ความคิดเห็นที่ 1 ประวัติศาสตร์ อ้างอิงมาจากเอกสารหลักฐานทางวิชาการจ้า ส่วนการนั่งทางใน ทรงเจ้า เข้าผี แล้วเอาเรื่องมาเล่า ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ จากคุณ : นู๋เองง่ะ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 12:26:55

ความคิดเห็นที่ 2 เอาตามหลักฐานทางวิชาการพระเจ้าตากก็โดนฆ่าน่ะแหละ และโดนรัฐประหาร ส่วนที่ได้ยินมาหลัง ๆ เป็นแค่การสร้างความเชื่อใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์ตามแต่จะต้องการ จากคุณ : ต้นกกสามกอ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 12:36:52

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องจริงๆก็คือ พระองค์ถูกปลดจากอำนาจโดยคณะปฏิวัติครับและถูกสำเร็จโทษตามธรรมเนียมทางการเมืองในยุคสมัยโน้น พระบรมศพและพระบรมอัฐิอยู่ที่วัดอินทาราม ริมคลองบางกอกใหญ่ ที่เหลือนอกจากนี้คือทฤษฏีสมคบคิดทั้งสิ้น จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 13:07:19

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับ สมมติฐาน (ผมไม่อยากใช้คำว่า ทฤษฏีเพราะยังไม่ได้มีการพิสูจน์อย่างจริงจังจนได้ข้อสรุป) เรื่องที่เจ้าของกระทู้ทราบมาหลัง ๆ นี้ จริง ๆ แล้ว น่าที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบให้ชัดเจนกันไปเลยจะดีกว่าครับ แต่ก็อย่างว่า มันเป็นอะไรที่บอกได้ยาก เพราะมันถูกโยงเข้ากับการเมือง และ แนวคิดทางการเมืองอย่างมากมาย จนน่าเสียดายที่ไม่มีการพิสูจน์กันอย่างชัดเจน (แต่เน้นตีความทางอักษรแทน ในแนวคิดผมมันไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด เพราะใครจะเขียนแบบไหนก็ได้ ) แนะนำเจ้าของกระทู้ลองไปดูที่วัดเขาขุนพนมครับ จะมีรอยพระพุทธบาทที่แปลกไปจากปกติ เพระปกติรอยพระพุทธบาทจะเน้นสร้างเรื่องของ "มงคล ๓๘ ประการ" ไว้ที่ฝ่าพระบาท แต่รอยพระพุทธบาทที่เขาขุนพนม จะจัดทำเป็นรูปที่แตกต่างออกไปครับ ซึ่งมีคนเคยตีความไว้แล้ว(คุณพี่คนใต้ใจดี : ท่านเคยเล่นในห้องนี้) นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจพอควร ลองตามหาหนังสือที่คุณพี่คนใต้ใจดี เขียนไว้ครับ น่าเสียดายว่า หนังสือโดนกระแสของมารดาคุณฉัตรสุมาลย์กลบเสียสนิท เลยทำให้ไม่มีใครสนใจ ทั้ง ๆ ที่ หลักฐานที่คุณพี่คนใต้ใจดีได้นำเสนอมานั้นเป็นไปในแนวทางศึกษาทางประวัติศาสตร์แบบวิทยาศาสตร์ครับ อีกอย่าง ที่ผมกำลังสนใจอยู่ก็คือ "เรื่องเงินกู้" ที่เป็นประเด็นมานานแล้วว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เพราะ พระราชพงศาวดารฉบับพิศดาร ร.ศ. ๑๒๐ ที่บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงจ่ายพระราชทรัพย์เพื่อซื้อข้าวสารถังละ ๓ บาทบ้าง ๕ บาทบ้าง ๗ บาทบ้าง (ค่าเงินเมื่อสมัย พ.ศ. ๒๓๑๐ หรือราว ๆ สองร้อยกว่าปีที่ผ่านมานะครับ ) ว่ามันจะเป็นเท่าไร และ เรือลำหนึ่ง ๆ ขนข้าวได้กี่กระสอบ ซึ่งประเด็นนี้ เคยมีคนแย้งว่า ก็พระองค์ได้ทรัพย์มาจากการไปขุดของเก่าที่ฝังไว้ หรืออาจจะไปเก็บกวาดจากบรรดาก๊กต่าง ๆ มา  ก็พอจะมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อได้บ้างเหมือนกัน ...แต่ผมยังไม่ปลงใจเชื่อสนิท เพราะเท่าที่ดูรายจ่าย กับ รายรับ แล้วเกรงว่าจะไม่สมดุลย์กันครับ .... (พยายามหาหลักฐานการค้าขายในช่วงนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็หายาก อย่างหนังสือของ สกินเนอร์ ก็ไม่มีระบุไว้มากมายเท่าไรนัก ) คงต้องรอเวลาค่อย ๆ เก็บข้อมูลแล้วเอามาวิเคราะห์ต่ออีกหลายระดับล่ะครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 16:54:30

