ เป๋อ ๆ จากผลกระทบของสงคราม แต่เมื่อมีการยืนยันว่า ทหารกองนี้สู้จนตัวตายคาสมรภูมิ เพราะไม่ได้ยินแตรสัญญาณถอย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ก็เป็นความผิดของผู้บังคับการที่ตัดสินใจนำหน่วยผิดพลาด เพราะตลอดเวลานั้น ลูกน้องพยายามเรียกร้องให้ถอยเพื่อรักษาชีวิตทหาร  แต่ ผบ.ไม่ยอมถอย เพราะไม่ได้ยินสัญญาณ  แต่เมื่อสอบสวนทวนความกันแล้ว ก็คือ ไม่เคยมีแตรสัญญาณที่ว่านั้นเลย ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดที่ทางการต้องรับผิดชอบ และทำให้เกียรติยศของทหารที่เกือบจะนิรนามได้รับการเชิดชูขึ้นมาอีกครั้ง ก็พอกล้อมแกล้มครับ ผสมผสานกันไประหว่างฉากบู๊กับดราม่า แต่ยังว่าแหละครับ การโปรปะกันดามาที่หลังอเมริกันเยอะ ก็เลยต้องอดทนสักนิด อาศัยลูกขยัน ผลิตซ้ำมันไปเรื่อย ๆ อีกหน่อยก็กลายเป็นประวัติศาสตร์สากลเองครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 08:21:10

ความคิดเห็นที่ 28 เพิ่งได้มาอ่านหลังจากเขียนทิ้งไว้เสียหลายวัน ตามที่อาจานสื่อว่านั้นล่ะครับ คือหนังกระจายอะไรต่อมิอะไรมากไปจนเป็นเบี้ยหัวแตก จะว่าอะไรก็ไม่เน้นสักเรื่อง มันก็เลยดูงงๆมึนส์ๆ แต่ประเด็นที่ผมอยากพูดถึงก็คือ ป่านนี้แล้ว ยังจะสร้างภาพให้ประธานเหมาผู้ยิ่งใหญ่กัน ก็อย่างที่อาจานสื่อว่าล่ะครับว่า พอเวลาเปลี่ยน ภาพที่ต้องการจะสร้างมันก็เปลี่ยน ตอนนี้ก็สร้างให้ตัวประธานเหมาอิงกับพวกพ่อค้านายทุนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ประธานเหมาหรอกครับ ลูกของจอมพลเจียงที่เซี่ยงไฮ้ก็เหมือนกัน คือดูแล้วรู้สึกว่า หนังมันแทรกต้องการจะบอกว่า พวกอั๊วเห็นความสำคัญของพ่อค้านายทุนมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะเฟ้ย ในหมู่แกนนำของพวกอั๊วๆน่ะ อีกด้านนึงก็คือหนังพยายามจะแสดงให้เห็นว่าจีนไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่น่ะ มันก็จีนเดียวกันจริงๆนะ ดังนั้นเพื่อเป็นการเอาใจชาวไต้หวัน หนังเรื่องนี้ถึงต้องให้ภาพของจอมพลเจียง เป็นผู้เป็นคนกว่าแต่ก่อนน่ะสิครับ ผมน่ะตั้งใจจะเข้าไปดูฉากสงคราม แบบที่ว่าเข้าตีเขากิ่งจังซาน (เรียกแบบนี้มั้ยหว่า) หรือบทที่แสดงถึงการเดินเป็นพันเป็นหมื่นลี้อะไรนั่น ไม่ได้อยากมาดูความสัมพันธ์ของเจียงกับเหมาเลย แต่ชอบบทของท่านนายกโจว เอิน ไหล มากๆ ผมรู้สึกว่าภาพของนายกโจว ถูกวาดไว้ดีแบบเงียบๆ คือ ไม่ได้สรรเสริญเยินยอกันแบบให้ฮึกเหิมเหมือนท่านเหมา แต่ถ้าคนที่ดู ที่ศึกษาอย่างรู้จักสังเกตุสังกา จะรู้สึกเลยว่า ท่านโจวนั้น เป็นคนดีที่ปิดทองหลังพระท่านเหมาอยู่ตลอดจริงๆ แต่อย่าลืมว่าคอมมิวนิสต์จีนยุคหลังซึ่งมาจากท่านเติ้งเสี่ยวหาร เอ๊ย ผิง แกก็เป็นลูกศิษย์ลูกหาท่านโจว เอิน ไหล ทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ที่ภาพของท่านโจว จะทำให้เรารู้สึกประทับใจและชมชอบแกอยู่เงียบๆ ผมไม่ได้จะบอกว่าเรื่องต่างๆของท่านโจว เป็นเรื่อง:-)ตลบแตลงเหมือนที่พวกเสื้อแดงชอบสร้างเรื่องบ้าๆบอๆแบบทุกวันนี้นะครับ เพียงแต่ว่า มาถึงยุคนี้ พ.ศ.นี้ การรับรู้ข่าวสารของเรา ต้องกลับไปคิดต่อ และเผื่อใจไว้บ้างว่า มันอาจจะไม่จริงเสียทั้งหมด รับข้อความแล้วเอามาเก็บไว้ แต่ไม่ใช่จะบอกว่าค้านมันดะ ขวางโลกเขาไปเสียทั้งหมด แต่รับรู้แล้วให้เก็บเอามาคิดกันต่อ ก็จะดีไม่น้อยครับ แต่ใจผมน่ะก็ชอบท่านโจวอยู่ไม่น้อยล่ะครับ เพียงแต่ไม่ได้เชื่อทั้งหมดเท่านั้นเอง เพราะความจริงเป็นอย่างไร เราไม่มีวันรู้ได้หรอกครับ เพราะนอกจากเจ้าตัวแล้ว คนอื่นจะไปรู้ได้ยังงัย สมัยนี้ขนาดกล้องวงจรปิดมันจับภาพได้ชัดๆ คนเรามันยังตลบแตลงแถไปได้เรื่อยๆเลย นานๆมาเขียนทีขอเขียนยาวๆหน่อยล่ะครับ :P ----------- ท่านหัวหน้าห้องครับ กราบขออภัยด้วยที่เพิ่งได้อ่านข้อความหลังไมค์ครับ เด๋วนี้ผมไม่ได้เข้าบล๊อกแก๊งและพันทิปเลย เลยไม่ได้อ่านข้อความต่างๆที่ใครๆส่งมา ก็ขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยครับ จะอวยพรปีใหม่ก็ผ่านมาแล้วหลายวัน เอาเป็นว่าสิ่งดีๆก็ขอให้เกิดแก่ท่านหัวหน้าห้องด้วยก็แล้วกันนะครับ ปล. ปายอินเลิฟกับ32ธันวา ผมไม่ได้ดูหรอกครับ แต่จากตัวอย่างหนังไทยสามเรื่องนี้ (มีเรื่องบังเอิญรัก...อะไรเนี่ยแหละชื่อราวๆนี้ อีกเรื่องนึง) มันทำให้ผมต้องลุกจากที่นั่งไปยืนหน้าโรง เพราะทนนั่งดูให้หนังตัวอย่างสามเรื่องนี้ต่อไปไม่ไหวล่ะครับ ขอไว้อาลัยแด่หนังไทย ที่คงมีปัญญาทำได้แต่หนังรัก(ไม่ประทับใจเลย) ตลก และหนังผี ไปลงนรกซะเถอะ จากคุณ : ฤาษีวยาส เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 21:19:37

