ความคิดเห็นที่ 1 วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) ถือเป็นเทศกาลใหญ่ ที่ประหนึ่งรวมเทศกาลวันตรุษ และอาจรวมเทศกาลไหว้สิ้นปี เข้ากับเทศกาลวันตรุษ ซึ่งจะต่างกับวันไทย และวันสากล ในขณะที่วันของไทย เป็นวันข้างขึ้น และข้างแรม เดือนหนึ่งมี 30 วัน ของจีนจะเป็นเดือนสั้น และเดือนยาว เดือนสั้นมี 29 วัน เดือนยาวมี 30 วัน วันจีนจะช้ากว่าวันข้างขึ้น ข้างแรม ในปฏิทินอยู่ 2 เดือน ยกตัวอย่าง วันไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันที่ 15 เดือน 8 เมื่อดูในปฎิทินจะเป็นขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 หรือสมมติว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2535 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 2 ก็คิดกลับเป็นวันจีนจะเป็นวันที่ 8 เดือน 12 จากนั้นนับต่อจากวันที่ 8 ไปเป็นวันที่ 9 เดือน 12 ของจีน คือ วันที่ 1 มกราคม 2536 นับไปเรื่อยๆ จนครบวันที่ 30 เดือน 12 ของจีน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2536 ของไทย ดังนั้นวันตรุษจีน คือ วันที่ 1 เดือน 1 ของจีน ก็จะตรงกับวันที่ 23 มกราคม 2536 วันตรุษจีน  คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน Chinese New Year  (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) วันตรุษจีนในปฏิทินสุริยคติ ปีชวด  19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 , 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551                 25 มกราคม พ.ศ. 2563 ปีฉลู   7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 ,  26 มกราคม พ.ศ. 2552                   12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ปีขาล    28 มกราคม พ.ศ. 2541 ,14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553                   1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ปีเถาะ  16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542   , 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554                22 มกราคม พ.ศ. 2566 ปีมะโรง   5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543   ,23 มกราคม พ.ศ. 2555                  10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ปีมะเส็ง  24 มกราคม พ.ศ. 2544  ,10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556                29 มกราคม พ.ศ. 2568 ปีมะเมีย  12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ,31 มกราคม พ.ศ. 2557                  17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 ปีมะแม 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ,19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558                   6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570 ปีวอก  22 มกราคม พ.ศ. 2547   ,8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559                 26 มกราคม พ.ศ. 2571 ปีระกา   9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548  , 28 มกราคม พ.ศ. 2560                   13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2572 ปีจอ  29 มกราคม พ.ศ. 2549   ,16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561                   3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2573 ปีกุน  18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550    ,  5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562                 23 มกราคม พ.ศ. 2574 ขอบคุณข้อมูล http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538722196&Ntype=46 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:15:46

ความคิดเห็นที่ 2 วันก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไปถือวันที่น่าตื่นเต้น มากที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆกัน อาหารอันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้าย ให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง          เมื่อถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน โดยส่วนใหญ่จะพูดว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ" ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า "Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป) ในวันตรุษนี้ อารมณ์โมโหโกรธาจะถูกลืม และไม่สนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ ซึ่งฉลองโดยการร้องเพลง เต้นรำ และงานแสดงโคมไฟ ถึงแม้ว่าการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ และความสุขให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 53 17:19:10 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:16:15

ความคิดเห็นที่ 3 ตำนานความเป็นมาของวันตรุษจีน ตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า “กว้อชุนเจี๋ย” หรือ “กว้อเหนียน” เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า “เหนียน” มันออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก เหนียน ทำร้าย ต่อมาพบว่า เหนียน มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกัน เมื่อ เหนียน ได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็เลยตกใจเผ่นหนีไป เมื่อ เหนียน ไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น ทำให้ เหนียน ตกใจและเผ่นหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน ต้องเผ่นหนีไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัด เหนียน ได้โดยไม่ยากนัก เมื่อวันส่งท้ายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เหนียน มาถึงในตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน ที่มารูป http://diary.yenta4.com/diary.php?reth:31:1:2008 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:20:47

