|
อยากทราบประวัติความเป็นมาโดยละเอียดของ ลู่ปัง สุดยอดช่างฝีมือในยุคชุนชิวจ้านกว๋อ ขอรับ
|
|
เผอิญไปอ่านเรื่อง เดชขนนกยูง แล้วได้เจอคำกล่าวของ กิมไคกะ-ตั้วลุ้ยซิ้ง (เทพอัสนีบาต) จากบรรทัดข้างล่างขอรับ
กิมไคกะเริ่มฝ่าฟืนอีกแล้ว ชิวหงส์อู้ยืนสงบมองอยู่ด้านข่าง รู้สึกท่วงท่าการฝ่าฟืนของท่าน บอกมิถูกว่าเจนจัดสวยงามปานใด "แก่นแท้ของวิชาบู๊คือกระไร?" "มีเพียงสี่คำ...จวงซิม (ปักใจ) โค่วเลี่ยง (มานะ)" ความจริงสี่คำนี้คล้ายดั่งครอบคลุมทุกเรื่องราวในโลกไว้เช่นกัน มิว่าท่านคิดจะทำกระไร หากต้องการโดดเด่นเหนือผู้อื่น ก็ต้องปักใจเด็ดเดี่ยวมานะฝึกปรือ "ท่านทราบหรือไม่ ตั้งแต่โบราณจวบปัจจุบัน ผู้ใดเป็นยอดฝีมือทางใช้ขวาน?" "มิทราบ" "ลู่ปัง" "ลู่ปังเป็นเพียงช่างที่มีฝีมือสูงส่งเท่านั้น" "แต่ท่านใช้ขวานอยู่ทุกวัน กับธาตุแท้และประสิทธิภาพของขวาน ไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้เจนจัดกว่าท่าน ขวานได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของท่าน ท่านใช้ขวานแคล่วคล่องดุจดั่งใช้นิ้วมือตัวเอง" ชำนาญ ก็สามารถพลิกแพลงได้แคล่วคล่องเจนจัด นี่ไยมิใช่เป็นแก่นแท้ของหลักวิชาบู๊เช่นกัน? ชิืวหงส์อู้ถอนใจยาว รู้สึกวาจาที่กิมไคกะกล่าวมา กระทั่งยังมีคุณค่าเหนือกว่าคัมภีร์วิชาบู๊เสียอีก
คัดลอกจาก "เดชขนนกยูง", โกวเล้ง เขียน, ว. ณ เมืองลุง แปล, สำนักพิืมพ์สร้างสรรค์ ปี พ.ศ. 2534
จากคุณ |
:
กระบี่เก้าเดียวดาย
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ม.ค. 53 15:09:12
|
|
|
| |