ความคิดเห็นที่ 29 อะไรที่มันหนักๆ  ก็วางลงจากบ่าบ้างก็ดีนะคะคุณแป๋ง 32  ธันวา หอแต๋วแตก หรือห้าแพร่ง เป็นหนังที่เราเองก็ไม่เคยคิดจะตีตั๋วเข้าไปดูเหมือนกันค่ะ     ก็ด้วยความที่คิดว่าหนังแบบนี้มันไร้สาระสิ้นดี     อาจทำให้เราไม่ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น แต่สำหรับวัยที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ย่อมยังต้องการแสวงหารสชาติแห่งชีวิต ที่มีทั้งหวานขมอมเปรี้ยวคละเคล้ากันไปให้ได้ทุกรสชาดก่อนพวกเขาถึงจะแยกแยะออกว่า อันไหนที่ว่าหวานนั้น  มันหวานจริงๆ  หรือว่าอันไหนที่ว่าขมมันต้องทั้งขมและขื่น  เหมือนอย่างที่คุณแป๋งเคยผ่านมาแล้วงัย เอ  หรือว่าที่บ่นๆมาเนี่ย   เข้าข่ายวัยอาจารย์สื่อกันแล้วทั้งนั้น จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 23:26:22

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพยนต์ก็ยังคงทำหน้าที่ในการสะท้อนเจตนาหรืออุดมการร์ของผู้สร้างมันอยู่เหมือนเดิมครับ อานิสงฆ์ของหนังเรื่อง มังกรสร้างชาติ ที่แม้จะขาดในเรื่องของความมันส์ในการต่อสู้ แต่ก็ทำให้ได้เห็นทัศนะของผู้นำจีนยุคที่จีนกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก แทนประเทศแถวหน้าของค่ายทุนนิยมอย่างเยอรมันไปเรียบร้อยแล้วว่า กำลังจะหันเหประเทศไปทางใด ด้วยการอธิบายอีกด้านอีกมุมของประวัติศาสตร์ตัวเอง สิ่งที่เห็นได้ชัดในกุศโลบายที่ซ่อน (แบบไม่อยากซ่อน)ในหนังเรื่องนี้ก็คือการประสานใจกับนายทุน (ซึ่งจริง ๆ ก็ประสานกันจนจะเป็นเนื้อเดียวกันมาตั้งนานแล้ว) กะเปิดช่องต่อท่อสัมพันธ์กับไต้หวัน ด้วยมิติของประวัติศาสตร์ที่ถูกหันอีกด้านมาโชว์ แต่แน่นอนว่า จีนก็คือจีน เหมือนที่ที่ปรึกษาของ ปธน.สหรัฐฯบอกไว้ ว่า มีแต่ผู้อื่นไปเฝ้าฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไม่เคยต้องไปพบใคร ดังนั้น หากอยากสัมพันธ์กับจีน ปธน.สหรัฐฯต้องไปพบ ปธน.จีนก่อน อีกมุมที่น่าจับตา คือ การอธิบายภาพของสหรัฐฯในช่วงที่ยังสนับสนุน ปธน.เจียง แบบแหยง ๆ อยาก ๆ ในมุมการเมือง ก็น่าจะธิบายได้ไม่ยากกับสภาวะกลัวคอมมิวนิสต์จน "อุจาระขึ้นศีรษะ" ขนาดหนัก แต่ฉากที่ติดใจ และอยากให้ช่วยอธิบายหน่อย ก็ฉากที่มาดามเจียงเดินทางไปพบ ปธน.สหรัฐฯ (เอ๊ะ ที่บ้านขาวหรือคองเกรสแน่นะ ชักไม่แน่ใจ) แล้วนาวิกผิวสีแอบมอง แถมยังนินทาลับหลังอีกต่างหาก ถึงจะเป็นคำชื่นชมในความงามของมาดามเจียง แต่ก็ไม่น่าจะเป็นปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นกับทหารยามนาวิกที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสุดยอดวินัย ระดับได้รับเลือกให้เป็นการ์ด ปธน.จะทำแบบนั้น คนสร้างหนัง คงไม่หยอดมุกนี้ไว้แค่เพื่อเน้นความงามของมาดามเจียงเท่านั้นหรอกครับ ท่านอื่นว่าไงครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 07:55:00