ความคิดเห็นที่ 4 อาหารไหว้เจ้า     ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆมีความ หมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่ง เป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์          อาหาร อื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว ทางตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน ผลไม้ที่ใช้ไหว้ จะนิยมเลือกชนิดที่มีอะไรที่เป็นมงคลอยู่ในตัว ส้ม เรียกว่า “ไต้กิก” แปลว่า โชคดี องุ่น เรียกว่า “พู่ท้อ” แปลว่า งอกงาม สับปะรด เรียกว่า “อั้งไล้” แปลว่า มีโชคมาหา กล้วย มีความหมายถึงการมีลูกหลานสืบสกุล ที่ในกระถางธูปที่ใช้ไหว้เจ้า บางคนนิยมใส่ “โหงวจี้” สำหรับปักธูป ประกอบด้วย เมล็ด 5 อย่าง คือ ข้าวสาร ข้าวเหนียว ถั่วเขียว ถั่วดำ และเชื้อแป้ง (ยีสต์) โดยถือว่าเมล็ดทั้งห้า คือบ่อเกิดของการเจริญเติบโตอุปมาอุปไมยให้การไหว้เจ้านี้นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ที่มารูป http://dek-d.com/content/all/13330/ จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:24:00

ความคิดเห็นที่ 5 ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันปีใหม่     วันจ่าย หรือ เซียวตื่อเส็ก  คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ หรือ ตี่จู๋เอี๊ย ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้ว     วันไหว้ คือ วันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง คือ ตอนเช้ามืดจะไหว้ ไป๊เล่าเอี๊ย เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ ได้แก่ หมูสามชั้นต้ม ไก่ เป็ด ปรับเปลี่ยนเป็นชนิดอื่นได้ หรือมากกว่านั้นได้จนเป็นเนื้อสัตว์ห้าชนิด) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ตอนสาย จะไหว้ไป๊เป้บ๊อ คือการไหว้บรรพบุรุษ พอ่แม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว ตอนบ่าย จะไหว้ ไป๊ฮ้อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเป็นสิริมงคล     วันขึ้นปีใหม่ หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ คือวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี (ชิวอิก) วันนี้ ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน คือ ไป๊เจีย คือ การไปไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กา" ซึ่งไปพ้องกับคำว่าทอง เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำโชคดีไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น ที่มาข้อมูล http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538722196&Ntype=46 ที่มารูป http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=offway&month=02-2008&date=07&group=25&gblog=13 ขอบคุณ สำหรับข้อมูลแก้ไขโดยคุณบุณฑริก แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 53 21:59:51 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:30:02

