ความคิดเห็นที่ 1 Sorry, nobody can teach you to speak fluently overnight!   Based on these facts แต่นี่เค้าให้เป็น Eng Speaking นี่ จขกท ยอมรับเลยว่า แย่มาก สำเนียงแบบแย่มาก พูดตามความคิด ความรู้สึกไม่ได้ อะไรๆ ก็ต้องหยุดคิด และเรียบเรียง ประโยค Grammar นี่อย่าได้พูดถึง คลังศัพท์อีก, I can only suggest that you withdraw from the debate that requires advanced verbal communication skills, unless a beautiful celestial angel waves her magic wand to generate the aerodynamic-supersonic power of speech within you so much that it enables you to go around with awe-inspiring charisma to deliver a rousing harangue and charm your listeners into oblivion, revel and ecstatic delight. จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 23:37:11

ความคิดเห็นที่ 2 แนะนำให้เจ้าของกระทู้เขียนเป็น essay ที่ใช้ประโยคสั้นๆแต่ถูก grammar และให้กระทู้มีสาระและน่าสนใจ เมื่อเขียนเสร็จแล้วไปที่เว็บนี้ http://dictionary.reference.com/ พิมพ์แต่ละคำที่เขียน แล้วคลิกรูปลำโพงที่ท้ายคำ จะมีฝรั่งออกเสียงคำนั้น ฝึกออกเสียงตามฝรั่ง แล้วจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 04:05:33

ความคิดเห็นที่ 3 น่าจะลองเขียนสคริปแล้วให้อาจารย์ช่วยดูนะครับ ผมคิดว่าอย่าเพิ่งถอนตัวเลยคับ ไหนๆเรียนเอกทางภาษาแล้วน่าจะลองดู แล้วเวทีมันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ผิดพลาดนิดหน่อยคงไม่มีใครว่าอะไรหรอก สู้ๆนะครับ จะได้มีความกล้าในการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : Mr.high (Mr_high) เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 06:14:10

ความคิดเห็นที่ 4 นี่คือโอกาสทองที่จะได้ฝึกฝน กระโจนเข้าใส่เลย ที่คุณ fortuneteller บอกว่า nobody can teach you to speak fluently overnight นั่นก็ถูกครับ มันเป็น fact แต่ จขกท ไม่ต้องอายครับ แพ้ก็ช่างมัน ได้ที่โหล่ก็ช่างมัน เข้าแข่งมันทุกเวทีเลย สักวันหนึ่ง เจ้าคนที่เคยหัวเราะเยาะคุณนั่นแหละ จะแพ้คุณหลุดลุ่ย จากประสบการณ์ของผม เข้าแข่ง speech contest ครั้งแรก ขาสั่นเลย เพราะตอนนั้นผมก็ยังใหม่มากแบบคุณนี่แหละ ภาษาก็ยังอ่อนเพราะเพิ่งเริ่มฝึก อาจจะอ่อนกว่าคุณอีกเพราะผมไม่ได้มาทางเอกอังกฤษแบบคุณ แต่ผมไม่สน ลุยลูกเดียวเลย มีจัด speech contest เมื่อไหร่ ผมกระโจนเข้าใส่ทุกที แพ้ชนะช่างหัวมัน เมื่อเข้าทำงานจนปัจจุบันเกษียณแล้ว ผม present เป็นภาษาอังกฤษมาเป็นร้อยครั้งแล้ว เข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติได้อย่างไม่ติดขัด เจรจาธุรกิจกับชาติไหนก็ได้ในโลกได้อย่างสบาย ของแบบนี้มันต้องสั่งสมครับ เป้าหมายที่แท้จริงคือวันข้างหน้า ตอนนี้ ลุยยยยยย ลูกเดียวเลย จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 08:08:57

ความคิดเห็นที่ 5 คุณหมอดูแกก็พูดถูก แต่มองในอีกแง่หนึ่ง คุณคงไม่ใช่คนแรกหรอกที่ขึ้นไปแล้วคนฟังส่ายหัวว่ามันพูดอะไรฟะ   ตูฟังไม่รู้เรื่อง 5 - 7 นาทีไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ   สมัยผมเข้าคอร์สภาษาแบบรับประทานด่วน   กิจกรรมที่เราโดนบังคับให้ทำกันทุกเช้าคือ เดินไปหยิบหนังสือพิมพ์อ่านข่าวหนึ่งหัวข้อแล้วเดินออกไปพูดหน้าชั้น 5 - 7 นาที   สดทันทีไม่มีสคริปท์ พวกผมในชั้นนั้นไม่มีใครเรียนเอกภาษากันสักคน   เรายังทำกันได้เลย จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 09:28:35

