ความคิดเห็นที่ 1 ซุ้มประตุทรงมงกุฎ ถูกปรับเปลี่ยนในสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นงานประณีตศิลป์ที่รัชกาลที่ ๓ ทรงพอพระราชหฤทัยมาก มีในเขตพุทธาวาส ๑๖ ประตู จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:06:05

ความคิดเห็นที่ 2 คำถามที่ ๑. สัญลักษณ์นี้ หมายถึงอะไร ประดับอยู่เหนือกรอบประตูครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:07:18

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อมาขึ้นไปกราบพระพุทธเทวะปฏิมากร อันหมายึงพระพุทธรูปซึ่งเทวดาได้รังสรรค์ วิจิตรบรรจงสร้างขึ้น งดงามมากครับ ประดิษฐานพระอุโบสถ และที่ฐานชุกชีบรรจุพระบรมอัฐิและพระสรีรังคาร รัชกาลที่ ๑ อีกด้วย พระอุโบสถหลังนี้ ถูกปฏิสังขรณ์ให้ใหญ่โต จากหลังเดิมที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:11:54

ความคิดเห็นที่ 4 รอบพระอุโบสถเป็นกำแพงแก้ว มีสิ่งที่บางคนลืมไป นั่นคือ "หนังใหญ่ แกะสลักด้วยหินอ่อน" ซึ่งรังสรรค์ไว้ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เนื่องจากพระราชปรารภว่า "หนังใหญ่เป็นมหรสพของไทย และคลายความนิยมลง เพราะมีโขน ละคร เข้ามาแทน การเล่นหนังใหญ่ ต้องใช้ศิลปะชั้นสุงมาก เล่นหาได้ดียาก จึงเสื่อมโทรมลงไป" จึงโปรดให้แกะด้วยหิน ๑๕๒ ภาพมาประดับไว้ เมื่อก่อนมีการนำกระดาษสา มาลอกลายไว้ขายให้กับนักท่องเที่ยว ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นแล้ว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:15:30

ความคิดเห็นที่ 5 พระวิหารทิศตะวันออก (ทิศพระโลกนาถ) ที่มุขหน้าประดิษฐานพระพุทธมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย อัญเชิญมาจากวัดเขาอินทร์ เมืองสวรรคโลก ส่วนบริเวณมุขหลังประดิษฐานพระพุทธโลกนาถศาสดาจารย์ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้อัญเชิญมาจากวิหารพระโลกนาถ ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:16:32

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าหลายปีก่อน เขาเรียกว่า ถ่ายติดจตุคาม !! จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:17:08

ความคิดเห็นที่ 7 องค์ความรู้ ที่ให้ชาวสยาม เข้ามาศึกษาครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:18:19

ความคิดเห็นที่ 8 เดินเข้าไปกราบ พระมหาเจดีย์ ๔ รัชกาล จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:19:22

ความคิดเห็นที่ 9 พระมหาเจดีย์มุนีบัติบริขาร องค์พระเจดีย์ประจำล้นเกล้า รัชกาลที่ ๓ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:21:26

ความคิดเห็นที่ 10 เดินผ่านสวนมิสกวัน ถ่ายภาพวิหารพระนอน เอ๋..นั่นตัวอะไร ? จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:23:10

ความคิดเห็นที่ 11 คำถามที่ ๒ ศิลาทรายแดง นี้สลักเป็นตัวอะไร ? มีขายาวสองขา เหมือนค้างคาว มีปีกเล็ก ข้างลำตัว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:24:44

ความคิดเห็นที่ 12 ขออณุญาต ถามแทรกหน่อนะคับ พระอุดบสถนี่รุ่นเดียวกับพระมณเฑียรสถานรึป่าวคับ  ทำไมขนาดใหญ่โตกว่ากันมากจังเรย จากคุณ : เพชรน้อย เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:25:25

ความคิดเห็นที่ 13 อีกมุมหนึ่ง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:25:26

ความคิดเห็นที่ 14 ประดับบนเสา มุมสวนมิสกวัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:25:58

ความคิดเห็นที่ 15 เข้าไปกราบพระนอนในวิหารพระพุทธไสยาส จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:27:33

ความคิดเห็นที่ 16 ฝูงมหาชน มาก ล้นหลาม ทั้งไทย และเทศ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:28:02

ความคิดเห็นที่ 17 พระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ประการ ตรงกลางเป็นรูปจักรตามตำรามหาปุริสลักขณะ โดยลวดลายของมงคล 108 ประการนั้น เป็นการผสมผสานกันระหว่างคติความเชื่อที่รับมาจากชมพูทวีปและจีน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:28:43

