Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สำแดงฝีมือ (ทหารเสือแผ่นดินถัง ๓) vote  

ทหารเสือแผ่นดินถัง

ตอนที่ ๓ สำแดงฝีมือ

“ เล่าเซี่ยงชุน “

หลังจากที่ หลีจีนอ๋อง ได้จัดการแต่งงานให้ หลีซุนเฮ้า กับ นางซุยหุน เรียบร้อยแล้ว เช้าวันหนึ่งหลีจีนอ๋องแต่งตัวตามยศเจ้า ออกมาประชุมนายทหารหน้าค่าย หลีซุนเฮ้า กระทำคำนับตามอย่างธรรมเนียมบุตรกับบิดาแล้ว ก็ขออาสาเป็นแม่ทัพหน้ายกไปตีเมือง เชียงอาน หลีจีนอ๋องก็จะยอมยกตราเซียนฮอง สำหรับที่แม่ทัพหน้าให้แล้ว แต่ จิวเต๊กอุย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาท้วงว่า

“……..ซึ่งท่านจะยกตราเซียนฮองให้แก่หลีซุนเฮ้า ในขณะนี้ยังไม่ควรก่อน ด้วยบุตรของท่านก็มีฝีมือและสติปัญญาอยู่ทั้งสิบสองคน ถ้าท่านยกตราเซียนฮองให้แก่หลีซุนเฮ้าแล้ว คนทั้งปวงจะมิพากันนินทาท่าน ว่าได้ของใหม่แล้วลืมของเก่าไปเสียหรือ………..”

แล้วจิวเต๊กอุยก็แนะนำให้มีการประลองฝีมือยิงเกาทัณฑ์ เพื่อคัดเลือกแม่ทัพหน้าก่อนที่จะแต่งตั้ง หลีจีนอ๋องก็เห็นด้วย จึงให้ปักเสาขึ้นเอากระดานเขียนเป็นวงดำขึ้นไปผูกแขวนไว้ ที่กลางเสานั้นเอาเสื้อเกราะสีแดงแขวนไว้ตัวหนึ่ง แล้วให้ประชุมขุนนางนายทหาร พร้อมด้วยบุตรทั้งสิบสามคน ให้ฝ่ายนายทหารทั้งปวงแต่งตัวด้วยเสื้อสีเขียว ฝ่ายบุตรแต่งตัวด้วยเสื้อสีแดง แล้วว่าถ้าผู้ใดขี่ม้ายิงเกาทัณฑ์ถูกกลางเป้าวงดำถึงสามลูก ก็จะแต่งตั้งให้ผู้นั้นเป็นแม่ทัพหน้า และให้นายทหารทั้งปวงยิงก่อน ส่วนบุตรนั้นให้ยิงภายหลัง

เมื่อหลีจีนอ๋องพูดดังนั้นแล้ว ยังมิทันที่นายทหารจะขึ้นม้า ไปยิงเกาทัณฑ์ดังว่า หลีคังกุน บุตรคนที่เจ็ดของหลีจีนอ๋อง ก็ขับม้าออกไปเวียนหลักเป้าสามรอบ แล้วก็ยิงเกาทัณฑ์แต่ก็หาถึงกระดานเป้าไม่ ตัวก็ตกม้าลง หลีจีนอ๋องก็โกรธจึงว่า แต่กำลังจะยิงเกาทัณฑ์ไปก็ไม่ถึง ยังมีหน้ามาแย่งชิงที่แม่ทัพกับเขาด้วย แล้วให้ทหารจับตัวไปฆ่าเสีย จิวเต๊กอุนก็ว่าครั้งนี้เราจะยกกองทัพไปเอาชัยชนะแก่ข้าศึก ซึ่งจะมาทำลายผู้คนในกองทัพเสียก่อนนั้นไม่ควร หลีคังกุนนั้นก็มีความผิดแต่ครั้งเดียว ขอชีวิตไว้ให้ทำราชการแก้ตัวต่อไปก่อน หลีจีนอ๋องจึงให้ลงอาญาเฆี่ยนด้วยเชือกหนังสี่สิบที

แล้วหลีจีนอ๋องก็ให้ทหารใส่เสื้อเกราะเขียว ไปยิงเกาทัณฑ์ก่อน ก็มีนายทหารยิงถูกเป้าหนึ่งลูกคนเดียว ทันใดนั้น หลีซ่องซิน บุตรคนที่สี่ของหลีจีนอ๋อง ก็ขับม้าถือเกาทัณฑ์ออกไปยิงสามลูก แต่ถูกลูกเดียว แล้ว หลีซือหงวน บุตรคนโตก็ออกไปยิงเกาทัณฑ์สามลูกถูกแต่สองลูก หลีจีนอ๋องก็ชมว่าฝีมือดี ถ้าไม่มีผู้ใดยิงถูกอีกก็จะมอบตราแม่ทัพให้

หลีซุนเฮ้าก็ขับม้าวนเวียนหลักเป้าสามรอบ ก็ยิงถูกวงดำทั้งสามลูก ทหารทั้งปวงก็สรรเสริญว่า ฝีมือเกาทัณฑ์แม่นยำกว่าทหารทั้งหลาย ควรจะเป็นแม่ทัพได้ หลีซุนเฮ้าจึงว่าเราจะเอาเสื้อที่แขวนไว้กลางเสานั้นให้ได้ แล้วก็ยิงเกาทัณฑ์ไปถูกเชือกที่ผูกเสื้อแขวนไว้นั้นขาดตกลงมา หลีซุนเฮ้าก็ขับม้าไปเก็บเอาเสื้อกลับมาคำนับหลีจีนอ๋องได้ หลีจีนอ๋องจึงว่าเจ้ามีฝีมือเกาทัณฑ์แม่นยำหามีผู้เสมอไม่ ควรจะเป็นแม่ทัพหน้าได้ แล้วก็สั่งให้เจ้าพนักงานจัดโต๊ะและสุรามาเลี้ยง หลีซุนเฮ้า และนายทัพนายกองทั้งปวง

ขณะนั้นก็มีนายทหารสองคนขี่ม้าถืออาวุธ มาขอลองฝีมือกับหลีซุนเฮ้าที่หน้าค่าย หลีซุนเฮ้าก็คำนับลาหลีจีนอ๋อง ขึ้นม้าถืออาวุธออกไปดู คนหนึ่งชื่อ อันฮิวฮิว อีกคนหนึ่งชื่อ สิออถัน เป็นทหารมีฝีมืออยู่ที่เขาปวยฮอซัวนี้ หลีซุนเฮ้าก็ขับม้าเข้ารบกับทหารทั้งสองนายนั้น ยังไม่ถึงเพลง พอหลีซุนเฮ้าตวาดด้วยเสียงอันดัง ทั้งสองก็ตกใจเสียที หลีซุนเฮ้าก็จับตัวได้ทั้งสองคน หิ้วเข้ามาในค่าย หลีจีนอ๋องก็มีความยินดีจึงว่า ทหารทั้งสองคนซึ่งเจ้าจับมาได้นั้น จงเอาไว้ใช้เป็นทหารของเจ้าเถิด อย่าทำโทษเสียเลย หลีซุนเฮ้าก็มีความยินดี รับเอาไว้เป็นนายทหารคนสนิท ครั้นอยู่ต่อมาหลีซุนเฮ้าก็พูดว่า

“……..ท่านกับเรา เดิมเป็นข้าศึกกัน ครั้นเราจับท่านมาได้ เราหามีความอาฆาตต่อท่านไม่ ท่านกับเราจงสาบานเป็นพี่น้อง จะได้ทำราชการด้วยกัน……..”

ทั้งสองได้ฟังก็ยินดี จึงเอาลูกเกาทัณฑ์มาหักออกเป็นสองท่อน แล้วสาบานต่อกันไว้ว่า

“……..ข้าพเจ้าทั้งสามขอเป็นพี่น้องร่วมชีวิตกัน ถ้ามีความทุกข์ร้อนภัยอันตรายสิ่งใดมา ก็จะช่วยกันกว่าจะหาชีวิตไม่ ถ้าและผู้ใดคิดคดประทุษร้ายไม่ซื่อตรงต่อกัน ขอให้ต้องคมอาวุธตัวขาดออกเป็นสองท่อน เหมือนกับลูกเกาทัณฑ์นี้เถิด………”

หลีจีนอ๋องพักพลอยู่ที่ตำบลนั้นประมาณเดือนเศษ จึงยกกองทัพเดินทางต่อไปจนถึงเมืองไต้ท่องเสีย และหยุดพักอยู่ที่หน้าเมือง หลีอิวกิม ผู้รักษาเมืองก็จัดทหารออกมา ต้อนรับ และเชิญหลีจีนอ๋องเข้าไปในเมือง จัดแจงให้อยู่ที่ตึกรับรองแขกเมือง แล้วพูดจาไต่ถามทุกข์สุขกันฉันญาติ และสั่งให้คนใช้ยกโต๊ะอาหารและสุรามาเลี้ยงหลีจีนอ๋องและนายทหารที่มาด้วย หลีอิวกิมก็รินสุราคำนับหลีจีนอ๋องแล้วว่า ซึ่งจะยกกองทัพเข้าไปกำจัด ฮ่องเฉา นั้น ตนจะขอคุมทหารเข้ากองทัพไปด้วย หลีจีนอ๋องก็ว่า

“………ท่านมีใจภักดีจะยกกองทัพไปกำจัดฮ่องเฉากับข้าพเจ้าด้วยนั้น ก็ขอบใจแล้ว แต่ไม่มีรับสั่งของพระเจ้าตงหัว จะขัดอยู่ดอกกระมัง……..”

หลีอิวกิมก็เห็นด้วยแต่จะขอให้นายทหารเอกสองคน คุมทหารสองหมื่นไปฉลองพระคุณพระเจ้าแผ่นดินถังกับหลีจีนอ๋องด้วย หลีจีนอ๋องก็มีความยินดีรับเอาไว้ แล้วก็ยกกองทัพเดินทางต่อไปอีกหลายวัน เกือบจะถึงด่านเจียะเนียกวน จึงสั่งให้หยุดทัพตั้งค่ายมั่นลงไว้

นายทหารผู้รักษาด่านสองนายของฮ่องเฉา หรือ พระเจ้ากิมถอง ก็ยกทหารหมื่นหนึ่งออกไปตั้งค่ายที่หน้าเมืองฮำกอกเสีย ห่างจากด่านเจียะเนียกวนเยื้องออกไปทางขวา ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสองลูก ไม่สูงใหญ่นักแต่ก่อกำแพงเชื่อมไว้มั่นคง

หลีซุนเฮ้ากับทหารเอกสองคน ก็ยกกำลังเข้าตีค่ายแตก ทหารของฮ่องเฉาต้องหนีเข้าไปอยู่ในเมืองฮำกอกเสีย หลีซุนเฮ้าล้อมเมืองอยู่เจ็ดวันก็ไม่สามารถตีให้แตกได้ จึงวางอุบายทำทีเป็นถอยห่างออกไปสามสิบลี้ ให้ชาวเมืองออกมาหาน้ำและฟืนนอกเมือง แล้วจัดทหารที่เข้มแข็งกล้าหาญสิบกว่าคน ปลอมตัวปะปนกับชาวเมืองเข้าไปในเมือง พอเวลาค่ำก็ยกทหารเข้าไปใกล้กำแพงเมือง ถึงเวลาสองยามทหารที่เข้าไปในเมือง ก็จุดไฟเผาบ้านเรือนราษฎรขึ้นเป็นหลายแห่ง ทหารในเมืองก็เข้าดับไฟชุลมุนกันอยู่ ทหารของหลีซุนเฮ้าก็พากันไล่ฆ่าฟันผู้รักษาประตูเมือง แล้วก็ช่วยกันชักกลอนถอนเขื่อน เปิดประตูเมืองให้หลีซุนเฮ้านำทัพเข้าเมืองได้ ไล่ฆ่าฟันทหารรักษาเมืองล้มตายเป็นอันมาก ที่เหลือก็ทิ้งเมืองหนีไปอยู่ที่ด่านเจียะเนียกวน หลีซุนเฮ้าก็ช่วยดับไฟและจัดการบ้านเมือง เกลี้ยกล่อมชาวเมืองเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ยกทัพไปตีด่านเจียะเนียกวนแตกอีก

หลีจีนอ๋องได้รู้ข่าวจากม้าใช้ของหลีซุนเฮ้า ว่ายึดด่านหน้าของเมืองเชียงอานได้แล้ว ก็มีความยินดี ยกกองทัพใหญ่เข้าไปตั้งในด่าน พักอยู่ไม่นานก็เดินทัพต่อไปถึงเมืองฮ่องตงฮู้ ก็พบกับกองทัพของหัวเมืองทั้งยี่สิบแปดหัวเมือง ที่มีรับสั่งของ พระเจ้าตงหัว ให้ยกมาสมทบกับกองทัพของหลีจีนอ๋อง เพื่อปราบปรามฮ่องเฉาซึ่งตั้งตัวเป็นฮ่องเต้อยู่ที่เมืองเชียงอาน

หลีจีนอ๋องก็พูดกับบรรดาเจ้าเมืองและแม่ทัพเหล่านั้นว่า ท่านทั้งหลายได้เป็นเจ้าเมือง มียศบรรดาศักดิ์และอำนาจ มีทแกล้วทหารเป็นอันมาก เหตุใดจึงพากันละเมินให้ฮ่องเฉาคิดกบฏขึ้นได้ พวกนั้นก็บอกว่า

“……..บ้านเมืองข้าพเจ้าทั้งหลายก็แยกย้ายกันอยู่ ครั้นทราบว่าฮ่องเฉาเป็นกบฏ ก็ตระเตรียมกองทัพไว้ จะมาช่วยปราบปรามฉลองพระเดชพระคุณพระเจ้าแผ่นดิน แต่มีหนังสือรับสั่งพระเจ้าตงหัวให้มาคอยท่านอยู่ที่เมืองฮ่องตงฮู้ บัดนี้ท่านมาถึงแล้วข้าพเจ้าทั้งหลายมีความยินดี ยอมตัวอยู่ในบังคับบัญชาตามแต่ท่านจะใช้เถิด………”

แล้วแม่ทัพทั้งปวงก็เข้าไปพักในเมืองฮ่องตงอู้ และให้เจ้าพนักงานจัดโต๊ะมาเลี้ยงกันเป็นที่รื่นเริงสบาย วันนั้นหลีจีนอ๋องกินโต๊ะเสพสุรามากเกินขนาดเมาหนัก ครั้นเวลาจะสร่างก็ให้มีความร้อนรนกระวนกระวาย หาสบายไม่ จึงเอาสุรามากินเติมเข้าไปให้เมาอยู่เสมอจึงค่อยสบาย แต่สติเคลิบเคลิ้มหาเป็นปกติไม่ ด้วยฤทธิ์เมานั้นเข้าไปทับถมอยู่มาก แม่ทัพนายกองไปหาก็ไม่ได้พูดเรื่องข้อราชการทัพศึกสิ่งใด แต่เป็นดังนั้นมาหลายวันหลายเวลา

ฝ่าย จูอุน เจ้าเมืองเปียนเหลียง เห็นหลีจีนอ๋องเอาแต่เสพสุรามัวเมาไปทั้งกลางวันกลางคืน หาได้พูดถึงข้อราชการทัพศึกสงครามไม่ จึงไปปรึกษากับเจ้าเมืองฮำก๊กก๋ง เห็นว่าถ้าจะพากันเกรงใจกลัวอำนาจหลีจีนอ๋องอยู่ดังนี้ ก็จะพากันเสียราชการไป จูอุนจึงเข้าไปหาหลีจีนอ๋องซึ่งกำลังเสพสุราอยู่ จึงพูดขึ้นว่า

“…….ฮ่องเฉาเป็นกบฏขึ้นครั้งนี้ หามีผู้ใดปราบปรามได้ไม่ พระเจ้าตงหัวตั้งพระทัยหมายอยู่แต่ท่านผู้เดียว ที่จะปราบปรามฮ่องเฉาได้ จึงให้ไปเชิญท่านมา ก็บัดนี้ท่านมาเพลิดเพลินด้วยการเสพสุราไปเสีย แล้วบ้านเมืองจะมิเป็นสิทธิ์กับฮ่องเฉาไปหรือ……..”

หลีจีนอ๋องได้ฟังดังนั้นจึงถามว่า ท่านนี้ชื่อไรอยู่ที่ไหน จึงได้มาพูดกับเราดังนี้ จูอุนบอกว่าแซ่จูชื่ออุนชื่อหนึ่ง ชวนต๋งชื่อหนึ่ง เป็นเจ้าเมืองเปียนเหลียง หลีจีนอ๋องจึงว่าตัวท่านนี้รูปร่างใหญ่โตหน้าตาก็คมสัน เป็นคนมีสติปัญญาและฝีมือ เหตุใดจึงได้มีชื่อถึงสองชื่อดังนี้ จูอุน ก็ว่าเดิมชื่อจูอุน พระเจ้าตงหัวพระราชทานชื่อใหม่ชื่อชวนต๋ง หาได้ตั้งเองไม่ ท่านเองก็มีถึงสี่ชื่อ เหตุผลประการใดท่านจึงได้มีชื่อถึงสี่ชื่อดังนี้เล่า

หลีจีนอ๋องได้ฟังก็โกรธ จึงว่าตัวเป็นผู้น้อย บังอาจมาออกชื่อเสียงไล่เรียงเราดังนี้เห็นเกินนัก แล้วก็ชักกระบี่ออกจะฟันจูอุน แต่จูอุนหลบไปฉวยเอาง้าวของหลีจีนอ๋องที่ปักไว้ข้างริมฝาได้ จะเข้าต่อสู้กับหลีจีนอ๋อง นายทัพนายกองที่อยู่ด้วยก็ตกใจ พากันเข้าห้ามปรามยุดตัวไว้ทั้งสองข้าง แล้วว่า

“…….พระเจ้าตงหัวทรงพระวิตกด้วยฮ่องเฉาเป็นกบฏ จึงได้เชิญท่านทั้งปวงมาปราบปราม ครั้งนี้มาวิวาทกันเองหาควรไม่ ขอท่านจงได้เห็นแก่แผ่นดิน และเอ็นดูแก่ข้าพเจ้าทั้งปวง ได้อดโทโสเสียทั้งสองฝ่ายเถิด……..”

ทั้งสองนายได้ฟังนายทัพนายกองว่าดังนั้น ก็ได้สติหายโทโส จูอุนก็คุกเข่าลงคำนับหลีจีนอ๋องแล้วว่า

“……….ข้าพเจ้าได้ไต่ถามเหลือเกินนั้น ขอท่านจงอดโทษเถิด ข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งนี้ ก็ปรารถนาจะตักเตือนให้ยกกองทัพ รีบไปปราบฮ่องเฉาเสียโดยเร็ว……….”

หลีจีนอ๋องแม่ทัพจอมสุรา จะสามารถปกครองบังคับบัญชากองทัพที่มีพลหลายสิบหมื่น ไปปราบปรามฝ่ายกบฏได้สำเร็จหรือไม่ ในเมื่อมีการแตกแยกเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นดังนี้ น่าจะต้องคอยดูกันต่อไป.

##########

วารสารฟ้าหม่น
พฤษภาคม ๒๕๔๔

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 06:11:22




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com