ความคิดเห็นที่ 14 |
รายละเอียดการขุดค้นกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะมีอย่างไร และมีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลเพียงใด ไม่มีใครจะเล่าได้ดีเท่ากับเจ้าตัวคนร้ายผู้ลงมือทำการเอง ดังนั้นขอให้ฟังจากบันทึกสอบสวนปากคำให้การของคนร้ายที่ตำรวจได้บันทึกไว้ดังนี้
" ... ผมได้ทำการขุดตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2500 ได้คิดกับพวก 20 คน ว่าเราไปขุดกันวันที่ 25 เถิด เพราะวันนั้นไม่มีคนพลุกพล่าน พอเวลาเย็นที่ 25 ผมกับพวก 20 คน พร้อมกันเริ่มทำงานในเวลาทุ่มเศษ ได้เอาเหล็กปลายแหลมเหมือนเหล็กขุดชาฟท์ 3 อัน พร้อมกับเชือนมนิลาหนึ่งเส้นยาว 4 วา แล้วค้อน 8 ปอนด์หนึ่งอัน ได้ทำการขุดที่กรมศิลปากรได้กลบเอาไว้ ได้ขุดศิลาขึ้นมาลึกลงไปประมาณ 1 วาเศษ
ได้เห็นศิลาทำเป็นวงกลมไว้ในระยะใจกลางตัวพระปรางค์ ได้เห็นปล่องทำด้วยเนื้อโลหะเป็นวงกลมขนาดเท่าลำไม้ไผ่อย่างใหญ่ ตอนกลางต้องขุดลงตามปล่องลงไปประมาณ 3 เมตรเศษ ก็สุดปล่อง ได้พบปูนเพชรทำอย่างชนิดแข็งมากทำเป็นวงกลมมีรูตรงกลาง แล้วปล่องอยู่ในรูนั้นได้ถอดเอาปล่องนั้นออก แล้วจึงได้เปิดเอาปูนเพชรนั้นออก
ได้พบซุ้มลวงเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตอนมุมสี่เหลี่ยมมีรูทางทิศตะวันออก รูกว้างในยาว 4 นิ้วเศษ เป็นแผ่นหินอ่อนปิดอยู่ กว้างเท่ากับตัวกรุหนาในราว 2 คืบ ผมได้เอาค้อน 8 ปอนด์ตีลงไป ได้ทำการตีอยู่เป็นเวลา 3 ชั่วโมงเศษ จึงได้ทะลุลงไป ผมใช้ไฟฉาย ๆ ลงไปดูในกรุนั้น เห็นเป็นเครื่องทอง พอทะลุลงไปเป็นรูปกรุสี่เปลี่ยมทำด้วยศิลาเอาปูนทาไว้แล้วเขียนเป็นภาพน้ำมัน
พอลงไปข้างล่างผมจึงใช้ให้เพื่อนของผมอีกคนหนึ่งลงไปข้างล่าง ที่ข้างล่างนั้นมีโต๊ะสำริด 3 ตัว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกตัวหนึ่ง ทางทิศเหนือตัวหนึ่ง ทางทิศใต้ตัวหนึ่ง ตอนกลางของตัวกรุนั้นทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้างในราว 1 วาเศษ ข้างบนแท่นศิลาตรงกลางกรุนั้น มีถาดทองคำ 3 ใบ ข้างบนถาดนั้นมีกระโถนทองคำ 4 ใบ วางอยู่บนถาดนั้น มีไข่มุกเจาะเป็นรูอยู่เต็มกระโถนทั้ง 4 ลูกนั้น ยังมีตลับทองคำอีกหลายใบวางอยู่ข้างแท่นสี่เหลี่ยมนั้น เป็นร่องสี่เหลี่ยมเหมือนกัน มีแหวนประมาณ 2000 กว่าวง เพราะในนั้นกว้างมาก ข้างบนของแท่นนั้นมีโต๊ะสำริด 3 ตัว บนโต๊ะนั้นทางทิศเหนือมีพระแสงทองคำปักไว้ข้างขอบโต๊ะนั้นทางเหนือ บนโต๊ะทองเหนือมีเสื้อทองคำอยู่ 8 ตัว และมหามงกุฎอีกอันหนึ่ง กว้างประมาณ 1 ศอก สูง 2 ศอกเศษ บนยอดของมหามงกุฏมีหัวมุกดาหาร 1 หัว ขนาดเท่าไข่ห่าน
มีจอกทองคำหลายลูก เป็นทองคำประดับด้วยทับทิม และมงกุฏพระราชินี 3 อัน วางไว้บนโต๊ะนั้น ตลับทองคำ 12 ใบ ฝาตลับมีหัวทับทิมหัวใหญ่เท่าเม็ดข้าวโพดทุกใบ บนโต๊ะทางทิศตะวันออกมีมหามงกุฏราชินี 5 อัน วางไว้ข้างบนโต๊ะนั้น และตลับทองคำประดับหัวทับทิม 20 ใบ จอกหลายใบ เสื้อทองคำของพระมหากษัตริย์ 3 ตัว เรือหงษ์ 1 ลำ เป็นทองคำ คนพายเรือทองคำ และพระพุทธรูปทองคำ 20 องค์ กระบวยทองคำ 8 อัน โหล 4 ใบ ทำด้วยหินสีขาว พร้อมม่านทองคำขึงท้องพระโรงก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง โต๊ะทางทิศใต้ ข้างบนโต๊ะมีพระพุทธรูปทองคำ 25 องค์ ตลับทองคำ 13 ตลับ ฝาตลับประดับด้วยทับทิมสีแดง พระแก้วยืนสีน้ำผึ้ง 7 องค์ พระแก้วนั่งสีขาว 5 องค์ พระมหามงกุฏราชินี 8 อัน พระแก้วมรกต 4 องค์