ความคิดเห็นที่ 31 ก็ไม่ว่าไงหรอก...แต่อยากดูหนังเรื่องมังกรสร้างชาติมาก..จะไปหาได้ที่ไหนล่ัะ ในยูทูปมีป่ะ... คิดถึงทุกๆคนจ้า...แทบไม่มีเวลาว่างเลยเพราะว่าเหล่าผู้ช่วยชาวเม๊กซิกันเขาขอลาหยุดกันยาว..มิหนำซ้ำตอนนี้เศรษฐกิจอเมริกาทรุดหนัก อาการน่าเป็นห่วงมาก..ทุกคนเลยหวาดๆเสียวๆกันว่า..จะไปทำมาหารับทานอะไรกัน ถ้าปีนี้ยังไม่ดีขึ้นก็คงต้องประหยัดกันแบบสุดตัว  ตอนนี้ยังมีงานอยู่ก็ต้องรีบตักตวง วันก่อนไปทำการสะสางห้องเก็บของที่เช่าเอาไว้ (สองห้องแน่ะ) หนังสือทั้งนั้น (สาบาน) กะว่าจะโละๆอะไรที่มันไม่เป็นชิ้นเป็นอันทิ้งไปมั่ง..จะเก็บเอาไว้แต่ที่ทรงคุณค่า(สำหรับเราคนเดียวมัง)..ก็เลยต้องนำมาเล่ามาแชร์กับน้องๆหลานๆให้ได้ดูกัน.. นี่แค่ห้องแรก...เปิดขึ้นมา..แอ่นแอ้นนน... จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:08:03

ความคิดเห็นที่ 32 ไม้กอล์ฟอีกบานตะไท..นี่ว่าจะเอาไปปล่อยในอีเบย์มั่งนะเนี่ย.. แล้วก็มาสะสางเรื่องหนังสือ...เฮ้อ...ตูละเบื่อ..เสียดายไปหมด..จะหยิบเล่มไหนออกเพื่อที่จะเอาไปบริจาคก็เหมือนใจจะขาด..ก็เลยแค่เอามารวบรวมกลุ่มใหม่..ใส่กล่องใหม่.. ชุดนี้คือดวงใจ... จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:11:49

ความคิดเห็นที่ 33 ไหนจะ.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:13:01

ความคิดเห็นที่ 34 เฮ้อ.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:14:06

ความคิดเห็นที่ 35 โอ..มาย ก๊อดดด...(เวลาอ่าน..ใส่จริตหน่อยนะยะ) จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:15:45

ความคิดเห็นที่ 36 แล้วไหนจะ... จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:18:05

ความคิดเห็นที่ 37 อ้าว..นี่อีก.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:18:48

ความคิดเห็นที่ 38 ลูบๆคลำๆอยู่นั่นแล้ว... จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:20:54

ความคิดเห็นที่ 39 เอามาเรียงให้ให้แน่นกล่อง..จะได้ประหยัดเนื้อที่ไปหน่อย.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:22:20

ความคิดเห็นที่ 40 ชุดนี้..ประหนึ่งอัญมณีเชียวนะ..จำได้ว่ามีเกือบครบชุด ขาดไปเล่มหนึ่ง.. ยังตามล่าอยู่.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:24:41

ความคิดเห็นที่ 41 หนังสือซ้ำก็มีหลายเล่ม..เพราะเวลาซื้อแล้วหน้ามืด อย่าง Is Paris burning? นี่..กล่องโน้นก็มี.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:27:24

ความคิดเห็นที่ 42 ก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บต่อไป... จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:29:04

ความคิดเห็นที่ 43 สงสัยว่าตัวเอง... จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:30:17

ความคิดเห็นที่ 44 จะสติไม่ดี...เพราะ..ไม่ได้ลด ละ ทิ้ง..อะไรได้เลย..ใช้เวลาไปสี่ชั่วโมงหมายมั่นว่าจะเก็บๆอะไรที่ไม่ใช้ทิ้งไปมั่ง..หมายถึงหนังสือน่ะค่ะ.. แต่เปิดได้แค่สิบกล่องก็หมดแรง..ยังเหลืออีกมากมาย เพราะยังมีอีกห้องหนึ่ง.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:33:10