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนธรรมเนียมการแต๊ะเอียนั้น จะมีเฉพาะบ้านที่มีฐานะดี การให้นี้ คือ นายจ้างให้ลูกจ้าง กับให้กันเองในครอบครัวว่าพ่อแม่ให้ลูกหลาน แต่ถ้าลูกได้ทำงานแล้ว หรือออกเรือนแล้ว ก็จะเป็นฝ่ายให้พ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่ที่ฐานะดี ก็มักจะแต๊ะเอีย กลับคืนมาในจำนวนที่เท่ากัน หรือเพิ่มให้มากขึ้น ได้แต่จะให้เป็นเงินของพ่อแม่เอง ไม่ใช่เอาเงินที่ลูกให้มานั้นให้กลับคืนมา ส่วนเขย สะใภ้ ตามธรรมเนียมก็ควรให้น้องสามีและน้องภรรยา ส่วนคน ที่มีศักดิ์เป็นลุง ป้า น้า อา ก็ควรมีแต๊ะเอียให้หลาน ๆ เช่นกัน ธรรมเนียมการแต๊ะเอียนี้ ผู้ใหญ่ที่พิถีพิถันจะเอาเงินใส่ซองแดงอย่างมีเคล็ด คือให้เป็น เลขที่ดีที่สุด เรียกว่า "ซี่ลี่" เพราะถือว่าเป็นเลขสิริมงคล ซี่ กับ สี่ คือเลข 4 ซี่สี่ ก็คือ คู่สี่ นั่นเอง ตัวอย่างการให้แต๊ะเอียเป็นเลข "ซี่สี่" คือ 400 จะเป็นตัวเลข 4 กับแบงก์ร้อย 4 ใบ หรือจะให้เป็น 2 เท่า 3 เท่าของซี่สี่ เช่น 800 , 1200 ก็ได้ อีกเกร็ดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเทศกาลตรุษจีน คือ การเล่นไพ่ โดยเฉพาะการเล่นยี่อิด จะนิยมกันมากผู้ใหญ่หลายท่านถือเอาการเล่นไพ่ ในวันตรุษเป็นเรื่องเสี่ยงทาย ถ้าเล่นได้ก็ถือเป็นเคล็ดว่าตลอดปีใหม่นี้จะเฮงหรือโชคดี และที่พลาดไม่ได้ คือ การติดยันต์แผ่นใหม่ที่หน้าประตูบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคลและคุ้มครองภัย ที่มารูป http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=3906.0 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:33:11

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับสถานที่จัดงานปีนี้ สามารถไปเที่ยวได้ดังนี้ เทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์ เยาวราช จะมีขึ้นวันที่ 14 - 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 12.00 - 24.00 น. บริเวณถนนเยาวราช ตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ - แยกลำพูนไชย งานตรุษจีนปากน้ำโพ ประจำปี 2553 วันที่  7 – 18  กุมภาพันธ์  2553   ณ บริเวณปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ งานตรุษจีนกรุงเก่าอยุธยามหามงคล ครั้งที่ 4 ประจำปี 2553 กำหนดจัดงาน วันที่  15-19 กุมภาพันธ์ 2553 สถานที่จัดงาน บริเวณถนนนเรศวร (ตั้งแต่ตลาดเจ้าพรหม - เจดีย์เจ้าอ้ายเจ้ายี่) ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา เทศกาลตรุษจีนเมืองตรัง ระหว่างวันที่ 12-14  กุมภาพันธ์  2553  ณ บริเวณถนนราชดำเนิน   กิจกรรมประกอบด้วย  การประกวดหนูน้อยอั่งเปา  การประกวดไชน่าเกิร์ล  การแสดงเชิดสิงโตเต็มรูปแบบ  รำวงย้อนยุค  การโชว์ตัวดารา/นักร้อง การแสดงบนเวที  การจำหน่ายอาหารตลอดเส้นทางถนนราชดำเนิน และอื่นๆ อีกมากมาย ขอบคุณข้อมูล ตามไปดูต่อได้ที่ http://www.gcc.go.th/gcc1111/index.php?option=com_events&task=view_detail&agid=250&year=2010&month=2&day=7&Itemid=1 http://thai.tourismthailand.org/festival-event/content-5718.html http://www.nightsiam.com/forum/index.php?action=printpage;topic=1082.0 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:41:06

ความคิดเห็นที่ 8 “ราชบุรีไชน่าทาวน์ 2010” ระหว่างวันที่ 14-22 กุมภาพันธ์ 2553 ณ บริเวณถนนอัมรินทร์ กิจกรรมเล่าขานตำนานย้อนยุคราชวงศ์จีน กำแพงเมืองจีน การแสดงจากมองโกเลีย และมณฑลเสฉวน ตื่นตาตื่นใจกับการแข่งขันเชิดสิงโตกลางแม่น้ำหนึ่งเดียวในโลก เทศกาลตรุษจีนเมืองพัทยา ประจำปี 2553 วันที่ 14 - 16  กุมภาพันธ์  2553 สถานที่ บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา (พัทยาใต้) จังหวัดชลบุรี จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:42:50