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่งไปอ่านจากหนังสือในร้านนายอินทร์ พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ มาซึ่งจะมีของไทยกับจดหมายเหตุของพวกบาดหลวง อยู่ในเล่มเดียวกัน ก็จะเขียนประมาณ ว่าท่านกดขี่ราษฏร รีดไถเงิน เสียพระสติ จนพระยาสรรคบุรี ได้ก่อกบฎ แล้วพระเจ้าตากได้หนีไปผนวช ส่วนสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้รับข่าวว่า พระยาสรรคบุรีก่อกบฎก่อ ก็ให้พระยาสุริยอภัยลงมาก่อนแล้วท่านก็ยกทัพตามลงมา เมื่อพระยาสรรคบุรี รู้ว่าสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพลงมา ก็มาอ่อนน้อมแล้วก็ยกเมืองให้ท่านนั่ง (จดหมายเหตุของพวกบาดหลวง  ก็จะคล้าย ๆกันแบบนี้ค่ะต่างกันที่สำนวน) แต่ว่าตอนที่สำเร็จโทษท่านนั้นไม่มีใคร เขียนถึงรายละเอียดเลย เขียนแค่ว่าเอาไปสำเร็จโทษแค่นั้นเอง ***ขอแก้จากหมอบัดเลย์ เป็นบาดหลวงค่ะ*** แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 11:23:34 แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 11:22:45 แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 11:10:48 จากคุณ : greatpc_aob เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:20:17

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนลูกหลานของท่าน ก็ยังมีอยู่มิได้ โดนฆ่าตายหมดตั้งแต่ ขึ้นราชวงศ์ใหม่แต่อย่างใด  หาอ่านได้จาก การก่อการกฎบใน ร.2 ที่ถูกสำเร็จโทษไปในภายหลัง และก็พระพงศ์นรินทร์(ที่ติดอยู่ในวัดที่พระเจ้าตากหนีไปผนวช) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ โปรดฯให้รับราชการเป็นหมอหลวง ถ้า จขกท อย่ากทราบรายละเอียดแนะนำให้ไปอ่าน หนังสือราชินิกุลรัชกาลที่ 3 ที่สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุก เจ้าฟ้าฯกรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช ทรงพระนิพนธ์ไว้ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 13:45:52 แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 18:45:04 จากคุณ : greatpc_aob เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:39:45

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วน "หนีไปบวชในถ้ำที่นครศรีธรรมราช และสวรรค์คตที่นั่น" มีหนังสืออยู่แต่ว่ายังไม่ได้อ่านซะที เปิดผ่าน ๆก็จะมีหลักฐานต่าง ๆประกอบ คงต้องรอผู้อื่น ที่เคยอ่านแล้วมาบอกค่ะ จากคุณ : greatpc_aob เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:42:09

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าหนีไปบวช หรือหนีไปไหนก็แล้วแต่ แล้วทำไมต้องประหาร พระยาพิชัยดาบหัก กับบรรดาทหารคนสนิทของพระเจ้าตากกว่าสองร้อยคนด้วยครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:45:38

ความคิดเห็นที่ 9 แบบนี้ เห็นกะตาเหรอ ว่าเขาตายจริง .... จากคุณ : muk_22 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:03:13

ความคิดเห็นที่ 10 .....แหมหลังจากถามเรื่อง เซคิงาฮาระไปแล้ว รู้สึกว่าคล้ายกะของเราเหลือเกินเลยจริงๆ ฮี่ๆๆๆ จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 02:04:52

ความคิดเห็นที่ 11 จากความเห็น 5 หมอบรัลเลย์อยู่ในเมืองไทย 3 แผ่นดิน คือ รัชกาลที่ 3 -5 ดังนั้นข้อมูลที่เขียนมาจากคำบอกเล่าไม่ได้จากการพบเห็นด้วยตนเองน้ำหนักความน่าเชื่อถือจึงยังไม่มากพอ   โดยทั่วไปผู้ชนะมักเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์เสมอ เพราะฉะนั้นเวลาอ่านประวัติศาสตร์ต้องพยายามมองหลายมุมมอง  หรือถ้ามองย้อนอดีตไปหากตอนนั้นท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นฝ่ายชนะ ตอนนี้หน้าประวัติศาสตร์ไทยอาจยกย่องเป็นวีรสตรีมากกว่าหญิงชั่วอย่างในตอนนี้ การขึ้นครองราชย์ของ ร.1 เองก็ใช้คำว่า "ปราบดาภิเษก" ซึ่งความหมายโดยนัยก็พอบอกอะไรได้อยู่บ้าง ถ้ามีการปราณีกันคงไม่มีการฆ่ากันมากมายเกิดขึ้นในสมัยนั้น ดังคำที่ว่า "ตัดหวายอย่า่​ไว้​หนามหน่อ​ ​ฆ่าพ่ออย่า​ไว้​ลูก" สุดท้ายเจ้าฟ้าเหน็นก็ไม่รอดหลังจากสวรรคต ร.1 ไม่นาน แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 03:05:20 จากคุณ : ฮิเมโกะ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 03:03:07