ความคิดเห็นที่ 45 วันนี้แค่พอหอมปากหอมคอ..เพราะหนังสือเหล่านี้จะถ่ายทอดมาเป็นตัวอักษรในเวลาไม่นานข้างหน้า..ในวันที่ไม่ต้องห่วงเรื่องการทำงานอีกแล้ว..หากแต่เป้าหมายของสถานที่ในยามเกษียณนั้นอาจจะย้ายไปเป็นที่ฝรั่งเศสค่ะ.. ขอบอกใบ้แค่นี้..ข่าวคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบภายในสิ้นปีนี้ค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:36:51

ความคิดเห็นที่ 46 แต่ที่แน่ๆ..คือของใช้ส่วนตัว..แบบรองเท้ากอล์ฟสิบกว่าคู่ใหม่ๆเลยเนี่ย..เอาไปแจกเพื่อนๆค่ะ.. เรื่องรองเท้านี้ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ..สมัยก่อนไปแข่งกอล์ฟทีไรก็มักจะได้บัตรของขวัญติดมือมา..ส่วนใหญ่จะเป็นในราคาที่เฉียๆดพอซื้อรองเท้าได้คู่หนึ่ง ทีนี้..มันแข่งหลายหน..หลายปีเข้า..รองเท้ากองพะเนิน.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:40:32

ความคิดเห็นที่ 47 ความจริงก็มาขอ morale support จากเพื่อนๆน่ะค่ะ..จะไ้ด้ช่วยกันยืนยันว่า ดิฉันไม่ได้เป็นพวกจิตไม่ปรกติ..เป็นแค่หนอนหนังสือธรรมดาคนหนึ่ง.. ยอมที่จะจ่ายเงินค่าเช่าห้องเก็บได้นานเป็นปีๆ..ถ้ารวมค่าเช่าแล้ว..เป็นจำนวนมหาศาลค่ะ แต่มาคิดอีกที..ไม่มีเงินจำนวนไหนเทียบกับสมบัติที่คุณค่าต่อจิตใจของเราได้ และในวันข้างหน้า..มันก็จะถูกยกให้เป็นสมบัติของสาธารณชน คือ ห้องสมุดที่ใดที่หนึ่ง..เพื่อจะได้เป็นประโยชน์แต่ชนรุ่นหลังต่อไป.. แหะ..แหะ...ความจริงก็ตั้งใจมาช่วยปั่นกระทู้ให้ด้วยแหละ.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:50:45

ความคิดเห็นที่ 48 ผมขอแนะนำในการแก้ปัญหาดังนี้ครับ ข้อที่ 1 พี่ออกไปห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านสักหนึ่งแห่ง ไปถึงก็ตรงไปแผนกคอสเมติกเลย ไม่ต้องแวะร้านหนังสือที่ไหนอีก ข้้อที่ 2 เมื่อไปถึงแล้ว ให้ซื้อหยวดปลอมมาหนึ่งอัน ถ้ามันมีแบบหนวดจิ๋มสำเร็จรูปเลยก็จบ ถ้าไม่มีซื้อแบบหนวดไม้กวาดที่น่าจะหาง่ายกว่า มาแทนก้ได้ เพราะถ้าไม่เข้ากะบุคลิก ก็ยังใช้ตะไกรตัดให้เหลือแค่ตรงกลางด้วย ข้อที่ 3 ขับรถกลับบ้านเลย ไม่ต้องแวะร้านหนังสือที่ไหนอีก ข้อที่ 4 เมื่อมาถึงบ้านแล้ว ลองไปค้นในเก๊ะลิ้นชักในโรงรถ หรือในครัว หาไฟแช๊ก 1 อัน น้ำมันซิปโป้ 1 ป๋อง ข้อ 5 ถ้าหาทั้ง 2 อย่างที่ว่าไม่ได้ ให้ย้อนกลับไปซุปเปอร์มาร์เก็ตนั่นอีกที แต่ถ้าเขินคนขายที่วัน ๆ ไม่ไปไหน เพียรแต่มาร้านนี้อยู่นั่นแหละ ก็เปลี่ยนร้านได้ แต่อย่าไปไกลนัก เดี๋ยวการแก้ปัญหาจะล่าช้าไปด้วย ข้อที่ 6 เมื่ออุปกรณ๊พร้อมแล้ว ให้กลับมาที่ห้องที่เก็บหนังสืออีกครั้ง ข้อที่ 7 ทำแบบที่ทำเมื่อเช้าอีกที ที่จัดไว้ ก็รื้อ ๆ ออกมาซะ จะกี่เล่มก็ได้ รือ้มากองรวมกันไว้ให้มากที่สุด ข้อที่ 9 เอาหนวดที่ลงทุนขับรถไปซื้อมา แปะไว้ที่เหนือปาก และใต้จมูก อย่าให้ผิดที่มากไปกว่าที่ระบุไว้ ข้อที่ 9 ให้ยกแขนขวาเฉียงไปข้างหน้านิดนึง ไม่ต้องกำมือ ให้ทำแบ ๆ เหยียดไปข้างหน้าแบบสุดแขน ข้อที่ 10 ให้ร้องคำว่า Hi Hitler ข้อที่ 11 ราดน้ำมันไฟแช๊กลงบนกองหนังสือที่รื้อเอามากองไว้ ข้อที่ 12 จุดไฟแช๊กจ่อไปที่น้ำมัน ดูให้แน่ใจว่าไฟลุกพรึบ ข้อที่ 13 กลับมายืนในท่าตรงและเหยียดแขนเหมือนเดิม อาจจะเปล่งคำขวัญออกมาบ้างเป็นระยะ ๆ ตามแต่จะนึกได้ รอจนไฟมอดหมดแล้ว ค่อยกลับบ้าน รับรองว่า จะแก้ปัญหาหนังสือรกบ้านได้อย่างถาวรครับพี่ ไม่หวังดีจริง ไม่แนะนำนะเนี่ย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:41:30

