PANTIP.COM : K8893204 สำหรับบางคนที่ยังไม่ทราบ: คำว่า Only ต้องอ่านให้ถูกต้องว่า โองลี่ ไม่่ใช่ โอนลี่ อย่าอ่านผิดนะเดี๋ยวอายฝรั่ง [ห้องเรียนภาษาอังกฤษ]

ความคิดเห็นที่ 14

เ่อ่อ ก่อนจะตอบผมมีข้อสงสัย ว่า เจ้าของกระทู้มีจุดประสงค์อย่า่งไรกันแน่ เพราะไม่มีล็อกอิน และใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ เหมือนหวังผลไม่ดี ต่อผู้ที่อ้างชื่อ ซึ่งเป็นพฤติการณ์น่าสงสัยไม่ดีเท่าไหร่นะครับ

แต่จริงๆ ตามหลักภาษาศาสตร์ก็สามารถอธิบาย ได้ ซึ่งคงไม่ได้ดังหวังคุณ ไม่ว่าจะทางบวกหรือทางลบ ดังนี้

อย่างที่ท่าน
ข้างบนได้กล่าวมาแล้ว

ภาษา ย่อมมี ความหลากหลายแปรปรวนของ เสียง สำเนียง เป็นเรื่องปกติ ซึ่ง

สำเนียงมาตรฐานของภาษาอังกฤษ มี อยู่ 2 สำเนียงสำคัญคือ
1. RP 2. GA

ซึ่งตามหลักสัทวิทยาภาษาอังกฤษ สามารถบันทึกเสียงในภาษาอังกฤษ เป็นหน่วยเสียง Phoneme โดยผ่านการวิเคราะห์ทาง สัทวิทยามาอย่างดี

ซึ่งทั้งสองคำ เป็็นคำโดดได้ดังนี้
don't > RP/dəʊnt/; GA/doʊnt/ เทียบไทยRP/เดอ+อุนท/ =; GA/โด+อุนท/
only > RP/ˈəʊn.li/; GA/ˈoʊn.li/ เทียบไทย RP/'เออ+อุน . ลิ /; GA/'โอ+อุน . ลิ/

ซึ่งหากฟังโดยคนไทยที่ไม่ได้เรียนหลักสัทศาสตร์และสัทวิทยาทั่วไป ก็จะนำเข้ากรอบของสัทวิทยาไทย และได้ยินเป็น
โดนท และ โอนลิ

ตอนนี้ ใครอาจจะหาว่า กระทู้นี้ผิด หรือ ครูพี่แนนนี้ผิดซะอย่างมาก

แต่จริงๆ
ระบบเสียงของภาษาอังกฤษ ยังสามารถศึกษาลงไปลึกว่า สัทวิทยา คือสัทศาสตร์ คือจาก ระดับ หน่วยเสียง ลงลึกไปหน่วยเสียงย่อย หรือ ปรากฏการณ์ แปรเปลี่ยนเสียง ที่เกิดจาก Phonological Process ทั้งในระดับ ของ Segmental และ การเชื่อมโยงเสียง ที่เกิดใน Connected Speech ในระดับ Suprasegmental ขออธิบายดังนี้ครับ

1. Segmental
สระที่อยู่ติดกับเสียง Nasal ก็มักจะมี Partial or Full Nasalisation แต่ไม่ถือว่า เป็น Phoneme ในภาษาอังกฤษ ซึ่งต่างจาก ภาษาฝรั่งเศส เช่น
คำว่า bon /bõ/ "good" เราคนไทยก็มักฟังได้ว่า บง หรือ บอง
คำในภาษาอังกฤษก็มี Allophones ได้ดังนี้

RP/dəʊnt/> [ dəʊ̃n̥t ]; GA/doʊnt/ > [ dʷö̞ʊ̃n̥t ]

RP/ˈəʊn.li/ > [ ˈəʊ̃n.lï ]; GA/ˈoʊn.li/ >[ ˈö̞ʊ̃n.lï ]

ซึ่งหากฟังโดยคนไทยทั่วไปก็มักจะได้ยินเป็น
โดงท และ โองลี่

ซึ่ง เสียงขึ้นจมูกของสระในภาษาอังกฤษนี้ จะมากน้อยแล้วแต่คนครับ บางคนก็แทบไม่ได้ยินเลย แต่บางคนออกเสียงคล้ายคนฝรั่งเศสเลยครับ

2. Suprasegmental in Connected Speech
don't ก็เหมือน function words อื่นๆ ซึ่งมักจะมี Weak form ได้หลายเสียงเช่น

RP /dəʊnt/ > /dəʊn/ > /dən/ > / dn̩ /;

GA /doʊnt/ > /doʊn/ > /dən/ > / dn̩ /

ซึ่ง สระ ใน weak form ก็อาจจะมีเสียงขึ้นจมูกได้เช่นกันครับ

อีกทั้งยังมี Regressive Assimilation อย่างเช่น เสียง /g/ ซึ่งมีฐานกรณ์ที่ เพดานอ่อน ทำให้เสียง Nasal /n/ > /ŋ/
I don't go. = ‖ ˌaɪ dəʊŋ͡ ˈɡəʊ ‖ ไอ โดง โก

ดังนั้น การที่เราจะออกเสียงอย่างไร ในภาษาต่างประเทศ ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ของผู้เรียนภาษาต่างประเทศ ว่าต้องการเรียนรู้ในระดับใด
แต่สิ่งที่สำคัญคือ การออกเสียงภาษาอังกฤษ ให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษา ไม่ใช้กระแดะเข้าไว้ หากแต่คือ ความเข้าใจ แยกแยะ และทำความคุ้นเคยกับ ระบบเสียง ในภาษาอังกฤษ เปิดหูฟังและฝึกออกเสียงออกมา
และที่สำคัญ คือต้องให้เกียรติผู้อื่น อย่างผู้มีการอารยะครับ

Ref.

Cruttenden (1994) Gimson's Pronunciation of English. ELBS
แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 53 01:03:12
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 53 01:59:56
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 53 01:51:57
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 53 01:34:21

จากคุณ : Paphmania

เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 01:32:56