ความคิดเห็นที่ 12 คห 11 คงหมายถึง เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต  พระองค์เจ้าชายอรนิภา พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณ ซึ้งทั้งสามเป็นพระราชโอรสธิดาในพระเจ้าตาก   วันอาทิตย์ เดือน 10 ขึ้น 1ค่ำ พ.ศ. 2352 (3 วันนับจากรัชกาลที่ 2 ครองราชย์) พระยาอนุชิตราชา จางวางพระตำรวจ ขอเข้าเฝ้าฯ ว่ามีผู้เห็นนกกาตัวหนึ่งบินมาเกาะต้นแจง แล้วทิ้งหนังสืออันกาคาบมานี้ใต้ต้นแจง   ในหนังสือนั้น มีข้อความฟ้องร้องกล่าวโทษว่า  เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต คุณหนูดำ เจ้าจอมมารดาสำลี พระชายาในสมเด็จพระอนุชาธิราช พระบัณฑูรน้อย  คบคิดกันกับข้าราชการอีกหลายคน เพื่อจักก่อการกบฏขึ้น รัชกาลที่ 2 ให้พระยาอนุชิตฯ จับตัว จ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต คุณหนูดำ เจ้าจอมมารดาสำลี มาให้ลูกขุนชำระความ ว่าจริงหรือไม่ วันอาทิตย์ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 10 พระยาอนุชิตฯเชิญเสด็จเจ้าฟ้าฯเสด็จลงจากพระเสลี่ยง คุมพระองค์เสด็จไปยังศาลาลูกขุนในพระบรมมหาราชวัง ได้ความว่า ตัวการยุยงคือ พระอินทรเดช (กระต่าย) ข้าราชการในกรมพระตำรวจ เจ้าพระยาพลเทพ (บุนนาค บ้านแม่ลา) พระยาอีกสองกองมอญสี่ ขุนนางอื่นอีกสอง รวม 9 คน เป็นแต่ผู้สมรู้ คือได้รับการชักชวนจากพระอินทรเดช แล้วจึงเลยเป็นผู้พลอยร่วมคิดไปด้วย ส่วนเจ้านายแผ่ินดินกรุงธนบุรีนั้นเพียงแต่ "สมรู้" และพลอยเห็นเชื่อไปตามพระอินทรเดช วันพุธขึ้น 5 ค่ำ เดือน 10 สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว (ร.2) โปรดให้ถอดสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต ออกนามว่า "หม่อมเหม็น" ตามธรรมเนียมโบราณราชประเพณี นำไปสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์ ณ วัดปทุมคงคา ทั้ง 3 พี่น้อง ส่วนคนโทษอื่น ให้ไปประหารชีวิตที่สำเหร่ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 12:16:23 จากคุณ : greatpc_aob เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 12:13:35