ความคิดเห็นที่ 49 ในห้องนักบิน เครื่อง เบลล์ 212 ครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:20:02

ความคิดเห็นที่ 50 อ้าว รูปหาย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:20:46

ความคิดเห็นที่ 51 หายอีกแล้ว จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:21:56

ความคิดเห็นที่ 52 เอ ทำไมแปะไม่ได้สักที สงสัยฝีมือตกอีกแล้ว จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:22:28

ความคิดเห็นที่ 53 เขาบอกว่าต้องเป็นไฟล์ jpg ผมก็ใช้ไฟล์นี้แล้วนี่ ทำไมไม่ได้ละ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:25:09

ความคิดเห็นที่ 54 มาทันคำแนะนำของอ. สื่อฯ ปล พี่วิอย่าไปเชื่อนะครับ เอาพวกนี้มาสรุปเป็นภาษาไทยให้พวกเราอ่านดีก่า ผมเอง ไม่ถนัดภาษาอังกฤษเลยอ่า จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:27:47

ความคิดเห็นที่ 55 'จารย์สื่อ แปะรูปไม่ได้ คงเป็นฤทธิ์เดช Hitler Virus แน่ ๆ ข่าวเล็ก ๆ ครับ ผู้หญิงคนที่เก็บไดอารี่ของแอนแฟรงค์ไว้ตายในวัย100ปี 12 มค. 2553 13:38 น. เว๊ปไซต์ของ มีเอี๊ยบ ไจส์ สตรีผู้ช่วยเก็บรักษาไดอารี่ของแอนน์ แฟรงค์ เด็กหญิงชาวยิววัย 14 ปี เอาไว้ หลังจากนาซีเยอรมนีบุกเข้าจับกุมตัวแอนน์ แฟรงค์กับครอบครัว จากที่ซ่อนในเนเธอร์แลนด์ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รายงานว่า ไจส์ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อคืนวันจันทร์จากอาการป่วยช่วงสั้นๆที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคอะไร เธอเสียชีวิตขณะมีอายุได้ 100 ปี และเป็นคนที่มีชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้ายในกลุ่มชาวเนเธอร์แลนด์ที่ได้ช่วยซ่อนครอบครัวชาวยิวเยอรมนีของแอนน์ แฟรงค์ เอาไว้ ในบ้านหลังหนึ่งที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ช่วงปี 2485-2487 แอนน์ แฟรงค์เขียนไดอารี่ไว้เป็นประจำ ก่อนที่พวกเขาจะถูกจับ และในที่สุดแอนน์เสียชีวิตในค่ายกักกันด้วยไข้รากสาดในวัย 15 ปี เนเดียวกับมารดาและพี่สาว มีเพียงออตโตผู้บิดาที่รอดชีวิตเพียงคนเดียว หลังสงครามโลก เขากลับไปเนเธอร์แลนด์ และต่อมาได้จัดพิมพ์ไดอารี่ของบุตรสาวซึ่งกลายเป็นหนังสือขายดี มีผู้อ่านทั่วโลก ไจส์เป็นลูกจ้างของออตโตผู้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ฮอลแลนด์ในปี 2480 เพียงไม่นานหลังฮิตเลอร์ขึ้นครองอำนาจ เธอกับลูกจ้างอีก 5 คน ช่วยซ่อนครอบครัวแฟรงค์ และเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากครอบครัวแฟรงค์สถูกทรยศและถูกนาซีจับตัวไป เมื่อ 4 สิงหาคม ปี 2487 ไจส์ได้คลานกลับลงไปในที่ซ่อนและนำเอาไดอารี่ของแอนมาเก็บไว้ เวลาต่อมา เธอได้เขียนคำนำในหนังสือของเธอเรื่อง" แอนน์ แฟรงค์ รีเมมเบอร์ด์" ว่า เธอไม่ใช่คนเศษและไม่ใช่วีรสตรี เพราะมีชาวดัทช์มากกว่า 20,000 คนที่ช่วยให้ที่ซ่อนตัวแก่ชาวยิวในช่วงนั้น เธอเพียงทำสิ่งที่ได้รับการร้องขอ และสิ่งที่มองว่าจำเป็นต้องทำในช่วงนั้น http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=426307&lang=T&cat= จากคุณ : Dearance (Dearance) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 17:06:58

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาสนับสนุนคุณกริชว่าให้พี่วิถ่ายทอดเป็นภาษาไทยครับ ทำแบบเก็บมาเล่าให้ฟังทำนองนี้น่ะครับ จะได้ไม่ต้อง serious มาก เห็นไม่กอลฟ์แล้วนึกถึงเพื่อนครับ ตอนนี้มันอยู่เมกาชอบเล่นกอลฟ์มาก พอมาเมืองไทยก็พยายามชวนผมให้เล่นกอลฟ์ ยิ่งตอนที่มันรู้ว่าผมไขมันสูง ความดันสูงนี่ยิ่งชวนหนัก มันบอกว่ากอลฟ์ไม่แพงหรอก ไป drive เล่นครั้งละ 300 บาทเอง เลยด่ามันไปว่าไอ้ 300 น่ะราคาถูกของเมิงแต่แพงของ g00 เฟ้ย ทุกวันนี้วิ่งอย่างเดียว (แต่มันก็ไม่สนุกเหมือนไปตีกอล์ฟหรอก) ว่าแล้วก็มารายงานความก้าวหน้าว่าตอนนี้ลดลงแล้วครับทั้งไขมันและความดัน รวมถึงน้ำหนักด้วย (ลงไป 6-7 โลได้) แต่ยังต้องกินยาอยู่อีกระยะนึง side effect ที่มีตอนนี้ก็คือกางเกงหลวมครับ บางตัวนี่ขนาดเอากำปั้นยัดเอวได้เลย ก็แหงละ เล่นซื้อกางเกงตอนกำลังอ้วนๆนี่นา ตอนนี้ตั้งเป้าว่าก่อนสงกรานต์คงได้ซื้อกางเกงยก lot ใหม่กลับไปใส่เอว 28 เหมือนเดิม แต่คงยาก จากคุณ : Ronachai (amscmu) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 22:55:36

ความคิดเห็นที่ 57 โถชีวิต เอวเกิน 28 ไปนิดหน่อย บ่นว่าอ้วน ทุกสรรพสิ่งล้วนอนิจจัง จริง ๆ เนอะ ปล.คุณพี่วิวันดา อย่าหลงหูเบาไปเชื่อคนอื่นครับ รับรองใช้วิธีของผมดีกว่า แก้ปัญหาได้ชัวร์ หมดทั้งภาระค่าเช่าในการเก็บ แล้วยังหมดภาระเรื่องการรื้อ ขน ย้าย จัด อ่าน แปล ฯลฯ สารพัด จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 07:54:03

ความคิดเห็นที่ 58 โห..คุณรณชัยลดได้ตั้งแยะ..เข้าชมรมสื่อศิลปได้แล้วค่ะ  เจ้านั้นเขาลดจนหุ่นดี ติดตรงที่พุงอีกนิดเดียว..ถ้าไปฟิตเนสซะหน่อยนะ รับรองว่าเคนก็เคนเถอะ อิอิอิอิอิ.. คำแนะนำของเธอน่ะ..ไม่ได้ผลหรอกย่ะ  ฉันยอมจน... ตอนนี้หนาวคอดๆ..ไม่อยากลุกไปไหนเลย แต่เดี๋ยวจะไปชิมไวน์แล้วจะเอามาเล่าให้ฟังนะ.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 09:07:39

ความคิดเห็นที่ 59 อ้าว มองไม่เห็นความหวังดีที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ของผม ซะแล้ว ขอลองแปะรูปอีกทีนะ ให้มันรู้ไปว่าทำไม่ได้ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:43:45

ความคิดเห็นที่ 60 ฮั่นแน่ ได้แล้ว เจ้าเหยี่ยวดำครับ  เอามาโชว์ให้เด็กดู   เมืองไทยมีอยู่ 6 ลำ ราคาลำละ 700 ล้านบาทครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:44:53

ความคิดเห็นที่ 61 ส่วนลำนี้ของเก่า รุ่นสงครามเวียดนาม แต่กองทัพไทยยังใช้กันเกลื่อน รุ่นนี้เรียก 212 ของ ทบ. ถ้าของ ทอ.จะใหม่กว่านี้นิดเป็นรุ่น 214 จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:47:12

ความคิดเห็นที่ 62 อาก้า 47 นะ  ดูจากปากกระบอกไม่มีดาบปลายปืน น่าจะไม่ใช่ของจีนนะ ของทหารพรานขณะปฎิบัติหน้าที่ครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:50:03

ความคิดเห็นที่ 63 ขณะปฎิบัติหน้าที่ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:54:55

ความคิดเห็นที่ 64 ห้องนักบินของเจ้าเหยี่ยวดำครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 10:58:12

ความคิดเห็นที่ 65 ลองอีกที จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:20:25

ความคิดเห็นที่ 66 อ้าว เลยจิ๋วเลย  เอาใหม่ เป็นรูปทหารพรานเฝ้า ฮ.เหยี่ยวดำ ดูหน้าตาแกเซ็ง ๆ นะ แต่อย่าไปล้อเล่นกะของที่อยู่ในมือแกเลย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:23:03

ความคิดเห็นที่ 67 ของพี่เขา เคน แต่ผมส่องกระจกที่ไร ก็เห็นแต่ คาน ครับ เรื่องไวน์ ตอนนี้ คนกิน คน ทำ คนขาย ในเมืองไทย กำลังรอลุ้นอาฟต้าอยู่ เพราะตามกฎมันจะศูนย์เปอร์เซนต์ เหล้า เขาใช้วิธีมาเปลี่ยนถ่ายลงขวดกันที่ฟิลิปปินส์ แล้วส่งเข้ามาขาย ส่วนไวน์ ออสเตรเลียรอถล่มอยู่ ไวน์ไทยคงต้องปรับตัวขนานใหญ่ กลายร่างเป็นบูติกไวน์แบบสุด ๆ ไม่งั้นได้ร่วงกันหมดแน่ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:26:55

ความคิดเห็นที่ 68 วันนี้เพิ่งกิน port wine หมดครับ เกือบสี่ปีเชียวขวดนี้ กว่าจะหมด เป็น Penfolds CLUB RESERVE aged tawny เห็นเค้าเขียนไว้ว่าได้ the best fortified wine of the year 2004 เชียวดีกรีเบาะ 18% กินแล้วร้อนวูบบวกหวาน สรุปสั้นๆว่าอร่อย เรื่องเอวน่ะ กางเกงตอนนี้เอว 32 ครับ แต่บางตัว 31 ตอนนี้ยังใส่ได้อยู่แต่ต้องมีเข็มขัดเท่านั้น ยังห่างจากเป้าหมายครับ จากคุณ : Ronachai (amscmu) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:23:59

ความคิดเห็นที่ 69 อาจารย์สื่อไปถ่ายรูปเหล่านี้มาจากวันเด็กแห่งชาติเหรอคะ เพราะเห็นว่าอยู่ดีๆไม่มีที่มาที่ไป  กำลังเพลินเลื่อนกระทู้ลงมาเรื่อยๆ ก็ป๊ะก๊ะเหยี่ยวดำลำหนึ่ง ซึ่งกำลังบินวนเล็งหาลานจอดกันให้วุ่นไปหมด   กว่าจะหาที่ทิ่มหัวลงได้ ก็เปลืองเนื้อที่ไปโพสต์อยู่เหมือนกัน     ล้อเล่นค่ะ  !!   อาจารย์สื่อยังคงฝีไม้ลายมือเฉียบเหมือนเดิมค่ะ คือแปะรูปไม่เป็นยังไง  ก็ยังคงไม่เป็นยังงั้น  อุ๊บส์ !!!!!! กรุสมบัติของพี่วิ  เป็นอะไรที่หนูจะขอสัมปทานไม่ได้ซะด้วยสิคะ  เพราะอ่านไม่ออกค่ะ   แต่ถ้าแปลเป็นไทยแล้ว  หนูว่าคงมีคนรอเข้าคิวจับฉลากกันเป็นแถวแน่นอนค่ะ     อย่างน้อย ก็คุณกริชคนหนึ่งล่ะ  ที่จะมาเข้าคิวแข่งกับหนู...  แม่นบ่ค๊า  ? สำหรับท่านสุภาพบุรุษที่บอกว่า จะใส่กางเกงเอว 28 นั้น  ช่างไม่เกรงใจสุภาพสตรีในนี้กันบ้างเลยนะคะ   ก็ดูอย่างสาวเอวบางร่างน้อยอย่างเราสิ  น้ำหนัก 53   ยังใส่เอว  29 เลย แล้วถ้าคุณผู้ชายพากันใส่กางเกงเอว 28   พวกเรามิต้องทรมานร่างกาย  ด้วยการต้องใส่ 26  ให้ได้หรอกเหรอ ลดเอวนี่มันทรมานพอๆกับลดพุงเลยนะคะคุณ ไหนๆก้ไหนๆแล้ว    เพราะคอนเซ็บของกระทู้นี้ก็คือใครใคร่เขียน ....เขียน  ใครใคร่เล่า ...เล่า  ใครใคร่ฟัง... ฟัง ใครใคร่อ่าน...อ่าน    จึงยังสรุปไม่ไดว่าเราจะคุยกันเรื่ออะไรดี ว่าแล้ว ก็ช่วยรีวิวเรื่องนี้ให้หน่อยได้ไหมคะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 09:54:56

ความคิดเห็นที่ 70 ยังไม่เคยดูครับ ใครดูแล้ว ช่วยว่าหน่อย เจ้าขวดที่กรอกเข้าไป เป็นพอร์ต ไวน์ ครับ เขาผสมเหล้าบรั่นดีลงไปด้วย เห็นเขาว่ากันว่า มันคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในเรือสมัยก่อน เดินทางไกล ๆ กลัวไวน์มันเสีย จริงไม่จริง ก็รอให้คุณพี่วิมาบรรยายรายละเอียดแล้วกัน จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 11:15:21

ความคิดเห็นที่ 71 เรื่องรูปอาวุธพวกนี้ ก็เอามาโพสต์ดูกันเล่น ๆ ยามว่างครับ เพราะตอนนี้ยังหาเรื่องยาว ๆ ลำบาก เลยแปะเล่นเพลิน ๆ ส่วนใหญ่มันจะเป็นรูปแบบในสถานการณ์ปฎิบัติหน้าที่จริงนะครับ อาจจะมีมุมมองทีต่างไปจากภาพนิ่ง ๆ ที่เสิร์จหานิดหน่อย ผมว่ามันมีชีวิตชีวาดี ได้เห็น จนท.ที่ปฎิบัติหน้าที่พร้อมกับอาวุธจริง ๆ เพลิน ๆ ครับ เพลิน ๆ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 11:17:47

ความคิดเห็นที่ 72 กรุสมบัติของพี่วิฯ อ่ะ คุณกาละลองพูดถูก ถ้าเป็นภาษาไทย ละก็จะไปเข้าคิวรอคิวแรกเลย แต่ภาษาอังกฤษก็ไม่สันทัดเลยยยย จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 12:47:01

ความคิดเห็นที่ 73 ภาพประกอบวิธีการของอาจารย์สื่อฯครับ จะได้เห็นภาพชัดขึ้น จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:22:02

ความคิดเห็นที่ 74 อาจารย์รณชัยครับ ถ้าอาจารย์เอว 29 จริงนี่ อาจารย์ 2 คนได้ผมคนนึงเลยนะครับ อีกรูป จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:23:26

ความคิดเห็นที่ 75 หรือฉากนี้ก็มีในหนัง Indiana Jones and the Last Crusade จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:36:51

ความคิดเห็นที่ 76 ก็มีมุกของเขา ที่อินดี้ได้มีโอกาสขอลายเซ็นต์ฮิตเลอร์ แต่หน้าฮิตเลอร์แกไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:45:10

ความคิดเห็นที่ 77 หน้าปกเป็นอย่างนี้ครับ ขายที่...รู้ๆกันอยู่ แผ่นละ 60 ครับ ขายเป็นเซ็ทพร้อมภาคอื่นก็แผ่นละ 60 บาทครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:02:31

ความคิดเห็นที่ 78 ท่านหัวหน้าห้องครับ อั้ยเรื่องโร้ดน่ะมันเข้าที่เครือเอสเอฟที่เดียว แถมเข้าเงียบๆ ไปเงียบๆ ผมก็อยากดู แต่พอไปถึง อ้าว มันฉายไปแล้วเหรอ ถ้ามันยังฉายอยู่ที่ไหนใครรู้ส่งข่าวทีนะครับ จากคุณ : ฤาษีวยาส เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 17:19:23

ความคิดเห็นที่ 79 น้องริวทำเป็นแนะนำดีไปเถอะนะ       เดี๋ยวให้ไปอยู่กับอาจารย์สื่อเลย พวกชอบความรุนแรง!!!! หนัง The Road  เข้าไปแล้วเหรอคะ  ทำไมมาเงียบๆจังเลย     เพิ่งจะได้อ่านรีวิวในหนังสือเมื่อวานนี้เอง    เห็นบางคนบางว่าเป็นภาคต่อของ 2010 วันสิ้นโลก   แต่ดูแล้วมันเป็นเรื่องของการดิ้นรนเพื่อเป็นผู้รอดอะไรแนวนั้นมากกว่า ไม่ได้ดูโรงใหญ่ก็ไม่เป็นไรค่ะ   หาแผ่นมาดูก็ได้    แต่ว่าใครพอมีเบาะแสบ้างหรือยังค่ะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 20:59:08

ความคิดเห็นที่ 80 ทุ่ง ฮ. ครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 08:56:38

ความคิดเห็นที่ 81 เป็นเหยี่ยวดำทั้ง 4 ลำที่ยังปฎิบัติภารกิจได้ ที่เหลือเป็นเบล 212 ของ ทบ.ตร.ส่วนของ ทอ.เป็นรุ่น 412 จากคุณ : สื่อศิลป เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 08:57:54

ความคิดเห็นที่ 82 อีกมุม จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 08:58:35

ความคิดเห็นที่ 83 เขี้ยวเล็บประจำตัวของ 212 จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 08:59:25

ความคิดเห็นที่ 84 แผลนี้มีตำนาน สังเกตุดี ๆ ที่แขนของท่านแม่ทัพภาค 4 ครับ มีเรื่องเล่ากับร่องรอยสงครามบนท่อนแขนชายชาติทหารครับ ท่านเล่าว่า เป็นที่ระลึกจากกระสุนปืนใหญ่ชนิดแตกอากาศ ขณะปฎิบัติหน้าที่แนวชายแดนเมื่อหลายสิบปีก่อน กว่าจะรักษาหาย ต้องผ่านเวลาทรมานแสนสาหัส สุดท้ายก็ยังทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้จดจำแบบนี้แหละครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:01:55

ความคิดเห็นที่ 85 ดูชัด ๆ อีกที จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:08:11

ความคิดเห็นที่ 86 ชุดปฎิบัติการพิเศษ คุ้มกัน VIP ของหน่วยพลร่ม จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:09:35

ความคิดเห็นที่ 87 เอารูปไม่เครียดบ้าง เสือพรานรุ่นนี้ ไม่รู้ว่าใช่ที่ เสธ.แดงจะพามาบุกกรุงหรือเปล่า ถ้าใช่ กะว่าจะไปรอรับด้วยคน จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:36:31

ความคิดเห็นที่ 88 'จารย์สื่อต้องไปรับจริง ๆ นะ  ม่ายงั้นล่ะก็.... จากคุณ : Dearance (Dearance) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:07:03

ความคิดเห็นที่ 89 เอ้อ พอดีพี่ติดประชุมนะ เจ้านายนัดประชุมตั้งกะหกโมงเช้าถึงตีสองเลย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 08:12:44

ความคิดเห็นที่ 90 ทีแบบนี้ไม่รู้จักชวนมานะ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 09:01:20

ความคิดเห็นที่ 91 กินปลากันดีกว่า เจ้าเก๋าตัวแดง ๆ ริมสุดนั่น กี่โลไม่รู้ แต่ว่ามีคนซื้อไปที่พันแปด ป่านนี้ถ้าไม่ไปเป็นข้าวต้มหัวปลา ก็เป็นลวกจิ้มไปแล้วละครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 09:03:54

ความคิดเห็นที่ 92 กระบอกนี้หรือเปล่า จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 09:22:29

ความคิดเห็นที่ 93 เผ็ด สวย ดุ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 12:48:34

ความคิดเห็นที่ 94 สวย แต่คงไม่ดุ ใครอยากรู้ คงต้องลงไปถามเองแหละครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 12:55:18

ความคิดเห็นที่ 95 รถตัดสัญญาณโทรศัพท์ กันระเบิดแบบรีโมต จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 12:57:56

ความคิดเห็นที่ 96 หน่วยเก็บกู้ระเบิด จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 13:00:13