ความคิดเห็นที่ 9 ไหว้ปีชง พ.ศ. 2553 ไหว้ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 年庚寅太歲鄔桓大將軍 เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ย ประจำปี พ.ศ. 2553 การไหว้เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ย “เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ยเป๋าส่วยกุงเพ่งอัง” แปลว่า คุ้มครองดวงชะตาให้ปลอดภัยอยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี หรือในภาษาไทยเรียกว่า “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” เป็นเทพเจ้าที่มีอิทธิพลต่อโชคชะตาของคนในแต่ละปี เหตุที่ชาวจีนให้ความเคารพบูชากราบไหว้ เพราะมีความเชื่อว่าเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยสามารถที่จะบัลดาลความสุข ความทุกข์ให้เกิดแก่ใครนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของท่าน หากใครมีดวงชะตาที่ไม่ดีทำอะไรก็มีปัญหาติดขัดก็อธิฐานขอพรจากท่านให้ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ ดังนั้นในแต่ละปีจึงมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาขอพรให้อยู่เย็นเป็นสุข มีดวงชาตาที่ดีตลอดทั้งปี ชาวจีนจึงมีประเพณีในการไหว้ฝากดวงเพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อเทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ยในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ (ตรุษจีน) ของทุกๆ ปีโดยท่านสามารถเดินทางไปไหว้สะเดาะเคราะห์ด้วยตนเองต่อเทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ยได้ที่วัดเล่งเน่ยยี่ และวัดโพธัตตาราม หรือวัดที่มีองค์เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ยประทับอยู่ โดยวิธีไหว้มีดังนี้ จุดธูป 9 ดอก ไหว้พระประธานในวัดก่อน (ปักธูปกระถางละ 3 ดอก) จากนั้นจึงไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จุดธูป 3 ดอกวิงวอนขอพรจากท่าน ให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองจาก ภยันอันตรายต่างๆ ที่ท่านอาจประสบพบเจอในปีนี้ จากหนักให้กลายเป็นเบา และจากเบาก็ให้มลายสูญสิ้นไป ซึ่งทางวัดเล่งเน่ยยี่จะมีพิธีสวดมนต์เสริมสิริมงคล หรือพิธีนำซิ้งปักเต้าเก็ง เพื่อให้ท่านและครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขหมดทุกข์หมดเคราะห์ตลอดทั้งปี ของไว้ที่ต้องเตรียมไปมีดังนี้ 1. ธูป 3 ดอก 2. เทียนแดง 1 คู่ 3. หงิ่งเตี๋ย 12 แผ่น 4. ตั่วกิม 12 แผ่น 5. ทุกหลั่งจี๊ 12 แผ่น 6. เป๋าอุ่งจี๊ 12 แผ่น 7. เผ่งอังจี๊ 12 แผ่น 8. กระดาษแดง 1 แผ่น 9. ขนมจันอับ 1 จาน (ประกอบด้วย ถั่วเคลือบน้ำตาลสีขาว – ชมพู ฟักเชื่อม ถั่วตัด ข้าวพอง) 10. ส้ม 4 ผล ปีขาล พ.ศ. 2553 ปีจีนเรียกว่า “เกิงอิ๋ง” ราศีบนของปีจัดเป็นธาตุทอง ราศีล่างจัดเป็นธาตุไม้ นับอิมเป็นธาตุไม้ เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ยประจำปี 2553 มีพระนามว่า “อู่ฮ้วงไต่เจียงกุง 鄬桓大將軍” วิธีการสะเดาะเคราะห์ มีดังนี้ 1. นำกระดาษแดงที่เขียนชื่อ - สกุล วัน เดือน ปี เกิด (และเวลาตกฝาก) วางลงบนกระดาษไหว้ มัดด้วยเชือกแดง 2. จัดส้ม 4 ผล และขนมจัดอับใส่จานวางต่อหน้าองค์เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ย 3. จุดเทียนแดงปักไว้ข้างๆ กระถาง จากนั้นจุดธูป 3 ดอก อธิฐานให้ท่านช่วยคุ้มครองดวงให้ปลอดภัยและประสพแต่สิ่งที่ดีตลอดปี 4. ถ้าเป็นของตนเองให้หยิบชุดสะเดาะเคราะห์ที่เตรียมไว้ตามข้อ 1 ปัดตั้งแต่ศีรษะลงมาจนสุดแขน 12 ครั้ง (หมายเหตุ ถ้าท่านไหว้แทนบุคคลอื่นก็ไม่ต้องทำพิธีปัดตัว แต่ให้กระทำโดยปัดเสื้อของบุคคลนั้นแทน) 5. นำชุดสะเดาะเคราะห์วางลงในกล่องรับฝากที่ทางวัดจัดให้ก็เป็นอันเสร็จพิธี ในปีนี้ท่านที่เกิดปีวอก (ซึ่งชงโดยตรงกับปีขาล) ควรไปไหว้ สะเดาะเคราะห์ขอขมาต่อองค์ไท่ส่วยเอี๊ย ส่วนท่านที่เกิดในปีนักษัตรอื่นๆ ที่ควรจะไปไหว้สะเดาะเคราะห์ฝากดวงด้วยมีดังต่อไปนี้ 1. ท่านที่เกิดปีวอก พ.ศ. 2487 อายุ 66 ปี 2. ท่านที่เกิดปีวอก พ.ศ. 2511 อายุ 42 ปี 3. ท่านที่เกิดปีขาล พ.ศ. 2469 อายุ 84 ปี 4. ท่านที่เกิดปีขาล พ.ศ. 2529 อายุ 24 ปี 5. ท่านที่เกิดปีมะเส็ง พ.ศ. 2520 อายุ 33 ปี 6. ท่านที่เกิดปีกุล พ.ศ. 2478 อายุ 75 ปี 7. ท่านที่เกิดปีกุล พ.ศ. 2502 อายุ 51 ปี 8. ท่านที่เกิดปีจอ พ.ศ. 2538 อายุ 15 ปี สำหรับท่านที่เกิดในปี พ.ศ. ดังกล่าวมานี้ นอนจากจะต้องไปไหว้สะเดาะเคราะห์ฝากดวงต่อองค์เทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ยแล้ว ในปีนี้ห้ามเป็นเจ้าภาพ หรือเข้าร่วมพิธีในงานศพ และควรหลีกเลี่ยงการไปงานศพเด็ดขาด แต่ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ขอให้ละเว้นการไปดูศพเวลาฝัง หรือแม้แต่การส่งศพ เพราะทั้ง 8 ปีนี้ เป็น “ไท่ส่วยเฮี้ยบจู้” ซึ่งแปลว่า เทพไท่ส่วยเอี๊ยทับดวงชะตาปีเกิด หากใครฝ่าฝืนก็จะประสพสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งปวง และยังถือเป็นการหมิ่น ลบหลู่ต่อองค์ไท่ส่วยเอี๊ยด้วย ขอบคุณ http://board.palungjit.com/f16 ขอบคุณรูปประกอบ http://www.bangsai.go.th/article-detail.php?id=239 ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆนะค่ะ จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:46:12

ความคิดเห็นที่ 10 คำอวยพรตรุษจีน " 萬事如意 wan shi ru yi หมื่นพันเรื่องราวสมดังใจปรารถนา 心想事成 xin xiang shi cheng เพียงใจคิดเรื่องราวต่างๆก็สำเร็จ 恭賀新禧 gong he xin xi ให้มีความสุข 新年快樂 xin nian kuai le ปีใหม่มีความสุข 恭喜發財 gong xi fa cai ร่ำรวย มั่งมี 身體健康 shen ti jian kang ร่างกายแข็งแรง 東成西就 dong cheng xi jiu ตะวันออกสำเร็จตะวันตกลุล่วง ประมาณว่า จะทำอะไรก็สำเร็จลุล่วง 新正如意 xin zheng ru yi สมดังปรารถนา คำอวยพรจากเว็บ http://www.china2learn.com/board/show.php?qID=9196 恭喜发财 กงสี่ฟาไฉ..ขอให้ร่ำรวย 财源广进 ไฉเหยียนกว่างจิ้น...เงินทองไหลมา 招财进宝 เจาไฉ่จิ้นเป่า..เงินทองไหลมา 年年有余 เหนียนเหนียนโหย่วหยวี๋..เหลือกินเหลือใช้ 事事顺利 ซื่อซื่อซุ่นลี่..ทุกเรื่องราบรื่น 玉满堂 จินยวี้หม่านถัง..ร่ำรวยเงินทอง 一本万利 อิ้เปิ่นว่านลี่...กำไรมากมาย 大吉大利 ต้าจี๋ต้าลี่...ค้าขายได้กำไร 年年发财 เหนียนเหนียนฟาไฉ...รำรายตลอดไป 龙马精神 หลงหม่าจินเสิน..สุขภาพแข็งแรง 吉祥如意 จี๋เสียงหยูอี้..สมปรารถนา 好运年年 เห่ายวิ่นเหนียนเหนียน..โชคดีตลอดไป 四季平安 ซื่จี้ผิงอัน..ปลอดภัยตลอดปี 一帆风顺 อี้ฝันฟงซุ่น..ทุกอย่างราบรื่น...... จาก...http://enlighten8.ไม่อนุญาตให้โฆษณา/journal/item/4 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 53 17:58:21 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 17:47:22