ความคิดเห็นที่ 18 บริเวณกลางองค์พระ กำลังกราบนมัสการ ไปเห็นสิ่งนี้ครับ เลยเป็น คำถามที่ ๓ สิ่งนี้คืออะไร มีหน้าที่อะไร เป็นหินอ่อน ขัดมัน ขนาดใหญ่ ประดับกลางวิหาร ตรงกับกลางองค์พระ ล้อมรอบด้วยกรอบกระจก เดินลายเล้นแบบจีน มีนกยูวประดับสองข้าง หินอ่อนขัดมัน ทำหน้าที่อะไร? จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:30:48

ความคิดเห็นที่ 19 เธอ ยืนคอยผู้ใด มาเป็นเวลากว่า ๑๖๐ ปีแล้ว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:34:36

ความคิดเห็นที่ 20 มุมนี้ คนถ่ายภาพกันมาก เนื่องจากถ่ายติดทั้งองค์พระ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:42:41

ความคิดเห็นที่ 21 ฝากคำถามไว้ ๓ ข้อนะครับ ขอให้สวัสดีมีชัย ปีขาล จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:44:50

ความคิดเห็นที่ 22 รอฟัง ผู้รู้มาตอบ ข้อสงสัยของ พี่นนท์ครับ   สงสัยด้วยเหมือนกัน จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:48:16

ความคิดเห็นที่ 23 เอาตัวมะลึกกึ๊กกึ๋ยในคคห.10มาทำให้ชัดขึ้นน่ะครับ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 21:51:46

ความคิดเห็นที่ 24 นีในคคห.11 ใช่ตัวเวตาลหรือเปล่าหนอ อ้าวรูปไม่ขึ้น หรือผมลืมกดก็ไม่รู้ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 53 21:53:49 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 21:52:51

ความคิดเห็นที่ 25 เอาใหม่ครับ ขอประทานโทษ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 21:54:40

ความคิดเห็นที่ 26 มารอบฟังคำตอบด้วยครับ จากคุณ : ลิงลักเล็ก (noptee) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 23:24:13

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ทราบเลยทั้งสามข้อค่ะ แต่ข้อเดาข้อ 2 ว่าตัวการ์กอยละกัน 555 จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 23:29:37

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาเที่ยวด้วยคน ชอบมากเลยครับ ตามมาฝังคำตอบด้วย ขอบคุณมากครับ จากคุณ : nunumum เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 01:40:51

ความคิดเห็นที่ 29 มานั่งรอฟังคำตอบด้วยคนนะคะ จากคุณ : สการะวาตี เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 01:53:46

ความคิดเห็นที่ 30 2 ข้อแรกไม่เคยสงสัยเลยค่ะ จขกท.ช่างสังเกตมากเลย ส่วนคำถามที่ 3 แผ่นหินอ่อนนี้ ร.3 ตั้งใจจะเขียนจารึกเกี่ยวกับการสร้างวิหารพระนอน แต่เสด็จสวรรคตก่อนจะมีการสั่งว่าจะให้จารึกอะไร มันก็เลยยังว่างเปล่าอยู่แบบนี้ จากคุณ : fawnMM เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 09:18:07

ความคิดเห็นที่ 31 ข้อ 3 นี่เหมือนข้างบน ข้อ 2 นี่หะแรกดูเหมือนศิวลึงค์ทิ่มลงดินแล้วมีตัวหน้ากาล (เกีรยติมุข)อยู่ ข้างบน ดูไปดูมาหน้าที่ฐานไม่เห็นโยนี ก็เลยไม่รู้ว่าคืออะไร ข้อ 1 นี่เป็นยันต์ชนิดหนึ่งที่ที๋ซู้มประตูยอดมงกุฏนี่มีอยุ่เกือบทุกซุ้มรายรอบวัด แต่ละซุ้มก็มียันต์ชนิดต่างกัน ขนาบข้างด้วยกระเบื้องลายประดับเป็นรูปอาวุธต่างๆ นัยว่าใช้ในการป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆไม่ให้เข้ามาในวัด แบบเสี้ยวกางทวารบาลหน้าโบสถ์ก็เป็นได้ หรืออาจเป็นแบบ ห-อำ ยนต์ทางเหนือก็ได้ แบบซุ้มประตูหม้อน้ำมนต์ก่อนเข้าพระอุโบสถ ข้อ 2 นี่ไปมาก็หลายรอบแล้วไม่เคยสังเกตุเห็นสักที่ สงสัยต้องไปดูอีกรอบ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:32:17

ความคิดเห็นที่ 32 ขอเพิ่มเติมภาพพระประธานในโบสถ์เก่าครับ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:33:18

ความคิดเห็นที่ 33 องค์งามๆ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:34:17