ทางด้านทิศตะวันตกมีผ้าพับไว้อย่างดีมากมาย เมื่อไปถูกเข้าก็ป่นเป็นผงไปหมด แล้วมีพระทองคำ 3 องค์ หน้าตักกว้าง 1 ศอก ตันด้วย หนักในราวประมาณ 4 กิโลกรัม พระนาคนั่ง 12 องค์ หน้าตักกว้าง 1 คืบเศษ พระพุทธรูปทำด้วยทอง นาก เงิน 8 องค์ พระปั๊มทองและเงิน 2 กระสอบ พระแก้วยืน 16 องค์สีขาว มีพระราชรถหนึ่งคัน มีม้าเทียบคู่หนึ่ง ทำด้วยทองคำ มีขวด 6 ลูก ทำด้วยหินสีขาว มีแหวนในนั้นเต็มขวด และเศษทองคำอีกมากมายประมาณ 10 กระสอบ พอเห็นของพวกนี้แล้วพวกเราพูดกันว่า พวกเรารวยกันแล้ว ตั้งแต่เริ่มทำงานมาได้ใช้เทียบไขจุดส่องดูในกรุนั้น เพราะเทียนไขแสงสว่างดีกว่าอย่างอื่น ได้ลำเลียงส่งของอยู่เป็นเวลา 4 ชั่วโมงเศษ ได้เริ่มขุดเป็นเวลา 2 คืนครึ่ง ขนของขึ้นยังไม่ทันหมดดี เพราะพวกข้างนอกเอาของที่ลำเลียงไปไว้ที่บ้านหมด เหลือคนอยู่ในกรุ 2 คน
ผมเห็นว่าไม่ค่อยดีจึงให้คนทั้ง 2 ขึ้นกันหมด เพราะขณะนั้นฝนตกมาก หนทางที่ขึ้นนั้นรอบต้นไม้ยังเห็นเป็นรอยเท้ามากมาย ขณะที่คนทั้ง 2 ยังขึ้นของไม่หมด เพราะแหวนยังอยู่อีกมาก หัวทับทิม เศษทอง และรูปช้างม้าทองคำยังอยู่อีกมากมาย หัวทับทิมก็ยังอยู่อีกมากมาย คนทั้งสองเห็นว่าจะเสียท่าพวกข้างบน จึงได้รีบขึ้นมาจากกรุตรงไปที่บ้านคนที่อยู่ทางข้างเจดีย์เจ้าอ้าย เจ้ายี่ ของทั้งหมดนี้ได้แบ่งกันคนละ 2 กิโลครึ่ง พวกที่ไปขุดด้วยมีด้วยกัน 20 คน เช่นมีพี่น้องก็ไปบอกให้มาเอาส่วนแบ่ง กลายเป็นคนได้รับส่วนแบ่งรวม 30 กว่าคน ถึงกับจะฆ่าจะแกงกัน พอของมาถึงบ้านแล้วได้จดรายชื่อไว้ แล้วเอากิโลมาชั่งแบ่งของกัน จำพวกมหามงกุฎหรือของใหญ่ ๆ ไม่ได้แบ่งกัน
ของที่เหลือเช่น พระแสง ราชรถ เรือหงส์ ของอย่างอื่นอีกหลายอย่างที่กองเอาไว้เพราะของที่แบ่งกันนั้นได้ไปหมดทุกคนแล้ว มีคนอีกคนหนึ่งได้ยืนขึ้นแล้วบอกว่าจะเอาอย่างไรก็เอากันเถอะ พวกทั้ง 30 กว่าคนได้ชักมีดชักปืน ต่อจากนั้นมาก็เลยแย่งกันจนล้มไปทับเอาเด็กเล็ก ๆ ที่อยู่ในบ้านนั้นร้องขึ้น พอได้รับส่วนแบ่งแล้ว เอาห่อผ้าขาวม้าคนละ 2 ห่อ พอมาตามทางก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมไว้ได้บ้าง และหนีหลุดรอดไปได้บ้าง พอรุ่งเช้าวันที่ 28 ตำรวจก็ได้จับกุมหัวหน้าคุมขุดกรุวัดราชบูรณะ ซึ่งพอได้มหามงกุฏมาถึงบ้านแล้วก็เอามาสวมใส่แล้วถือพระแสงดาบออกมารำเล่นพร้อมกับลูกชายแถว ๆ ตลาดหัวรอ
ตำรวจไล่จับข้าวของตกเรี่ยราดตามถนน พวกชาวบ้านเก็บได้กันก็มากมาย บางคนถึงกับไปขายแล้วปลูกบ้านได้อย่างใหญ่โตก็มี บางคนแทบจะเป็นบ้าเป็นหลังไปเพราะความเสียดาบของที่ได้มาแล้วไปฝากพี่น้องไว้ เขายักยอกเอาไปจนเกือบหมด ที่มาเป็นของกลางนั้นนิดหน่อย .... "
ข้อมูลจาก หนังสือ เครื่องทองสมัยอยุธยา กรมศิลปากร 2548
จากคุณ |
:
ethanoic
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ม.ค. 53 01:50:24
|
|
|
|