ความคิดเห็นที่ 11 ....  แจ๋ววววววววววววววววววว จิง ๆ   ...  โจ่ยเสี่ย แหม ให้ข้อมูลละเอียดยิบ เผื่อล่วงหน้าถึง ปีหมูเลย  เฮ้อ พ.ศ. 2562 นี่อั๊วจะมีชีวิตอยู่ฉลองตรุษจีนถึงอ๊ะเปล่าน๊อ ??? จากคุณ : มิตรภาพไม่รู้จบ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:04:23

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ ทุกท่าน.. ... นำเพลงจีนยาวๆ ถึง  7.20 นาที มาประกอบกระทู้ เทศกาล ตรุษจีน แหะๆ จากคุณ : วลี.. เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:09:21

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:57:35

ความคิดเห็นที่ 14   ได้บรรยากาศดีครับ จากคุณ : นายเอลที เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 19:46:55

ความคิดเห็นที่ 15   . จากคุณ : นายเอลที เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 19:47:25

ความคิดเห็นที่ 16 นึกถึง ความหลัง ที่พ่อ แม่ ยังมีชีวิตอยู่ เป้นแบบที่บรรยายมาเลยค่ะ ตอนนี้ ตรุษจีน คือวันทำงานปกติ วันหนึ่ง จากคุณ : accytu46 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 20:55:04

ความคิดเห็นที่ 17 ขออภัยนะครับ ในคคห.5 ข้อความนี้ "วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก คือวันก่อนวันสิ้นปี" เกิดผิดพลาดอะไรหรือเปล่าครับ เพราะวัน ตื่อเส็กนั้น คือวันสิ้นปีไม่ใช่หรือครับ ที่ถูกจึงควรเป็น"วันจ่าย หรือ เซียวตื่อเส็ก คือวันก่อนวันสิ้นปี" จากเว็บ http://dict.revised.moe.edu.tw/index.html 除夕 農曆十二月三十日的夜晚。 大除夕 陰曆十二月最末一日的晚上。習俗上，這是全家人團聚的時刻。亦稱為「大年節」。 小除夕 除夕的前一日。簡稱為「小除」。 จากคุณ : บุณฑริก เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 21:45:25

