MBA 1st Year Review ตอนที่ 2

เป็นไงบ้างครับกับ MBA 1st Year Review (http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8839550/K8839550.html) ตอนที่ 1 หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับทุกคน ไม่มากก็น้อยนะครับ
เนื้อหาค่อนข้างเยอะ ตามไปอ่านตอนที่สอง กันต่อได้เลยครับ

Economics for Business Management
เนื้อหา: แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์และการประยุกต์ บทบาทของเศรษฐศาสตร์ในการตัดสินใจทางการ
จัดการ ภาวะเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์ความเสี่ยง การวิเคราะห์และการประมาณ
อุปสงค์ การวิเคราะห์และการประมาณการผลิต การวิเคราะห์ต้นทุน การวิเคราะห์โครงสร้าง
ตลาด การกำหนดราคาทางทฤษฎีและทางปฏิบัติ บทบาทของธุรกิจที่มีต่อสังคม ปัจจัยทาง
เศรษฐกิจที่มีผลต่อกิจกรรมธุรกิจ ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ การพยากรณ์ทางเศรษฐกิจ บทบาทของ
รัฐบาลที่มีผลต่อธุรกิจ

ความเห็นผู้เขียน: วิชานี้เป็นวิชาที่ตอนแรกผมรู้สึกไม่อยากเรียนที่สุด แต่มันเป็นวิชาบังคับ ยังไงก็ต้องเรียน วิชานี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ Micro Economic กับ Macro Economic ส่วนแรก Micro Economic เนื้อหาเยอะมาก เรียนไม่รู้เรื่องเลย หลับบ้าง เล่นเกมส์บ้าง แต่พอช่วงใกล้สอบ มาอ่านเอง กลับเข้าใจได้อย่างง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ ในส่วนของ Macro Economic นั้นยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ ตอนสอบจึงไม่มีปัญหาอะไร

อุปมาเป็นการดูหนัง:
นี่คือหนังออสการ์ที่ดูรอบแรกไม่รู้เรื่องน่าเบื่อ แต่พอได้กลับมาพินิจพิเคราะห์หลังจากดูจบแล้ว หรือดูรอบสองรอบสาม กลับรู้สึกประทับใจอย่างประหลาด

Marketing Management
เนื้อหา: บทบาทและหน้าที่การตลาดในธุรกิจ สภาวะแวดล้อมภายในและภายนอกที่มีผลกระทบต่อการ
จัดการด้านการตลาด การวางแผนการตลาดเชิงยุทธ์ การวิเคราะห์การแข่งขัน พฤติกรรม
ผู้บริโภค ระบบสารสนเทศทางการตลาดและการวิจัยการตลาด การแบ่งส่วนตลาด การเลือก
ตลาดเป้าหมาย และการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด การควบคุม
ทางการตลาด จรรยาบรรณในการจัดการด้านการตลาด

ความเห็นผู้เขียน: Marketing เป็นวิชาที่ผมอยากเรียนมากพอๆ กับพวก Finance ในการตัดสินใจมาเรียน MBA ของผม ต้องยอมรับว่าวิชานี้เป็นวิชาที่เรียนสนุก อาจารย์ปล่อยมุขตลอดเวลา (จนบางทีก็เหมือนว่าจะไม่ได้อะไร) สุดท้ายสอนไม่ทัน อัดเรียนครั้งเดียวสามสี่บท จบซะงั้น แต่ผมก็ได้ภาพรวมการทำการตลาดพอสมควร แล้วเรื่องที่อาจารย์ปล่อยมุขนั้นก็เป็นเรื่องจริงทางการตลาดที่เกิดขึ้นกับแบรนด์ต่างๆ เพียงแต่ว่าในมุมมองของผมคิดว่า อาจารย์เน้นกรณีศึกษาพวก Consumer product อย่างเดียว คนที่ทำงาน Service หรือ B2B จึงไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร (ทั้งนี้ทั้งนั้นคงเป็นเพราะการยกตัวอย่างเป็น Consumer product จะทำให้เข้าใจในวงกว้างมากกว่า) อย่างไรก็ดี ถ้าใครอยากเรียนการตลาดที่เกี่ยวกับสายบริการจริงๆ มันก็มีวิชา Service Marketing เป็นวิชาเลือกนะ

อุปมาเป็นการดูหนัง:
หนังตลก ค่ายสหมงคลฟิล์ม

Data Modeling and Decision Making
เนื้อหา: การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาระบบสารสนเทศ การสร้างตัวแบบเพื่อการตัดสินใจ
การตัดสินใจเชิงคุณภาพ เทคนิคเชิงปริมาณ ได้แก่ โปรแกรมเชิงเส้น ตัวแบบเครือข่าย ทฤษฎีการ
ตัดสินใจ ตัวแบบแถวคอย การจำลองแบบ จริยธรรมในการตัดสินใจ