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีคำแนะนำ สำหรับ การพูดครับ แต่สำหรับ เนื้อหาเรื่อง Global warming นั้น ถ้าคุณหยิบประเด็นเดิมๆ ที่เขาพูดๆ กันอยู่ ก็ไม่น่าสนใจครับ ผมเสนอ ให้หยิบประเด็นที่เป็น skeptic ว่า จริงเหรอ....... หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมก็ หลังไมค์มาแจ้งละกันครับ จากคุณ : หมูอวบ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 11:27:10

ความคิดเห็นที่ 7 "..ถ้าให้พูดเป็นไทย ไม่ยากทีจะเสริมแต่งคำให้สวยหรู ดูน่าเชื่อถือ  เพราะ มันคือภาษาแม่.." >> แน่จริงขึ้นกล่าวในฐานะแขกเกียรติยศอวยพรคู่บ่าวสาวในงานแต่งงานให้ดูหน่อยซิ ถ้าผ่านถึงจะยอมนับถือ ภาษาแม่ก็เหอะ เห็นยืนขาสั่นพั่บๆมาหลายรายแล้วพอเอาเข้าจริง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 13:03:04

ความคิดเห็นที่ 8 เค้าให้ใช้ plam card  ป่าวเนี่ย ถ้าใช้ได้ก็เขียนเรียบเรียงไป แล้ว เตรียมตอบรับ point of information ของอีกฝ่าย แล้วก็ฝึกสำเนียงให้ดีๆ สำเนียงอ่ะไม่ยากหรอก ทำกระแดะๆเข้าไว้อ่ะ รุ่ง! จากคุณ : Whortleberry เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 13:56:50

ความคิดเห็นที่ 9 ขอแนะนำทางด้านวาทวิทยาก่อนนะคะ เพราะที่ จขกท ว่าไว้ว่า Speaking Skill แย่มาก แต่ จขกท ไม่ได้คิดว่า  Writing Skill ของตนเองแย่ แสดงว่า จขกท พอมีความสามารถในการเขียนอยู่บ้าง ซึ่งจะพูดสุนทรพจน์ให้ดีนั้นก็ต้องมาจากการเขียนที่ดี เพราะฉะนั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนี่คะ ก่อนอื่นต้องดูวัตุประสงค์ก่อนว่า การพูดสุนทรพจน์ของคุณนั้น มีจุดประสงค์เพื่ออะไร - ให้ความรู้/ รายงาน - เชิญชวน/ รณรงค์ จะได้ Design Message ได้ถูกต้อง ลองใช้ทฤษฎี 5 Canons ลักษณะทั้ง 5 ของวาทะที่ผู้พูดจะต้องทราบ invention คิดค้นเนื้อหา disposition การจัดเรียบเรียง style  ลีลาท่วงทำนอง   memory การท่องจำ และ delivery การกล่าววาทะ ซึ่งปกติถ้าแค่พูดต่อหน้าที่ชุมชนก็จะมีความตื่นเต้นค่อนข้างสูง ยิ่งเป็นภาษาอังกฤษ จขกท อาจจะรู้สึกกดดันหนักกว่าเดิม เพราะไม่ถนัด แต่หากเตรียมตัวมาดี  บทดี จำบทได้ และมีความมั่นใจก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี สำหรัับการเรียบเรียง ลองแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วนค่ะ ได้แก่ 1. คำนำ เป็นส่วนที่จะดึงดูดความสนใจผู้ฟังให้ฟังในส่วนที่เหลือค่ะ ลองเรียกความสนใจด้วยการพูดถึงความสำคัญของเรื่องก็คือ Global Warming  ค่ะ อาจจะพยายามโยงให้เกี่ยวกับตัวผู้ฟัง เพื่อเขาจะรูู้้สึกว่าต้องฟังแล้ว เพราะจะได้ประโยชน์ หรือเป็นการบอกเล่า Fact ที่น้อยคนจะทราบได้ หรือเป็นประเด็นที่เป็น skeptic อย่าวที่คุณ หมูอวบว่า 2. เนื้อเรื่อง  เป็นส่วนที่จะบอกเล่าทุกอย่าง ซึ่่งคุณก็ต้องมีการไปหาข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ  และพยายามหลีกเลี่ยงวิตรรกะ 3. สรุป เป็นส่วนที่จะจบเรื่องโดยให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจ และอยากปฏฺบ้ติตาม หรืออย่างน้อยก็มี Awareness ในเรื่องที่คุณพูด  แล้วแต่จุดประสงค์ของคุณ จขกท เคยผ่าน Debate มาแล้วไม่น่ายากอะไร เพราะ  Debate ต้องคิดสดๆเพื่อตอบโต้กลับให้ทัน แต่นี่แค่จำสคริปต์ที่เขียนไว้เฉยๆเอง น่าจะง่ายกว่าอีกนะคะ เรื่องสคริปต์  คุณลองเขียนเองเป็นภาษาของคุณเองน่าจะจำง่ายๆอยู่แล้ว 5-7 นาที นี่ประมาณ 35 - 49 บรรทัดเอง (เฉลี่ยแล้ว 1 นาทีประมาณ 7 บรรทัด) เอามาท่องๆทุกวันเดี๋ยวก็จำได้เองแหละค่ะ ก่อนแข่งก็ไฮไลท์คีย์เวิร์ดที่สคริปต์ไว้เผื่อลืมทั้งประโยค แต่จำคีย์เวิร์ดได้เดี๋ยวก็หาทางเชื่อมๆได้เอง ทางด้านภาษาไม่แนะนำมากก็แล้วกันค่ะ เพราะ คห. ด้านบนแนะนำไว้หมดแล้ว เอาสั้นๆว่าให้เป็นภาษาของ จขกท เอง จะได้จำง่ายๆพูดคล่องๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 53 14:58:29 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 53 14:53:25 จากคุณ : Bear Waldorf เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 14:44:25