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นคุณ greatpc_aob เขียนมาเรื่อง กรมขุนฯ ก็เลยนึกถึง ผู้มีส่วนร่วมในการยุยงพระองค์ท่านรายหนึ่งคือ  " นายบุนนาค บ้านแม่ลา " เป็นที่เจ้าพระยาพลเทพในสมัย ร.๑ เพราะคน ๆ นี้ ก็เคยมีส่วนร่วมในการที่เขาเชื่อกันว่า "ก่อการเปลี่ยนแผ่นดิน" จากยุคกรุงธนบุรี มาสู่ยุครัตนโกสินทร์ อะไรเป็นสาเหตุให้นายบุนนาค ต้องหันมาก่อการทุรยศครั้งนี้หนอ ? ทำไมเสวยสุขมาตั้งหลายปีจนได้เป็นท่านเจ้าคุณแล้วค่อยมาคิดก่อกบฏยกเอาพระเจ้าหลานเธอกลับมาเป็นกษัตริย์ใหม่ล่ะนะ ? ทั้ง ๆ ที่ ร.๑ ก็ทรงพระราชทานยศฐาบรรดาศักดิ์ให้เป็นถึงที่ เจ้าพระยาพลเทพ ก็นับว่าใหญ่ไม่น้อยแล้ว ก็สมกับความดีที่นายบุนนาคช่วยเตรียมการตั้งแต่ครั้งกรุงธนบุรี (เอ... หรือว่า นายบุนนาค จะเลี้ยงไม่เชื่อง เหมือนพระยาสรรค์) ------------------------------------------------------------------ อีกอย่าง ทำไมมันไม่มี "กาคาบข่าว (หนังสือสนเท่ห์)" ไปทิ้งในสมัยกรุงธนบุรีบ้างหนอ ?  ทำไมกายุครัตนโกสินทร์มันเก่งจังเลย ไหนเลยจะมีอีกประเด็นที่บอกว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ ทรงพระสติวิปลาศ ขนาดสำคัญพระองค์ผิดว่าเป็นพระโสดาบัน พอพระสงฆ์ไม่ยอมรับ พระองค์ก็ทรงโบยพระสงฆ์เหล่านั้น ตามปกติ เท่าที่เคยเห็นคนสติวิปลาศมา มักจะคุมตัวเองไม่ค่อยจะอยู่ และค่อนข้างเป็นคนอารมณ์ร้ายสักนิด มักไม่ยอมอะไรง่าย ๆ แต่ไฉนถึงทรงตรัสกับ พระยาพิชัยฯ ว่าไม่ต้องไปรบกับกบฏฝ่ายพระยาสรรค์ ซะอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้เป็นรองแต่อย่างใด  มันค่อนข้างขัดกับกรณีที่ทรงโบยพระสงฆ์องค์เจ้าต่าง ๆ  อยู่เหมือนกัน(ในความคิดผม) ขนาด ฮิตเลอร์ตอนใกล้จะตาย ยังไม่ยอมแพ้ฝ่ายสัมพันธมิตรเลย น่าแปลก ๆ จริง ๆ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:43:47

ความคิดเห็นที่ 14 คุณฮิเมโกะคห.11  คำว่าปราบดาภิเษกไม่จำเป็นต้องมีความหมายว่าปราบทุกฝ่ายรึชิงบัลลังก์เท่านั้นนะครับ     แต่ใช้ในกรณีที่เปลี่ยนราชวงศ์ก็ได้    คือไม่ได้มาจากเชื้อสายของราชวงศ์เก่า     อย่างพระเจ้าตากสินเองก็เป็นปราบดาภิเษกเช่นกัน     แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 22:17:59 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 22:12:37

ความคิดเห็นที่ 15 คห 13 ขอแยกเป็น 2 ฝ่ายแล้วให้พิจารณากันเอาเองนะคะ 1. พระอินทรเดช (กระต่าย) ข้าราชการในกรมพระตำรวจ เจ้าพระยาพลเทพ (บุนนาค บ้านแม่ลา) พระยาอีกสองกองมอญสี่ ขุนนางอื่นอีกสอง รวม 9 คน ท่านเหล่านี้เป็น "ข้าหลวงเดิม" ในพระเจ้าแผ่นดิน 2 พระองค์คือ พระเจ้าตากสิน  และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ 2. เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต เป็นพระโอรส ของพระเจ้าตากสิน กับเจ้าจอมมารดาฉิม พระนามแรกประสูติคือ 'สมเด็จเจ้าฟ้าสุพันธวงศ์' เจ้าจอมมารดาฉิมท่านเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯและสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี เป็นเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กล่าวคือ เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต นั้นเป็นทั้งพระราชโอรสและพระราชนัดดากษัตริย์ถึง 2 พระองค์ จากคุณ : greatpc_aob เขียนเมื่อ : วันครูแห่งชาติ 53 10:59:06

ความคิดเห็นที่ 16 "กาคาบข่าว"===>สร้างเรื่องเท็จ ขจัดศัตรูทางการเมือง ใช้เวลา 5 วันพิจารณาคดีจากพยานบุคคล ไม่กี่ปาก เป็นธรรมดาเรื่องคล้ายๆกันนี้มาปรากฎอีกทีสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ในคราวกบฎ 18 ศพ เป็นธรรมดาของอำนาจ ดังนั้นเขาถึงบอกว่า ประชาธิปไตยอย่างเลว ก็ยังดีเสียกว่า เผด็จการอย่างดี จากคุณ : Medic CU22 เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 16:10:07

ความคิดเห็นที่ 17 /\ /\ ประชาธิปไตย ถ้าไม่มี "อปริหานิยธรรม ๗ ประการ" เผด็จการ ถ้าไม่มี "ทศพิธราชธรรม หรือ จักรวรรดิวัตร" จะประชาธิปไตย หรือ จะเผด็จการ ถ้าไม่มี  "ธรรมะ" มาควบคุมก็ห่วยพอ ๆ กันครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:13:05