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณบุณฑริกมาก ขออนุญาตไปแก้ไขข้อความ ตามที่บอก มีอะไรบอกได้ ยินดีเสมอค่ะ จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 22:01:03

ความคิดเห็นที่ 19 ข้อความซ้ำ 2 รอบ ขอลบนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 53 22:07:44 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 22:01:14

ความคิดเห็นที่ 20 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 53 22:04:18 จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 22:01:36

ความคิดเห็นที่ 21 恭喜发财 กงสี่ฟาไฉ..ขอให้ร่ำรวย  (ไม่รู้อักษรจีนหรอก ก๊อปข้างบนมา)แหะๆ เฮงๆ  เฮงๆ จากคุณ : เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 23:47:55

ความคิดเห็นที่ 22 สุขสันต์วันตรุษจีนแด่ท่านจขกท และชาวห้องสมุดนะคะ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์พร้อมรูปสวยๆมากมายเช่นเคย ขอบคุณค่ะ ส่งวีดีโอน่ารักๆของคณะเชิดสิงโตเด็ก ความยาว 4:51 นาที Cute Kids Lion Dance - Gund Kwok - Chinatown Main Street Festival, 2009 จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 00:29:35

ความคิดเห็นที่ 23   祝大家   新年快乐  幸福美满   身体健康 ！ สวัสดีปีใหม่ตรุษจีนทุกท่าน มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง จากคุณ : ป๋องโรง J เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 09:43:54

ความคิดเห็นที่ 24 年年如意喜登好兆頭 歲歲平安年年都好過 สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้มีความสุขทุก ๆ นะครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 53 10:39:53 จากคุณ : panya (panya_lai) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 10:39:28

ความคิดเห็นที่ 25 คำอวยพรที่เคยได้มาและประทับมากที่สุดในคือ การที่เขาเรียงเลข 1-10 ตามด้วย ร้อย พัน หมื่น ซึ่งล้วนเป็นคำอวยพรดีๆทั้งสิ้น  ก๊อปมาและอวยพรทุกๆคนครับ  (แต่ขอไม่แปลครับ  ให้ผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยแปลก็แล้วกัน เพราะยาวจนสามารถเปิดเป็นกระทู้ได้เลย ) 新的一年裡祝你， 一帆風順， 二龍騰飛， 三羊開泰， 四季平安， 五福臨門， 六六大順， 七星高照， 八方來財， 九九同心， 十全十美， 百事亨通， 千事吉祥， 萬事如意！ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 16:14:04

ความคิดเห็นที่ 26 ปีขาลมหามงคล จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 16:15:13

ความคิดเห็นที่ 28 ปีขาลในแบบศิปะการตัดกระดาษ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 16:28:52

ความคิดเห็นที่ 29 รูปนี้น่ารักดี ความหมายดี เอาคำว่า โชคลาภ 福  ใส่ลงในเลข 0 ของ 2010 อักษรจีน 财源广进 ไฉเหยียนกว่างจิ้น   คือ  เงินทองไหลมาเทมา ส่วนเจ้าเสือก็ยืนเป็นกองตำลึงทอง  ที่ปูด้วยดอกโบตั๋น เป็นความหมายของ ยศศักดิ์ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 16:39:42

ความคิดเห็นที่ 30 คนจีนภาคเหนือ เช่นปักกิ่ง มักจะนิยมทานเกี้ยว ในช่วงวันตรุษจีน จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:28:54

ความคิดเห็นที่ 31 คนกวางสีชอบทานของขบเคี้ยวหวานๆ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:32:33

ความคิดเห็นที่ 32 จีนทางใต้ แถวมณฑลฮกเกี๋ยน มักจะนิยมทานเส้นหมี่ เป็นเส้นยาวๆ แสดงถึง อายุยืนยาว จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:38:30