ความคิดเห็นที่ 10 สู้ๆๆครับ จากคุณ : NUUTA JINDA เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 15:52:13

ความคิดเห็นที่ 11 "..ถ้าให้พูดเป็นไทย ไม่ยากทีจะเสริมแต่งคำให้สวยหรู ดูน่าเชื่อถือ  เพราะ มันคือภาษาแม่.." >> แน่จริงขึ้นกล่าวในฐานะแขกเกียรติยศอวยพรคู่บ่าวสาวในงานแต่งงานให้ดูหน่อยซิ ถ้าผ่านถึงจะยอมนับถือ ภาษาแม่ก็เหอะ เห็นยืนขาสั่นพั่บๆมาหลายรายแล้วพอเอาเข้าจริง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด -------------------------- จากประสบการณ์ที่ผ่านมานะครับ เวลาที่ได้รับเชิญให้ขึ้นพูดโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อนแบบนี้ เวลาที่ใช้ในการเตรียมตัวว่าจะพูดอะไรบ้าง ก็คือระยะเวลานับแต่ที่ได้ยินเสียงเชิญ ให้ลุกจากเก้าอี้นั่งช้าๆ เดินช้าๆ ขึ้นไปบนเวที ระยะเวลาในช่วงนี้แหละที่ใช้เตรียมคำพูด จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 19:11:43

ความคิดเห็นที่ 12 "..ถ้าให้พูดเป็นไทย ไม่ยากทีจะเสริมแต่งคำให้สวยหรู ดูน่าเชื่อถือ  เพราะ มันคือภาษาแม่.." >> แน่จริงขึ้นกล่าวในฐานะแขกเกียรติยศอวยพรคู่บ่าวสาวในงานแต่งงานให้ดูหน่อยซิ ถ้าผ่านถึงจะยอมนับถือ ภาษาแม่ก็เหอะ เห็นยืนขาสั่นพั่บๆมาหลายรายแล้วพอเอาเข้าจริง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด -------------------------- งั้นพออวยพรจบ ก็คงต้องตามด้วยคำขออภัย แล้วบอกคู่บ่าวสาวว่าจะแก้ตัวใหม่ให้งานหน้า จากคุณ : แวะมาป่วนแก้เครียด (Guga) เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 03:21:24

ความคิดเห็นที่ 13 555 งานเขามิล่มหรือนั่น จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 07:58:33

