ความคิดเห็นที่ 1   ภาษาอังกฤษร้ายสาระ 2.0 ของ มารพิณ เล่มละ ประมาณ 200 จำไม่ได้ สอนวิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ดีมากๆ ผมซื้อแล้ว ีอีกเล่ม รู้ทันสันดาน Tense ของ เฑียร ธรรมดา เล่มละ 250 บาท เอาเรื่อง Tense มาเล่าในรูปแบบง่ายๆ แบบนิทาน อ่านเพลินดีครับ ผมพึ่งเริ่มหัด ซื้อมา 2 เล่มนี้อะ ดีมากครับ เล่มเดียว ผมว่ามันน้อยไปนะ ภาษาอังกฤษมันไม่ได้แคบขนาดเล่มเดียวจบ แต่ถ้าจะให้เลือก เล่มเดียว ผมเลือก ภาษาอังกฤษร้ายสาระ2.0 จากคุณ : Guiman เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 21:15:55

ความคิดเห็นที่ 2 หนังสือดีๆ? ว้า ของผมไม่มีเล่มเด็ดๆชนิดเล่มเดียวจอดป้าย มีแต่เล่มสัพเพเหระยั้วเยี้ยไปหมด สงสัยจะได้มาซึ่งภาษาอังกฤษแบบผิดวิธี เป็นต้นว่าเล่มนี้และพรรคพวกของมัน เมื่อก่อนมีเป็นตั้ง ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน สงสัยถูกแม่ขายทอดตลาดกลายเป็นถุงกล้วยแขกไปหมดแล้ว จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:00:05

ความคิดเห็นที่ 3 เล่มข้างบนนั้นมันเด็กๆ ก็สนุกดีอยู่หรอก โตขึ้นมาหน่อยก็เลยคลั่งอ่านพวกนี้เท่าที่จะหาได้จากแผงมือสอง สนุกดีนา ได้รู้จัก Isaac Asimov, Rober Heinlein, Arthur C. Clarke ก็จากพวกนี้แหละ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:04:58

ความคิดเห็นที่ 4 โตขึ้นมาอีกหน่อยชักใจแตก อ่านแบบที่เขาพูดถึงในหนังสือเล่มนี้น่ะ ก็มันเป็นหนังสือผู้ใหญ่ง่ะ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:11:05

ความคิดเห็นที่ 5 เล่มนี้เป็นเล่มทีเด็ด มีคนเอามาให้อ่านตั้งแต่อายุสัก 13 ปีเห็นจะได้ ไม่รู้เรื่องหรอกว่ามันอะไร เขาเอามาให้อ่าน รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง จำได้ว่าอ่านได้สักครึ่งเรื่องก็โยนทิ้งเพราะมันไม่หนุก จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:20:02

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านๆไป เจอเล่มนี้ ตอนแรกนึกว่าหนังสือโป๊ เลยคว้ามาจากแผงมือสอง กลับถึงบ้านคว้ามาอ่านถึงรู้ว่าตูเสียท่าซะแล้ว กลายเป็นหนังสือที่โป๊แต่ไม่เปลือยและน่าอ่านที่สุดเล่มหนึ่ง เปิดโลกให้กว้างออกในบัดดล จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:27:20

ความคิดเห็นที่ 7 ผมอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าอยู่แล้ว เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ชอบ อ่านแล้วได้ความรู้และชวนคิด จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:35:47

ความคิดเห็นที่ 8 เล่มนี้อ่านมาตั้งแต่เริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษแตก หยิบมาอ่านตอนนี้ก็ยังอ่านได้ไม่รู้เบื่อ สมเป็นเรื่องคลาสสิคจริงๆ เรื่องการผจญภัยของคุณคางคก คุณหนูน้ำ และคุณตัวตุ่น อ่านแล้วอ่านอีก จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:40:18

ความคิดเห็นที่ 9 และนี่ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ชอบมาก จำได้ว่าอ่านตอนเด็กๆแล้วน้ำตาซึมเลย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:44:58

ความคิดเห็นที่ 10 เล่มนี้ก็สนุก เขียนด้วยสำนวนที่ชวนติดตาม ผมอ่านเล่มแปลก่อน แล้วจึงไปติดตามอ่านภาษาอังกฤษ เปิดโลกให้เห็นวิธีการแปล จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:57:47

