ขอเดาบ้างครับ
.
.
[ลักษณะนิสัย/บุคลิกของซาร์นิโคลาสที่ 2 (เซราวิตซ์) ]
==============================
- ลักษณะนิสัยของ ซาร์นิโคลาสที่2 นั้นไม่ได้เป็นผู้นำนัก
ติดสำอาง หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ไม่มั่นใจตัวเอง
ซึ่งผมเชื่อว่า ร. 5 ก็มองออกเช่นเดียวกันตั้งแต่การมาเยือนครั้งแรก (พ.ศ. 2434)
ว่าถ้า เซราวิตซ์ ขึ้นครองราช รัสเซียน่าจะมีปัญหาแน่
- เหตุที่เซราวิตซ์มาแถวเอเซีย เพราะติดหญิง พ่อก็เลยไล่ให้มาเปิดทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย
ร.5 ทราบว่ารัชเซียจะเดินทางมาแถบนี้ก็เลยเชิญมาพักที่ประเทศไทย
- เซราวิตซ์นั้นตกอยู่ภายใต้เมีย (ซารีนา) และตอนท้ายก็ตกอยู่ภายใต้หมอผีไซบีเรีย รัสปูติน ด้วย
ก็เพราะเมียเชื่อหมอผี
[ความสัมพันธ์ไทย - รัสเซีย - ญี่ปุ่น]
===================
- ไทย-รัสเซียนั้นไม่เคยติดต่อกัน
- ไทยติดต่อ ญี่ปุ่นมากตั้งแต่สมัยอยุธยา
- ใน ร.5 อิทธิพลของญี่ปุ่นในไทยเจริญถึงขีดสูงสุด หลักฐานได้แก่
พระแสงฝักทองเกลี้ยง ซึ่งเป็นดาบญี่ปุ่น อาวุธประจำกายของร.5
ปัจจุบันเป็นอาวุธประจำกายของพระบรมโอรสาธิราช
(ดังรูป)
- วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ฝรั่งเศสยกเรือ ลูแตง แองคองสตังค์ โคเมต ที่เจ้าพระยา
ร.๕ ขอให้อังกฤษช่วยไกล่เกลี่ย อังกฤษบอก "Just Say No"
ร.๕ ขอให้รัสเซียช่วย รัสเซียบอกว่า "กำลังคิดอยู่ ... กำลังคิดอยู่ ... "
(แต่ก็ว่า เซราวิตซ์ ไม่ได้เพราะตอนนั้นยังไม่ได้ครองราช)
- ไทยต้องตีซี้กับรัสเซียเพราะตอนนั้นจะจมน้ำแล้ว เจอขอนไม้อะไรก็ต้องคว้าไว้ก่อน
แต่ไทยก็ไม่ได้สนิทกับรัสเซียมาก (แม้ว่าเซราวิตซ์ได้ให้คุณกับประเทศไทยอย่างใหญ่หลวง)
ไทยก็ยังคงสนิทกับญี่ปุ่นมากกว่า
-ประมาณ 2444 รัสเซียกับฝรั่งเศสจับมือกันเหนียวแน่นมากขึ้น ในขณะที่ไทยเริ่มตีซี้กับเยอรมัน
- ช่วง 2447 ขณะที่รัสเซียกับญี่ปุ่นกำลังฮึ่มใส่กันนั้น ไทยก็กำลังเสียดินแดน ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง
ให้กับเพื่อนซี้ของรัสเซียนั่นก็คือฝรั่งเศส ..... ตอนนี้ ซาร์นิโคลาสที่ 2 เป็นเพื่อนซี้กับ ดีลูเบ ซะแล้ว
สรุป
==
- ไทยก็จึงได้แต่ดู อาจจะเชียร์ญี่ปุ่นอยู่บ้างนิด ๆ
- และก็คงไม่เข้าข้างใคร เพราะใครจะชนะก็ไม่เกี่ยวกับเรา
-----------------------------------------------------------------------------
จากกระทู้ปู้น ..
ยุคนั้นมันมีล่ามรัสเซียจริง ๆ นะครับ แต่อาจจะน้อย
จากข้อความในพงศาวดาร พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาน ฉบับหม่อมอมรวงษ์วิจิตร
เหตุการณ์ในปี รัตนโกสินทรศก ๑๑๑ ปีมโรงจัตวาศก จุลศักราช ๑๒๕๔ (พ.ศ. ๒๔๓๕)
วันที่ ๙ มิถุนายนเปนวันแรกที่เรือกลไฟรับคนโดยสานชื่อพานิชพัฒนา
ของบริษัทสยามบุรพทิศสิทธิการณเมืองอุบล
ได้ออกเดินจากท่าเมืองอุบลมาท่าช้างนครราชสิมาวันนี้ วันที่ ๑๔ มิถุนายน
ปรินส์คอนสะแตนไตน์ เวียเซมสะกี ชาติรัสเซีย กับคนใช้รัสเซีย ๒ ล่าม ๑
แลมองซิเออ กานอย มองซิเออ เกนิเย ฝรั่งเศสแลญวน ๘ รวม๑๔ คน
.
.
และอีกเหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องการแสดงให้ต่างชาติเห็นว่า
เด็กไทยมีความรู้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 53 06:16:58
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 01:08:59
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 23:57:39
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 53 23:52:10