ความคิดเห็นที่ 33 ที่สำคัญมากคือคนจีนจะต้องทานอาหารทั้งครอบครัวในคืนก่อนตรุษจีน  เพราะว่าวันไหว้ เรามักมีอาหารจากการไหว้เจ้าเหลือเฟือ  การมาวงทานกันทำให้อบอุ่น จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:43:18

ความคิดเห็นที่ 34 ภัตตาคารจะแน่นมากในยุคนี้  เพราะบางทีอยู่คนละบ้าน  ไม่สะดวกที่จะไปเป็นภาระให้บ้านไหนรับผิดชอบเรื่องสถานที่ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:44:54

ความคิดเห็นที่ 35 มาดูเซ็ตหรูๆ ให้น้ำลายหก ราคา ：518 หยวน—3888หยวน ต่อ โต๊ะ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:48:03

ความคิดเห็นที่ 36 งานอะไรหนอ คนเยอะแยะขนาดนี้ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:49:56

ความคิดเห็นที่ 37 เขื่อไหมว่า เป็นงานเลี้ยงก่อนวันตรุษจีนของบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เฉิงตู  เจ้าของเลี้ยงเพื่อขอบคุณคนงานบริษัทก่อสร้างจำนวน 2600 คน ใช้เงินประมาณ สองแสนหยวนเศษ (ประมาณ 1 ล้านบาืท) มีภาพเพิ่มที่ http://www.xcxf.gov.cn/article/view.asp?cid=311&sid=0&vid=5406 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 18:00:41

ความคิดเห็นที่ 38 ขอ คห นี้ เป็นช่องทางสื่อสารส่วนตัวนะครับ  ทุกท่านไม่ต้องอ่านก็ได้นะครับ.... มาโพสต์แทนกี๊ฟที่น้องสาวได้ไปให้ไว้ที่ นครศรีฯ ไม่ได้เป็นการบอกว่า "จะกลับมา"  ในเมื่อกระทู้กระเบื้องปรุนั้น เป็น"ประวัติศาสตร์"ในคลังกระทู้แล้ว  ตราบใดที่กระทู้นั้นยังคงอยู่  ตราบนั้นผมก็จะไม่"กลับมา"    เว้นเสียแต่ กระทู้นั้นหายไป ไม่ีต้องมีใครไปรับผิดชอบอะไรที่ตรงนั้น  เช่นกัน  ไม่ต้องมีอะไรให้ผมมารับผิดชอบตรงนี้ When I laughed, everyone laughed with me. When I fought, I fought alone. When I hurt, No one shared the pains. So..... I owe  no one. No one owe me. Thus..... Please set me free. ปล. ไม่ได้มาขอกำลังใจอะไร ไม่ใช่เป็นการตอบกระทู้ให้ใคร ดังนั้นใครอ่านแล้ว งงงวย ก็ไม่ต้องสนใจนะครับ   ผมชี้แจงเพียงเพราะไม่ชอบอะไรคลุมเครือ  Just want to make it clear.    โหวตไฟแดงลบ คห อันนี้ได้นะครับ  เพราะไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 19:19:08

ความคิดเห็นที่ 39 Fortunism...ขอบคุณพี่มากนะค่ะ ที่มาตอบกระทู้ให้ ถ้าสาวรู้ตั้งแต่แรก ถึงช่องทางที่ทำให้พี่กลับมา สาวก็จะไม่รอช้าที่จะทำ เพราะกระทู้ห้องจีนของสาวจะมีค่าหากมีคนมาเติมความรู้ให้เต็ม...ข้อมูลทางประวัติศาสตร์จะหนักแน่น หากมีหนังสือหลายๆเล่มมาอ้างอิง...ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:54:46

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านอย่างมีความสุข และโหวตเก็บเข้าคลังกระทู้เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะ จากคุณ : aiwen^mei เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 22:28:58