ความคิดเห็นที่ 11 แน่นอนละ อ่านหนังสือมากๆ มันก็ต้องเจอทั้งดี ทั้งพอใช่ และที่ห่วย เอาละ เล่มต่อไปนี้ ถ้าคุณไม่ได้อ่านก็คงไม่ได้พลาดอะไรมาก จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 00:59:36

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนนี้คงมีหลายคนเหล่ๆว่า แล้วไอ้บอกเล่าเรื่องหนังสือหลายๆเล่มนี่จะสื่ออะไร? อวดว่าอ่านมาเยอะ? ก็ใช่ แต่ว่านั่นคงไม่ใช่ประเด็น ที่อยากสื่อก็คือ ตลอดระยะทางอันยาวนานของการอ่านนั้น เราสนุก ไม่เคยคิดหรอกว่าจะต้องเก่งภาษาอังกฤษ เราแค่ใช้มันเป็นกระไดปีนขึ้นไปหาเรื่องสนุกที่อยู่ในเพื่อนๆหนังสือทั้งหลายที่เราได้อ่านต่างหาก อ่านๆไป วันดีคืนดี พอต้องสอบ ถึงได้รู้ว่าตูได้คะแนนท๊อปไปแล้วโดยอัตโนมัติและไม่รู้เนื้อรู้ตัวและไม่คาดฝัน พอต้องมาทำงาน ก็กวาดๆเอาที่พอมีฝังในสมองอยู่บ้างมาใช้ให้พูดให้เขียนสื่อสารกับคนอื่นเขาได้ ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็พอจะเอาตัวรอดได้ระดับที่เขียนหนังสือให้คนที่วโลกอ่านได้ไม่อายเขา แล้วพอต้องแปล มันก็เอาสิ่งที่ซึมซับไว้นั่นแหละมาใช้ แปลกลับไปกลับมาได้ไม่ยากนัก ไม่ได้ขวนขวายขยันอะไรมากมายเป็นพิเศษ ไม่เคยท่องศัพท์ ไม่เคยเรียนพิเศษ แบบว่าที่อ่านตุนๆเอาไว้มันก็พอถมถืดสำหรับสื่อสาร จะเพิ่มเติมบ้างก็ตอนหัดฟังหัดพูดให้เข้าแก๊ปฟุดฟิดฟอไฟหน่อยแค่นั้นแหละ เพราะอ่านอย่างเดียวลิ้นมันแข็ง หูก็ไม่กระดิก ต้องฝึกอยู่บ้าง แต่ว่าการทำความเข้าใจกับเนื้อหานั้นที่ตุนไว้จากการอ่านน่ะเหลือเฟือ ใครอยากเอาอย่างมั่งก็ได้นะ สนุกกับอะไรก็ไปอ่านอย่างนั้นแหละ ไม่จำเป็นต้องสนุกแบบเดียวกับเรา จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 01:10:22

ความคิดเห็นที่ 13 แนะนำเล่มนี้ค่ะ ไม่ได้ล้อเล่นนะ จริงๆ เจอทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเขียน การออกเสียง การฟัง หาเจอหมดทุกอย่าง จากคุณ : yinnerella เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 06:00:22

ความคิดเห็นที่ 14   "ไม่เคยคิดหรอกว่าจะต้องเก่งภาษาอังกฤษ เราแค่ใช้มันเป็นกระไดปีนขึ้นไปหาเรื่องสนุกที่อยู่ในเพื่อนๆหนังสือทั้ง หลายที่เราได้อ่านต่างหาก" ผม ชอบ คำนี้ ของ ลุง แอ๊ด ปากเกร็ด อะครับ ผมอยากเก่งภาษาอังกฤษ ก็คล้ายๆ แบบนี้แหละ ประมาณว่า หนังสือไทยมันกว้างไม่พอ อยากจะเปิดโลกให้ัตัวเองอีก เลยมีแรงฮึด ขึ้นมาหน่อย จากคุณ : Guiman เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 21:54:02

