Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มองการเมืองไทย ย้อนสมัยรัตนโกสินทร์ (ยังเติร์ก ภาค 136){แตกประเด็นจาก K8817689}  

ตอนนี้มาอยู่ที่ฝรั่งเศสอีกแล้วค่ะ  เพิ่งมาถึงเมื่อสองวันที่แล้ว..ก่อนเดินทางมาเป็นกังวลจนนอนไม่หลับหลายวัน เพราะเรื่องสายการบินแอร์ฟร้องซ์(และสายอื่นๆในยุโรป)ได้ประกาศลดน้ำหนักของกระเป๋าเช๊คอิน จากเดิมที่เคยเป็น เจ็ดสิบปอนด์ มาเป็น ห้าสิบปอนด์ และกระเป๋าขึ้นเครื่องก็ต้องไม่เกิน สิบเจ็ดปอนด์..
ดิฉันเอง..เป็นยายบ้าหอบฟางมาแต่ไหนแตไร เพราะมีไวน์จากแคลิฟอร์เนียไปเป็นของกำนัลให้ใครต่อใครด้วย..แล้วแต่ละขวดนี่มันหนักน้อยซะเมื่อไหร่

ไหนจะหิ้วแมวไปด้วยอีกล่ะ..ค่ะ..ฟังไม่ผิดจริงๆ...ดิฉันได้หอบแมวคู่ใจให้ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสก่อน..เพราะการเดินทางครั้งต่อไปจะลำบากสำหรับเขาเนื่องจากจะเป็นฤดูหนาวสุดๆ
ช่วงปลายปีที่เข้าฤดูหนาวจัดเลยทีเดียว  การพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินไปด้วยในสมัยนี้ไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่  เพียงแต่ต้องพาเขาไปฉีดวัคซีนอีกครั้ง
และต้องทำการฝังไมโครชิฟ พร้อมกับเตรียมเอกสารการฉีดยาและประวัติของเขาให้พร้อม ซึ่งต้องวิ่งจัดการเรื่องนี้ซะหลายวัน เนื่องจากต้องทำตามกฏของประเทศฝรั่งเศส ที่ไม่มีด่านกักกันสัตว์
แต่เอกสารต้องพร้อม..ส่วนการหิ้วขึ้นเครื่องนั้น...ไม่ใช่เรื่องยาก..โดยเฉพาะสายการบินแอร์ฟร้องซ์ที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักต่ำกว่าสิบสามปอนด์
ใส่กระเป๋ากรงแบบอ่อนขึ้นไปวางตรงที่วางเท้าของเราได้..โดยเสียค่าบริการเท่ากับเป็นกระเป๋าอีกใบหนึ่ง..คือห้าสิบเหรียญ หมายถึงถ้าเป็นกระเป๋าที่งอกมาเป็นใบที่สอง..
แต่สำหรับดิฉันที่มีอยู่สองแล้ว..จึงต้องเป็นใบที่สาม..และตามกฏของเขา..ใบที่สามนั้นคือสองร้อยเหรียญ
เท่ากับว่า..ดิฉันต้องจ่ายสองร้อยห้าสิบ..ก็โอเคละค่ะ เพราะของจำเป็นที่ต้องหอบหิ้วเอาไปด้วยทั้งนั้น
พอไปถึงแอร์พอร์ตจริงๆ..เกิดปัญหาอีกแล้วค่ะ..เพราะเขานับน้ำหนักกระเป๋า
แลปท๊อปด้วยเลยเกินมาสิบกิโล..ซึ่งจะต้องจ่ายเพิ่มอีกร้อยนึงถ้าอยากจะหิ้วไปด้วย
แต่..ดิฉันยอมเอาข้าวหอมมะลิทั้งขาวทั้งน้ำตาล..ถุงละสิบปอนด์..ส่งยื่นให้พนักงานที่ช่วยขนกระเป๋าขึ้นสายพาน บอกว่า..ช่วยรับเอาไปใช้ประโยชน์หน่อยเถอะ
เพราะไม่อยากทิ้งลงขยะให้เสียของ..คนรับมีท่าทีดีอกดีใจ เพราะเขาเป็นคนจีนกากี่นั้งกะเราเลย..

ขึ้นเครื่องมาได้ก็แทบสลบ..เพราะต้องเดินหิ้วคุณแมวแบบประคับประคองเพราะกลัวว่าเขาจะตกใจ..ปวดเมื่อยไปหมด
ระยะการเดินทางสิบชั่วโมงเต็มแบบบินตรงยาวโลด..ดิฉันได้ดูหนังใหม่ๆหลายเรื่อง..อาหารอร่อยพอใช้..คุณแมวนอนเงียบ หลับตลอด ไม่กินไม่ถ่าย..ท่าทางจะสบายอารมณ์เกินกว่าใครๆ
ตัวเราเสียอีกที่เป็นห่วงจนนอนไม่หลับ..กลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องเอกสารแมว..เพราะไม่ได้เปลเป็นภาษาฝรั่งเศส (ก็เขาไม่ได้บอกนี่หว่า) เกรงว่าจะฉีนวัคซันไม่ครบ
เกรงว่าเขาจะตั้งแง่..(ตามประสาตม.) เตรียมคำตอบในทุกคำถามที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเฉพาะหน้า..
โอย..แค่คิดก็เหนื่อยใจไปหมด..

พอลงจากเครื่องได้..ก็ต้องเดินยาวไปยังตม. ที่กำลังจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน  เขาเปิดพาสปอร์ตดิฉันดูแล้วก็สแตมป์ให้อย่างรวดเร็ว..ดิฉันพยายามยื่นเอกสารแมวให้อ่าน..
เธอก็ไม่สนใจ..เหลือบตามาดูหน่อยนึงแล้วก็โบกมือให้ผ่านโดยไม่สนใจดูเลยแม้แต่นิด..(หนอย..ตรูอุตส่าห์ปวดเฮดซะหลายวัน)

ก็เนี่ยละค่ะ..การเดินทางมายังฝรั่งเศสกะแมวของดิฉันคราวนี้...

จากคุณ : WIWANDA
เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 00:34:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com