ความเห็นผู้เขียน: ก่อนเรียนวิชานี้ได้ยินมาว่าเรียนเกี่ยวกับกำหนดการเชิงเส้น (Linear Programming) ในใจกระหยิ่มยิ้มย่องว่าเข้าทางแน่นอนวิชาคำนวณแบบนี้ ปรากฏว่าพอมาเรียนจริงๆ กำหนดการเชิงเส้นเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น (แค่สองบทแรก) หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องมันส์ๆ ทั้งนั้น อย่างเช่นการสร้างตัวแบบต่างๆ ทั้งการขนส่ง การจัดแถวคอย ฯลฯ โดยรวมก็สนุกดี เข้าทาง เพียงแต่ว่านำมาใช้กับโลกความเป็นจริงได้ยากหน่อย ทั้งนี้การสร้างตัวแบบ และการประมวลผลต้องใช้ข้อมูล และกำลังในการคำนวณอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ต่างๆ มารองรับการคำนวณเหล่านี้มากมายอยู่แล้ว วิชานี้จึงเป็นเหมือนการปูพื้นฐานให้รู้ว่าที่ซอฟต์แวร์เหล่านั้นคำนวณมีหลักคิด และตรรกะอย่างไร

อุปมาเป็นการดูหนัง:
นี่คือพล็อตหนังสำเร็จรูปของ Hollywood สนุก มันส์ และจบแบบที่คาดเดาได้ทั่วไป

Operations Management
เนื้อหา: หน้าที่การดำเนินงาน กลยุทธ์การดำเนินงาน การจัดการคุณภาพ การควบคุมคุณภาพเชิงสถิติ
การออกแบบสินค้าและบริการ การออกแบบกระบวนการ การออกแบบผัง ทรัพยากรมนุษย์ใน
การจัดการการดำเนินงาน การจัดการโซ่อุปทาน การจัดการเทคโนโลยี การพยากรณ์ การ
วางแผนกำลังผลิต การจัดตารางการผลิต การจัดการโครงการ การจัดการสินค้าคงเหลือ การ
วางแผนความต้องการวัสดุ การผลิตแบบทันเวลา การจัดการสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ

ความเห็นผู้เขียน: คาบแรกที่เรียนวิชานี้ อาจารย์พูดถึงภาพรวมของวิชานี้ทั้งหมด ผมรู้สึกว่าวิชานี้น่าจะสนุกอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรมซะส่วนใหญ่ แต่หลังจากนั้นกลายเป็นอ่านสไลด์ให้นิสิตฟังซะฉิบ แต่เนื่องจากเป็นวิชาคำนวณ(อีกแล้ว) ก็เข้าทางอีกเช่นเคย แต่ในใจก็แอบคิดนะว่าเราไม่ได้ทำงานทางด้านโรงงานอุตสาหกรรม ทำไมต้องมาเรียนเรื่องพวกนี้ (เข้าข่ายเรื่อง MBA เน้นสอนเนื้อหาเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรมอีกแล้ว)
อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนไปคุยงานนอกกับเพื่อนเกี่ยวกับการจัดการปั๊มน้ำมัน เพื่อนแค่ brief คร่าวๆ ผู้เขียนกลับเข้าใจเกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการ Forecast Demand, การหาจุด Reorder Point, การทำ Safety Stock เลยรู้สึกว่าการเรียน MBA คือการเปิดโลกเราจริงๆ เราสามารถไปคุยกับคนสายงานอื่นๆ ได้รู้เรื่อง และเข้าใจได้เป็นอย่างดี

อุปมาเป็นการดูหนัง:
Trailer สุดยอด………ตัวหนัง สำเร็จรูป

Foundation of Financial Management
เนื้อหา: วัตถุประสงค์ของการจัดการการเงิน แนวคิดและการประยุกต์ของความเสี่ยงและผลตอบแทน
การวิเคราะห์และการพยากรณ์งบการเงิน มูลค่าของเงินตามระยะเวลา การจัดการเงินทุน
หมุนเวียน แหล่งที่มาของเงินทุน โครงสร้างเงินทุน งบประมาณเงินทุนในภาวะแน่นอน
จรรยาบรรณทางการเงิน
ความเห็นผู้เขียน: อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่าก่อนมาเรียน MBA ผมสนใจมาศึกษาทางด้าน Finance วิชานี้คือวิชาที่ต้องการ ต้องยอมรับว่าอาจารย์วิชานี้สอนดีจริง สไลด์ทุกหน้าเป็นการที่อาจารย์ทำขึ้นเอง ไม่ใช่สไลต์จาก text หรือ copy มาจากที่อื่น ซึ่งเหมือนเป็นการสรุปความเข้าใจของอาจารย์ออกมาเป็นคำพูดที่เข้าใจง่ายๆ มีการยกตัวอย่างจริงหลายๆ กรณีที่ทำให้เห็นภาพรวมมากขึ้นเยอะ เพียงแต่ว่าอาจารย์ชอบขู่เรื่องข้อสอบอะนะ โดยรวมถือว่าเป็นอีกวิชาหนึ่งที่ชอบค่อนข้างมาก ถึงจะยากแต่ก็เข้าใจได้ และน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำธุรกิจต่อไป
อุปมาเป็นการดูหนัง:
หนังของ Christopher Nolan……… ได้ลุ้นตลอด พลิกไปพลิกมา (เพราะ quiz บ่อยเหลือเกิน ยากด้วย -_-”)

เดี๋ยวเรียนจบจะมาต่อ 2nd Year Review กับอีกหนึ่งปีที่เหลือนะครับ รักคนอ่าน จุ๊บๆ

Credit: http://www.skunttz.com/2010/02/mba-1st-year-review-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-2/

แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 53 22:36:05

แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 53 22:35:36

จากคุณ	: kuntt
เขียนเมื่อ	: 19 ก.พ. 53 22:34:09