ความคิดเห็นที่ 14 แนะนำว่า เตรียมตัวไปดี ๆ ครับ ถ้าเป็นสุนทรพจน์ เข้าใจว่าน่าจะเตรียมโพยเข้าไปได้บ้าง เขียนโพยให้ดี ๆ ก็น่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง เรียนเอกอังกฤษ การเขียนน่าจะดีกว่ามาตรฐานอยู่แล้ว พอเขียนเสร็จก็พยายามท่องจำสิ่งที่ตัวเองเขียนให้ได้ หลังจากนั้นก็ฝึกซ้อมพูดให้เป็นธรรมชาติ ถึงระยะเวลาพูดจะนานกว่าที่คุณเคยดีเบทในคลาส แต่ผมว่าบทอาจจะไม่ได้ยาวกว่ามากขนาดนั้นครับ เพราะจังหวะในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ดี อาจจะไม่ต้องเร็วมาก แต่ว่ามีการทิ้งช่วง มีการเน้นน้ำเสียงให้ผู้ฟังคล้อยตาม ซ้อมจังหวะจะโคนให้ดี ๆ การออกเสียง ผมว่าถ้าคำไหนไม่แน่ใจจริง ๆ ก็สามารถถามผู้รู้หรือหาในเน็ทได้ ที่สำคัญ นอกจากฝึกพูดหน้ากระจก ลองหาคนมาช่วยฟังแล้วก็วิจารณ์ครับ ของอย่างนี้ถึงไม่ชำนาญแต่คิดว่าฝึกได้ครับ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณ จขกท นะครับ อิอิ จากคุณ : HeteroscedasticitY เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 19:54:02

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเคยเป็นสมาชิกของ Bangkok South Rotary Club เมื่อสมัยที่อยู่ กทม. ซึ่งเป็นคลับเดียวในประเทศที่ไม่มีสมาชิกหญิง และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสาร ตลอดเวลาในการประชุม เนื่องจากสมาชิกของคลับทั้งหมดอยู่ในระดับผู้บริหาร และเป็นชาวต่างชาติเสีย 60% หากใครพูดภาษาอื่นก็จะถูกปรับเป็นเงิน เข้ากองกลาง แขกที่ได้รับการเชิญมาให้เป็นผู้บรรยาย ก็จะบรรยายเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน หนึ่งในสมาชิกที่เข้าประชุม จะถูกเลือกโดยคณะกรรมการในช่วงเช้าก่อนการประชุม ให้ เป็นผู้กล่าวขอบคุณผู้บรรยาย...ครั้งหนึ่งผมโดนเลือกให้เป็นผู้ขึ้นไปขอบคุณผู้บรรยาย ซึ่งเป็นนักสิทธิมนุษยชน ที่มาจากสหรัฐอเมริกา ทั้งๆที่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเอา ไว้แล้วว่าซักวันนึงต้องโดนแน่ๆ ยังเป๋เลยครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ขึ้นไปกล่าวขอบคุณแค่นั้น...มันมีเรื่องที่เราจะต้องใส่เข้าไป เพื่อแสดงให้ผู้บรรยายและสมาชิกทุกคน ได้เห็นว่า เราเข้าใจในสิ่งที่ผู้บรรยายพูด มีอะไรที่เห็นด้วยก็ว่าไป...อะไรที่ไม่เห็นด้วย ก็จะไม่พูด แต่จะใช้คำว่าเข้าใจในมุมมอง และในบทบาทของผู้บรรยาย ฯลฯ เข้าแนวเดียวกับที่ลุงแอ๊ดพูดถึงเหมือนกัน...ผมเคยขึ้นไปกล่าวในฐานะแขกเกียรติยศอวยพรคู่บ่าวสาวในงานแต่งงาน มาแล้วเหมือนกัน ภาษาไทยแต้ๆ ยังเป๋ได้เลยครับ สำหรับเจ้าของกระทู้ ยังมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้...หากถอนตัว ก็จะไม่มีวันที่จะรู้ว่าคุณจะทำได้หรือไม่...หากเลือกที่จะขึ้นไปสู้ ถ้าพลาด อย่างมากก็แค่อายเพื่อนไปไม่กี่วันเอง แต่ก็จะช่วยให้เรารู้ว่าเราพลาดเรื่องอะไร...ถ้ามันไปด้วยดี ก็จะทำให้เรารู้ว่า ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินความสามารถ  อะไรที่บกพร่องก็ปรับปรุงให้ดีขึ้น สองกรณีที่ผมยกมาเป็นตัวอย่าง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้ง...ยังไงๆ มันต้องมีครั้งแรก แต่พอมันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง มันเริ่มที่จะง่ายขึ้นแล้ว และยิ่งง่ายเข้าไปอีกเมื่อมัน เกิดบ่อยครั้งขึ้น จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 11:57:28