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่ชอบ ขอขยายความว่า เหตุที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะว่าภาษาอังกฤษหรือภาษาไหนๆก็ตาม เป้าหมายในที่สุดก็คือการเกิดทักษะจนนำไปใช้งานจริง สามารถสื่อสารได้ การเรียนรู้ของคนเรามีสามด้าน ปัญญาพิสัย ทักษะพิสัย และเจตคติพิสัย การเรียนรู้เรื่องภาษาอังกฤษนั้นก็คงมุ่งเน้นองค์ประกอบด้านทักษะพิสัยเป็นหลัก อีกสองด้านเน้นน้อยกว่า การเกิดทักษะนั้นต้องฝึกฝน ทำมากสัมผัสมากฝึกมากก็จะคล่องแคล่วมากขึ้นเป็นเงาตามตัว จะให้มีทักษะแค่ไหนก็คงขึ้นกับความต้องการในการใช้งาน ต้องการแค่สนทนาประจำวัน สั่งอาหารได้ เซย์เฮลโลได้ก็ฝึกน้อยหน่อย ต้องการเขียนเอกสารการวิจัยมันก็ต้องฝึกเพิ่มเติมอีกมาก เป็นต้น ในเมื่อเป็นการฝึกทักษะ ก็สามารถลงมือปฏิบัติได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้ทฤษฎีอะไรมาก รู้เบื้องต้นไม่กี่อย่างก็ลุยได้เลย เหมือนนักมวย ไม่ต้องอ่านตำราแม่ไม้มวยไทยกันมาก เตะกระสอบ ชกลม ไม่มากนักก็ขึ้นเวทีเลย ประสบการณ์หาเอาข้างหน้า การเข้าทำ การหลบหลีก เกิดโดยการฝึกฝนจนเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ถามว่าทำไมจังหวะนี้จึงชิงถีบแล้วถอย ทำไมพุ่งเข้าไปฟันศอกวงใน จังหวะนี้ทำไมเตะก้านคอ ตอบไม่ได้ มันเกิดขึ้นเองเพราะฝึกจนชินมาอย่างนั้น ผมและอีกหลายๆคนเรียนรู้แบบนี้ ผลลัพธ์ก็นับว่าไม่เลวนัก ติดแน่นทนนานเอาเรื่องอยู่มาจนปัจจุบัน การอ่านตำรานั้นก็ดีอยู่หรอก ทำให้เข้าใจหลักการณ์และเหตุผล แต่อ่านเฉยๆไม่เก่งหรอก สุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการฝึกอย่างหนัก ดังนั้นแนวทางที่ผมใช้นั้นก็คือ รู้หลักเบื้องต้น + ฝึกอ่านเขียนฟังพูดจากของจริง + เปิดตำราเมื่อจำเป็น จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 05:52:26

ความคิดเห็นที่ 16 คำถามนี้คือ "อยากทราบเกี่ยวกับหนังสือเรียนภาษาอังกฤษดีๆด้วยตนเอง" ตอบง่ายๆสั้นๆคือ คนเก่งอังกฤษระดับเทพ ตอนเรียนทักษะระดับสูง ไม่มีใครใช้หนังสือที่คนไทยเขียนเรื่องเรียนภาษาอังกฤษที่มีอยู่เกลื่อนกลาดในท้องตลาด แต่จะ "ใช้ตำราที่ฝรั่งเจ้าของภาษาเขียนไว้เป็นภาษาอังกฤษ" วิธีเริ่มต้นก็ใช้ google ค้นบทเรียนฟรีจาก websites ต่างๆของต่างประเทศ พอค้นๆไป เรียนรู้ไป ก็จะเจอข้อมูลอ้างอิงถึงตำราเรียนเล่มอื่นๆที่ฝรั่งเจ้าของภาษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเขียนไว้ และเราก็ตามไปหามาอ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ บางทีจะเจอสื่อการสอนดีๆอย่างอื่นด้วยเช่น บทเรียนภาษาอังกฤษเป็น video clips เป็นต้น ในยุค Internet นี้เราเรีียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองโดยอาศัย google มาโดยตลอด ถ้าใครทำตามที่เราแนะนำไม่ได้เนื่องจากเหตุผลอันง่ายๆที่ว่า "อ่านภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานยังอ่านไม่รู้เรื่อง" ก็อาจต้องพึ่งตำราที่คนไทยเขียนไปพลางๆก่อน และอาจต้องพึ่งโรงเรียนสอนภาษาอยู่บ้าง ไปจนกว่าจะอ่านตำราเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆได้ หรือใช้สื่อการเรียนการสอนอย่างอื่นเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆได้ เช่น video clips สอนภาษาอังกฤษเป็นต้น จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 10:04:31

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากครับสำหรับทุกๆความเห็น ^^ จากคุณ : jewes38352 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 21:24:13

ความคิดเห็นที่ 18   เจ๋ง จากคุณ : Fight เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 17:18:33 A:125.26.55.127 X: