|
ความคิดเห็นที่ 4 |
^ ^ ประการที่2 ของคุณนั่นแหละ ถึงมันจะละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ก็น่าเห็นใจที่นักแปลที่ฝีมือดีๆซึ่งสมัครแปลหนังโรงใหญ่ๆไม่ได้ ก็อยากมีงานทำเหมือนกัน
มีเพื่อนที่รู้เรื่องราวในวงการแปล บอกเราว่า rate ค่าแปลหนังโรงใหญ่ ตกเรื่องหนึ่งถึง 40,000 -50,000 บาท หรืออาจมากกว่านั้น และเท่าที่ทุกคนเห็นๆกันงานแบบนี้สงวนไว้ให้นักแปลเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นเองที่มี connections ระดับบิ๊กๆหรือคนที่มีสถานภาพทางสังคมสูงๆ มันไม่ได้กระจายออกไปให้นักแปลที่เป็นบุคคลธรรมดาเดินดินทั่วๆไป ซ้ำร้ายยิ่งว่านั้น นักแปลที่ได้งานแปลราคาแพงๆพวกนี้ หลายคนช่วงหลังๆก็ไม่ได้แปลเองอีกด้วย แต่ทำตัวเป็นยี่ปั๊ว คือรับงานแล้วเอาไปให้มือใหม่ๆทำ แล้วกินหัวคิวมือใหม่ๆตัวเองนอนสบายใจเฉิบรับเิงิน ซึ่งแนวคิดที่ว่านี้มาจากนักแปลฝีมือดีและเซียนภาพยนต์ที่ไปดูหนังโรงใหญ่ๆมาแล้วจับผิดได้ และสังเกตเห็นสำนวนการแปลว่าไม่ใช่พวกฝีมือรุ่นลายครามแปลอย่างแน่นอน
เราก็เลยอยากเอาใจช่วยขอให้ทีมงานฝีืมือคุณภาพแปลหนังขายผลงานพวกเขากันบนอินเตอร์เน็ตได้สำเร็จร่ำรวยโดยไม่โดนจับ และแปลให้ดีกว่านักแปลที่กำงานไว้ในมือตลอด นักดูหนังจะได้หันมาอุดหนุนนักแปลที่ด้อยโอกาสบ้าง แทนที่จะไปอุดหนุนนักแปลที่มีโอกาสมากกว่าเพราะมี connections ซึ่งผูกขาดงานเอาไว้ตลอด...
ตอนนี้เราก็ไม่อุดหนุนหนังโรงใหญ่ๆ แต่ชอบหาของฟรีมาดูเองบน computer นี่ถ้าต่อ projector กับฉายขึ้นจอใหญ่ๆ ใช้ระบบเครื่องเสียงดีๆนะ มันก็ไม่แพ้หนังโีรงใหญ่มากนักหรอก
พวกเราน่าจะช่วยๆกันชวนให้ทุกคนฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องทำแบบนี้เหมือนเรานะ และชวนๆให้คนที่ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องช่วยๆกันอุดหนุนหนังเถื่อนแปลโดยนักแปลคุณภาพดีแล้วมาดูบน computer แล้วต่อ projector ฉายขึ้นจอภาพ และใช้เครื่องเสียงดีๆ แบบที่เราคิดไว้นะ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มันจะราคาถูกลงเรื่อยๆ มันก็จะเป็นการดีที่เห็นนักแปลซึ่งมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ตกงานเสียบ้าง...เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี (อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ราคาถูกลงเรื่อยๆ จนซื้ออุปกรณ์เทียบเท่าโรงหนังใหญ่ๆได้ในราคาถูกๆ)
มันจะได้เข้าข่ายว่า
every dog has its day
ยังไงล่ะ
แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 12:40:09
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ม.ค. 53 12:25:45
|
|
|
|
|