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ได้พูดสดๆสักหน่อย เตรียมตัวให้เยอะ ซ้อมบทวันละสิบรอบ แนะนำ โดยเฉพาะช่วงเวลาเข้าห้องน้ำ จากคุณ : aeroflex เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 23:42:45

ความคิดเห็นที่ 17 มาตอบช้าไปปะ สุนทรพจน์ ไม่ต้องพูดสดตามความรู้สึกค่ะ ใจเย็นๆ มันต้องเขียนสคริปต์อยู่แล้ว เตรียมตัวเรื่องนี้ให้ดี หาอ่านเยอะๆ ดูแนวทางการเขียน เขียนยังไงให้ประทับใจ ท่านบนๆ แนะนำไว้ดีมากค่ะ ส่วนเรื่องพูด แนะนำให้หาคลิปใน youtube ดูเป็นตัวอย่างค่ะ เขา eye contact ยังไง ยืนยังไง จังหวะการพูดเป็นยังไง ต่างๆ นานา (เราเองถ้าพูดที่โพเดี้ยม จะช่วยลดความเกร็งได้เยอะอะ ไม่แน่ใจว่าเวลาคุณจขกท.ไปแข่ง จะมีโพเดี้ยมให้รึเปล่า) คลิปที่แนบมานี้เป็นหนึ่งสปีชในตำนาน พูดเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย คนพูดตอนนั้นอายุแค่ 12 พูดต่อหน้าที่ประชุม UN ส่วนถ้าไม่มั่นใจเรื่องสำเนียง ฟังเยอะๆ ช่วยได้ค่ะ ฟังกรอกหูไปเลย แต่ไม่ต้องคิดมาก ความสามารถในหูของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนหูดี จับสำเนียงได้เยอะ อาจจะพูดได้เนียนกว่า อยากบอกว่า พูดสำเนียงไทยๆ แต่ออกเสียงถูกต้อง ชัดเจน มันก็สื่อสารให้น่าฟังได้เหมือนกัน ไม่ต้องพยายามทำสำเนียงให้มากมาย บางทีมันตลก ถ้ามีเพื่อนในเอกที่เป็น bilingual หรือพูดเก่งๆ ให้เขาช่วยก็ได้ค่ะ ที่สำคัญมาก คือซ้อมเยอะๆ ค่ะ ซ้อมจนเข้าปาก จำแม่นทุกพยางค์ ซ้อมจนคำพูดไหลออกมาเอง การเน้น จังหวะจะโคนออกมาเป็นธรรมชาติ ซ้อมหน้ากระจกด้วย ให้คนช่วยดูและคอมเม้นต์ด้วย ถ้าเรามั่นใจ แรกๆ อาจตื่นเต้น แต่เวลาพูดเราจะค่อยๆ ผ่อนคลายไปเอง และความมั่นใจเกิดจากการซ้อมจนคล่องอย่างที่ว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น สคริปต์สำคัญมากนะคะ ถ้าอ่านสคริปต์ได้ ก็ซ้อมอ่านให้เนียนๆ ค่ะ แต่ก็ควรจำได้ด้วย ปล. ไม่เคยแข่งนะคะ แค่เคยพูดสปีชตอนเรียนและพรีเซ้นต์งานบ่อยๆ เอกอังกฤษม.เราก็จัดแข่งเหมือนกันค่ะ ปรากฏว่า แพ้ 555555 คือภาษาดี สำเนียงได้ แต่แพ้ชาวบ้านเขาตรงสคริปต์นี่แหละ T_T แต่เรื่องแพ้ชนะ ไม่สำคัญเท่ากับเราได้ฝึกฝน จริงมั้ยจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 05:01:33 จากคุณ : ZzIqka เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 05:00:03

ความคิดเห็นที่ 18 แหะๆๆๆ ขอนอกเรื่องนิสนึงนะค่ะ ที่ จขกท จะแข่งเนี่ย ใช่ที่ ม.ราชมงคลกรุงเทพรึเปล่าค่ะ??? รุสึกว่าที่นี่ก็มีจัดเหมือนกันค่ะ ปล. ถามเพื่อความแน่ใจเฉยๆนะคะ ^^ จากคุณ : ฟลามิงโก้สีบานเย็น เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 18:38:38